เพื่อไม่ให้เอมม่าเป็นหวัด ผมพาเอมม่าเช็ดตัวก่อน ขณะที่ผมพาเอมม่าไปเช็ดตัว ระหว่างนั้นผมได้ยินเสียงชาร์ล็อตลอยหลังประตู
“โม่ ชั้นเป็นเจ้าสาวไม่ได้แล้ว”
หลังจากนั้นสักพัก ชาร์ล็อตออกมาจากห้องน้ำ แต่งตัวเรียบร้อย แต่หน้ายังแดงแป้ด น้ำตาคลอเบ้าเล็กๆ เนื้อตัวสั่นเทาเล็กน้อย นั่งลงข้างผม
“…..”
เอมม่าดูสภาพคุณชาร์ล็อต เจ้าตัวก้มหน้า ดูเหมือนว่าจะรู้ตัวว่าทำผิดเหมือนกัน
เอมม่าไม่กล้าสบตาชาร์ล็อตตรงๆ เธอเข้ามาซุกกับผมแล้วแอบมองชาร์ล็อตสลับไปมา สีหน้าน้องเป็นกังวลมาก คาดว่าเธอคงกลัวคุณชาร์ล็อตโกรธ
เอาจริงๆคุณชาร์ล็อตเธอไม่ได้โกรธเอมม่าหรอก สภาพตอนนี้เธอแค่อายเฉยๆ แต่เอมม่ายังเล็กเลยไม่เข้าใจ ผมที่รู้เรื่องนี้จึงพยายามลูบหัวเอมม่าเพื่อปลอบน้อง
“ขอโทษนะคะที่ให้เห็นของน่าอายลงไป”
“ไม่ไม่ไม่ ที่เห็นผมนั่นห่างไกลจากคำว่าของน่าอายล้านปีแสงเลยครับ”
ต้องบอกว่าได้เห็นของโคตรดีย์ต่างหาก
ถึงคำพูดผมมันจะดูสองแง่สามง่ามไปนิด แต่อย่างน้อยที่ผมพูดเพราะผมอยากให้เธอสบายใจว่ามันไม่ใช่เรื่องต้องขอโทษผมเลย
แล้วก็คนที่ต้องขอโทษจริงๆไม่ใช่เธอด้วย
“ทางผมต้องขอโทษด้วยครับ ที่เผลอมองคุณที่ห้องน้ำ”
ทว่าคุณชาร์ล็อตที่ยังเขินอายอยู่ กลับส่ายหน้าปฏิเสธ
“ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพราะชั้นเผลอเสียงดังเอง”
เธอช่างเป็นเด็กดีอะไรเช่นนี้
เพราะถ้าไล่หาต้นสายปลายเหตุจริงๆ เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะเอมม่าล้วนๆ เอมม่าพุ่งพรวดเปิดประตูมาในจังหวะที่ไม่มีใครคาดคิด ไม่แปลกใจที่ชาร์ล็อตตอนนั้นจะส่งเสียงดังห้าม
ทว่าทั้งที่เป็นแบบนั้น เธอไม่กล่าวโทษเอมม่าแม้ครึ่งคำ ไม่แม้แต่จะคิดว่าต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องเปลือย เป็นเพราะเอมม่า
ความคิดของเธอทำให้ผมยอมรับและชื่นชมว่าเธอโคตรจะเป็นคนดีจริงๆ
“อืม ยังไงก็ตาม เรื่องราวในวันนี้ให้คิดซะว่าทำเป็นลืมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นละกันครับ”
เอาจริงๆภาพที่เห็นนั่นตราตรึงอยู่ในใจ คงไม่ลืมหรอก แต่ผมเลือกที่จะพูดแบบนี้เพื่อให้ชาร์ล็อตรู้สึกดีขึ้น ไม่โทษตัวเอง
“ข..ขอบใจนะ ถ้างั้นเดี๋ยวชั้นขอตัวกลับก่อนนะ”
วันนี้ถือว่าเธอกลับห้องตัวเองเร็วกว่าปกติ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพิ่งจะผ่านเหตุการณ์ตะกี้มา
แต่ว่าหลังจากเธอลุกขึ้น ทิศทางที่เธอเดินไป ไม่ใช่ประตู แต่เป็นที่เอมม่ากำลังเกาะผม พอเอมม่าเห็นชาร์ล็อตเดินเข้ามา เธอเดินไปหลบหลังผมก่อนค่อยๆโผล่หน้ามองชาร์ล็อต
ดูเหมือนว่าปัญหาระหว่างพี่น้องจะยังไม่จบง่ายๆ
“เอมม่า พี่จะกลับแล้วนะ เอมม่าจะกลับด้วยกันมั้ย”
สีหน้าท่าทางชาร์ล็อตเต็มไปด้วยความเศร้า แต่กระนั้นเธอยังใช้น้ำเสียงอ่อนโยนกล่าวถามเอมม่า
ด้านเอมม่าที่ฟังคำถามชาร์ล็อต ถึงตอนนี้เธอยังไม่กล้าสบตา ส่ายศีรษะไปมาปฏิเสธชัดเจน
“งั้นเหรอ เข้าใจละ ถ้าอย่างนั้น อาโอยางิคุง ชั้นฝากเอมม่าด้วยนะ”
“อืม ได้ครับ”
“ชั้นขอตัวก่อนนะ”
“เดี๋ยวผมไปส่ง”
“ขอบคุณค่ะ”
ชาร์ล็อตยิ้มตอบกล่าวขอบคุณผม ทว่ารอยยิ้มของเธอช่างเหนื่อยล้า
วันนี้มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้น คงกระทบกระเทือนจิตใจเธอมาก ให้เธอกลับไปพักผ่อนอยู่กับตัวเองสักพัก อาจจะเป็นเรื่องที่ดีกว่าก็ได้
“ราตรีสวัสดิ์ เอมม่า อาโอยางิคุง”
“ราตรีสวัสดิ์ครับ”
“อืม”
หลังจากกล่าวราตรีสวัสดิ์ ผมมองส่งชาร์ล็อตกลับห้อง จากนั้นกลับมาดูเอมม่าที่ตอนนี้ทำหน้าหงอยๆมองชาร์ล็อตกลับ
….อืม เรื่องราวชักจะยุ่งยากกว่าที่คิด
“เอมม่าครับ ดูคลิปแมวมั้ย”
“อืม..”
