บทที่ 325 ธรรมชาติของการรวมตัว
ในตอนเช้าของวันถัดมา อู่ฮาวเหรินได้ช่วยเหลือซูเถา และจากนั้นเขาก็นําหยกเจดไดท์ไปที่บริเวณก่อสร้างหยวนหมิงหยวน
ในตอนนี้ หินส่วนใหญ่ที่อยู่ในคลังสินค้าได้ถูกตัดโดยหุ่นยนต์ตั้งแต่เมื่อคืน เพื่อที่จะปกปิดว่าหยกเจดไดท์ได้ถูกตัดไปแล้ว อู่ฮาวเหรินจึงได้ทําการตัดหยกเจดไดท์เป็นจํานวนมาก
แน่นอนว่ามีเพียงส่วนน้อยของหยกเจดไดท์ที่เขานําไปด้วยคือหยกระดับท็อป แต่ส่วนใหญ่ที่เหลือก็คือหยกเจดไดท์ธรรมดา
ไม่มีปัญหาหากหยกเจดไดท์พวกนี้จะถูกนําไปแกะสลักเป็นสิ่งต่างๆ แม้กระทั่งถูกนําไปทําเครื่องประดับ พวกมันก็ยังมีค่ามากกว่าหยกเจดไดท์ที่เขาซื้อมา
สถานที่ของหยวนหมิงหยวนเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก
การก่อสร้างขั้นพื้นฐานได้สําเร็จแล้ว สิ่งต่อไปก็คือการสร้างบ้าน การตกแต่งและอื่นๆ ตามขั้นตอน
ภูเขาหัวโล้นรอบๆ บริเวณนั้น ถูกปกคลุมด้วยโคลนที่ขุดมาจากสถานที่ก่อสร้าง และบัดนี้ก็มีต้นไม้ดอกไม้จํานวนมากนําไปปลูกบนนั้น
ในตอนนี้ พวกคนงานต่างพากันยุ่ง รอบๆ บริเวณสถานที่ก่อสร้าง กําลังยุ่งเลยในตอนนี้และมีเพียงร้านค้าเล็กๆ เปิดขายที่นี่
ปัจจุบันนี้ พื้นที่ในส่วนนี้ถูกห้ามให้มีการค้าขาย นอกเหนือจากการพัฒนาของรัฐบาล หนึ่งเดียวที่สามารถเข้าถึงพื้นที่นี้ได้ก็คือกลุ่มอนาคต
ถึงอย่างนั้นในบางเมืองที่ค่อนข้างห่างไกลจากที่นี่ก็ยังมีนักเก็งกําไรเข้ามาเนื่องจากการพัฒนาของที่นี่
อู่ฮาวเหรินพบว่าตึกเก่าแก่ทั้งหลายที่ถูกสร้างในมณฑลหยุนหลงดูคล้ายคลึงกันกับภาพที่ถูกถ่ายในหยวนหมิงหวน
เมื่อก้าวเข้าไปห้องแกะสลักฉันพบว่ามีบางคนกําลังทํางานอยู่ในนั้น
“กําลังแกะสลักอะไรหรือ?”
อู่ฮาวเหรินมองดูช่างแกะสลักที่กําลังรัวค้อนเล็กๆ เป็นลายเส้นลงบนหิน เขามองไปรอบๆและไม่เห็นว่ามีแบบวาดอยู่ที่นั่น
ช่างแกะสลักหันหน้ามาเมื่อรู้สึกว่ากําลังมีใครรบกวนเขาอยู่ ทันใดนั้นเขาก็พบว่านั่นคือเจ้านายนั่นเอง “เจ้านายอยู่นี่นี่เอง นี่ครับแบบวาดลวดลายแกะสลัก”
ได้ยินดังนั้นอู่ฮาวเงินจึงมองดูลายเส้นซึ่งมันก็ช่างเหมือนในแบบวาดจริงๆ
“ทําไมคุณถึงไม่ใช้เครื่องจักรล่ะ? มันทําให้การแกะสลักช้าและก็เหนื่อยด้วยนะ ใช้เครื่องจักรแกะสลักเถอะเพราะมันก็แค่เอาไว้ประดับตกแต่ง ไม่ได้สําคัญอะไรหรอก”
“ พ่อหนุ่ม นี่คุณกําลังเจ้ากี้เจ้าการกับงานของพวกเขาอีกแล้วนะ”
เมื่อได้ยินเสียงนั้น อู่อ่าวเหรินจึงได้รู้ว่า ตงต้าถง ปรมาจารย์ด้านการแกะสลักหินได้มาถึงแล้ว
“ปรมาจารย์ตง
คุณกําลังดูถูกเด็กฝึกงานของผมนะ ถ้าพวกเขาไม่ใช้อุปกรณ์นี้ ก็ปล่อยให้พวกเขาแกะสลักแบบนี้นั่นแหละ”
“คุณรู้อะไรไหม? ในตอนนี้พวกเขาไม่ได้เก่งมากนัก ถ้าคุณใช้เครื่องมือนั้น มันก็จะดูแปลก พวกเขาต้องแกะสลักถึงสามชั่วโมงต่อวันก่อนที่พวกเขาจะสามารถใช้เครื่องจักรนี้ได้”
หลังจากที่อู่ฮ่าวเหรินครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันก็เป็นความจริง ที่การพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนั้นทําให้สะดวกสบาย อย่างไรก็ตามในกรณีนี้งานฝีมือมากมายได้ขัดขวางการสืบทอด
“ปรมาจารย์ตง ท่านรู้ไหมว่าเมื่อไรปรมาจารย์เหยียนจะมา? ผมมีหยกเจดไดท์ที่เขาต้องการ”
“คุณนี่เร็วมากเลยนะ เหยียนเฉิงผิง เข้ามาเร็วเข้า เสี่ยวอ๋อยากจะเจอท่าน”
“มา มา คํารามสิคําราม แสดงให้เห็นว่าเสียงของคุณนั้นดังแค่ไหน! เสี่ยวอู่ ทําไมวันนี้คุณได้มาที่นี่ได้?”
