CF:บทที่ 75 การโต้แย้ง
ไม่มีใครรู้เลยว่าในโกดัง มีหุ่นยนต์กำลังใช้เครื่องมือจักรกลผลิตชิ้นส่วนต่างๆอย่างต่อเนื่อง
อู๋ฮ่าวเหริน ซึ่งกลับถึงบ้านแล้ว กำลังถูกดุโดยแม่ของเขา บอกว่าเขากลับมากินข้าวไม่ตรงเวลา และไม่ใส่ใจสุขภาพของตัวเอง
อู๋ฮ่าวเหริน ยอมรับการสอนและดุด่าของแม่ของเขา และสัญญาว่าจะกลับมาทานข้าวให้ตรงเวลา
หลังจากนั้นเขาก็ทานก๋วยเตี๋ยวไข่ไปสองชาม โดยมีแม่ของเขาเฝ้าดูอยู่
ทันทีที่เขาตื่นขึ้นในตอนเช้าของวันถัดมา เขารับโทรศัพท์ที่โทรมาจากจื่อหยงว่า จะมีคนจากสถาบันวิจัยเข้ามาในวันนี้ จึงอยากให้เขาไปที่นั่นเพื่อพบกับพวกเขา
หลังจากที่ทราบข่าว อู๋ฮ่าวเหรินเองก็มีเรื่องที่จะคุยกับผู้พันอยู่เหมือนกัน
ซึ่งหลักๆคือเรื่องการทดสอบเครื่องไฟฟ้าชีวภาพบำบัด เขาอยากจะขอทหารจากกองทัพมาช่วยเขาทดสอบมัน และแน่นอนว่า เขาอยากจะโชว์ให้ผู้พันได้เห็นถึงการที่ทำงานที่สุดยอดของเครื่องไฟฟ้าชีวภาพบำบัด
“ลูกชาย มีนักเที่ยวมาที่หมู่บ้านเมื่อวานนี้” จู่ๆอู๋ชิงไห่ก็พูดขึ้นมา
อู๋ฮ่าวเหรินตกใจไปชั่วขณะและพูดขึ้น “ดูเหมือนว่านี่จะไม่ใช่เวลาที่ดี ที่จะมาเยี่ยมตอนนี้แฮะ”
“ตอนนี้ทุกคนเริ่มสนใจที่จะทำเงินตามที่ลูกผลักดัน และมีบางคนเริ่มที่ทำฟาร์มแล้ว”
“ถ้างั้นก็ปล่อยให้พวกเขาจัดการพัฒนาหมู่บ้านซุยฉุยกันไป แล้วผมจะฝากให้ลุงอู๋ช่วยจัดการ เขาน่าจะจัดการเรื่องนี้ให้ได้”
“แล้วจริงรึเปล่าที่ครอบครัวของเราเอง ก็จะทำการท่องเที่ยวเชิงเกษตร?”
“ครอบครัวของเรานะเหรอ? พ่อก็ตัดสินใจกับแม่เอาละกัน ผมว่าก็ไม่น่าจะมีปัญหา”
อู๋ฮ่าวเหรินไม่ได้บอกว่าเขาต้องทำเงินที่บ้าน เขาไม่ได้ต้องการพ่อกับแม่ทำงานหนัก ครอบครัวของเขาเป็นชาวไร่ก็จริง แต่เขาไม่ได้ต้องการให้พวกเขาทำงานอีก เขามั่นใจว่าพวกเขาน่าจะสามารถปรับตัวให้เข้ากับชีวิตแบบนั้นได้ในไม่ช้า
สำหรับเรื่องปัญหาด้านความเหนื่อยล้าของร่างกาย อู๋ฮ่าวเหรินก็พบวิธีช่วยตามข้อมูลที่ให้มาโดยผู้ชำนาญการแพทย์
ซึ่งตอนนั้น บริษัทก็กำลังพัฒนามาจนได้ระดับหนึ่ง เขามีความคิดที่จะผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์
หลังจากที่เขาออกมาจากบ้าน เขาก็โทรศัพท์หาพี่หลิวว่า วันนี้่เขาจะยังไม่เข้าไปที่บริษัทและไปที่ๆจื่อหยงบอกว่าจะเป็นสถานที่ตั้งของห้องวิจัย
เมื่อเขามาถึงก็พบว่า ที่ๆเคยเป็นโรงงานมาก่อน ตอนนี้มันได้ถูกเวนคืนโดยทางสถาบันวิจัย
เมื่อมองสถานการณ์ของคนอื่นๆและคิดถึงโรงงานที่เขาสร้างขึ้นเองแล้ว มันช่างต่างกันเหลือเกิน
หลังจากที่ตามเรียกจื่อหยงแล้วเขาก็เดินออกมาจากตึกออฟฟิศ
“คุณดูเข้มงวดกับที่นี่นะครับ”
“แน่นอน สถาบันวิจัยของกองทัพนี่นะ มันต้องเข้มงวดอยู่แล้ว, ไปกันเถอะ เดี๋ยวฉันจะให้ใครทำเรื่องบัตรอนุญาตเข้าทำงานให้ทีหลัง ตอนนี้ทุกคนกำลังรอนายอยู่”
อู๋ฮ่าวเหรินมองดูรอบๆก็พบยังมีอีกหลายจุดที่กำลังก่อสร้างอยู่ มันคงจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ว่าเขาจะวางแผนสร้างสถาบันวิจัยที่ยังไง
เมื่อจื่อหยงเดินเข้ามาที่ห้องประชุม เขาก็พบกลุ่มคนกำลังคุยเรื่องบางอย่างอยู่ มีคนอยู่เป็นโหล ทั้งแก่และหนุ่มสาว
เมื่อเห็นเขาเดินเข้ามา ทุกคนก็เงียบสนิท แล้วตอนนั้นจื่อหยงก็พูดขึ้น “เอาล่ะทุกคน ผมจะแนะนำให้พวกคุณได้รู้จักกับ อู๋ฮ่าวเหริน, ผู้คนพบวัสดุเส้นใยพืชและผู้นำเสนอวัสดุมายา”
ทุกคนมองอู๋ฮ่าวเหรินด้วยความประหลาดใจ สงสัยและไม่อยากเชื่อในสายตาของพวกเขา แน่นอนว่า เป็นเขายังดูหนุ่มเกินไปกว่าที่จะเชื่อได้
“หนุ่มมาก!”
