บทที่ 327 การเคลื่อนที่ของหยกเจไดท์
โชคดีที่เมื่อตอนที่ฉันเห็นรูปภาพพวกนั้นไม่มีใครแอบถ่ายรูป มิเช่นนั้นแล้วถ้ารูปภาพของหยกที่อยู่ในคลังสินค้าแพร่กระจายออกไป ชื่อของอู่ฮาวเหรินก็คงจะดังกว่านี้เป็นแน่
ในวันนี้ ตราบที่ผู้คนได้รับทราบข่าวว่า ประธานของฟิวเจอร์กรุ๊ปจะได้รับหยกเจไดท์ที่มีมูลค่ามหาศาลจํานวนมากและยังเป็นหยกเกรดระดับท็อปอีกด้วย
ภายในห้องประชุมของบริษัทอัญมณี มีการประชุมหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้
“คุณคิดว่าบริษัทของเราพอจะมีโอกาสซื้อหยกเจไดท์พวกนี้มาได้บ้างไหม?”
“เจ้านายมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย สําหรับฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้น พวกเราก็รู้กันอยู่แล้วว่าเป็นบริษัทในตํานานและยังไกลเกินเอื้อมของพวกเราอีกด้วย ความร่ํารวยของอู่ฮาวเหงินที่เขาถือไว้ในมือนั้นทําให้เขาไม่สนใจในตัวเงินเลย”
อีกคนหนึ่งก็รายงานว่า “เจ้านายครับ ผมไม่เห็นด้วยครับ บางที่คุณอาจจะไม่สามารถซื้อมันได้ด้วยเงิน แต่ก็อย่าลืมว่าชายที่มีพรสวรรค์คนนั้นมีความชอบที่เป็นพิเศษ สิ่งที่พวกเราทุกคนต้องทําก็คือให้สิ่งที่เขาชอบ ถ้าเขาไม่ชอบเงิน พวกเราก็เป็นเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นที่เขาชอบแทนได้”
เมื่อเจ้านายได้ยินดังนั้น เขาก็ตะโกนออกมาว่า “โอเค! คุณนี่มันเป็นคนหนุ่มที่มีจิตใจยืดหยุ่นจริงๆ คุณลงมือได้ ถ้าคุณทําได้สําเร็จ คุณจะได้โบนัสสองเท่าเลยในเดือนนี้”
“ขอบคุณครับเจ้านาย แต่ถ้าผมทําไม่ได้ล่ะครับ”
“อ้าว ทําไมคุณจะทําไม่ได้ล่ะ? คุณเป็นคนบอกวิธีเองไม่ใช่หรือ? ถ้ามันต้องใช้เงินคุณไม่ต้อง กังวล บริษัทของเรามีเงินมากพอ”
“เจ้านายครับ มันไม่เกี่ยวกับเรื่องเงิน แต่มันเกี่ยวกับสถานภาพและการติดต่อ ของโบราณดีๆที่ชายอัจฉริยะคนนั้นต้องการทั้งหมดอยู่ในมือของนักสะสมรายใหญ่ เจ้านายต่างๆและคนพวกนั้นคงไม่มีทางให้ผมเข้าพบเป็นแน่”
เจ้านายดูเหมือนจะเข้าใจในสิ่งที่เขาพูด
จึงพยักหน้าและพูดว่า “มันก็จริงที่ว่านักสะสมรายใหญ่ก็จะมีนิสัยแปลกๆ ด้วย เดี๋ยวฉันจะจัดการเอง เมื่อก่อนเคยมีนักสะสมของโบราณถามฉันเกี่ยวกับหยกเจไดท์ คุณได้โบนัสสองเท่าไปเลยในเดือนนี้”
ทุกคนต่างพากันอิจฉาชายผู้นี้ที่เข้ามาในบริษัทได้เพียงไม่กี่เดือนและสามารถตีเสมอพวกเขา
เขาคิดว่าคงไม่มียอดมนุษย์คนไหนที่จะได้รับการเลื่อนขั้นเร็วเช่นนี้ ซึ่งนั่นมันเป็นช่องว่าง
ในออฟฟิศอันกว้างใหญ่ เล่ยจวน นั่งอยู่บนเก้าอี้และมองดูข่าวของอู่ฮาวเหรินในจอคอมพิวเตอร์
เธอไม่คาดคิดว่าพนักงานเล็กๆ คนหนึ่งที่ได้ออกจากบริษัทของเธอไปจะสามารถสร้างบริษัทในเวลาอันสั้นเช่นนี้ได้ราวปาฏิหาริย์
เมื่อเธอได้ทราบเกี่ยวกับอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบําบัดที่ถูกคิดค้นขึ้นโดยอู่ฮาวเหริน เธอถึงกับช็อกไปเป็นเวลานาน อย่างไรก็ตามเธอและเขาก็ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กันมากนักและเธอก็ไม่เคยให้ความสําคัญกับเขาในตอนที่เขาอยู่ที่บริษัทเดิม
สิ่งเดียวที่ฝังใจก็คือ พ่อของเธอได้บอกชื่อของอู่ฮาวเหริน และจากนั้นเธอก็ได้เห็นใบลาออกข องเขา และไล่ผู้จัดการคนนั้นออกเพื่ออู่ฮาวเหริน
อย่างไรก็ตาม คนที่ไม่เป็นที่รู้จักในบริษัทกลับได้รับเงินทุนก้อนแรกจากพ่อของเธอและเดินออกไปจากบริษัท ภายในเวลาสองสามเดือนเธอก็กลายมาเป็นผู้นําของบริษัทนี้
ในเวลานี้ เลขานุการกลับเข้ามาจากข้างนอกและถามว่า “ท่านประธานคะ จะให้พวกเราทําอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้คะ?”
