CF:บทที่ 40 ล่อลวงให้มาสมัครงาน
“ท่านครับ บางทีพวกเราอาจจะต้องส่งอีเมล์เชิญไปยังคนเหล่านี้ เพราะการที่ส่งไปครั้งก่อนไม่ได้เกิดการดึงดูดเท่าที่ควร”
“จี้ นายมีทางอื่นอีกหรือเปล่า?”
แทบจะทันทีที่ข้อมูลปรากฏขึ้นบนจอโทรศัพท์ของเขา อู๋ ฮ่าวเหรินก็รีบเปิดคอมพิวเตอร์และดาวน์โหลดพวกมันลงมา
“จี้! นี่มันไม่ใช่เรื่องโกหก!”
ในส่วนของข้อมูลบริษัทนั้นมันได้ถูกเปลี่ยนแปลงเรียบร้อยแล้ว การเปลี่ยนแปลงในระดับทรัพย์สินบริษัทนั้นทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างดูมีเหตุผลมากขึ้นรวมถึงมันยังทำให้ไม่มีปัญหาในรายละเอียดของแผนพัฒนาที่วางไว้ด้วย
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ทั้งตัวโรงงาน แปลนของตึกรวมไปถึงที่พักพนักงานต่างก็ยังไม่ถูกสร้างขึ้น
และหากยึดเอาตามสถานการณ์ปัจจุบัน กว่าจะสร้างสิ่งเหล่านี้เสร็จก็น่าจะประมาณ 7-8 เดือนเสียด้วยซ้ำ
“ในทางหลักการแล้วนี่คือกลยุทธ์ครับ ถึงแม้ว่าในแผนของบริษัทจะประกอบด้วยสิ่งก่อสร้างเหล่านี้แต่จริงๆแล้วมันยังไม่มี ยิ่งไปกว่านั้น พวกเราไม่เคยพูดด้วยว่าสิ่งที่กล่าวมามีอยู่แล้ว”
“ถึงจะบอกอย่างงั้นก็เถอะ ถ้าพวกเขามายังไงก็ต้องมาเห็นไอ้สิ่งที่ยังไม่มีนั่นแล้วความจริงก็จะต้องเปิดเผยออกมาอยู่ดีไม่ใช่เหรอ!”
“มันจะเป็นการดีกว่าที่ไม่มีโอกาสที่เขาจะเข้ามาพบเลยนะครับ” จี้พูดหลังจากหยุดไปพักหนึ่ง “ผมเชื่อว่ายังมีคนที่น่าตื่นเต้นอยู่ในกลุ่มคนพวกนี้ มันเป็นเพราะก่อนหน้านี้แผนบริษัทมันยังดูไม่เหมือนจริงในส่วนนี้เท่านั้น”
อู๋ ฮ่าวเหรินคิดตาม มันเป็นเรื่องจริงที่บริษัทของเขานั้นยังไม่มีอะไรที่บ่งบอกว่าเป็นโรงงานผลิตเครื่องดื่มเลย เพราะงั้นเขาจึงไม่ค่อยอยากจะเชื่อเวลาคุยกับคนอื่นเรื่องการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในอนาคตซักเท่าไหร่
แต่ด้วย 200 ล้านดอลล่าห์ที่ลงทุนในต่างประเทศนี้ อะไรที่มันน่าเหลือเชื่อก็อาจจะทำให้เกิดขึ้นจริงได้ ฉันเชื่อว่าด้วยเงินก้อนนี้จะสร้างความมั่นใจให้กับผู้คนที่กำลังลังเลได้
“โอเค งั้นส่งข้อมูลปัจจุบันไปเลย ยังไงก็ตาม มันคงจะไม่ง่ายที่จะทำให้เขาเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับบริษัทแล้วก็ตัดสินใจเข้าร่วมกับเรา”
