CF:บทที่ 7 เพรชพลอยและหยก
เพราะว่ามันเป็นร้านเพชร การตกแต่งเลยดูหรูหราบนห้องโถงเป็นสีทอง กำแพงทั้งสี่ด้านเป็นสีเขียวมรกต ซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกผ่อนคลาย
อู๋ ฮ่าวเหรินเคยมาที่นี่แล้วแต่ครั้งนั้นเขามากับคนที่บริษัท เขาคนนั้นซื้อแหวนทองใช้เงินไปกว่า 5,000 หยวนเพื่อที่จะอวดเขา
แหวนหนักไม่กี่กรัมแต่ราคาตั้งห้าพันหยวน อู๋ ฮ่าวเหรินเกิดมาเป็นคนจนรู้สึกว่ามันฟุ่มเฟือยและยังคงไม่เข้าใจมันอยู่ดี
ภายหลังเขาได้รู้ว่ามันเป็นอะไรที่เกี่ยวกับความโรแมนติก สำหรับผู้ชายจนๆที่หาเงินช่วยครอบครัวและไม่เคยมีเงินติดตัวมากกว่า 100 หยวน เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่เรียกว่าโรแมนติกนั้นคืออะไร
แต่วันนี้เขาต้องใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเพื่อที่จะได้กำไรมากกว่าเดิม
ในร้านไม่มีลูกค้าเลย นอกจากยามสองคนที่ประตู ก็มีเพียงพนักงานสองคนในร้านเท่านั้น เมื่อพวกเขาเห็นอู๋ ฮ่าวเหรินเดินเข้ามาเขารีบประเมิณสภาพของอู๋ ฮ่าวเหรินทันที เสื้อโค้ทเหี่ยวย่น เสื้อเชิ้ตสีขาวที่ไม่ขาวแบบเป็นธรรมชาติเพราะผ่านการใส่และซักซ้ำๆมาอย่างยาวนาน
บวกกับรองเท้าหนังที่มีรอบพับเล็กน้อยทำให้พนักงานทั้งสองคนเข้าใจว่าลูกค้าที่เข้ามานั้นไม่ใช่คนรวยกำลังซื้อคงไม่สูง
หญิงที่แก่กว่าสะกิดหญิงที่อ่อนกว่าให้นางไปต้อนรับอู๋ ฮ่าวเหริน
แม้ว่าเธอไม่อยากไปต้อนรับอู๋ ฮ่าวเหรินเพราะคิดว่าเขาคงไม่ซื้ออะไร
“สวัสดีค่ะคุณผู้ชาย ต้องการจะซื้ออะไรหรือคะ? ให้ดิฉันแนะนำให้ไหม”
อู๋ ฮ่าวเหรินไม่ถูกกับการสนทนากับผู้หญิง ตกใจและตอบอย่างโง่เง่าไปว่า ”ผมขอดูก่อน ไม่ต้องตามผมมาก็ได้ เดี๋ยวดูเสร็จแล้วจะเรียกมาเอง”
อู๋ ฮ่าวเหรินไม่รู้ว่าจะซื้ออะไรจริงๆ แม้ว่าตั้งใจจะซื้อทอง เพชรพลอยและหยก เขาก็มีแค่สองพันหยวนเท่านั้นเลยไม่รู้ว่าจะซื้ออะไรดี
พนักงานเดินจากไปแล้ว อู๋ ฮ่าวเหรินก็ตระเวนไปทั่วร้าน พฤติกรรมของเขาทำให้พนักงานทั้งสองคนขมวดคิ้ว
“พี่หลี ผู้ชายคนนั้นกำลังทำอะไร เห็นเขาเดินจากเขตเครื่องประดับทองไปเขตเครื่องประดับเพชรอย่างกับกำลังหาอะไรสักอย่างเลย”
พนักงานขายที่ถูกเรียกว่าพี่หลี ชำเลืองมองไปยังอู๋ ฮ่าวเหรินที่เดินไปทั่วแล้วพูดว่า ”เธอไม่รู้ว่าเขามีเงินเท่าไหร่ เขาอาจจะหาเครื่องประดับที่เขาพอจะจ่ายไหวแล้วเอาไปให้แฟนเขาก็ได้!”