“วัสดุเส้นใยพืชคิดค้นโดยเขาจริงๆงั้นเหรอ? ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย”
“เขาเป็นคนที่นำเสนอวัสดุมายางั้นเหรอ มันน่าทึ่ง น่าแปลกมาก”
“…”
“เอาล่ะทุกคน อย่าพูดกันเบาๆเลย วันนี้ผมเรียกฮ่าวเหรินมาเพื่อพบกับพวกคุณ วัสดุมายานั้นถูกนำเสนอขึ้นมาโดยเขา และงานที่พวกคุณจะได้ทำคือวิจัยวัสดุชิ้นนี้ ดังนั้นถ้ามีใครไม่เข้าใจอะไร ก็สอบถามจากเขาได้เลยโดยตรง”
ทันทีที่จื่อหยงพูดจบ อู๋ฮ่าวเหรินก็รู้สึกแย่ขึ้นมาทันที คนๆนี้กำลังขุดหลุมฝังเขาชัดๆ
มีศาสตราจารย์แก่คนหนึ่งยืนขึ้นและถาม “พ่อหนุ่ม ฉันมีคำถามเกี่ยวกับวัสดุที่คุณให้มา ประโยชน์หลักของวัสดุมายานี่มันเหมือนผีมาก ในปัจจุบันเราสามารถตรวจจับตำแหน่งของเป้าหมายผ่านคลื่นวิทยุสนามแม่เหล็ก แต่วัสดุมายานี้จะไม่สะท้อนคลื่นสนามแม่เหล็กออกมา แล้วเราจะจะทำให้ศัตรูสับสนได้อย่างไร?”
โชคดีที่ ช่วงนี้ เขาได้ศึกษาทุกคืน และความรู้ของอู๋ฮ่าวเหรินได้เพิ่มขึ้นมาก
“ปัญหานี้นี่แหละคือสิ่งที่เราจะต้องมาวิจัยและแก้ปัญหากันครับ ยกตัวอย่าง พวกเราสามารถผลิตอุปกรณ์ที่รบกวนการตรวจจับของเรดาร์ ทำให้นักบินต้องมองหาได้ด้วยสายตาเท่านั้น ก็จะถือว่าสำเร็จในการทำให้สับสนแล้ว หรือพวกเราจะพัฒนาอุปกรณ์ที่สร้างคลื่นสนามแม่เหล็กเลียนแบบได้ขึ้นมา แล้วส่งข้อมูลหลอกไปให้อีกฝั่ง”
“ถ้าเราสามารถศึกษาเทคโนโลยีนี้ได้ วัสดุมายานี่ก็ไม่น่าจะมีประโยชน์อะไร ถ้าพวกเรามีโอกาสก่อกวนเรดาร์ของอีกฝั่งได้ก่อน” มีคนหนุ่มคนนึงโต้แย้งกลับมา
แน่นอนว่าเมื่อเทียบกับคนสูงอายุแล้ว คนหนุ่มย่อมต้องรู้สึกอิจฉาอู๋ฮ่าวเหรินเป็นพิเศษ
“ไม่หรอก ผมคิดว่าผลลัพท์น่าจะดีที่สุด เมื่อวัสดุมายาใช้คู่ร่วมกับอุปกรณ์รบกวนสัญญาณ มันน่าจะใช้ก่อกวนศัตรูได้ง่ายกว่า” มีคนออกมาช่วยอู๋ฮ่าวเหรินแก้ต่าง
“เอาเถอะ พวกเรามาที่นี่เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของวัสดุมายา และปัญหาทางเทคนิคที่เกี่ยวข้อง และตอนนี้พวกเราก็กำลังกำหนดแนวทางการวิจัยกันอยู่ พวกเราจะต้องทำให้วัสดุชนิดนี้ให้มีค่าที่สุดแก่ทางกองทัพ” นักวิจัยอาวุโสกล่าว
คราวนี้อู๋ฮ่าวเหรินกล่าวบ้าง “ในความเป็นจริงแล้ว ผมคิดว่าวัสดุมายานี้มีพื้นฐานมากเทคโนโลยีภาพโฮโลแกรม แต่พวกคุณก็น่าจะรู้กันอยู่แล้วว่าเทคโนโลยีภาพโฮโลแกรมยังไม่สมบูรณ์ในปัจจุบัน”
ทำไมถึงพูดเรื่องเทคโนโลยีภาพโฮโลแกรมขึ้นมา เพราะว่ามันคือสิ่งที่อู๋ฮ่าวเหรินคิดจะทำต่อไปในอนาคต