“ผมไม่ได้มาเพื่อเอาหยกเจดไดท์มาให้ท่านชมหรอกนะ แต่ถ้าท่านชอบผมก็จะส่งคนไปแกะสลักให้ท่าน”
เมื่อได้ยินคําว่าหยกเจดไดท์ หน้าของเหยียนเฉิงผิงถึงกับเปลี่ยนไป เขารู้สึกสดชื่นไปทั้งตัวและถามว่า “ไหนล่ะหยกเจดไดท์ ขอผมดูหน่อยสิ”
อู่ฮาวเหรินน้ําถุงออกมาและวางลงบนโต๊ะข้างๆ เขา พร้อมกับพูดว่า “นี่เป็นตัวอย่างที่ผมนํามาด้วยคุณค่อยดูภาพจากเครื่องคอมพิวเตอร์ที่หลังก็ได้ครับ คุณอยากจะได้รูปร่างแบบไหน? ผมจะตัดให้คุณในคลังสินค้าของผม จะแกะสลักและนํามาให้เลย”
เหยียนเฉิงผิงพยักหน้า เขาหยิบถุงขึ้นมาและเปิดออก เมื่อเขาได้เห็นหยกภายในนั้นเขาก็ยิ้มออกมาทันที
“ใช่เลย ใช่เลย หยกเจดไดท์นี้สวยถึงระดับสีเขียวน้ํามัน มันสามารถนําไปแกะสลักเป็นของตกแต่งอย่างที่เราต้องการได้ มันเกินกว่ามาตรฐานด้วยซ้ํา”
“ว้าว!”
ปรมาจารย์เหยียน ร้องออกมาอย่างประหลาดใจ และจากนั้นได้นําหยกชิ้นเท่าหัวแม่มือออกมาจากถุงหนึ่งชิ้น
“หยกนี้ได้มาจากที่ไหนกัน?” เหยียน ถามจ่อฟูอย่างกระตือรือร้น
อู่ฮาวเหรินมองและกล่าวว่า “บางที่คงเป็นตอนที่ผมนําตัวอย่างหยกเจดไดท์มา ผมเอาพวกเศษๆ ใส่ไว้ในนั้น”
“ตัดออกเป็นชิ้นๆ! อย่าบอกว่าคุณได้ตัดหยกเจดไดท์พวกนี้ออกเป็นชิ้นๆ นะ?” ปรมาจารย์เหยียนมองดูอู่ฮาวเหรินด้วยความตกตะลึง
เสียงของปรมาจารย์นั้นค่อนข้างดัง เมื่อเขาได้ยินเกี่ยวกับหยกเจดไดท์ ทุกคนต่างพากันวางมือลงจากงานและมองมาที่เขาเป็นตาเดียว
พวกเขาเรียนรู้การแกะสะลัก แน่นอนว่าพวกเขารู้ถึงมูลค่าของหยกเจดไดท์ ตราบใดที่คุณภาพไม่แย่เกินไปนัก ขนาดชิ้นเท่านิ้วมือก็ยังมีมูลค่าหลายล้าน
อู่ฮาวเหรินรู้ดีว่าทําไมปรมาจารย์เหยียนนั้นเสียงดัง แต่หลังจากที่ได้เห็นรูปภาพแล้ว เขาอาจจะเสียงดังกว่าเดิมก็เป็นได้
“ใช่ครับ เราตัดหยกไปเยอะมาก ตัดด้วยหุ่นยนต์นะครับ แต่เครื่องสอบเทียบไม่ค่อยดีเท่าไรนัก”
เมื่อได้ยินคําของอู่ฮาวเหริน กลุ่มคนพวกนี้ต่างพากันพูดไม่ออก ตัดไปเยอะหมายถึงอะไร?มีหยกเจดไดท์จํานวนมาก หรือว่าได้ตัดหยกเจดไดท์ไปเยอะมาก
ปรมาจารย์เหยียนมองดูคู่ฮาวเหริน และคิดว่าโครงการที่พวกเขากําลังทําอยู่นี้ เขาก็ทําได้เพียงแค่ส่ายหัว
เขาถูกพูดว่าเขาเป็นแกะดํา หลายล้านสิงสามารถถูกตัดได้อย่างง่ายดายด้วยการใช้หุ่นยนต์ ดูเหมือนว่าเงินหลายล้านหยวนจะไม่ต่างอะไรเลยกับเงินเพียงสองสามหยวนในสายตาของเด็กคนนี้
