“ถ้างั้นก็มาเริ่มกันเลยเนอะ”
ผมรู้สึกได้ว่าชาร์ล็อคเกร็งนิดหน่อยก่อนเปิดหนังสือการ์ตูนให้ผมอ่าน แต่เอาจริงมันก็ตื่นเต้นทั้งคู่แหละ เอาคนสองคนมานั่งอ่านการ์ตูนเคียงบ่าเคียงไหล่เล่มเดียวกัน ตัวผมกับเธออยุ่ชิดข้างแทบจะติดกันแล้ว
ผมรู้เลยว่าเสียงหัวใจของผมมันเต้นแรงจนแทบกระดอนออกจากอกแล้ว
“จะถามว่ามังงะเรื่องนี้เป็นแนวไหนเหรอครับ อ๊ะ…?”
ถ้าพูดมังงะชื่อดัง ภาพในหัวผมหนีไม่พ้นการ์ตูนพระเอกสวมหมวกฟาง มีความใฝ่ฝันอยากเป็นเจ้าแห่งโจรสลัด หรือไม่ก็การ์ตูนที่พระเอกมีพลังสถิตย์ร่างในตัว
แต่ว่าการ์ตูนที่เธอเอามาให้ผมอ่าน มาเป็นแนวอินดี้เลย ง่ายๆว่าไม่ใช่การ์ตูนฮิตตามท้องตลาดแน่
“ตกใจรึเปล่าคะ”
ชาร์ล็อตสังเกตท่าที่ผม เผยรอยยิ้มซุกซน
เธอตั้งใจทำอะไรกันนะถึงเอาการ์ตูนแนวนี้มาให้ผมอ่าน
“อาโอยางิคงคาดการณ์ว่าชั้นจะเอาการ์ตูนฮิตทั่วไปมาให้อ่านล่ะสิ”
ถูกเผงเลย ชาร์ล็อตเดาสิ่งที่ผมคิดไว้ถูกต้อง
“ถูกต้องครับผมเลยแปลกใจ”
การ์ตูนที่ชาร์ล็อตเอามาให้ผมอ่าน ผมดูหน้าปก มันคือการ์ตูนที่มีเด็กผู้ชายถือปากกาจีเพ็น มีความใฝ่ฝันจะเป็นนักเขียนการ์ตูน ถึงผมจะไม่ค่อยได้อ่านการ์ตูนแต่ก็พอจะรู้เรื่องมันเล็กน้อย
แล้วทำไมเธอถึงเลือกเรื่องนี้มาให้ผมอ่านนะ
“ถ้าชั้นอธิบายเธอหมดมันจะเป็นการสปอยล์ เอาเป็นว่าเรื่องนี้บอกคร่าวๆคือเป็นเรื่องที่วัยรุ่นสองคนตั้งเป้าจะเป็นนักเขียนการ์ตูนชื่อดังค่ะ”
“งั้นเหรอครับ เอ่อ แล้วสาเหตุที่คุณชาร์ล็อตเลือกการ์คูนเรื่องนี้คืออะไรครับ”
ผมลองถามชาร์ล็อตที่อธิบายคอนเซปต์การ์ตูนเรื่องนี้ มันก็สงสัยแหละว่าเธอคิดอะไรกัน แต่ว่าคนที่รู้คำตอบดีสุดมีเพียงเจ้าตัวเท่านั้น ผมสนใจแนวคิดเธอมากกว่าอ่านหนังสือการ์คูน แต่คำตอบเธอคือ
“ความลับ”
ชาร์ล็อตยกนิ้วชี้แตะปาก ทำตาเป็นประกายวิบวับ
เออ เธอทำท่าไหนก็น่ารักแหละ แต่สรุปผมคิดว่า ถามเรื่องนี้ต่อไปเธอคงไม่ตอบผมจริงจังแน่
“งั้นเหรอครับ”
“ฮะฮะ ขอโทษนะคะ จริงๆคืออยากให้เธอได้อ่านก่อนแล้วชั้นค่อยเฉลยทีหลังค่ะ”
เอาเหอะ อยากทำอะไรก็เต็มที่เลยครับ
“ทำไมชั้นถึงตื่นเต้นแบบนี้นะ”
ชาร์ล็อตพึมพำกับตัวเอง หน้าเธอแดงแป๊ด แต่ก็ยังยิ้มแก้มปริ
ส่วนผมเองก็ตื่นเต้นไม่ต่างกันและรู้สึกว่าช่วงเวลานี้มันช่างมีความสุขเหลือเกิน
แต่ทว่า
“อ่านลำบากไปหน่อยเนอะ”
ชาร์ล็อตกล่าวพร้อมรอยยิ้มหลังจากเปิดการ์ตูนไปได้ไม่วินาที
อ่านลำบากนี่ไม่แปลก เพราะหนังสือการ์ตูนไม่ได้ผลิตมาให้คนสองคนอ่านพร้อมกันซะหน่อย
“ทำไงได้ล่ะครับ”
ผมได้แต่บ่นออกมาด้วยความเสียดาย แต่ต้องยอมรับว่าในตอนนี้ผมไม่รู้วิธีอ่านหนังสือการ์ตูนพร้อมกันสองคนแบบไม่ลำบาก
“ถ้าชั้นให้อาโอยางิคุงยืมอ่านล่ะ หรือว่าจะใช้วิธี….”
ผมเข้าใจว่าถ้าอ่านสองคนพร้อมกันลำบาก ให้อ่านคนเดียวก็ง่ายกว่าแหละ
แต่ว่าชาร์ล็อตที่พูดค้างไว้ เหมือนจะนึกวิธีบางอย่างออกเลยพูดไม่จบ อยู่ๆตัวเธอก็แข็งไปพักหนึ่ง ก่อนเงยหน้ามองผมด้วยสีหน้าแดงขวยเขิน
“มีอะไรรึเปล่าครับ”
“เอ่อ คือว่า….”
ชาร์ล็อตดูเหมือนจะคิดวิธีออก แต่ดูเหมือนว่าวิธีนี้จะพูดมาเองก็กระดากปาก กระนั้นดูเหมือนว่าเธอจะเตรียมใจพักหนึ่ง ใช้มือขวาเสยผมทัดหูก่อนเอ่ย
“ถ้าเป็นไปได้ชั้นมีเรื่องอย่างหนึ่งจะขอร้องเธอค่ะ”
เธอจะขออะไรผมกันนะ
****
“..อ….เอาจริงเหรอครับ”
ผมกล่าวด้วยความลังเล พร้อมกับบอกกับตัวเองว่าไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย ส่วนชาร์ล็อตเองตอนนี้ก็หน้าแดงถึงใบหู พยักหน้าเล็กน้อย เธออายจัดจนไม่กล้าพูดซ้ำอีกรอบ
สภาพปัจจุบันตอนนี้คือเธอกำลังนั่งบนตักผม
คำขอร้องของเธอคือ ขอให้เธอนั่งตัก แล้วผมเป็นคนถือการ์ตูน
ถ้าทำแบบนี้มันก็สามารถอ่านการ์ตูนพร้อมกันทีเดียวสองคนได้ ถือว่าสิ่งที่เธอคิดมันสมเหตุสมผล
แต่ก็นะ ผมเองก็คาดไม่ถึงว่าเธอจะกล้ายื่นข้อเสนอนี้และกล้าทำจริงนี่แหละ เล่นเอาผมตะลึงจากก้นบึ้งหัวใจ
****
จบ ch4-7
หมายเหตุ อยากอ่านไวกว่าใครนิดหนึ่ง คลิกติดตามเพจผู้แปลได้ตรงนี้เลยจ้า kurakon