CF:บทที่ 84 กองทัพขนาดใหญ่มาแล้ว
เนื่องจากจื่อหยงไม่ได้แจ้งมายังอู๋ฮ่าวเหริน ทางด้านนี้จึงไม่มีใครรู้ว่าพวกเขากำลังมา
หลังจากที่ออกมาจากหมู่บ้านซุยฉุย อู๋ฮ่าวเหรินก็เดินทางมายังบริษัท
เมื่อมองมายังเซี่ยเสวี่ยที่ดูไม่มีชีวิตชีวาที่โต๊ะประชาสัมพันธ์แล้ว อู๋ฮ่าวเหรินจึงเดินเข้าไปถาม “วันนี้ไม่มีใครมาติดต่อเรื่องวัสดุเส้นใยพืชเลยงั้นเหรอ?”
เพราะวัสดุเส้นใยพืชนั้นได้ส่งต่อให้ทางรัฐไปจัดการแล้ว ทางบริษัทจึงทำแค่ตอบกลับจดหมายระหว่างบริษัทและสถาบันวิจัยเท่านั้น และวัสดุเส้นใยพืชนี้ก็อยู่ในระหว่างการศึกษาด้วย
และสำหรับคนที่เชื่อหรือไม่เชื่อนั้น ก็เป็นอะไรที่ทางมณฑลเป็นคนจัดการ อย่างไรก็ตามก็ยังมีบริษัทเล็กๆ ที่ไม่ได้ทราบข่าวและยังคงมาติดต่อสอบถามเรื่องวัสดุเส้นใยพืชอยู่บ้าง
“ไม่ค่ะ ไม่มีใครเข้ามาติดต่อเลยหลายวันมานี้ ดูเหมือนว่าทางมณฑลจะช่วยพวกเราในการหยุดคนที่จะเข้ามาติดต่อน่ะค่ะ”
“โอ้, ก็ดีแล้ว”
เมื่อเดินเข้าไปด้านใน ก็พบแต่พนักงานฝ่ายบัญชีเข้าใหม่ 2 คนเท่านั้น และไม่มีคนอื่นอีก
“แล้วคนอื่นล่ะ?”
“พี่หลิวออกไปธนาคารเพื่อจัดการกับบัญชีของบริษัทในเดือนที่แล้วค่ะ ส่วนลิ่วหมิงเยว่กับโจ้วหลานกำลังออกไปติดต่อกับผู้สื่อข่าวเพื่อเตรียมแถลงการณ์เรื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัด ผู้จัดการลู่ก็ออกไปติดต่อเรื่องวัตถุดิบ ผู้จัดการเว่ยก็ออกไปดูแลการก่อสร้างที่ไซต์ก่อสร้างค่ะ”
อู๋ฮ่าวเหรินผงกหัวก่อนจะเดินออกไปข้างนอก ในเมื่อไม่มีใครอยู่ในบริษัท อีกทั้งเขายังต้องจัดการเกี่ยวกับเครื่องจักรการผลิต
ที่โรงงาน ตั้งแต่ที่ทุกคนรู้ว่าเครื่องจักรที่อยู่ข้างในที่ใช้ผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัด การคุ้มกันที่นี่ก็เข้มงวดขึ้น
มีสุนัขล่าเนื้อสามตัวถูกล่ามไว้ที่สนาม อู๋ฮ่าวเหรินไม่รู้หรอกว่าพวกเขาไปเอามันมาจากไหน แต่ถ้ามีใครบุกรุกเข้ามา ได้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้นแน่
คุณลุงเจ้านายของพวกมันกำลังนั่งอยู่ที่หน้าประตู กำลังฮัมเพลงอยู่ และลุกขึ้นเดินไปเดินมาบ้างเป็นครั้งคราว และมองดูอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัดที่อยู่ที่ข้อมือของเขาแล้วก็ยิ้ม
“เยี่ยม”
“ไงคุณลุง, ผมขอเข้าไปข้างในหน่อย วันนี้ไม่มีอะไรทำเท่าไร ทุกคนก็ไม่อยู่ด้วย”
“เสี่ยวอู๋มาแล้วเหรอ เข้ามาเลย ฉันกำลังออกกำลังกายอยู่ มันรู้สึกเยี่ยมไปเลย”
“ถ้างั้นขอผมเข้าไปดูข้างในหน่อยนะครับ”