หากไม่ใช่เพราะต้องการคนที่มีความสามารถเพื่อมาแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นมามายเป็นมดปลวกอย่างเร่งด่วน ตัวเขาเองคงไม่อยากให้คนพวกนี้เข้ามาในบริษัทเขาง่ายๆหรอก
อนิจจา ฉันยังกลัวปัญหาที่นึกไม่ถึงอยู่นะ ไม่งั้นล่ะก็ ฉันจะสร้างสิ่งประดิษฐ์ที่ไฮเทคมากๆหลายๆชิ้นแล้วใช้มันดึงดูดผู้คนซะเลย
ไม่นานนักหลังจากที่จี้ส่งข้อมูลบริษัทนั้นไป ผู้จัดการที่มีทักษะจัดอยู่ในระดับอาวุโสก็พบข้อมูลเหล่านั้นในเมล์บ็อก
คนเหล่านี้คือเหล่าคนที่ลาออกเมื่อปีที่แล้วและพวกเขากำลังมองหางานใหม่หรือกำลังจะเปลี่ยนงานที่ทำอยู่
ลู่ เปงเฟย ดูข้อมูลเหล่านั้นที่อยู่ในเมล์บ็อกพร้อมกับพูดกับตัวเอง “น่าสนใจ แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่บริษัทก็ยังมีผู้ร่วมลงทุนถึง 200 ล้านดอลล่าห์ ลวงโลกจริงๆนะ ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าตึกนั่นสร้างเสร็จจริงๆล่ะก็ โลกวุ่นวายไปนานแล้ว ฟิวเจอร์ กรุ๊ป”
เขาพิมพ์หาบริษัทลงไปในอินเตอร์เน็ตเพื่อจะดูว่าเป็นบริษัทเกี่ยวกับอะไร และหลังจากได้เข้าไปยังเว็บไซต์ที่สร้างโดยจี้ ลู่ เปงเฟย ก็ต้องตกตะลึงจนตาถลน สิ่งที่บริษัทนี้ทำนั้นมันเหลือเชื่อแบบสุดๆ
“หืม เครื่องดื่มอนาคต โครงการกล้วยไม้สีม่วง นี่คือประเภทของเครื่องดื่มเหรอ? มันเป็นดอกไม้ที่ดี ดูสวยงามไปหมด”
ลู่ เปงเฟย ต้องการที่จะพาภรรยาและลูกสาวไปดูดอกไม้ชนิดนี้แทบจะทันที แต่เมื่อเขาเห็นว่าดอกไม้เหล่านี้ยังอยู่ในช่วงเพาะปลูก เขาจึงหมดคำพูด บริษัทนี้อยู่ในหลุมแล้วจริงๆ แต่ถึงอย่างงั้นแล้วก็ยังกล้าที่จะก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมเครื่องดื่ม
“โครงการเส้นใยพืชนั่นไม่มีทางเป็นจริงแน่ๆ!”
ในฐานะของผู้จัดการ แน่นอนว่าสำหรับพวกเราแค่ชำเรืองมองก็รู้แล้วว่าวัสดุพวกนี้แข็งแรงขนาดไหน ผลประโยชน์จากถุงพลาสติกเพียงอย่างเดียวก็มากพอที่จะทำให้บริษัทแห่งนี้มีชื่อเสียงได้แล้ว
ไม่พูดถึงคำอธิบายด้านบน วัสดุเส้นใยพวกนี้สามารถแทนที่ผลิตภัณฑ์พลาสติกได้เป็นจำนวนมาก ราวกับมันเกิดมาเพื่อปฏิวัติพลาสติกก็มิปาน!
