อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》 – ตอนที่ 6

ตอนที 6 อุปกรณ์พื้นฐาน

ฮิคารุถามจิลมากมายหลายเรื่องนั่นรวมถึงโรงแรมสำหรับนักผจญภัยด้วย เขาโชว์กิลด์การ์ดให้พักงานที่ดูหยาบกระด้าง

“คืนละร้อยกิลลัน” เขาพูดห้วนๆ

ฮิคารุยื่นเหรียญเงินไปให้และขึ้นไปที่ชั้นสองเพื่อไปที่ห้องของเขา ห้องค่อนข้าวกว้างปูพื้นด้วยไม้และปูทับด้วยเสื่อ วันนี้เขาคงจะต้องนอนกับพื้นไปก่อน มีนักผจญภัยคนอื่นอยู่เหมือนกัน มีทั้งคนหนุ่มสาวและพวกน่าสงสัย 

ไม่มีเสียงของบทสนธนาใดๆ ด้วยสกิล ลอบเร้น ทีเปิดอยู่ ไม่มีใครรู้ว่าเขาเข้ามาแล้ว เขาไม่สนที่จะคุยกับคนอื่นในวัยเดียวกัน ยิ่งพวกน่าสงสัยยิ่งแล้วใหญ่ ด้วยท้องที่อิ่มหนำสำราญ เขาก็หลับไป

เหลือเงินอีก 19,890 กิลลัน

เขาตื่นขึ้นมาที่มุมห้อง อาจจะด้วยท้องที่กินอิ่มไปเมื่อวาน ทำให้ร่างกายเขารู้สึกตึงๆ ระบมไปหมด ในตอนนั้นเอง ท้องเขาก็รู้สึกหิวขึ้นมา

เขาลงไปข้างล่าง ถึงเขาจะปิดสกิลไปแล้วแต่พนักงานก็ไม่แม้แต่จะสนใจเขาอยู่ดี 

ฮ่า…รักที่นี่จัง

เขาอยากกินอะไรที่มากกว่าผัดเมื่อคืน แต่ว่าชายจากร้านเมื่อวานก็ยังไม่มา

นี่คงจะเช้าเกินไปมั้ง

ร้านแผงลอยมากมายเปิดอยู่ตอนนี้ มีทั้งผลไม้ แซนด์วิช ขนมปัง ก๋วยเตี๋ยว และ น้ำผลไม้

“โอ้ ที่นี่ก็มีงั้นเหรอ”

สิ่งที่ดึงความสนใจของฮิคารุไปก็คือฮอทดอก ไส้กรอกที่ถูกประกบด้วยขนมปัง เขาซื้อมาอันหนึ่ง 

“เอ้านี่ ไอ้หนูทั้งหมด 30 กิลลัน”

ชายกล้าบึ๊กอายุประมาณยี่สิบปลายๆ ที่ควรจะไปเป็นนักผจญภัยมากกว่าที่จะมาเป็นคนขายฮอทดอกอย่างนี้

เขากัดเข้าไปคำนึง เจ้าของร้านก็ยืนมองตอนเขากินแล้วทำหน้าแบบว่า “ไงล่ะ อร่อยใช่มั้ย ใช่มั้ยล่ะ?”

ฮิคารุเงียบไปพักหนึ่ง ท่าทางเปลี่ยนไป ไร้ซึ่งการแสดงออกใดๆ หรือก็คือ

“..นี่มัน”

ไส้กรอกนุ่ม ขนมปังก็เหนียว แต่ก็ไม่ได้แย่อะไร ปัญหาคือซอส ทำไมถึงหวานและมีกลิ่นเหมือนหญ้าล่ะ ใครเป็นคนทำกันนะ

“นี่ต้องเป็นซอสฮอทดอกแน่ๆ…” ฮิคารุพึมพำแล้วเดินออกไป

เจ้าของร้านตะลึง และยืนมองเขาเดินออกไป คิดว่าจะต้องตะโกนว่า “อร่อย!!” เหมือนเด็กๆซะอีก

“อะไรของเด็กนั่นนะ เหมือนพูดอะไรอย่าง ซ…อส? หรือว่าจะหมายถึงซอสนี่”

