ตอนที่ 66 ใบริวจินกะ
วันถัดมารีบออกจากเมืองตั้งแต่เช้าตรู่
ฮิคารุเดินไปทางภูเขาที่อยู่ใกล้ทางเข้าเมืองพร้อมกับลาเวีย
วันนี้ตั้งใจจะปีนภูเขาทั้งวัน
ตอนเย็นค่อยลงจากภูเขา ก่อนกลับสกาล่าซาร์ดในวันรุ่งขึ้น เพราะวันมะรืนหรือไม่ก็วันถัดจากมะรืนต้องไปโรงเรียน
ภูเขาที่ค่อนข้างไร้ความเขียวขจี มีต้นไม้เตี้ยๆที่กึ่งเหี่ยวงอกเติบโตอยู่
บางครั้งก็มีทุ่งสีเขียวบ้าง อาจจะเป็นพืชภูเขาสูงก็ได้ เลยไปตรวจสอบว่าเป็นสมุนไพรหายากหรือเปล่า
ฮิคารุเปิดใช้งาน “ตรวจจับพลังเวท” อยู่เป็นปกติ พอตรวจเจอถึงค่อยมายืนยันด้วยสายตา มีอย่างที่ถ้าไม่มองด้วยตาก็ไม่รู้ สิ่งนี้ถือเป็นการฝึกฝนอย่างหนึ่ง
มีบ้างที่พบมอนสเตอร์—-หรือต้องบอกว่าสิ่งมีชีวิตหายาก ซึ่งมันเป็นตระกูลกวางหรือไม่ก็หนู
“ฟู่—-เหนื่อยเอาเรื่องนะเนี่ย”
“แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก……นั่นสิ แต่เหมือนฉันจะได้พลังกายมาแล้ว”
ดูเหมือนจะเป็นจุดพักเพราะมีตอไม้อยู่ตรงพื้นที่เปิดโล่ง
พวกเรานั่งเคียงข้างกัน
“พลังกาย” ที่ลาเวียบอก ได้มาเพราะฮิคารุเพิ่ม “สตามิน่า” 1 หน่วยให้กับลาเวียตอนหนีจาก “เมืองทวยเทพโบราณใต้พิภพ”
“ได้มาเพราะลงดันเจี้ยนหรือเปล่านะ?”
“จริงๆแล้วผมเพิ่มสตามิน่าให้น่ะ”
ลาเวียตาเป็นประกาย
“สุดยอดเลย……ทำอย่างนั้นได้ด้วยเหรอเนี่ย”
และ—–ไม่รู้ทำไมเธอถึงพูดออกมาด้วยความทึ่ง
ความเป็นเลิศของฮิคารุ นั้นมันมาจากโซลบอร์ด
แต่สำหรับลาเวียนั้นต่างออกไป
โลกนี้เดิมทีมีสิ่งที่เรียกว่า “อาชีพ” อยู่ แต่ไม่สามารถแยกความสามารถของตัวเองได้ ซึ่งโซลบอร์ดของฮิคารุสามารถปรับค่าของมันได้โดยตรง
“ดูสิฮิคารุ มองเห็นเมืองเมื่อวานด้วย”
พอหันกลับไป ก็เห็นเมืองอยู่เบื้องล่างสายตา
เมืองเล็กๆมีถนนเลียบผ่าน
ถึงจะมีทางปีนเขา แต่ก็เงียบเหงา
ที่โลกนี้ไม่มีกิจกรรมยามว่างอย่างการปีนภูเขา ทุกคนปืนเขาด้วยเหตุจำเป็น
คนที่มาเก็บพืชภูเขา, คนที่มีธุระตรงภูเขา, คนที่มาล่าสัตว์บนภูเขา หรือไม่ก็—-
“ลาเวีย! หมอบลง!!”
“ลางสังหรณ์” ของฮิคารุทำงาน
เขากุมมือของลาเวียให้ก้มลง ก่อนจะใช้งาน “อำพรางหมู่”
ท้องฟ้าสีครามทางโน้น มีจุดเล็กๆสีดำ
มันเป็นจุดสีดำอยู่สักพัก
ทว่า—
“โน้นมัน……ไม่ใช่นกสินะ?”