ข้างในโรงงาน หุ่นยนต์กำลังสร้างอุปกรณ์ชิ้นใหม่อยู่ อุปกรณ์นี้ไม่ใช่เครื่องจักรที่ใช้ผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพ แต่เป็นเครื่องจักรกลโรงงาน
เครื่องจักรกลนี้ไม่สามารถพบได้ในอนาคต มันเป็นอุปกรณ์ที่สร้างโดยใช้เทคโนโลยีในโลกยุคปัจจุบันผสมผสานกับเทคโนโลยียุคอนาคตบางอย่าง
มีชิ้นสุดอุปกรณ์มากมายกองพะเนินอยู่เต็มไปหมด ซึ่งทำให้อู๋ฮ่าวเหรินพูดอะไรไม่ออก เพราะเจ้าสิ่งนี้ต้องให้เขาประกอบมันขึ้นมาทีละชิ้นทีละชิ้น
“นี่มันเยอะเกินไปแล้ว”
“ก็เป็นไปตามที่คุณต้องการ ถ้าคุณต้องการที่จะไม่ใช้เทคโนโลยีจากอนาคต จึงต้องทำให้เป็นไปตามต้องการได้ด้วยวิธีนี้เท่านั้น”
อู๋ฮ่าวเหรินไม่สามารถพูดอะไรต่อได้อีก เพราะนี่เป็นสิ่งเขาขอไว้แต่แรก เพื่อไม่ให้เรื่องถูกเปิดเผยออกไป เขาจะต้องการไม่ให้จี้ใช้เทคโนโลยีล้ำยุคมากเกินไป
มันจะดีกว่า ที่จะระวังในเรื่องนี้ เพราะหลังจากที่ประดิษฐ์เจ้าเครื่องจักรสุดแม่นยำนี่แล้ว มันจะต้องดึงดูดความสนใจจากทางรัฐอีกแน่
แน่นอนว่า อู๋ไม่ได้สนใจเรื่องที่ประเทศนี้จะศึกษาเทคโนโลยีเหล่านี้นักหรอก ตราบใดก็ตามที่พวกเขาให้เงิน
เมื่อเครื่องบินของกองทัพบินมาถึงเมื่องหลีฉุย ผู้ว่าการมณฑลเองก็ไม่ได้รู้เรื่องมาก่อน เมื่อเขารับทราบข่าว เขาก็รีบมาที่สนามบินทันที
ในหมู่คนที่มานั้น นอกจากจื่อหยงและหลี่หยุนเหอแล้ว ยังมีผอ.กรมสรรพาวุธ รวมถึงผู้อาวุโสคนนั้น
เมื่อมองดูสถานการณ์ที่ราวกับสงครามครั้งใหญ่แล้ว ผู้ว่าการมณฑลก็คิดว่าเกิดอะไรขึ้นที่หลีฉุยกันแน่
เมื่อรู้ว่าเขานั้นจะต้องทำอะไรบางอย่างกับกลุ่มคนพวกนี้ในอนาคตแล้ว เขาก็พูดอะไรไม่ออกและตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน
ผู้คนที่ยกขโยงกันมาที่นี่คราวนี้มีมากกว่าคราวที่แล้วอีก ซึ่งเดาได้ว่าพวกฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นจะต้องทำอะไรที่มันเกินธรรมดาขึ้นมาอีกแล้วแน่ๆ
แต่เนื่องจากคราวนี้คนที่มาทั้งหมดล้วนเป็นบุคลากรทางการทหาร ฟานเจี๋ยหมิงจึงเริ่มรู้สึกเป็นกังวล ถ้ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับคนที่เกี่ยวข้องทางการทหารแล้ว เขาจะได้เจอปัญหาใหญ่ตามมาแน่ๆ
เดิมที เขาคิดจะไปถามเรื่องราวจากจื่อหยง แต่แย่หน่อยที่ดูเหมือนว่าจื่อหยงจะไม่มีเวลามาคุยกับเขานี่สิ
หลังจากที่จื่อหยงลงมาจากเครื่องบินกัน เขาก็โทรไปหาอู๋ฮ่าวเหริน เพราะเขาไม่รู้ว่าตอนนี้ฮ่าวเหรินอยู่ที่ไหน จะได้ไม่เสียเวลาตามหา
“สวัสดี, น้องอู๋ ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน?”
