บทที่ 313 การซื้อหินดิบในประเทศพม่า
หินดิบในประเทศพม่า
ในห้องปฏิบัติการ อู๋ ฮ่าวเหริน เชื่อมต่อทุกสายอย่างระมัดระวัง ที่อยู่ตรงหน้าเขาเป็นอุปกรณ์ที่มองดูแปลกมาก
อุปกรณ์ทั้งหมดดูเหมือนแขนมนุษย์ แต่มันใหญ่กว่าเล็กน้อย มีเศษโลหะอยู่มากมายและมีชิปพิเศษบางชิ้น
ด้านหน้าของแขนโลหะ แต่ไม่ใช่มือ ห่อหุ้มด้วยคริสตัลสีน้ำเงินชิ้นหนึ่งซึ่งดูเหมือนงานศิลปะ
“หู้ย คุณแน่ใจว่ามันเป็นอาวุธสําหรับใช้โดยคนไม่ใช่หุ่นยนต์”
“นี่เป็นอาวุธสําหรับมนุษย์ใช้ แต่ต้องมีอุปกรณ์เสริมบางอย่าง ไม่อย่างนั้นน้ำหนักของอาวุธนี่ยังไม่มีใครยกไหวในตอนนี้ ดูสิเจ้าสิ่งนี้ก็คือชุดเกราะ”
ชุดเกราะโครงสร้างแข็งแกร่ง อู๋ ฮ่าวเหรินไม่ได้คิดว่าจะเป็นอุปกรณ์ประเภทนี้ และไม่ต้องพูดถึงการศึกษาอุปกรณ์ชนิดนี้ในตอนนี้
ชุดเกราะโครงสร้างแข็งแกร่งที่สร้างขึ้นโดยใช้ระบบกระแสเหนี่ยวนําและปัญญาประดิษฐ์ทําให้เครื่องมือสร้างกระแสไฟฟ้าทางชีวภาพบําบัดนั้นดีกว่าที่ทําการศึกษาในประเทศเหล่านั้นมาก
แน่นอนว่า พลังงานคือปัญหาหลัก สําหรับเขาแล้วชุดเกราะโครงสร้างแข็งประเภทนี้ดีกว่าการใช้พลังงานนิวเคลียร์โดยตรง สําหรับพลังงานคริสตัลในตอนนี้ เราได้แต่คิดได้เท่านั้นเพราะว่าไม่มีเทคโนโลยีการผลิตรวมไปถึงอุปกรณ์สําหรับพลังงานคริสตัล
ในเมื่อไม่มีระบบพลังงานที่มีประสิทธิภาพ ชุดเกราะชนิดนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นของตกแต่ง ชุดเกราะนี่มีน้ำหนักขนาดสามารถฆ่าคนได้ ถ้าขับเคลื่อนด้วยร่างกายมนุษย์
สําหรับอุปกรณ์ประเภทนี้ อู๋ ฮ่าวเหรินแค่แอบศึกษาในห้องปฏิบัติการอย่างลับๆและเพื่อความสนุกของตัวเอง หลังจากการก่อสร้างเกาะแล้ว ถ้าเขาอยากทดสอบอาวุธ เขาก็สามารถลองทดสอบบนเกาะนั่นได้
ในทางกลับกัน คนจากแผนกจัดซื้อของฟิวเจอร์กรุ๊ปได้เข้าสู่จุดหมายปลายทางการจัดซื้อของพวกเขา
เมื่อเทียบกับผู้ซื้อรายอื่น เส้นทางในการจัดหาวัตถุดิบของ ลู่ เผิงเฟย ดูเหมือนว่าจะยากกว่าเขามาที่ เถิงฉง มณฑลยูนนานเป็นครั้งแรก ซึ่งเขาได้พบกับมืออาชีพที่มีความคุ้นเคยกันดี
“คุณหมายถึงการซื้อปริมาณมากๆ แบบนั้นเหรอ?”