อย่างไรก็ตาม ผ่านไปกว่าสิบนาที พนักงานทั้งสองมองอู๋ ฮ่าวเหรินด้วยสายตาแปลกๆแล้วเพราะว่าเขาไม่ซื้ออะไรสักที เขาเอาแต่ตระเวนไปทั่วร้าน วนรอบๆร้านได้สองรอบแล้ว
ถ้าเขาไม่ได้อยู่คนเดียว และเริ่มเคลื่อนไหวแปลกๆ หรือให้พวกเธอหยิบเครื่องประดับให้ดู ทั้งสองคงเรียกยามมาแล้ว
ณ ตอนนี้อู๋ ฮ่าวเหรินมีปัญหาบางอย่าง เขาพบว่ากำลังซื้อเพียงสองพันหยวนนั้นถูกจำกัดมาก ดังนั้นเขาเลยลังเลไม่รู้จะซื้ออะไรดี
เห็นอู๋ ฮ่าวเหรินหยุดพนักงานสองคนก็พูดพร้อมกัน
“คุณสนใจเครื่องประดับชิ้นนั้นหรือ? เราสามารถให้ราคาดีๆกับคุณได้นะ”
อู๋ ฮ่าวเหรินมองเห็นสายตาระวังตัวของพนักงานทั้งสองคนและเข้าใจทันทีว่าเขาทำให้คู่คิดว่าเขาเป็นโจรไปเสียแล้ว
มันก็จริงที่ว่าเขาเดินวนไปมาสามรอบแล้ว พฤติกรรมแปลกๆนี้ยิ่งตอนนี้เป็นช่วงเทศกาลพอดี ไม่แปลกเลยที่จะมองเขาว่าเป็นโจร
“พอดีว่าผมอยากรู้เกี่ยวกับอัญมณีที่นี้หน่อยน่ะ หินดิบๆจะแพงกว่ารึเปล่า”อู๋ ฮ่าวเหรินคิดแล้วพูด
เขาไม่ได้จะมาซื้อของพวกนี้ในวันนี้เลย หลักๆเขาอยากรู้ว่าอะไรที่เขาจะหามาขายในราคาที่สูงได้
พี่หลีมองอู๋ ฮ่าวเหรินแล้วก็งงงวยแต่ยังถามไปว่า ”คุณจะมาขายหรอ?”
“อ๋อ พอดีผมกำลังจะขายหยกกับมรกตสักหน่อยน่ะ”
อู๋ ฮ่าวเหรินพูดอย่างคลุมเครือ
“คุณพกมันมาด้วยรึเปล่า เอาให้ดูหน่อยได้ไหม”
อู๋ ฮ่าวเหรินส่ายหน้าแล้วตอบว่า ”ผมแค่อยากรู้เกี่ยวกับหยกพวกนี้แล้วก็มณีอย่างอื่นก่อนแล้วดูว่าของๆผมมันคุ้มราคาไหม ถ้าไม่ผมก็จะไม่ขาย”
“เสี่ยวเหมย ไปเอาข้อมูลเกี่ยวกับมณีให้สุภาพบุรุษผู้นี้ดูหน่อย”
พี่หลี จริงจังทันที การซื้อนั้นต่างจากการขาย ถ้ามีคนมาเพื่อขายอัญมณีล่ะก็ อย่าตัดสินที่การแต่งตัวเขา บางทีเขาอาจจะถือมณีล้ำค่ามาด้วยก็ได้
ถ้าเธอสามารถซื้อหยก มรกตหรือมณีอื่นๆที่ดีจากชายคนนี้ในราคาที่ต่ำแล้วขายมันต่อในราคาสูงเพื่อทำเงินได้
ร้านนี้เป็นร้านในเครือระดับชาติ ตอนเธอไปงานประชุมประจำปีที่ผ่านมาเธอได้ยินมาว่ามีคนดวงดีพอจะซื้อหยกดีๆมาได้ และทางบริษัทก็ให้ค่าคอมมิชชั่น 200,000 หยวน
ในไม่ช้าเลี่ยวเหมยก็กลับมาพร้อมกับกองข้อมูล
“พี่หลี นี่ใช่ไหม?”