หลังจากรับโทรศัพท์จากจื่อหยง ซึ่งตอนนี้อู๋ฮ่าวเหินกำลังติดปัญหาที่การติดตั้งอุปกรณ์ในโรงงานอยู่นั้น เขาเริ่มคิดแล้วว่าหลังจากเสร็จเรื่องนี้ เขาควรจะหาใครมาช่วยเขาทำงาน ไม่เช่นนั้นแล้ว ถ้ามีอุปกรณ์ใหม่ในอนาคตอีก เขาก็จะต้องประกอบมันด้วยตัวเองอีก
แน่นอนว่า, สิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดคือการประดิษฐ์หุ่นยนต์ไฮเทคมาช่วยเขาทำงานแบบนี้
“อยู่ส่วนของโรงงานครับ โทรมาเวลานี้ มีเรื่องอะไรเหรอครับ?”
“โรงงาน, หมายถึงโรงงานชั่วคราวใช่มั๊ย? OK เดี๋ยวฉันจะพาใครบางคนไปที่นั่น”
มองดูโทรศัพท์ที่เพิ่งวางหูไป อู๋ฮ่าวเหรินก็รู้สึกสับสน คนๆนี้เขาหมายความว่าไง? จะพาใครมาที่นี่ มีใครต้องการมาที่นี่อีกเหรอ?
“ผมเพิ่งถามเขาไปครับ ตอนนี้เขาอยู่ในโรงงาน พวกเราจะไปที่บริษัทของเขาก่อนเลยไหมครับ?”
“ที่โรงงานสินะ, ดีเลย เราจะได้เห็นเครื่องจักรการผลิตของเขาด้วย”
กลุ่มฝูงคนมุ่งหน้าไปยังโรงงาน เหมือนกับว่าพวกเขาต้องการจะไปรับตัวอู๋ฮ่าวเหรินแบบไม่ทันตั้งตัว
แต่ก็ผิดหวัง ถึงความคิดพวกเขาจะดี แต่ก็ต้องเจอคุณลุงห้ามไว้จากด้านนอก
ซึ่งไม่ว่าใครจะพูดยังไง เขาก็ไม่อนุญาตให้ใครเข้าไป เขาต้องไปแจ้งอู๋ฮ่าวเหรินก่อน ให้ฮ่าวเหรินอนุญาตก่อนถึงเข้าไปได้
ผอ.กรมสรรพาวุธและผู้อาวุโส กำลังมองดูการยืนกรานของทหารผ่านศึกในช่วงยุคปฏิวัติ พวกเขามองด้วยสีหน้าจริงจังและตื่นเต้น
“พี่ชาย เอาตามที่คุณว่าก็ได้ เข้าไปและบอกว่าพวกเราขอเข้าไปพบหน่อย พวกเราจะรอคุณอยู่ที่นี่แหละ นี่คือบัตรประจำตัวฉัน มันมีข้อมูลของฉันอยู่ในนั้น”
“ทำไมผอ.กรมสรรพาวุธ ผู้รับผิดชอบด้านส่งกำลังบำรุงทางทหาร ถึงมาหาเสี่ยวอู๋ได้เนี่ย งั้นรอเดี๋ยว ผมจะเข้าไปเรียกเสี่ยวอู๋มาให้”
ผู้อาวุโสและผอ.กรมสรรพาวุธต่างหัวเราะพร้อมกัน เพราะในยุคนั้น ผอ.กรมสรรพาวุธ ไม่ได้ดูแลเรื่องส่งกำลังบำรุงทางทหาร
เมื่อรู้ว่ามีใครบางคนมาหาเขารออยู่ข้างนอก และเป็นคนจากกองทัพ อู๋ฮ่าวเหรินก็เข้าใจแล้วว่าที่จื่อหยงโทรหมายความว่าอย่างไร
ดูเหมือนว่า ใบสั่งซื้ออุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัดล็อตแรกได้มาถึงแล้ว
“ท่านผู้ว่าฟานก็มาด้วยรึ แล้ว 3 คนนี้คือ?”