ว่ากันตรงๆเลย เทคโนโลยีภาพโฮโลแกรมนั้นจะมีผลอย่างมากกับการพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนต์ในอนาคตอันใกล้ และเทคโนโลยีนี้จะเป็นอะไรที่สมบูรณ์ยิ่งกว่าเทคโนโลยี VR
เมื่อได้ยินพูดถึงเรื่องโฮโลแกรม หลายๆคนมีอาการคอตก และในหลายๆประเทศก็ยังศึกษาวิจัยกันอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ปัจจุบันก็ยังไม่ดีขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น เทคโนโลยีภาพโฮโลแกรมก็ยังไม่สามารถที่จะเลี่ยงการถูกตรวจจับของเรดาร์ของฝั่งตรงข้ามได้
“แต่อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีภาพโฮโลแกรมก็ไม่สามารถป้องกันการตรวจจับของเรดาร์ได้ ผมก็ยังคิดอยู่ว่าเจ้าวัสดุมายามันให้ประโยชน์น้อยเกินไป”
“จากที่อ้างอิงในข้อมูลของฉัน วัสดุมายานี่จะต้องติดตั้งระบบลวงตาเข้าไปด้วย เพราะถ้าใช้เพียงอย่างเดียว มันจะกลายเป็นการสู้ระยะประชิดของเครื่องบินขับไล่ของทั้งสองฝั่งหลังจากอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ขัดข้อง”
คนพวกนี้กำลังพูดอะไรกันอยู่เนี่ย? จื่อหยงออกมาหยุดพวกเขา เพราะเขาคิดว่าหากปล่อยให้พวกเขาคุยกันต่อไป พวกเขาอาจจะมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับอู๋ฮ่าวเหริน และนั่นก็ไม่ใช่อะไรที่เขาต้องการ
และจากที่เขาได้ฟังที่อู๋ฮ่าวเหรินพูดและได้ข้อมูลบางอย่างมา ไม่ใช่แค่ระบบเป้าล่อ รวมถึงระบบก่อกวนข้อมูล ที่ทุกประเทศกำลังศึกษากันอยู่เช่นเดียวกับระบบมิสไซล์นำวิถี
ถ้าทำให้เครื่องบินขับไล่ขนาดใหญ่ไม่สามารถใช้การได้ อาจจะเป็นผลลัพท์ที่คาดไม่ถึงก็ได้ถ้าวัสดุมายานี้ถูกใช้ร่วมกับมิสไซล์
แน่นอนว่ามืออาชีพย่อมรู้ดีกว่าอู๋ฮ่าวเหริน เมื่อกำลังสู้กันอยู่ แล้วใช้เทคโนโลยีนี้ในการหลอกล่อศัตรูให้โจมตี และดึงดูดการโจมตีได้ ดังนั้นแล้ว ไม่สำคัญว่าวัสดุนี้จะมีข้อเสียมากแค่ไหน มันก็มีค่าที่จะศึกษามัน
ถึงแม้ว่า คนพวกนี้จะพูดแบบนั้น แต่พวกเขาก็รู้ดีว่าอนาคตของวัสดุมายานี้ยิ่งใหญ่มาก ตราบเท่าที่วิจัยสิ่งนี้ มันจะต้องมีบทบาทมากในหลายๆด้าน
ต่อมา, อู๋ฮ่าวเหรินก็เดินตามพวกเขาแล้วเยี่ยมชมอุปกรณ์ต่างๆของสถาบันวิจัย ทำให้เขารู้สึกตาร้อนมาก จนแทบอยากจะขโมยกลับมา
ตามที่สมองกลได้คำนวณไว้ ถ้าพวกเรามีอุปกรณ์พวกนี้ พวกเราจะสามารถผลิตอะไรหลายๆอย่างได้
รู้สึกเสียดายที่ตอนนี้ทำได้แค่ดู อู๋ฮ่าวเหรินคงจะไม่รู้สึกเสียใจ ถ้าเขาได้รับอนุญาตให้ศึกษาของพวกนั้นที่นี่ได้
—————————-