เจ้าของร้านก็ได้เข้าบ่นพึมพำกับตัวเอง

ฮิคารุเดินสำรวจทั่วเมืองพร้อมกับวาดแผนที่ในหัวไปด้วย เพราะอาจจะต้องอยู่ที่นี่อีกนาน  เขาเดินผ่านกิลด์และเห็นว่ายังไม่ค่อยมีคนมากนักในตอนเช้าแบบนี้

“เธอเป็นอะไรน่ะ”

จิลนั้นอยู่หลังเคาท์เตอร์ หัวฟุบอยู่บนโต๊ะ

“หลับอยู่งั้นหรอ….ช่างเถอะ”

การไปหาซื้อเครื่องสวมใส่เป็นสิ่งแรกในลิสของวันนี้ ค่อยมาเชคคำร้องทีหลังละกัน

แล้วจิลก็ยกหัวขึ้นแบบฉับแบบพลัน

“ฮิคารุคุง?! มาแล้วเหรอ”

“ห๊ะ!!!”

เราเหรอ!?

“คืออ มีบางอย่างจะบอกน่ะ ฉัน…..”

จิลดูลังเล แล้วเขาก็ได้กลิ่นปัญหาตามมาด้วย

 “อะ …อรุนสวัสดิ์” ว่าแล้วก็หันหลังเตรียมโกย

แต่นั่นเป็นการตัดสินใจที่ผิดถนัด

“…เหะๆ นั่นสินะ อรุนสวัสดิ์จ๊ะ ฮิคารุคุง”

และส่งยิ้มมาให้

ไม่ดีแล้ว ชิบเป๋ง ก็ไม่ได้อะไรกัยเธอนักหรอกนะ แต่ว่าเธอก็ยังสวยอยู่ดี ยิ้มจากคนแบบนี้ยังไงก็รุนแรงอยู่ดีอ้ะ

คนในกิลด์ก็เริ่มตกตะลึง

“เห้ย ตะกี้ จิลจัง…”

“เธอยิ้มว่ะ! ใช่มั้ย ใช่มั้ย!!!!”

“ไอ้เด็กนั่นมันเป็นใครว้า”

จิลดูท่าว่าจะใจเย็นลงและพูดขึ้น

“ขอบคุณที่กลับมานะ นึกว่าจะไม่กลับมาแล้วซะอีก”

“ทำไมล่ะ”

“ก็เมื่อวาน ฉัน….”

“ก็ใช่นะ”

ถ้ากังวลขนาดนั้นก็อย่าทำตั้งแต่แรกเซ่

“เอ่อ ไม่ว่าพนักงานต้อนรับจะทำยังไงกับผม ยังไงผมก็ต้องกลับมาที่นี่เพื่อทำธุระกับกิลอยู่ดีล่ะ”

“ฮิคารุคุง พนันเลยว่าต้องมีคนเรียกเธอว่าพวกหยิ่งมาบ้างสินะ”

ฮิคารุยักไหล่

“จะรับคำร้องมั้ย”

“ไม่ล่ะ ผลมต้องไปเตรียมอุปกรณ์ก่อนน่ะ อ๊ะ อยากถามพอดีเลย”

“อะไรเหรอ”

“ทำไมถึงเปลี่ยนท่าทีกับผมไวขนาดนั้นล่ะ”

จิลเงียบไปพักหนึ่ง เพราะไม่คิดว่าจะเจอคำถามนี้

“ทำ- ทำไมถึงอยากรู้ล่ะ”

“อยากรู้ว่าทำไมคุณถึงขอโทษน่ะ”

“ก็…คือแบบ ฉันไม่ควรจะเอาความหงุดหงิดของฉันไปลงที่นายแค่เพราะว่างานยุ่งและลำบากน่ะ”

ช่าย ยังไงก็ไม่ควรทำแบบนั้ยล่ะนะ ฮิคารุคิดแต่ก็ไม่พูดออกไป

“โอเค”

“แล้วก็ การกระทำของนายน่ะดูจริงใจ นายน่ะพูดตรงๆออกมาจากใจ”

ฮิคารุไม่ทันตั้งตัวกับคำพูดของจิล แล้วเธอก็พูดต่อ

“ผู้ชายคนอื่นน่ะ เข้าหาฉันเพราะอยากได้ฉันกันทั้งนั้น กับผู้หญิงน่ะแย่ยิ่งกว่าอีก และฉันก็สามารถรับรู้อารมณ์พวกนั้นได้ด้วย แบบว่า “เลิกอ่อยผู้ชายได้แล้ว” ไม่ก็ “อย่าคิดว่าแค่น่ารักก็ชนะนะยะ””