“มังกรบินระดับล่างน่ะ”
มอนสเตอร์ชนิดหนึ่ง
โดยเฉพาะเผ่ามังกรนั้นชอบกินเนื้อมนุษย์ มีคำแนะนำว่าหากพบเจอให้รีบกำจัดทันที
(โชคดีมาก)
ถ้ามีคนพบเห็นเลสเซอร์ไวเวิร์น ทางกิลด์จะออก “เควสปราบปราม” ทันที ดังนั้นฮิคารุเลยไม่คิดว่าจะได้พบมังกรที่ภูเขา
ไวเวิร์นบินมาทางนี้
มันไม่รู้สึกถึงพวกฮิคารุที่นอนหมอบอยู่ตรงพื้น ไหนจะเอาผ้าคลุมซ่อนร่างไว้อีกที
ถึงต่อให้ยืนขึ้นแต่ถ้าใช้ “อำพรางหมู่” อยู่คงไม่โดนพบตัว แต่ระวังเผื่อเอาไว้ก่อน
มอนสเตอร์จะมีอะไรที่เหนือกว่า “ลางสังหรณ์” ของมนุษย์ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
ไวเวิร์นบินลงไปตรงแถวๆสันเขาที่อยู่ห่างจากพวกฮิคารุไปเล็กน้อย
“……ฮิคารุ? หน้านี่เขียนไว้ว่า ‘อยากไปตรงโน้น’ อยู่สินะ?”
“เห็นเป็นอย่างนั้นเหรอ?”
“อือ ก็คิดว่าแปลกอยู่ เป้าหมายครั้งนี้มาเพื่อขุดหินเวทที่มีกระจายอยู่ตามเหมืองแท้ๆ ฮิคารุได้เปรียบมากเพราะสามารถเห็นพลังเวทได้”
“ก็……อย่างนั้นแหละ”
ลาเวียยืนขึ้นปัดเข่าก่อนจะยิ้มออกมา
“จะไปหา ‘ใบริวจินกะ’ สินะ?”
“……ถูกต้อง”
เผ่ามังกร แล้วก็เลสเซอร์ไวเวิร์นจะชอบกลิ่นของ “ใบริวจินกะ” โดยเฉพาะมังกรระดับสูง—-ถึงกับเอาเมล็ดมาปลูกไว้แถวรัง
เพราะอย่างนั้นถ้าพบเผ่ามังกรแล้วยืนยันรูปแบบการเคลื่อนไหว จะสามารถรู้ตำแหน่งของ “ใบริวจินกะ” ได้ แน่นอนว่า การพบเผ่ามังกรก็ถือเป็นอะไรที่อันตรายอยู่
“รู้ดีนะเนี่ย”
“ทั้งที่บริเวณใกล้ๆมีแหล่งเก็บของได้ตั้งเยอะ แต่กลับเลือกภูเขาที่เคยพบ ‘ใบริวจินกะ’ เลยคิดว่าคงอยากจะทำอย่างนี้ตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหม”
“หลักแหลมมาก น่าชื่นชมจริงๆ”
“ว่าแต่เพราะอะไรเหรอ? ทำไมจู่ๆถึงคิดจะช่วยผู้อำนวยการล่ะ? ทั้งที่โดนทำเรื่องเสียมารยาทซะขนาดนั้นคิดว่าไม่จำเป็ฯต้องช่วยก็ได้นี่”
“อืม……มันก็ใช่อยู่หรอก”
มันมีเหตุผลอยู่
ฮิคารุรู้ได้จากการที่พูดกับรีกชายผมเขียว สหพันธรัฐนี้ก่อตั้งขึ้นบนสมดุลที่ค่อนข้างแปลกประหลาดของประเทศเล็กๆ ทั้ง 7
ซูบร้าที่ผู้อำนวยการอยู่เป็นประเทศเล็กๆ หากสูญเสียตำแหน่งผู้อำนวยการไปคงเป็นเรื่องที่เลวร้ายมาก
ถึงจะมอบ “ใบริวจินกะ” ให้ ก็ไม่ได้คิดว่ามันจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นสักเท่าไร แต่สำหรับรีกเรื่องนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าหากเขาเตรียมตัวเตรียมใจแล้วละก็ ฮิคารุคิดจะเสี่ยงเดิมพันกับเขาอยู่
เพื่อปรับสมดุลของประเทศนี้
อธิบายลาเวียไปเช่นนี้
“ฮิคารุ……ทำไมถึงทำเรื่องที่ไม่ได้เป็นประโยชน์กับตัวเองเหรอ?”