“ใช่ นั่นแหละ” แล้วยื่นให้อู๋ ฮ่าวเหรินและบอกว่า ”คุณเอาข้อมูลพวกนี้กลับไปเทียบกับของพวกนั้นได้นะ”
อู๋ ฮ่าวเหรินมองข้อมูลที่ส่งมาแล้วคิดได้ทันที
เขาเหมือนจะหลงเข้าใจผิดไป เขาไม่จำเป็นต้องซื้อของพวกนี้เลย ก็แค่ต้องส่งข้อมูลพวกนี้ให้พวกเขาในระบบแดงแล้วดูว่าพวกเขามีมณีแบบนี้หรือไม่
หลังจากที่เขาได้หยก เพชรพลอยต่างๆเขาสามารถหาทางขายหินดิบๆเพื่อแก้ปัญหาแหล่งที่มาของมณีได้
“ขอบคุณสำหรับข้อมูล ผมจะเอามันกลับไปเทียบเลย แล้วถ้ามันเป็นหยกหรืออะไรจริงๆ ทีนี่จะรับซื้อไหม?”
“ซื้อค่ะ เราเป็นร้านในเครือระดับชาติ เราจะรับซื้ออัญมณีที่ยังไม่ผ่านกระบวนการต่างๆในราคา 80% ของราคาจริงค่ะ”
มันใช้เวลาเกือบจะเท่าละครเต็มๆสักเรื่อง อู๋ ฮ่าวเหรินรู้สึกว่าเขากลับได้แล้ว
เขาจะไปถามเรื่องเพชรพลอยในระบบซองแดงหลังจากนี้และดูว่าจะทำอย่างไรต่อ
“ขอบคุณครับ ถ้ามันเป็นมณีจริงๆ ผมจะเอามาขายในวันพรุ่งนี้”
เขาพูดไปในขณะที่หน้าเขายังตื่นเต้นอยู่
ทันทีที่พี่หลีเห็นหน้าแบบนั้น เธอรู้ว่าคนๆนี้เป็นบ้าเกี่ยวกับเรื่องเงิน เธอรู้สึกว่าเธอกระตือรือร้นเกินไป
อู๋ ฮ่าวเหรินไม่รู้เลยว่าเพราะสีหน้าของเขาทำให้คนมองเขาเปลี่ยนไป ณ ตอนนั้นเขามีเวลาจะห่วงเรื่องนี้แล้วหันกลับไป
เมื่อเขาออกพ้นประตูร้านไปแล้วพนักงานทั้งสองก็รู้สึกตัวว่าเขาไม่ได้ซื้ออะไรเลย และยังทำให้พวกเธอยุ่งกับการหาข้อมูลให้เขาอีกจนรู้สึกซึมเล็กน้อย
“ไปกินอาหารเย็นหลังเลิกงานกัน ฉันหวังว่าเด็กคนนี้จะเอาความประหลาดใจมาให้เราในวันพรุ่งนี้นะ”
พี่หลีตบบ่าเสี่ยวเหมยแล้วกล่าวเช่นนั้น
อู๋ ฮ่าวเหรินออกมาจากร้านแล้วเริ่มปล่อยข้อมูลงในกลุ่มนั้น
แต่โชคร้ายที่เขาพบว่าฟังก์ชั่นรูปภาพของเขาไม่สามารถเปิดได้ มันมีหลายฟังก์ชั่นเลยที่ใช้งานไม่ได้เพราะระดับต่ำเกินไป
ตัวอย่างเช่น ฟังก์ชั่นปริศนาที่สอดคล้องกับระดับ โดยเฉพาะระบบซื้ออาวุธ
เขาไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะระดับเขาสูงไม่พอหรือเป็นเพราะว่าเทียนยูกรุ๊ปที่พัฒนาระบบนี้ขึ้นยังไม่เปิดใช้งานฟังก์ชั่นนั้น
——————————–