แน่นอนว่าหลักฐานด้านบนนั้นเป็นเรื่องจริง ไม่ได้อุปโลกขึ้นมา
ขณะที่ลู่ เปงเฟยกำลังอ่านข้อมูลนี้อยู่ ผู้จัดการมากมายเองก็เจอและกำลังอ่านข้อมูลนี้เหมือนกัน
บางคนที่เห็นการลงทุนกับต่างชาติถึง 200 ล้านดอลล่าห์ก็ลบอีเมล์จากกล่องขาเข้าไปเลย
และบางกลุ่มก็เหมือนกับลู่ เปงเฟย พวกเขากำลังคิดในแบบที่คล้ายๆกับที่ลู่ เปงเฟยคิดขณะที่กำลังอ่านเรื่องวัสดุ
หากข้อมูลเบื้องต้นเป็นจริง ตราบใดที่วัสดุเส้นใยพืชเป็นความจริง ศักยภาพของบริษัทนี้ก็สุดที่จะคิดจริงๆ
โลกใช้ถุงพลาสติกปีละ 1.2 ล้านล้านใบหรือประมาณ 3.3 พันล้านใบต่อวัน หากวัสดุเส้นใยชนิดนี้มีราคาถูกเท่าข้อมูลจริงๆและย่อยสลายได้ง่าย
จินตนาการได้เลยว่าอุตสาหกรรมพลาสติกแทบทั้งหมดจะถูกแทนที่ด้วยวัสดุเส้นใยชนิดนี้ และแน่นอนว่าผลิตภัณฑ์ที่ทำจากพลาสติกบางอย่างจะได้รับผลกระทบ เมื่อถึงเวลานั้น หลายๆโรงงานจะประสบสภาวะล้มละลาย
คนเหล่านี้จัดว่าฉลาด ดูท่าพวกเขาจะคิดออกมาในเวลาอันรวดเร็วแล้วว่าผลกระทบร้ายแรงที่จะเกิดหลังจากวัสดุนี้เข้าสู่ตลาด
หากเวลานั้นมาถึงทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับบริษัทพลาสติกที่มีความสัมพันธุ์เชิงแข่งขันกับวัสดุใยพืชก็คือการร่วมมือกับบริษัทนี้ ไม่เช่นนี้ก็คงต้องเลิกกิจการอย่างเดียว
หลังจากได้ข้อสรุป พวกเขาทั้ง 3 จากผู้คนทั้งหมดตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมเยียนบริษัทของอู๋ ฮ่าวเหรินและเมืองเล็กๆนั้น แม้ว่าจะเป็นการไปท่องเที่ยวทั่วๆไป พวกเขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะไปหางานแต่อย่างใด
ชัดเจนเลยว่าก้าวแรกของการใช้แผนลวงเพื่อล่อให้มาสมัครนั้นประสบความสำเร็จ ขั้นต่อไปนั้นขึ้นอยู่กับอู๋ ฮ่าวเหรินแล้วว่าเขาจะใช้ความสามารถในการเจรจาเพื่อให้เกิดการโน้มน้าวได้สำเร็จหรือไม่
ถ้าไม่อย่างงั้น เขาจะต้องทำทุกอย่างในบริษัทเสียเอง
ไม่มีเวลาชักช้าแล้วสำหรับผลผลิตที่มาจากวัสดุเส้นใยรวมไปถึงอุปกรณ์ด้วย เพราะฤดูการเก็บเกี่ยวครั้งต่อไป คือช่วงเวลาที่อู๋ ฮ่าวเหริน จะได้แสดงความแข็งแกร่งของเขาให้ทุกคนได้รับรู้
ในขณะเดียวกัน ทางฝั่งของเหล่าเทศมนตรีก็เริ่มพูดถึงผลลัพธ์ที่ยึดตามแผนของอู๋ ฮ๋าวเหรินเสียที เขาจะซื้อพื้นที่ขนาดใหญ่สำหรับก่อสร้างโรงงานอันเป็นปัญหาใหญ่ที่ไม่มีอะไรในเทศบาลที่สามารถแก้ไขได้
