CE:บทที่ 303 สารต้านมะเร็ง
แต่แรกข่าวขี้ปะติ๋วนี้ถูกส่งไปยังฟอรั่มของฟิวเจอร์กรุ๊ปในวินาทีที่สาม
ไม่เกินวินาทีที่ 10 ข่าวนี้ได้ถูกส่งต่อ หนึ่งนาทีต่อมามันกวาดแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทั้งหมด
สามนาทีต่อมาสื่อหลักรายแรกรายงานข่าว
สองชั่วโมงต่อ เมื่อเปิดแพลตฟอร์มสื่อใดก็ตาม ก็จะเห็นรายงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับข่าวนี้
แม้แต่สถานีโทรทัศน์บางแห่ง หลังจากที่มีข่าวนี้ออกมา ก็ยังคั่นจังหวะชั่วครู่ด้วยข่าวที่ทําให้โลกตกใจ
สํานักข่าวพีเพิลส์เดลีดอทคอม ตีพิมพ์บทความเกี่ยวกับ “การพิชิตมะเร็งได้สําเร็จ อีกหนึ่งปาฏิหาริย์ในประวัติศาสตร์การแพทย์” เป็นครั้งแรก ซึ่งไม่เพียงแต่ให้ความรู้เกี่ยวกับมะเร็งอย่างแพร่หลาย แต่ยังเป็นการอวดผลงานของฟิวเจอร์กรุ๊ป
สํานักข่าวรอยเตอร์ยังได้ออกรายงานข่าวที่เกี่ยวข้อง โดยแสดงความยินดีกับฟิวเจอร์กรุ๊ป แต่ก็ยังมีคําถามว่าเมื่อใดที่เทคโนโลยีสามารถนําไปใช้ได้ทั่วโลก
แม้แต่องค์การอนามัยโลก หลังจากมีข่าวชิ้นหนึ่งปรากฏออกมา ก็ส่งบุคลากรไปยังฟิวเจอร์กรุ๊ปอีกครั้งเพื่อสํารวจเทคโนโลยีการรักษามะเร็ง
อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีนี้มีความสําคัญอย่างยิ่งต่อประเทศจีน
จีนเป็นประเทศที่มีอุบัติการณ์ของโรคมะเร็งสูง และจํานวนผู้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งทุกปีคิดเป็นสัดส่วนประมาณหนึ่งในสี่ของจํานวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด ซึ่งดูเหมือนว่าเป็นตัวเลขที่แย่มาก
ตอนนี้เมื่อเอาชนะโรคนี้ได้ก็ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ดีสําหรับทุกคน
ในเวลานี้ฟอรั่มฟิวเจอร์กรุ๊ปมีสภาพรกรุงรังไปหมด มีข้อความอย่างน้อยสองร้อยโพสต์ต่อนาทีในนั้นซึ่งล้วนแล้วแต่ค้นหายาต้านมะเร็ง
“ยอมคุกเข่าให้กับยาต้านมะเร็ง ใครรู้บ้างว่าจะหาซื้อได้ยังไง?”
“ขอโทษนะ ทําอย่างไรฉันถึงจะได้รับการตรวจรับรองเพื่อเข้ารับการบําบัดโรคมะเร็งโดยฟิวเจอร์กรุ๊ป?”