“…”

อะไรน่ะ น่ากลัวเป็นบ้า

“แต่เธอไม่เหมือนคนอื่น ใช่มั้ยล่ะ เธอน่ะซื่อสัตย์ ไม่โกหก ดูเหมือนว่าเธอจะตัดสินใจเลือกเควสอย่างระมัดระวัง เธออาจจะโชคดีด้วยก็ได้ แต่เธอก็ยังสามารถรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับการทำภารกิจไปด้วย ฉันไม่เคยเจอใครแบบเธอเลยนะ”

“ชมกันเกินไปแล้วนะครับ”

ตรงนี้มีคลาสที่น่าสงสัยอยู่นะครับถ้าลองดูที่กิลด์การ์ดน่ะ บางทีอาจถูกฆ่าก็ได้ในอนาคต ไอ้สกิลอย่าง ลอบเร้น กับ ลอบสังหารน่ะมันสำหรับงานน่าสงสัยทั้งนั้นอ้ะ

“ฉันคิดว่าฉันมีสายตามองคนที่ดีอยู่นา ถึงจะพูดเองก็เถอะ”

“ง้านเหรอ ถ้าอย่างนั้นตอนเจอกันครังแรกก็ทำตัวให้ดีกว่านี้หน่อยสิ”

“ก็บอกแล้วไงว่าขอโทษน่ะ เดี๋ยวนะ ขอพักหน่อย”

ฮิคารุได้แต่ยิ้มกว้างให้กับท่าทีของจิล

“ยังไงก็เถอะ คุณดูเหนื่อยๆนะ”

“ใช่สิ”

เมฆดำทะมึนเริ่มก่อตัวรอบๆเธอ

“…..ที่นี่น่ะมีพนักงานต้อนรับสี่คน”

“สี่เหรอ? แล้วอีกสามคนที่เหลือล่ะ”

“คนนึงไปทำงานกับผู้ช่วยกิลด์มาสเตอร์ที่เมืองหลวง อีกคนลากลับบ้านประจำปี ส่วนอีกคนเพิ่งป่วยไปเมื่อวานน่ะ”

“เข้าใจล่ะ มิน่าถึงดูเหนื่อยๆ”
ฮิคารุรู้สึกสงสารเธอจับใจ

“เธอก็ด้วย เธอน่ะเป็นคนธรรมดาเหมือนกันนะ อย่าฝืนตัวเองมากนักล่ะ วันนี้ฉันจะหมดกะตอนเที่ยง เดี๋ยววันพรุ่งนี้จะหางานดีๆไว้ให้นะ”

“โอเค….”

“อย่าทำแบบนั้นน่า มืออาชีพอย่างฉันน่ะ ต้องมี “กับดัก” คำร้องเพื่อคัดพวกหน้าใหม่บ้างแหละน่า”

“แบบเควสเมื่อวานน่ะเหรอ”

“……”

จิลจ้องมาที่ฮิคารุด้วยน้ำตารื้นบนใบหน้า เธอต้องรู้สึกแย่มากแน่ๆ

“เอ่อออ…ขอโทษครับ”

 

 

 

“ยังไงก็เถอะ อยากรู้อะไรเกี่ยวกับกิลด์อีกมั้ย”

“ไม่ล่ะ ไม่เป็นไร” ฮิคารุว่า และคิดอะไรขึ้นมาได้

“จริงสิ มีอย่างนึงน่ะ แต่ไม่เกี่ยวกับกิลด์นะ”

“อะไรเหรอ”

“เหมือนจะได้ยินว่ามีคนสำคัญถูกฆ่าน่ะ เหมือนจะเป็นข่าวใหญ่เลยนะ”

“!!”