เมื่อการลงทุนกับต่างชาติกว่า 200 ล้านดอลล่าห์ปรากฏขึ้นบนรายงานของเขตเล็กๆอย่างหยุนหลง และมันวางอยู่บนโต๊ะของเทศมนตรี ผู้อำนวยการของสำนักส่งเสริมการลงทุนของเขตจึงถูกเรียกตัวโดยนายกเทศมนตรีเป็นครั้งแรก
เป็นการลงทุนกับต่างชาติที่ก้อนใหญ่เอาการ ตัวนายกเทศมนตรีเองก็ยังประหลาดใจที่ทำไมข่าวการลงทุนที่ใหญ่ขนาดนี้ถึงไม่ปรากฏในเมือง
“ท่านผู้อาวุโสดู๋ ดูนี่ก่อน จากเขตหยุนหลง”
ดู๋ โป ถูกเรียกตัวมาโดยนายกเทศมนตรี เขาเก็บงำความสงสัยไว้เต็มไปหมด เพราะตัวเขาเองจำได้ว่าเร็วๆนี้ไม่มีการลงทุนใดๆเกิดขึ้น และนั่นก็หมายถึงเขาไม่มีงานด้วย
เมื่อเขาได้อ่านรายงานนั้นจนหมดนั่นจึงทำให้เขารู้สึกไปต่อไม่ถูกเลย เขาไม่รู้มาก่อนเลยว่ามีการลงทุนขนาดใหญ่ขนาดนี้เกิดขึ้น
แต่ถึงกระนั้นเขาก็เคยได้ยินเกียวกับเครื่องดื่มอนาคตอยู่บ้าง เมื่อนานมาแล้ว ฟ่าน เวิ่นหมิง หัวหน้ากลุ่มสมาคมพ่อค้าชาวจีนเคยพูดไว้
เขากำลังจะเกษียณและตำแหน่งนี้กำลังจะกลายเป็นตำแหน่งที่ต้องแข่งขันกันเพื่อเข้ามาทำงานต่อไป
“ท่านนายก ผมเคยได้ยินเรื่องของบริษัทเครื่องดื่มอนาคตเมื่อนานมาแล้ว มีคนเคยพูดให้ผมฟัง แต่พวกเขาไม่ได้พูดเรื่องการลงทุน 200 ล้านดอลล่าห์นี่ให้ฟังเลยดูเหมือนมันเพิ่งจะเกิดขึ้นวันนี้หรือเปล่า”
“ดีเลย คุณรู้ไหมว่าบริษัทเครื่องดื่มอนาคตนี่จะเป็นยังไงต่อ? เจ้าวัสดุไฟเบอร์ชินนี้คืออะไร? ทำไมถึงดึงดูดให้ต่างชาติร่วมลงทุนมากถึง 200 ล้านดอลล่าห์?”
“ผมเองก็ไม่มั่นใจเหมือนกัน ถ้ายังไง ในวันพรุ่งนี้ผมจะรีบลงไปเพื่อตรวจสอบพร้อมกับเข้าพบคุณอู๋ ฮ่าวเหริน เพื่อให้มั่นใจว่าการลงทุนขนาดใหญ่นี่มาจากเมืองของเรา”
“โอเค คุณสามารถลงไปตรวจสอบสถานการณ์พรุ่งนี้ได้ และถ้ามันเป็นจริง ผมเองก็จะไปดูด้วย นี่คือการลงทุนขนาดใหญ่ เราต้องทำอย่างรอบคอบเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาใดๆตามมาทีหลัง”
เมื่อดู๋ โบออกไปแล้ว นายกเทศมนตรีจึงกลับลงไปนั่งเช่นเดิมและเริ่มศึกษารายงานนั้นใหม่
อู๋ ฮ่าวเหรินยังอยู่ที่นี่ แต่เขาไม่รู้ถึงเรื่องราวของเขาเลยซึ่งมันกระจายเข้าไปในเมืองแล้ว เขายังคงไปดูการก่อสร้างโรงงานตามปกติ ตามตารางเวลาที่วางไว้ ผลลัพธ์ของขั้นตอนแรกจะต้องเรียบร้อยแล้ว
เขาคิดถึงเรื่องการเช่าตึกสำนักงานของเทศบาลมาก่อน หรือไม่เช่นนั้นก็ควรจะรอต่อไป
————————–