“ช่วยบอกทีว่าฉันจะหาซื้อยาต้านมะเร็งที่ผลิตโดยฟิวเจอร์กรุ๊ปได้อย่างไร? ใช้เวลาไม่นานเลยตั้งแต่มะเร็งของญาติลุกลาม ฉันได้แต่หวังว่าจะช่วยชีวิตของฉันได้ก่อน”
“ฉันจะซื้อยาต้านมะเร็งได้ที่ไหน? โปรดบอกเราด้วย”
“…”
ทั้งฟอรั่มเต็มไปด้วยโพสต์ทํานองนี้ ตอนนี้มีแม้แต่คนทั่วไปก็รู้ข่าวการจัดการกับโรคมะเร็งจากทีวี
ก่อนหน้านี้มีคนเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ และยังรู้สึกคลางแคลงใจ ตอนนี้สําหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งแล้ว การได้รับยาต้านมะเร็งก็คือการนําพวกเขาให้พ้นจากเงาแห่งความตาย
ลิว หมิงเยว่ นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ กําลังดูโพสต์ที่อยู่บนฟอรั่มและส่งข้อมูลที่เรียงลําดับแล้วออกไป
ด้านบนเป็นข้อมูลของโรงพยาบาลใหญ่ที่ร่วมมือกับฟิวเจอร์กรุ๊ป รวมถึงคุณสมบัติในการสั่งซื้อและวิธีการสั่งซื้อยาต้านมะเร็งของฟิวเจอร์กรุ๊ป
ยากลุ่มแรกจะมุ่งความสําคัญไปที่ผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะลุกลามก่อน โดยการยึดอายุขัยของคนไข้ให้มากที่สุดเท่าที่ทําได้ และรอจนกระทั่งอุปกรณ์ได้รับความนิยมในการรักษา
ในขณะเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุขได้ออกเอกสารการสั่งซื้อให้กับโรงพยาบาลที่ร่วมมือกับฟิวเจอร์กรุ๊ปในการผลิตยาต้านมะเร็งของฟิวเจอร์กรุ๊ป
เวลานี้ผู้นําระดับสูงให้ความสําคัญอย่างยิ่งกับเรื่องนี้ พวกเขาแค่โทรศัพท์ไปสอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้และขอให้พวกเขาร่วมมือกับฟิวเจอร์กรุ๊ปเพื่อแก้ปัญหาการรักษาของผู้ปวยโรคมะเร็ง
ตอนนี้เป้าหมายหลักคือการยืดอายุของผู้ป่วยมะเร็ง เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาช่วยยื้อเวลาเวลาไปจนถึงตอนที่พวกเขามีอุปกรณ์สําหรับการรักษา
ทันทีที่มีข่าวของลิว หมิงเยว่ ออกมา มันก็ถูกตีพิมพ์ซ้ำ ยิ่งไปกว่านั้นสถานีข่าวซีซีทีวี รายงานข่าวนี้ในช่วงที่มีคนดูมากที่สุด และขึ้นคําบรรยายด้านล่างของหน้าจอทีวีตลอด 24 ชั่วโมง
ภายในสามชั่วโมงโรงพยาบาลที่ประกาศชื่อเต็มไปด้วยผู้ป่วยโรคมะเร็ง ที่ต่างก็มาซื้อยาต้านมะเร็ง
อย่างไรก็ตามยาต้านมะเร็งนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะซื้อ ผู้ป่วยโรคมะเร็งเองจะต้องทําการทดสอบบนอุปกรณ์ของฟิวเจอร์กรุ๊ปที่ทางโรงพยาบาลจัดหาให้เสียก่อนที่จะซื้อยาต้านมะเร็ง
อู๋ ฮ่าวเหริน ทําเช่นนี้เพื่อป้องกันไม่ให้คนใจดําซื้อยาต้านมะเร็งด้วยวิธีการบางอย่างแล้วขายในราคาสูง
ยาต้านมะเร็งทั้งหมดที่ขายโดยแพทย์จําเป็นต้องใส่ข้อมูลลงในคอมพิวเตอร์ จี้สามารถสืบค้นข้อมูลเพื่อดูว่ามีคนใจดําหรือไม่
นอกจากนี้ ยังมีการบันทึกยาต้านมะเร็งทุกขวดที่ผลิตโดยแพทย์ หรือพูดอีกอย่างก็คือเป็นไปไม่ได้ที่แพทย์จะขายยาต้านมะเร็งโดยไม่ได้รับอนุญาต
มีการผลักดันนโยบายสําหรับยาและอุปกรณ์ต้านมะเร็ง โดยปัจจุบันไม่อนุญาตให้นําออกต่างประเทศ
แน่นอนว่าพวกเขาไม่สามารถรับยาต้านมะเร็งได้ เนื่องจากมียาอีกตัวหนึ่งซึ่งผู้ป่วยจะต้องใช้เมื่อพวกเขาขายยาให้กับผู้ป่วยแล้ว
ในความเป็นจริงมันเป็นไปไม่ได้ที่ผู้ป่วยจะให้ยาต้านมะเร็งไป ผู้ปวยที่ใช้ยาจําเป็นต้องมีการทดสอบครั้งที่สองเพื่อป้องกันผลข้างเคียง
นอกโรงพยาบาลมีคนกลุ่มหนึ่งมารวมตัวกันและมีคนหนึ่งพูดว่า “ว่าไง ข้าจะได้ยาไหม? ผู้ชายคนนั้นสัญญากับเราแล้ว ว่ายาขวดหนึ่งจะให้หนึ่งแสนดอลลาร์”
“ผมเอามาไม่ได้ ภายในนั้นการจ่ายยาเข้มงวดมาก ผมไม่ได้แตะต้องเลย จากนี้จะนํายาออกจากโรงพยาบาลไม่ได้เลย หากผู้ปวยมีคุณสมบัติตรงตามข้อกําหนดก็จะให้ยาตรงจุดนั้นเลย จากนั้นจะต้องมีการตรวจสอบครั้งที่สองอีกด้วย ว่ากันว่าข้อมูลพวกนี้จะต้องถูกส่งกลับไปที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปเพื่อให้พวกเขาตรวจสอบ”
“ยาขวดหนึ่งราคากว่าสองร้อยหยวนสามารถนําไปแลกได้ขวดละแสนดอลลาร์ได้เลย ปัทโธ่ ทําฟิวเจอร์กรุ๊ปต้องกําหนดนโยบายอะไรแบบนี้ด้วย?”