“คุณไม่ต้องถามอะไรหรอก ฉันจะจัดการด้วยตัวของฉันเอง”
การสืบทอดบริษัทอัญมณีต่อจากพ่อของเธอ เล่ยจวน นั้นพร้อมสําหรับการนี้ แต่เธอไม่คาดคิดว่าแรงกดดันภายในจะมีมากกว่าที่เธอคิด
ผลงานของบริษัทกําลังดิ่งลง สาเหตุหลักมาจากการตกต่ําของราคาอุตสาหกรรมอัญมณีเมื่อเร็วๆ นี้ และความขาดแคลนของทรัพยากรอัญมณีระดับท็อป สงครามในพม่านําไปสู่ความผันผวนครั้งใหญ่ในตลาดหยกเจไดท์
บริษัทของพวกเขาพัวพันกับหยกเป็นหลัก เป็นบริษัทค้าขายอัญมณีหยก ซึ่งได้รับผลกระทบครั้งใหญ่ที่สุด
“ดูเหมือนว่าครั้งนี้ฉันต้องไปพบสุภาพบุรุษในตํานานด้วยตัวเองซะแล้ว”
เธอรู้ดีว่ามันมีโอกาสที่จะสําเร็จอยู่เพียงน้อยนิดในการส่งคนอื่นไป แต่มันเป็นไปได้ที่คุณจะไม่สามารถเห็นใครสักคนเมื่อคุณไป
อู่ฮาวเหรินไม่รู้ว่าการกระทําของเขาได้ปั่นป่วนอุตสากรรมหยกเจไดท์ไปทั้งหมด นอกเหนือจากบริษัทอัญมณีเหล่านั้น ก็ยังมีบรรดาคนที่คลั่งใคล้หยกเจไดท์ที่ต่างก็พากันจับต้องหยกเจ ไดท์ในมือของเขา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเหยียนเฉิงผิงได้กลับไปที่ห้องแกะสลักพร้อมกับหยกเจไดท์เหล่านั้นพวกช่างแกะสลักมองดูหยกพวกนั้นและสายตาของพวกเขาก็เปลี่ยนไป
พวกเขารู้สึกอาดูรที่คนเรานี้ไม่สามารถที่จะเปรียบเทียบกันได้เลยจริงๆ ดูที่หัวตัดหินที่แข็งแรงของคนพวกนี้ สามารถที่จะผลิตหยกที่สุดยอดเช่นนี้ได้
ยิ่งไปกว่านี้สิ่งที่ทําให้พวกเขาพูดไม่ออกก็คือหยกเจไดท์พวกนี้ สุภาพบุรุษผู้นั้นได้ตัดมันออกเป็นรูปสี่เหลี่ยม ต้องสูญเงินไปตั้งเท่าไร
“เหยียนเฉิงผิง ท่านเห็นอะไรบ้าง? หยกเจไดท์ที่ตัดโดยเด็กคนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง?”
เหยียนเฉิงผิงถอนหายใจและมองไปที่ผู้เฒ่าหลายคนและพูดว่า “คนธรรมดานั่นโชดดี ดูสิผมได้นํามันกลับมาด้วย ผมกลัวว่าถ้าหยกเจไดท์พวกนี้อยู่ในมือของเด็กคนนั้น บางทีเขาคงจะไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับมันเลย ดังนั้นเขาจึงได้ใช้เครื่องจักรที่เขามีแกะสลักหยกพวกนี้”
เมื่อดูที่หยกเจไดท์ที่เหยียนเฉิงผิงนํากลับมาด้วย กลุ่มของช่างแกะสลักมองอย่างแปลกประหลาด หยกเจไดท์พวกนั้นสามารถเปิดได้ในครั้งเดียว มันช่างโชคไม่ดียิ่งนัก!