“ใช่ครับ แผนการจัดซื้อขนาดเล็กไม่เหมาะกับบริษัทของเรา”
ลู่ เผิงเฟย มองดูชายวัยกลางคนชื่อเหลาหยูที่มีผิวสีเข้มและผิวหนังที่มือหยาบด้าน เมื่อพูดถึงหยกเจไดต์ เขาเป็รผู้เชี่ยวชาญ
แผนการจัดซื้อที่เขาเตรียมมานั้นดีสําหรับบริษัทหินชนิดที่ยังไม่ผ่านกระบวนการเหล่านั้น แต่สําหรับฟิวเจอร์กรุ๊ปดูเหมือนว่าจะน้อยเกินไป
บอสบอกว่าหยกเจไดต์คุณภาพไม่ดีนัก
ต้องการเฉพาะปริมาณ
“ถ้าเป็นเมื่อสามเดือนก่อน ก็เป็นไปได้ที่จะหาหินดิบของหยกใจไดต์จํานวนมาก แต่ตอนนี้มีเป็นแผนการจัดซื้อขนาดใหญ่ของในตลาดภายในประเทศ”
เหลาหยู มองหน้า ลู่ เผิงเฟย เขาไม่ได้คิดถึงแผนการซื้อพันล้านหยวน ในสายตาของอีกฝั่งหนึ่งนั้นยังเป็นปริมาณการสั่งซื้อที่เล็กน้อย เขาไม่รู้ว่านายคนนี้ต้องการซื้อหินหยกเจไดต์ปริมาณเท่าไรกันแน่
เห็นได้ชัดว่า ชายคนนี้สนใจเฉพาะอุตสาหกรรมหยกและไม่ค่อยรู้ข้อมูลอื่นๆ มิฉะนั้นเมื่อเขาเห็นว่าเป็นฟิวเจอร์กรุ๊ปเขาจะเข้าใจว่าพันล้านเป็นคําสั่งซื้อขนาดเล็กสําหรับฟิวเจอร์กรุ๊ป
“เราสามารถไปที่เหมืองหยกเจไดต์ในต่างประเทศที่พม่าโดยตรงเพื่อซื้อได้หรือไม่” ลู่ เผิงเฟยถาม
“มันยากและผมไม่แนะนําให้คุณเข้าไปในประเทศพม่าในตอนนี้ สงครามกลางเมืองของพวกเขายังไม่ยุติ คุณอาจจะตกเป็นเป้าหมายของพวกเขาจากการสังซื้อจํานวนมาก”
ในท้ายที่สุด ลู่ เผิงเฟยก็ตัดสินใจเดินทางไปพม่าเพื่อไปดู ถ้าหากไม่ได้ผลเขากําลังคิดหาวิธีอื่น
เหลาหยู ติดต่อกับเพื่อนของแมนแดล่า หลังจากที่ลู่ เผิงเฟย เดินทางผ่านไป จะมีคนที่นั่นจะพาเขาไปดูเหมืองเจไดต์
แน่นอน เขาโทรศัพท์กลับบริษัท และขอข้อมูลบางอย่างจากบริษัทมาเพื่อดู นอกจากนี้ผู้ประเมินราคาจาก บริษัทเครื่องประดับได้รับเชิญให้ติดตามเขาเพื่อป้องกันการถูกโกงโดยคนเหล่านั้นเมื่อเขาไปถึงที่นั่น
แม้ว่า อู๋ ฮ่าวเหริน จะบอกชัดเจนกับพวกเขาทุกคนว่าให้ซื้อแร่ดิบหยกเจไดต์ แต่ก็นั่นแหล่ะ ทุกคนไม่มีใครรู้อะไรเกี่ยวกับหินหยกดิบนี้เลย
สําหรับอู๋ ฮ่าวเหริน ไม่สําคัญว่ามีหยกเจไดต์อยู่ในหินไหม ถ้ายังมีหยกนั่นอยู่ในระบบซองแดงก็โอเคแล้ว ในช่วงเวลานี้ เขายังคงได้รับหยกเจไดต์จากขุดแร่ในระบบซองแดงซึ่งมากพอจะนํามาปูสนามก็ได้ และนํามาเป็นอิฐปูพื้นก็ได้อีกด้วย
ขณะที่บินมุ่งตรงไปยังกรุงมัณฑะเลย์ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าหยกเจไดต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศพม่า ตามความคิดของลู่ เผิงเฟย นั้นเรียบง่ายมาก นั่นคือการซื้อหยกเจไดต์ดิบที่นี่แล้วขนส่งกลับไปยังประเทศจีน
” อาจารย์ คุณมีเพื่อนที่นี่ไหม”
คุณดูอยู่ในวัยสี่สิบเศษ เขาค่อนข้างมีความสุขและมีอารมณ์ดี เขาอยู่ในธุรกิจนี้มานานกว่าสิบปี เป็นหนึ่งในบรรดาคนที่เขายืมตัวมาจากบริษัทเครื่องประดับขนาดใหญ่
“บริษัทของเรามีบุคลากรที่มาที่นี่เพื่อจัดซื้อ แต่การซื้อของคุณนั้นพิเศษมาก จะต้องวางเดิมพันกับก้อนหินทั้งก้อน และยังมีขนาดที่ใหญ่มาก เราคิดออกแต่วิธีการซื้อจากพื้นที่ที่ทําเหมืองเท่านั้น”