ความตกใจปรากฏขึ้นบนหน้าเธอ

“…ฮิคารุคุง นั้นน่ะมันข่าวลับสุดยอดของสุดยอดเลยนะ มีแค่ไม่กี่คนที่รู้ เธอไปด้ยินมาจากไหนห๊ะ”

แย่ล่ะ เหมือนข่าวการตายของเคาท์จะยังไม่ถูกแพร่กระจายเท่าที่คิดแฮะ 

“ได้ยินมาตอนเดินหิวๆอยู่ในเมืองน่ะ ความทรงจำตอนนั้นก็เลือนรางจากความหิวด้วยน่ะ ถ้ามันเป็นข่าวลับจริงๆล่ะก็ ทำไมพนักงานต้อนรับของกิลด์ถึงรู้ได้ล่ะ นักผจญภัยมีอะไรเกี่ยวข้องด้วยเหรอ”

“ไม่น่าจะใช่นักผจญภัยแน่ๆ”

โอ้ เธอค่อนข้างมั่นใจ

“พวกเขาเข้ามาสืบสวนที่กิลด์น่ะ ถามว่ามีนักฆ่าที่เก่งๆบ้างมั้ย ฉันก็รู้แค่ในส่วนที่ฉันช่วยล่ะนะ แต่เดี๋ยวนะ ทำไมฉันถึงต้องบอกนายด้วยล่ะ”

“คุณเริ่มจ้อเองนา”

เหมือนว่าจะไม่ได้สงสัยเรานะ

ฮิคารุรู้สึกโล่งอก แต่ไม่ได้แสดงออกมา

“โอเค ขอบคุณนะ”

“อย่าแกว่งเท้าหาเสี้ยนล่ะ นั่นเป็นกฎเหล็กของนักผจญภัย เข้าใจมั้ย”

“คร้าบ คร้าบ”

“แค่ ครับ ก็พอแล้ว”

“บัย”

“เดี๋ยวสิ”

ฮิคารุโบกมือลาแล้วออกจากกิลด์ไป

อย่าแกว่งเท้าหาเสี้ยนเหรอ ฮึ เสี้ยนปักเท้าอยู่เต็มๆเลยต่างหาก เขาไม่ได้บอกเธอไปอยู่แล้ว

 

หลังออกจากกิลด์ ฮิคารุก็ซื้อของใช้ทั่วไป ชั้นในสำรอง สบู่ ผ้าเช็ดตัว แปรงสีฟัน เป็นต้น ซึ่งใช้เงินไปราวๆ 500 กิลลัน

“อ่า เกราะ… โอ๊ะ ตรงนี้เอง”

เขาอยากเปลี่ยนชุดจะแย่อยู่แล้ว ก็เลยตัดสินใจมาซื้อเกราะก่อน จิลบอกสถานที่ให้เขาเมื่อวานนี้

ร้านตีเกราะ โดโดโรโน่ ซึ่งเจ้าของก็ชื่อโดโดโรโน่นั่นเอง  ที่โลกนี้การตั้งชื่อร้านด้วยตัวเองถือว่าเรื่องปกติ

“ว้าววววว”

ฮิคารุอึ้งไปชั่วขณะ แล้วจึงเดินเข้าไป ชุดบนหุ่นโชว์นั้นมีมากมายตั้งแต่ชุดธรรมดา มียันชุดแนวโกธิคโลลิต้า มั่นใจได้เลยว่าเจ้าของร้าน ต้องเป็นคนที่ซับซ้อนมากแน่ๆ

“ยินดีต้อนรับ!!”

เสียงทุ้มหนา ดังออกมาจากข้างใน

“ข้าขอขอบคุณที่เข้ามาในร้านนี้นะ”

คนแคระหนวดยาวถักเปีย อยู่ตรงนั้น

“……”

ฮิคารุยืนนิ่ง 

คนแคระ!! ตัวจริงเสียงจริง ช่างตีเหล็กชั้นเซียน กระดกเหล้าเป็นถังๆแล้วร้องเพลงเสียงดัง แล้วทำไม ถึงมาเปิดร้านเสื้อล่ะ

“ข้ารู้นะว่าเข้าคิดอะไรอยู่ [ทำไมคนแคระถึงได้…]”

“อ๊ะ ปะ เปล่านะครับ”

“พูดมาตรงเลยเซ่!”

เขากระทืบเท้าและยิ้มออกมา

“ทำไมคนแคระถึงได้ดูดีมีแฟชั่นขนาดนี้ โอ้วววว เจ้า เด็กหนุ่มผู้ซื่อสัตย์นี่นา ข้าชอบนะ คนซื่อสัตย์น่ะ!”