ผอ.กรมสรรพาวุธได้ขัดการแนะนำของจื่อหยงและพูดแนะนำตัวเอง “ฉันมาจากกองส่งกำลังบำรุงทางทหาร ส่วนท่านนี้คือผู้เชี่ยวชาญด้านยุทโธปกรณ์ และท่านนี้คือผู้การหลี่หยุ่นเหอผู้ที่นำอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัดของคุณไปทดลอง”
ผู้ว่าฟานงุงงง เขาไม่รู้ว่าทำไมผู้อำนวยการถึงแนะนำตัวแบบนั้น แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะขัด
จื่อหยงก็ไม่ได้พูดอะไร และผู้อำนวยการก็คิดถึงการหวังจะได้เปรียบอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาคงคำนวนพลาดแน่นอน
“พวกคุณมาที่นี่เพราะเรื่องไฟฟ้าชีวภาพบำบัดสินะครับ?”
“ใช่ พวกเราต้องการเห็นเครื่องจักรและมีเรื่องจะถามหน่อยน่ะ”
ผู้ว่าฟานเริ่มสงสัย เขาไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับไฟฟ้าชีวภาพบำบัด แต่ถึงกับทำให้คนใหญ่ในกองทัพมาหา เจ้าผลิตภัณฑ์ที่ว่าต้องไม่ธรรมดาแน่
“เครื่องจักรอยู่ข้างในครับ ผมจะโชว์ให้พวกคุณดูเอง ถ้าคุณมีคำถามอะไร ก็ถามผมมาได้เลยครับ”
พวกเขาไม่คิดว่าจะได้เห็นเครื่องจักรง่ายขนาดนี้ ไม่ใช่ว่าเรื่องแบบนี้จะต้องหวงห้ามเพื่อป้องกันคนอื่นขโมยไปหรอกเหรอ?
พร้อมกับความสงสัย พวกเขาเดินตามอู๋ฮ่าวเหรินเข้าไปข้างในเพื่อดูเครื่องจักรเวทมนตร์ที่ผลิตเจ้าเครื่องนี้ขึ้นมา
เครื่องจักรเหล่านี้ คือเครื่องจักรที่ทำอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพครับ” อู๋ฮ่าวเหรินชี้ไปที่เครื่องจักร
หลายคนมองดูที่เครื่องจักร ยกเว้นจื่อหยงและผอ.กรมสรรพาวุธที่พอจะเข้าใจบางสิ่งแล้ว ส่วนคนอื่นยังไม่เข้าใจอะไร
“เจ้าอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัด ถูกสร้างขึ้นมาด้วยเครื่องจักรนี้งั้นเหรอ?”
“ใช่ครับ”
“พวกเราขอดูการผลิตสักเครื่องได้มั๊ย?”
“ไม่ได้ครับ วัตถุดิบถูกใช้ไปหมดแล้ว และผมเองก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ซื้อวัตถุดิบเพิ่มด้วย ดังนั้นตอนนี้จึงไม่มีวัตถุดิบครับ”
ผู้อาวุโสมองไปที่จื่อหยง ทำไมทางรัฐถึงขวางการซื้อวัตถุดิบได้? นี่มันไม่ไร้เหตุผลไปหน่อยเหรอ
จื่อหยงอธิบายด้วยเสียงอ่อยๆ เขารู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้าเขาไม่รีบยอมรับผิด จะมีอีกหลายคนโชคร้าย
“รีบกลับไปเดินเรื่องเดี๋ยวนี้ จะไม่มีข้อจำกัดทางด้านการจัดหาจากทางรัฐ มันอันตรายเกินไปที่จะปล่อยให้โรงงานแบบนี้ไปสร้างที่ต่างประเทศ
ผอ.กรมสรรพาวุธพยักหน้า ถ้าบริษัทนี้หนีไปตั้งที่ต่างประเทศเพราะปัญหาด้านวัตถุดิบ มันจะกลายเป็นการสูญเสียของประเทศ
อู๋ฮ่าวเหรินเริ่มสงสัยเล็กน้อยตอนนี้ และรู้สึกว่าตัวตนของสองคนนี้จะต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ
——————