“ล้มเลิกความคิดนี้ไปเถอะ เราหายาไม่ได้หรอก มีคนบอกว่าบางคนถูกจับกุมเพราะยา ผมไม่อยากไปติดคุก ยังมีอีกนะผมถามหมอที่เป็นคนเตรียมยาแล้ว ยาทุกขวดจะถูกบันทึกไว้และไม่สามารถขโมยได้เลย”
หลายคนต้องการหาเงินจากยานี้ โดยเฉพาะคนต่างชาติบางคน หลังโกงราคาให้แพง
แม้แต่ผู้ป่วยมะเร็งบางคนก็ต้องการทําเงินด้วยวิธีนี้
น่าเสียดายที่อู๋ ฮ่าวเหริน ตัดสินในว่าจะใช้ยาในจุดตรวจอาการเพื่อกําจัดความคิดที่จะโก่งราคาของคนเหล่านี้โดยตรง
ที่โรงพยาบาล มีทหารติดอาวุธสองคนในห้องเตรียมยาและห้องรักษาเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
“หมอ ทําไมไม่ให้ยาต้านมะเร็งละ ฉันก็เป็นมะเร็งนะ”
ชายคนนั้นต้องการตะโกนต่อไป แต่เขาก็ถูกสมาชิกครอบครัวของผู้ป่วยที่อยู่ข้างหลังดึงตัวไว้ในกรณีนี้ไม่จําเป็นต้องมีแพทย์หรือทหาร
ตราบใดที่พบว่ามียังใครบางคนเข้ามายุ่มย่าม ครอบครัวของผู้ปวยที่กําลังรออยู่ก็จะเริ่มผลักดันให้คนเหล่านี้ออกไป
จากนั้น ก็จะให้เขาดูกฎระเบียบเกี่ยวกับการใช้ยา หากยังเข้าไปยุ่มย่ามอีกครั้ง เขาจะขาดคุณสมบัติในการซื้อยาโดยตรง ซึ่งเป็นการปฏิเสธการรักษาบุคคลประเภทนี้โดยตรง
เมื่อต้องเจอกับคนหลายร้อยคน หรือแม้แต่ผู้ป่วยโรคมะเร็งหลายพันคน ปริมาณยาที่เตรียมมาจึงไม่เพียงพอ
“ระยํา ให้พวกโง่ ถ้าพวกแกทําเรื่องแค่นี้ไม่ได้ แล้วพวกแกจะไปทําอะไรได้”
“หัวหน้า พวกเราทําทุกวิถีทางแล้ว ไม่มีวิธีอื่นที่จะได้ยามา เว้นแต่จะปล้นเอาดื้อๆ เราต้องการซื้อตัวนายแพทย์ที่ปรุงยาด้วย แต่พวกเขาไม่คุยกับเราเลย”
“ข้าไม่สนใจว่าแกจะทํายังไง ตราบใดที่แกได้ยามา เงินนึ่งล้านนี้จะเป็นของแก”
เมื่อมองไปที่กล่องธนบัตร ดวงตาของหลาย ๆ คนก็เปล่งประกาย
” หัวหน้า งั้นลองอีกครั้ง ถ้าทําไม่ได้เราก็จะขโมย”
เพื่อเงินแล้วไซร้ คนพวกนี้ตัดสินใจที่จะรับความเสี่ยง โดยเข้าไปในโรงพยาบาลและขโมยยาออกมา