อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》 – ตอนที่ 51

ตอนที่ 51 วาระสุดท้ายของยักษ์

พื้นดินสั่นสะเทือนมาพร้อมกับเสียงที่กังวานไปทั่ว ยักษ์ที่ตอนนี้กำลังคลั่งพยายามจะปีนขึ้นมาจากด้านล่าง พยายามขุดดินเพื่อทำเป็นที่หยั่งเท้า ฮิคารุหยิบลูกแก้วมานาศักดิ์สิทธิ์ออกมาจากกระเป๋า

“โออออออออออออออออออออออออออออออออ!”

เกือบหูแตก

“สรุปมันตามไอ้นี่สินะ”

หัวใจหลักของเทคโนโลยีของราชวงศ์โพเอลซีเนียก็คือมานาศักดิ์สิทธ์ ฮิคารุเดาไว้ว่ามันน่าจะคล้ายกับไฟฟ้า หลังจากที่ได้เห็นปืนลูกโม่นี่แล้ว จะคิดว่ามีคนจากโลกเก่าพยายามสร้างของจากโลกเดิมในโลกนี้ก็ไม่แปลก

ถ้างั้นแล้วไอ้ลูกแก้วมานาศักดิ์สิทธิ์คืออะไรล่ะ

บางทีน่าจะเหมือนกับแบตเตอรรี่ที่เก็บไฟฟ้าในโลกเก่าก็ได้ ไม่สิน่าจะยิ่งกว่านั้นอีก เพราะว่าอุปกรณ์เล็กๆแค่นี้แต่ให้พลังงานได้ทั้งปราสาท

ห้องสมบัติมันสว่างมากก่อนที่ยักษ์เข้ามาไล่ทั้งคู่ และเมื่อออกมา ห้องทั้งห้องก็มืดไป ถ้าเกิดว่าพลังงานถูกตัดออกล่ะก็ น่าจะเป็นเพราะฮิคารุหยิบลูกแก้วออกมานั่นเอง 

และที่ยักษ์สามารถรู้ตำแหน่งของทั้งคู่ก่อนหน้านี้ อาจจะเป็นเพราะว่าตอนที่เปิดห้องเข้าไป มานาศักดิ์สืทธิ์ของลูกแก้วมันรั่วไหนออกมา ในห้องสมบัตติน่าจะมีกลไกบางอย่างที่คอยปกปิดพลังของมันก็ได้

ส่วนที่ใช้พลังของอำพรางไม่ได้ก็คงเป็นเพราะลูกแก้วนี่นั่นแหละ

“ลาเวีย ถอยไปก่อน”

“รับทราบ”

ลาเวียขยับบออกไปประมาณยี่สิบเมตร อยู่ในระยะห่างที่พอมองเห็นได้ ฮิคารุแกะห่อผ้าออก อนึ่ง ถึงจะเรียกว่า [ลูกแก้ว] แต่มันดันมีรูปทรงเป็นสี่เหลี่ยม

สิ่งที่เป็นแหล่งกำเนิดพลังงานเหรอ …… อย่าบอกนะว่าเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์

ฮิคารุโยนมันออกไป ยักษ์เริ่มมองตามมันไป

“ไม่ได้บอกซะหน่อยว่าจะคืนน่ะ”

ฮิคารุหยิบปืนขึ้นมาแล้วก็ลั่นไก

 

ที่รูทฮับบาร์ท กิลด์นักผจญภัยที่เคยคึกคัก กลับเงียบกว่าเดิม

“มีคนตั้งเยอะนี่ มีใครอยากจะคุ้มกันฉันลงไปที่ดันเจี้ยนมั้ย จะให้ค่าตอบแทนไม่อั้นเลย” กราฟาสตี้พูดพร้อมกับชูกระเป๋าเงิน

แต่ก็ไม่มีใครอาสา เพราะว่าได้ยินเรื่องจากพวกนักผจญภัยกลุ่มก่อนหน้าแล้ว

.”พวกเราไม่ยอมเอาชีวิตไปทิ้งเพื่อเงินหรอก….”