เป็นคนคิดบวกอะไรแบบนี้เนี่ย ฮิคารุบอกงบให้เจ้าของร้านและเจ้าของร้านก็จัดแจงชุดให้

“โอ้ววว ดูดีใช้ได้นี่”

“…ครับ”

“กุฮ้าฮ่าฮ่า! เซนส์ด้านแฟชั่นของข้าที่มันเจ๋งจริงๆ”

“ยังไงก็เถอะ ขอบคุณมากครับ”

“ไอ้ ยังไงก็เถอะเนี่ย อะไรหา!?”

หลังจากจ่ายเงิน ฮิคารุก็ออกมาจากร้าน ความคิดแรกคือ ถึงจะบอกว่าเป็นชุดเกราะก็เถอะ แต่นี่มันเหมือนชุดแฟนซีมากกว่านะเนี่ย 

แต่วัสดุนั้นมาจากมอนส์เตอร์ มันย่อมทนทานกว่าเกราะเหล็กแน่นอน

จากคำแนะนำของโดโดโรโน่ ก็ซื้อมาตามนี้

ชุดหมาป่าราตรี สร้างจากหนังของ ไนท์วูล์ฟ ทนทานและเบา แล้วยังช่วยปกปิดกลิ่นอายของผู้ใส่ได้ด้วยแต่ค่อนข้าจะอบอ้าวเวลาอยู่กลางแดด

รองเท้าหมาป่าราตรี เหมือนก่อนหน้า เชือกรองเท้าเป็นสีเงิน สัญลักษณ์แห่งแฟชั่นเซนส์ของโดโดโรโน่ 

ผ้าคลุม ใช้เพื่อสะตอนแสงอาทิตย์ที่ส่องมา พร้อมฮู้ด

รวมค่าจัดการเรื่องขนาดแล้ว ค่าเสียหาย 9,500 กิลลัน จากที่โดโดโรโน่บอกชุดพวกนี้นั้นไม่ธรรมดา

แม้แต่มืออาชีพอย่างเขา ก็ยังหลีกหนีความอคติไม่พ้นเพราะรูปร่างภายนอกของเขา ทุกคนเอาแต่คิดว่าคนแคระต้องเป็นช่างตีเหล็ก เพราะแบบนั้น ร้านนี้ก็เลยไม่รุ่งเท่าไร

ด้วยสาเหตุนี้ เขาจึงซื้อวัตถุดิบราคาถูกและทำชุดราคาถูกสำหรับนักผจญภัยหน้าใหม่ แต่ถึงอย่างนั้น พวกนักผจญภัยก็ยังอยากทำธุรกิจกับมนุษย์จริงๆที่ไม่ใช่คนแคระอยู่ดี เพราะอย่างนั้น ถึงจะมีเงินพอแล้ว พวกเขาก็ยังไปซื้อร้านอื่นอยู่ดี

“เจ้าเด็กพวกนั้นต้องโตขึ้นอยู่แล้วสิ”

เสียงของเขานั้นดูสดใสแต่ก็เจือไปด้วยความโดดเดี่ยวเช่นกัน

ฮิคารุพับชุดของโรแลนด์เก็บไว้ในกระเป๋า แค่นี้ก็ไม่มีร่องรอยของโรแลนด์เหลืออีกแล้ว อาจจะดูสิ้นเปลืองแต่ว่าถ้าเทียบกับการถูกจับได้นั้น แบบนี้คุ้มกว่า เขาหาที่เผาขยะแล้วเผาชุดทิ้ง อาจจะมีชาวบ้านอยู่แถวนั้นแต่ด้วย ลอบเร้น ไม่มีใครรับรู้ถึงตัวตนของเขาเลยแม้แต่คนเดียว เท่านี้ สิ่งที่เหลืออยู่ก็มีแค่ร่างของโรแลนด์เท่านั้น

จุดหมายต่อไปคือ ร้านอาวุธ หัวใจสำคัญของการป้องกันตัวเอง นักผจญภัยย่อมต้องมีอาวุธอยู่แล้ว ฮิคารุมาที่ร้านที่ชื่อว่า 

ร้านอาวุธ เลนิวู้ด 

“โอ้”

ฮิคารุเดินเข้าไปที่ร้าน ดาบมากมายถูกห้อยอยู่ที่กำแพง เกราะเหล็กก็วางอยู่ที่จุดๆหนึ่ง ดาบไม้แบบเดียวกับที่ขายในโตเกียวก็วางขายอยู่ที่มุมหนึ่งเช่นกัน