“ยังไงซะ เขายังมีหยกเจไดท์ที่แตกต่างเป็นพิเศษอยู่บางส่วน แต่ผมไม่กล้าขอเขา หยกพวกนั้นมันช่างพิเศษนัก ถ้าคุณอยากที่จะแกะสลักมัน คุณก็ต้องมีแผนที่ดี ผมได้ขอให้เขาเอาออกมาเมื่อโครงการได้เสร็จสิ้นแล้ว พวกเราจะพยายามไปด้วยกันเพื่อออกแบบสมบัติที่โดดเด่น
บางคนถึงกับช็อคที่ได้ยินเช่นนั้น เหยียนเฉิงผิงผู้ที่คร่ําหวอดกับหยกเจไดท์มาตลอดชีวิตของเขากล่าวเช่นนี้ ซึ่งทําให้พวกเขาอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับหยกพิเศษชิ้นนั้น
“คุณได้เอารูปมาด้วยหรือไม่? ไหนดูซิว่ามันพิเศษแบบไหนกัน?”
“ไม่ครบ ถ้าคุณต้องการที่จะเห็นหยกเจไดท์ คุณก็ต้องไปเห็นด้วยตาของคุณเอง เด็กคนนั้นไม่ได้สนใจมากนักหรอก อย่างก็ตามถ้าข่าวของหยกเจไดท์นี้แพร่ออกไป มันก็ต้องเป็นข่าวช็อคครั้งใหญ่ ในตอนนั้นบางคนก็อาจจะออกมาจากหุบเขาเพื่อปล้นพวกเราที่กําลังแกะสลักหยกนั้นทันที”
เหยียนเฉิงผิง ให้ความกระจ่างแก่ผู้เฒ่าบางคนที่ร้างลาจากวงการนี้ไปแล้ว ถ้าพวกเขาได้เห็นหยกเหล่านั้น พวกเขาจะต้องเคลื่อนไหว ในตอนนั้น ฉันเองก็ไม่รู้ว่าใครจะฉกเอาหยกแกะสลักพวกนั้นไป
“เอาล่ะ หยกเจไดท์ในนั้น บางอันก็ไม่ได้แย่จนเกินไป พวกมันเป็นที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งแก้วระดับราชาสีมรกต พวกเราไม่เคยเห็นหยกเจไดท์ดีๆ เช่นนี้มาหลายปีแล้ว มาหารือกันดูเถอะว่าพวกเราจะทําอะไรได้บ้าง
ผู้เฒ่าหลายคนมองดูที่แก้วสีมรกตที่ถูกห่อไว้อย่างแน่นหนา ถ้าหยกนี้ปรากฏขึ้นในโลกของหยกเจไดท์ มันก็จะต้องเป็นสาเหตุของเรื่องอื้อฉาวเป็นแน่
“แก้วขนาดเท่ากําปั้นนี้เป็นสีราชามรกต เด็กคนนี้คงไม่ได้ซื้อมาจากหลุมหินเก่าที่สงวนได้โดยคนอื่นเป็นแน่!”
“มันเป็นไปไม่ได้เลยในตอนนี้ ฉันได้ยินมาว่าสถานการณ์ของหยกเจไดท์พวกนี้มันพิเศษยิ่งนักไม่ได้มาจากช่องทางปกติ”
“ชายผู้โชคดี ผมได้เดินทางไปที่พม่าด้วยตัวเองเพื่อไปซื้อเมื่อหลายปีก่อน และผมก็ไม่เคยได้หยกงามเช่นนี้เลย วิธีการตัดทําให้ผมอยากจะจับเด็กคนนี้มาตีเสียงจริง ถ้าเป็นนักเรียนของผม เขาก็คงจะถูกฆ่าไปแล้ว ใครสั่งสอนให้ตัดหยกเจไดท์แบบนี้?” ชายชรารู้สึกคับอกคับใจที่ได้เห็นเช่นนี้กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับมรกตขนาดมหึมานี้
“ถ้าคุณมีความคิดเช่นนั้น คุณก็ไม่ควรจะไปที่คลังสินค้า สิ่งที่เกิดขึ้นในนั้นต้องทําให้คุณโกรธแน่ๆ” เหยียนเฉิงผิงกล่าว
เขากําลังอารมณ์ไม่ดีเมื่อเขาคิดถึงหยกเจไดท์ที่อยู่ภายในคลังสินค้า มีหยกหลายชิ้นที่สวยงามมากซึ่งได้ถูกตัดออกโดยเด็กคนนั้น