“มอนชนิดใหม่ที่แม้แต่แรงค์ C ก็ยังจับสัมผัสไม่ได้ ใครจะไปรู้ว่าต่อไปมันจะทำอะไรอีก”

“แล้วยิ่งบอกว่ามันหายไปแล้วทิ้งแผนที่เอาไว้อีก การรับมือมอนที่มีสติปัญญาน่ะมันยากมากเลยนา”

ทุกคนคิดว่าที่ขโมยเอกสารของกราฟาสตี้ไปเป็นฝีมือของมอนชนิดใหม่ ทำให้ไม่มีใครอยากไป

“ถ้าเงินไม่พอ ฉันเพา……”

“ท่านวาล์วคะ”

อัคไลอาที่อยู่ข้างหลังแตะไหล่ของกราฟาสตี้

“ออกไปข้างนอกกันเถอะค่ะ ฉันรู้สึกแปลกๆค่ะ”

กราฟาสตี้ที่เชื่อในลางสังหรณ์ของเธอ รีบออกมาจากกิลด์ทันที จากนั้นก็มองไปทางดันเจี้ยน

ณตอนนั้นยังไม่มืดมาก เขาเห็นว่ามีสายฟ้ารูปร่างคล้ายมังกรพุ่งไปสู่สวรรค์

“อะ…อะไรกัน…”

เหมือนจะมีบางสิ่งเกิดขึ้น

“ไปกันเถอะอัคไลอา”

“รับทราบค่ะ”

แล้วก็ไปที่ดันเจี้ยนกันแค่สองคน

 

“อึด…เวร…..นั่นมันอะไรน่ะ” ฮิคารุยืนขึ้นท่ามกลางฝุ่นที่คละคลุ้งไปทั่ว

“ฮิคารุ!”

“ลาเวีย ทางนี้ เธอไม่เป็นไรใช่มั้ย”

“แล้วนายล่ะ”

ลาเวียรีบวิ่งมาที่ฮิคารุทันที ฮิคารุรีบสำรวจร่างกายตัวเอง มันมีจุดที่เจ็บอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้มีกระดูกส่วนไหนที่หัก หลังจากนั้นไม่นาน ฝุ่นก็เริ่มจางลง

“……..”

“………”

ทั้งคู่อ้าปากค้างเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า คูน้ำถูกทำลายไปครึ่งหนึ่ง กำแพงชั้นนอกก็พังลงเช่นกัน

“…ว้าว”

ฮิคารุนึกถึงเรื่องก่อนหน้า ฮิคารุนั้นยิงกระสุนธาตุศักดิ์สิทธิ์ออกไป เพราะก่อนหน้านี้ดิ้ยิงกระสุนไปสี่ธาตุแล้ว (น้ำ ดิน ไฟ ลม) กระสุนมีอยู่หกนัด ฉะนัน้อีกสองนัดที่เหลืทอก็น่าจะเป็น ศักดิ์สิทธิ์ และ มีด

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นมันเกินคาดไปมาก เมื่อกระสุนกระทบกับลูกแก้ว(สี่เหลี่ยม) สื่งที่อยู่ข้างในได้ทะลักออกมาและวนรอบยักษ์ จากนั้นก็เรียบร้อย แรงค์ขึ้น แต่ช่างหัวเรื่องแรงค์ไปก่อน ฮิคารุรีบใส่เกียร์หมาวิ่งออกมาจากตรงนั้น และลาเวียก็วิ่งใส่เกียร์หมาตามมา

ระเบิดแสงสว่างจ้าออกมา ฮิคารุโดนพัดปลิวไป ณ ตอนนั้นเองเขาก็เห็นมังกรที่พุ่งไปสู่สวรรค์ 

…..เจ้าได้ทำลายผนึกแล้ว ทำได้ดีมาก มนุษย์จากต่างโลกเอ๋ย

“ลาเวีย ตะกี้มังกรนั่นพูดอะไรรึเปล่าอะ”

“เอ๋ มังกร?”

ลาเวียส่ายหัว งงกับสิ่งที่ฮิคารุพูดออกมา

“อ่า ช่างมันละกัน บางทีฉันคงคิดไปเองล่ะมั้ง”

ไม่ใช่แน่ๆ แต่ว่าตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาอธิบาย

“ฮิคารุ…!”