“ยินดีต้อนรับ! ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลยนะ”

เจ้าของร้านที่พุ่งออกมาจากด้านใน ทำให้ฮิคารุนิ่งไปอีกครั้ง

“การติเหล็กน่ะ มันคือศิลปะ และศิลปะ ก็คือพลัง!”เขาว่า และม้วนแขนเสื้อขึ้น

เขาดูบอบบาง อันที่จริงคือ เขาเป็นเอลฟ์ หูแหลม ผมบลอนด์ และตาสีเขียว

“ข้าไม่ดูถูกลูกค้าอายุน้อยหรอก! คิดยังไงกับเคลย์มอร์นี่ล่ะ เจ๋งไปเลยใช่มั้ยล่า มีเวทย์ที่ช่วยเพิ่มความสามารถด้วยนา”

สุดยอด! ฮิคารุศึกษาเคลย์มอร์ที่อยู่บนกำแพง มันเป็นดาบสองมือที่ยาวประมาณหนึ่งเมตร เขาน่าจะใช้ไม่ได้ แต่ดูท่าว่าน่าจะคมน่าดูเพราะมีเวทบรรจุอยู่ด้วย

“นี่ช่วยเสริมเวทย์สปิริตน่ะ”

“…..”

ฮิคารุเกือบโวยวายออกไปว่า อะไรนะ! ไม่ใช่ว่าดาบเป็นการโจมตีทางกายภาพเรอะ!

“ต่อไป ก็นี่ ธนูยาวเหล็กกล้า นี่ก็มีบัพเหมือนกันนา” เอลฟ์ว่าพร้อมยืดอก

“จะมีลมเย็นๆออกมาหลังจากที่ยิงศรออกไปน่ะ”

“….”

ไร้ประโยชน์สุดๆ!

“หน้านายเหมือนอยากจะพูดว่า “เพื่อ?” สินะ”

ไม่อ่ะ คิดว่าเปล่าประโยชน์สุดๆต่างหาก แต่ก็ไม่กล้าพูดออกไป

“ก็แบบ หลังจากยิงออกไปแล้ว ก็จะแบบว่า “เชี่ยม อย่างเย็น” ไง”

เห็นมะ ไร้ประโยชน์สุดๆ ไอ้เราก็นึกว่าจะมีอะไรพิเศษกับลูกธนูซะอีก

“เธอ…ชุดนั่นน่ะ ซื้อมาจากโดโดโรโน่สินะ”

“อ่า.. ใช่ครับ”

อยู่ดีๆท่าทีของเขาก็เปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้น

“เข้าใจล่ะ เธอมาที่นี่เพราะได้รับคำแนนำจากกิลด์ จิลสินะ งั้นก็ต้องจัดเตรียมให้อย่างดีแล้วสิ ข้า เลนิวูด มาล เอโอร่า เธอล่ะ”

“ฮิคารุครับ”

“ฮิคารุสินะ!! ชั้นมีอะไรดีๆจะให้”

เหมือนกับโดโดโรโน่ เลนิวูดจัดแจงทุกอย่างห้ด้วยตัวเอง

ฮิคารุเลือกอาวุธที่เหมาะกับตัวเขา เขาต้องการอาวุธระยะใกล้ แล้วยังซื้ออาวุธอื่นๆด้วย สิริราคารวม 10,000 กิลลัน

เพราะแบบนั้น ตอนนี้เขาเลยเหลือเงินอยู่ 4,860 กิลลัน จากที่ได้มาเมื่อวาน 20,000 กิลลัน แต่ว่าตอนนี้ อุปกรณ์ของเขาครบเครื่องแล้ว

 

 

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》

Status: Ongoing
อ่านนิยาย อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》ฮิคารุ เด็หนุ่มผู้โชคร้ายที่ประสบอุบัติเหตุ แต่เขาได้รับโอกาสให้ไปเกิดใหม่ในต่างโลก โดยแลกกับการแก้แค้น ——————————– อันนี้เป็นงานสานต่อ ดังนั้นพวกชื่อต่างๆ อาจจะมีแตกต่างกับช่วงแรกไปบ้าง ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

Comment

Options

not work with dark mode
Reset