“ผมต้องอยู่ที่โลกนี้ไปตลอด เลยอยากจะทำให้โลกนี้ดีขึ้นเล็กน้อยก็ยังดี ดังนั้นมันเป็นเหตุผลที่ค่อนข้างเห็นแก่ตัวไง”
“ฮิคารุ”
ลาเวียกุมมือของฮิคารุ
“ฉันเองก็จะช่วยด้วย”
“ขอบคุณมาก……เอาเถอะยังไงก็ต้องกลับเมืองก่อน เพื่อตรวจสอบว่าหมอนั่นไปเป็นลูกศิษย์ของโคโทบี้หรือยัง”
“เขาเหรอ จะดูว่าความมุ่งมั่นที่ตั้งใจจะเปลี่ยนแปลงประเทศเป็นของจริงหรือเปล่าสินะ”
“ใช่แล้ว”
ฮิคารุมองโลกในแง่บวกอย่างแปลกประหลาด ราวกับจะเผชิญหน้ากับโลกนี้
นั่นก็เพราะว่าพูดทุกเรื่องกับลาเวียไปแล้ว แถมเธอยังยอมรับมัน
ถ้าเพื่อเธอแล้วไม่ว่าอะไรก็จะทำ ต้องขจัดต้นเหตุที่ทำให้โลกนี้ไม่สงบสุข
“เอาละ ถ้างั้นไล่ตามเลสเซอร์ไวเวิร์นกันเถอะ”
ฮิคารุข้ามเนินเขาไปพร้อมกับลาเวีย
ทันใดนั้น—-ตรงปลายทางของทางลาดลง เป็นสถานที่ที่มีต้นไม้ขึ้นหนาแน่น
เลสเซอร์ไวเวิร์นนอนอยู่ตรงนั้น
“……นอนอยู่เหรอ?”
“น่าจะเป็นอย่างนั้น”
“ลาเวีย ไปซ่อนตัวอยู่ตรงโขดหินนั้นก่อนได้ไหม?”
“ตั้งใจจะไปคนเดียวเหรอ?”
“คนเดียวมันสะดวกกว่า ลาเวียเองก็ใช้ “ลอบเร้น” ไว้ตลอดด้วย แต่ถ้าผมให้สัญญาณ ช่วยปล่อยเวทมนตร์ที่แรงที่สุดมาเลย”
“……เข้าใจแล้ว”
พอพาลาเวียไปส่งที่โขดหิน ฮิคารุก็ลงทางลาดไปคนเดียว
ก้อนหินเล็กค่อนข้างเยอะจนเกือบลื่น บางครั้งก็มีหินกลิ้งลงไป
ถ้าหินกลิ้งไปโดนเลสเซอร์ไวเวิร์นคงเป็นปัญหา เลยเดินพร้อมกับปรับมุมไปเรื่อยๆ
พอหันกลับไป
ลาเวีย—-น่าจะมองมาจากทางโขคหินอยู่ แต่ฮิคารุก็มองไม่เห็น นั่นก็เพราะว่าเธอใช้ “ลอบเร้น” อยู่ แต่ถ้าเพ่งไปดีๆ จะรู้ว่าอยู่ตรงนั้น ทั้งที่ลาเวียอยู่ตรงนั้นแท้ๆ แต่ในสมองกับคิดว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติไปเอง
(เห็นเป็นอย่างนี้เหรอเนี่ย ค่อยใจชื้นหน่อย)
ถ้าตั้งใจมองดีๆ พอจะรู้ได้อยู่ ก็เหมาะสมกับเลเวล 1 อยู่
อย่างไรก็ตามฮิคารุมุ่งหน้าไปหาเลสเซอร์ไวเวิร์น
พอเข้าไปใกล้ทำให้รู้ถึงความใหญ่โตของมัน
ขนาดตัวพอๆกับรถโรงเรียน
แถมยังมีปีกที่ใหญ่โต
(นี่ระดับล่างแน่เหรอ……)
ถ้าไวเวิร์นปกติ หรือมังกรมันจะเป็นมอนสเตอร์ที่ใหญ่ขนาดไหนกัน
แถม “มังกร(龍)” ที่เห็นใน “เมืองทวยเทพโบราณใต้พิภพ” กับ “มังกร(竜)” มันแตกต่างกันอยู่ ถ้าลักษณะรูปร่างเหมือนกับงูขนาดใหญ่จะถูกเรียกว่า “มังกร(龍)”
ถ้ารูปลักษณ์เหมือนกับกิ่งก่าที่มีปีกคือ “มังกร(竜)”
“—-ครืออออ……ครืออออออ…………”
ดูเหมือนจะหลับจริง
ได้กลิ่นคาวโชยมา
ตรงปากของเลสเซอร์ไวเวิร์นมีคราบสีแดง เหมือนเพิ่งไปกินอะไรมา
ใต้ร่างของมัน—-มีใบริวจินกะงอกอยู่
ดอกสีแดงเหมือนเลือด กลีบดอกที่โค้งมนดูแปลกประหลาด
ใบของมันแผ่กว้างขนานไปกับพื้น
(ถ้าเป็นอย่างนี้ก็สบายเลย)
ฮิคารุเข้าไปใกล้เลสเซอร์ไวเวิร์น