ลาเวียเสีงสั่น ฮิคารุรีบมองไปรอบๆและพบว่าพวกอันเดดที่ซ่อนอยู่จนถึงเมื่อกี้ เริ่มกรูกันออกมา

“รีบปิดไฟ เร็วเข้า!”

“อื้ม”

ทุกอย่างมืดลงทันที ลาเวียเข้ามาอยู่ข้างๆฮิคารุ  ฮิคารุดึงลาเวียเข้ามากอดและเปิดใช้สกิลทันที แต่พวกอันเดดก็ไม่สนใจทั้งคู่และเดินผ่านไป

เดี๋ยวนะ นี่เรามองเห็นพวกมันใด้ชัดขนาดนี้เลยเหรอ?

แล้วฮิคารุก็สังเกตว่าตัวเองสามารถมองเห็นสิ่งก่อสร้างได้แม้กระทั่งในความมืดก็ตาม เขามองขึ้นไปข้างบนแล้วก็เห็น ท้องฟ้า มังกรตัวเมื่อกี้ได้เจาะทะลุเพดาน ทำให้แสงสามารถส่องถึงได้บ้าง

พวกอันเดดเดินไปรวมอยู่ที่จุดๆเดียว ลูกแก้วมานาศักดิ์สิทธิ์ ไม่สิ เจ้ายักษ์ต่างหาก….

พวกมันมองไปที่ต้นเหตุที่เปลี่ยนพวกมันให้กลายเป็นอันเดด

การโจมตีที่ทำให้คนกลายเป็นอันเดดนั่น พวกเราหลบได้แต่คนพวกนั้นไม่ได้โชคดีขนาดนั้น แต่ว่ามันก็ไม่มีหลักฐานว่ามันเล็งเป้ามาที่เมืองนี้นี่นา….

ฮิคารุคาดเดา

บางที…. มันอาจจะมีการโจมตีที่เปลี่ยนทุกคนให้กลายเป็นอันเดดได้อยู่ แต่ว่าใช้ได้แค่ครั้งเดียว ไม่ก็มีอะไรบางอย่างที่คอยควบคุมมันอยู่

แล้วฮิคารุก็ส่ายหัวเบาๆ

คิดไปก็ไม่ได้อะไร เรื่องมันเกิดมาตั้ง 600 ปีแล้วนี่นะ

ทั้งคู่ยืนมองเหล่าอันเดดจำนวนนับไม่ถ้วนที่กำลังมองซากของยักษ์อยู่ บางทีพวกมันอาจจะมีอะไรบางอย่างที่อยากพูดกับมันไม่ก็สิ่งที่สร้างมันขึ้นมาก็ได้

แสงส่องสว่างออกมาจากตรงกลาง ราวกับกำลังแสดงความเสียใจให้แก่นักบุญที่ไม่อาจเติมเต็มความปรารถนาของตนได้

“ไปกนเถอะ ลาเวีย”

“….อืม”

ทั้งคู่หันหลังให้กับซากของปราสาท และเดินออกมา พวกกรีนสไลม์และมอนที่ไม่ใช่มนุษย์ต่างหลบซ่อนอยู่ไม่สามารถมองเห็นได้แม้กระทั่งใช้ตรวจจับมานาแล้วก็ตาม

หลังจากที่เดินไปได้สองชั่วโมง ฮิคารุก็เริ่มพูดออกมา

“….ไม่ดีเลยแฮะ”

มีเสียงของแรงสั่นสะเทือนที่ดังกังวานไปทั่ว

“อะไรน่ะ”

“ที่นี่จะถล่มแล้วน่ะ”

“เอ๋?!”

อาจจะเป็นเพราะมังกรก่อนหน้านี้แล้วก็ที่ฮิคารุยิงใส่ลูกแก้วมานาก่อนหน้านี้ก็ได้

“รีบไปกันเถอะ”

“….อะ…อื้ม!”