“ช่างน่าเสียดาย จากร่องรอยของการจัด ถ้าไม่มีการตัด คุณก็สามารถที่จะนําเอาหยกที่ดีออกมาได้ด้วยคุณภาพของหยกนี้ มันไม่น่าจะเป็นปัญหาในการขายในราคาสักสิบล้านหยวนแต่ตอนนี้มันเป็นเพียงชิ้นเล็กชิ้นน้อย คงจะได้ราคาสักหนึ่งล้านถ้าเอามาทําเป็นแหวน
อู่ฮาวเหรินพูดว่า “ปรมาจารย์เหยียน ถ้าคุณชอบ ผมจะเอากําไลแบบนี้ให้คุณ ให้คุณทํากําไลด้วยตัวคุณเอง”
“คุณคิดว่ามันเป็นกระจกงั้นหรือ คุณสามารถที่จะทําได้มากเท่าที่คุณต้องการ คุณโชคดีที่สามารถจะตัดมันออกมาเป็นชิ้นได้แบบนี้”
ได้ยินดังนั้น อู่อ่าวเหรินมองดูปรมาจารย์เหยียนอย่างแปลกๆ ฉันคิดกับตัวเองว่า นี่หยกเจดไดท์ที่ฉันเอามาไม่ดีขนาดนั้นเลยหรือ? แต่อย่างน้อยฉันก็ไม่ได้เอามาเยอะ
“ปรมาจารย์เหยียน ช่วยดูรูปภาพพวกนี้ก่อน ถ้าคุณชอบมัน ผมจะเอาวัสดุมาให้คุณสักชิ้น เพื่อทํากําไล”
อู่ฮาวเหรินได้เรียนรู้สิ่งเก่าๆ หลายสิ่งจากอาจารย์เหล่านี้ การที่รู้ว่าเขาต้องการของโบราณพี่พวกเขาได้มาจากเพื่อนๆ ซะเป็นส่วนใหญ่
ปรมาจารย์เหยียน สัมผัสวัสดุที่เหลือจากการตัด และรู้สึกเสียดาย เขาพูดขึ้นว่า “เอาล่ะมาดูกันซิว่าหยกเจดไดท์อันไหนที่คุณได้ตัดไป?”
ในตอนนี้ กลุ่มคนก็ได้เข้ามาดูหยกเจดไดท์ อู่ฮาวเหรินได้ขอให้พวกเขานําอุปกรณ์มาให้เพื่อเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
เมื่อภาพแรกปรากฏ ทุกคนพากันหยุดหายใจ พวกเขาเห็นภาพของหยกเจดไดท์ นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นหยกเจดไดท์ในห้องๆ หนึ่ง
แม้แต่เหยียนเฉิงผิงก็ตกตะลึงที่ได้เห็นภาพด้านบนสุดซึ่งมันไม่น่าเชื่อ
ภายในห้องแกะสลักแห่งนั้นเงียบงันไปในทันที ทุกคนจ้องมองไปที่ภาพที่ปรากฏบนจอ
สีหน้าของปรมาจารย์และกลุ่มช่างแกะสลักหยกเจไดท์เปลี่ยนไปด้วยความประหลาดใจอย่างที่สุด พวกเขาไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นหยกเจดไดท์มากมายถึงเพียงนี้ในคราวเดียวกัน
การตัดหินเกือบจะเสร็จสิ้นไปถึงห้าคันรถแล้ว อู่ฮาวเหรินได้เตรียนหยกเจดไดท์ตามจํานวนของหิน ไม่มากนัก ในนั้นล้วนแล้วแต่เป็นหยกเจดไดท์ แต่แน่นอนว่ามีหยกเจดไดท์ที่มีคุณภาพสูงอยู่ไม่มากนักในจํานวนนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นหยกคุณภาพต่ํา ซึ่งจะถูกนําไปแกะสลักเป็นเครื่องประดับพิเศษในหยวนหมิงหยวน
ไม่มีทาง บางสิ่งที่หาไม่เจอ พวกเขาทําได้แค่เพียงแทนที่วัตถุด้วยหยกเจดไดท์ใหม่ๆ
หลังจากที่ภาพนั้นได้ถูกปล่อยออกมา เหยียนเฉิงผิงก็ได้ตอบกลับหลังจากที่ทิ้งช่วงไปนาน เขาพูดว่า “ผมอยากจะฆ่าคุณซะจริงๆ!”