ลู่ เผิงเฟย รู้ว่าเขาถามคําถามผิด ช่องทางการซื้อของบริษัทนี้จะต้องเป็นความลับ
ในไม่ช้าคนที่มารับก็มาถึงโดยขับรถจี๊ปมา เขาผู้ชายร่างกํายําอายุประมาณสามสิบเศษ ผิวคล้ำและดูเถื่อน เขาเป็นชนเผ่าพื้นเมืองคะฉิน
“ยินดีต้อนรับสู่พม่าผมชื่อ หลุนซาน”
ลู่ เผิงเฟย ไม่คิดว่าภาษาจีนของไกด์จะดีเช่นนี้
เขาตามไกด์ไปที่โรงแรม สภาพปัจจุบันไม่แย่อย่างที่คิด
อย่างไรก็ตาม ลู่ เผิงเฟย รู้สึกเสียใจเล็กน้อยหลังจากคุยกับไกด์หลุน เขาเพิ่งเจอตลาดหยกเจไดต์ ในปัจจุบันมีหินหยกเจไดต์ไม่มากนักในตลาด
หากคุณซื้อตามขนาดตามนี้จริงๆ วิธีเดียวคือไปที่ที่มีหยกเจไดต์
หลังจากทราบสถานการณ์แล้วอาจารย์ดูแนะนําว่า “เราควรติดต่อบริษัทที่ขุดเหมืองโดยตรงเป็นการดีกว่าที่จะไม่เสี่ยง”
“แต่เราต้องดูหินต้นแบบเสมอ มิฉะนั้นเราไม่รู้เลยว่าหินที่พวกเขาได้รับมามาจากที่นั่น”
ความคิดของ ลู่ เผิงเฟย นั้นธรรมดามาก เขาเดินทางไปที่ที่มีการทําเหมืองโดยตรงและนําหินนั้นออกมาจากโกดังของพวกเขา ดังนั้นจึงมีโอกาสน้อยที่จะถูกหลอก
หลังจากทําความเข้าใจกับสถานการณ์ เขาไม่ได้หวังว่าจะสามารถซื้อหินหยกเจไดต์ที่ดีที่สุดได้ ตราบใดที่เขาทํางานให้เสร็จตามความต้องการของเจ้านาย
ในที่สุดพวกเขาตัดสินใจไปที่ที่ขุดเหมืองกับหลุนเพื่อไปดู ถ้าไม่ได้เขาก็แค่หาวิธีอื่นเท่านั้น
สิ่งที่ทําให้ ลู่ เผิงเฟย พูดไม่ออกก็คือถนนไปยังเหมืองนั้นไม่ง่ายเลย ควรพูดว่ามันค่อนข้างแย่ซึ่งทําให้เขาเสียใจ
ถนนเป็นหลุมเป็นบ่อนานกว่าสิบชั่วโมงและสภาพถนนเป็นแบบนั้นไปตลอดทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีทหารติดอาวุธซึ่งทําให้เขาเริ่มกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย
หลุนซาน ดูเหมือนจะเห็นความกังวลของ ลู่ เผิงเฟย เขาพูดด้วยรอยยิ้ม” นายครับ ไม่เป็นไร ตราบใดที่มันถูกกฎหมาย ส่วนใหญ่ก็จะไม่มีปัญหา”
ลู่ เผิงเฟย คิดในใจว่า แค่บอกว่ามีความวุ่นวายทางการเมืองที่นี่ ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าทําไมอาจารย์ดูถึงเกลี้ยกล่อมไม่ให้เขามา เนื่องจากรายการซื้อของเขาใหญ่เกินไป จึงถูกผู้คนที่นี่จับจ้องมีหลายคนที่ต้องการทํากําไรในการต่อสู้ของพลเรือน ในกรณีของเขารู้สึกเหมือนเป็นคนโง่ที่ร่ำรวย
โชคดีที่ไม่มีปัญหาใดๆ ไปตลอดทางจนถึงเมืองที่ใกล้ที่สุด
ช่วงที่แวะพักในเมืองเล็กๆ ในขณะที่ชาวพม่าออกไปอาจารย์พูดว่า “ผู้จัดการลู่ ผมคิดว่าเราควรหาวิธีที่จะออกจากที่นี่และกลับไปที่มัณฑะเลย์”
“เกิดอะไรขึ้น?”
“คนๆ นี้อาจมีปัญหา ผมไม่แน่ใจ แต่ผมรู้สึกว่าการสื่อสารของเขากับเราทุกอย่างอบอุ่นเกินไป นอกจากนี้ยังมีคําถามบางอย่างที่ไกด์ไม่น่าจะสอบถามเลย”
ลู่ เผิงเฟย คิดถึงเหตุการณ์ตลอดทางและหลุนซาน ก็ถามเขาเกี่ยวกับการซื้อหินดิบ “เพราะอย่างนี้เขาจะกลับมาใหม่ เรามีปัญหาชั่วคราว เราต้องกลับไปแล้วดูปฏิกิริยาของเขา”