ทั้งคู่วิ่งออกไปด้วยร่างกายที่อ่อนล้า ลาเวียดูเหมือนจะไม่ไหวแล้ว ฮิคารุจึงแอบลงแต้มให้สายความอึดของลาเวีย

ตอนที่ไปถึงทางออก เสียงของการถล่มดังชัดขึ้นกว่าเดิม โชคดีที่การถล่มน่าจะเริ่มที่ปราสาท

ฮิคารุใช้ตรวจจับมานาและไม่พบใครเลย บางทีพวกนั้นอาจจะรู้ถึงอันตรายแล้วรีบหนีไปก็ได้

ลาเวียเดินเข้าไปที่ทางออกส่วนฮิคารุก็หลันกลับมามองข้างหลังเป็นครั้งสุดท้าย

“ฮิคารุ”

“ฉันว่าฉันได้รู้บางอย่างน่ะ ถ้าฉันยังสำรวจดันเจี้ยนต่อไป ปริศนาหลายอย่างอาจจะคลี่คลายลงแล้วฉันเองก็จะได้สมบัติมาด้วย ฉันว่านั่นล่ะคือส่วนที่ดีที่สุดของการเคลียร์ดันเจี้ยนเลยล่ะ”

แรงสั่นแรงกว่าเดิม จนทำให้ฮิคารุรู้สึกได้

“แต่ว่านั่นมันไม่มีอะไรที่อยู่ในที่ฉันพูดมาเลย ตัวตนของยักษ์ก็ยังไม่รู้ เจอเทคโนโลยีแบบใหม่ที่ยังไม่รู้อะไรเลย แล้วดันเจี้ยนยังถล่มอีก”

“….นั่นสิ นี่มันต่างจากที่เราเคยอ่านในนิยายอยู่นะ”

ฮิคารุหันหลังกลับมาเพื่อเตรียมขึ้นสู่ผืนดิน และทั้งคู่ก็สบสายตากัน

“ลาเวีย”

“ว่าไง”

“อยากอาบน้ำอะ”

“….หา?”

“ก็ไม่ได้อาบมาสักพักแล้วนี่นา อยากแช่ตัวในน้ำร้อนจะตายแล้วเนี่ย”

ลาเวียยิ้มออกมา “แหม พักนี้ดูทำตามใจตัวเองจังเลยนะ”

“อยากลงอ่างด้วยกันมั้ยล่ะ”

“….ตาบ้า”

ลาเวียหันหลังกลับไปและเริ่มเดิน

“โกรธเหรอ โทษทีนะ” ฮิคารุขอโทษออกมา

“รีบไปเถอ เดี๋ยวที่นี่ก็ถล่มหมดหรอก ทางขึ้นนี้ก็น่าจะถล่มเหมือนกันด้วยนะ”

“นั่นสินะ”

“….ถ้าตายก็อาบน้ำไม่ได้กันพอดีสิ”

“ห๊ะ….ว่าไงนะ”

“รีบไปกันเถอะ”

“เดี๋ยวสิ รอด้วย!”

หลังจากที่ขึ้นถึงผืนดิน ก็มีลมแรงๆพัดเข้ามา ทางเข้ายังไม่ถูกกั้นไว้

แต่ การลุยดันเจี้ยนครั้งแรกของฮิคารุก็ได้มาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว

——————————————————-

อาวล่ะ หลายๆท่านที่ติดตามอาจะพอรู้ถึงสาเหตุที่ผมไม่ว่างแล้วเนอะ เเต่บอกไว้อีกรอบละกานนนน 

ขออภัยนะฮะที่ไม่ได้มาลงบ่อยเหมือนก่อนหน้านี้ เนื่องจากนิยายเรื่องนี้มันค่อนข้างยาว+กับมหาลัยเพิ่งเปิดแถมพ่วงภาระของปีสี่เข้าไปอีก ไหนจะต้องหาเงินกินมาม่าอีก ฮรืออออ ตัวจะเเตกเเล้วจ้าาา เเต่เพื่อฝึกสกิลและผผู้อ่านทุกท่าน จะพยายามมาลงเรื่อยๆนะฮับ ///// ด้วยร้ากกก จากผู้แปล

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》

Status: Ongoing
อ่านนิยาย อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》ฮิคารุ เด็หนุ่มผู้โชคร้ายที่ประสบอุบัติเหตุ แต่เขาได้รับโอกาสให้ไปเกิดใหม่ในต่างโลก โดยแลกกับการแก้แค้น ——————————– อันนี้เป็นงานสานต่อ ดังนั้นพวกชื่อต่างๆ อาจจะมีแตกต่างกับช่วงแรกไปบ้าง ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

Comment

Options

not work with dark mode
Reset