ถ้าเป็นเวลาปกติ พอพูดว่าให้ดุคลิปแมว เอมม่าจะเปล่งเสียงร่าเริง ยิ้มแย้มแจ่มใส แต่ครั้งนี้เธอเพียงแค่พยักน้า ตอบรับด้วยน้ำเสียงล้า
จริงๆผมอยากให้เอมม่านอนแยกห้องต่างหาก แต่ดูสภาพแล้ว ให้ไปนอนคนเดียว เธอน่าจะนอนไม่หลับและกังวลด้วย อีกทั้งผมก็ต้องไปอาบน้ำก่อน เลยให้เอมม่าดูคลิปแมวฆ่าเวลาระหว่างผมยังอยู่ในห้องน้ำ
พอผมอาบน้ำเสร็จกลับมาที่ห้อง ผมถามเอมม่าที่กำลังดูคลิปแมว
“นอนเลยมั้ยครับ”
ปกติเวลาผมเข้ามาเจอเอมม่าหลังหายตัวไปสักพัก เธอจะต้องดี๊ด๊าแจ่มใสกว่านี้ แต่ดูเหมือนว่าเรื่องของชาร์ล็อตจะทำให้เอมม่าสะเทือนใจจนน้องหมดพลังงาน
เธอแค่หันหน้าหาผมเปล่งเสียงเนือย
“อุ้มหน่อย”
เอมม่ากางสองแขนพร้อมถือมือถือ นั่งรอให้ผมไปอุ้ม ผมค่อยๆสอดแขน ยกตัวเอมม่าอุ้มอย่างอ่อนโยน เดินไปยังฟูกนอนที่ปูไว้
“ขอโทรศัพท์นะครับ”
“อืม”
วันนี้เอมม่าพูดอะไรก็เชื่อฟังง่ายๆ เธอคืนมือถือให้ผมทันที ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ เอมม่าจะต้องต่อรองกับผมแน่ว่าขอดูคลิปแมวต่ออีกหน่อย ดูเหมือนว่าเธอจะอาการหนักจริงๆ
หลังจากคืนโทรศัพท์ให้ผม เอมม่าซุกตัวกับผม แสดงอาการขี้อ้อนเหมือนปกติ แต่บรรยากาศวันนี้ต่างจากก่อนหน้าลิบลับ ปกติเวลาน้องกอดจะต้องส่งเสียงอ้อน หรือทำหน้าตาน่ารัก แต่วันนี้น้องกอดแบบนิ่งๆซึมๆ
“เป็นอะไรเหรอครับ”
“เอมม่า โดนล็อตตี้เกลียดแล้วรึเปล่าคะ…?”
คำพูดซื่อๆของน้องเล่นเอาผมตกใจ ไม่คิดว่าน้องจะพูดความในใจออกมาง่ายขนาดนี้ ถ้าน้องแสดงความซื่อตรงแบบนี้ต่อหน้าชาร์ล็อต เรื่องอาจจะจบไปแล้วก็ได้ แต่ก็นะ น้องไม่กล้าพูดตรง ผมก็ถือว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจได้
“ไม่ต้องห่วงครับ คุณชาร์ล็อตรักเอมม่ามากนะครับ”
“จริงเหรอคะ…?”
“จริงสิครับ”
คุณชาร์ล็อตรักเอมม่ามากแค่ไหน มองดูปราดเดียวก็รู้แล้ว บางทีวันนี้ที่เจอเรื่องราวต่างๆ ผมมองว่า ต่อให้เธอโกรธเอมม่าจริงแต่เธอจะไม่เกลียดเอมม่าแน่ ในทางกลับกัน ถ้าเธอโกรธ ต้องบอกว่าเพราะรักเอมม่ามากจึงโกรธมากกว่า
แต่จะให้อธิบายเอมม่าด้วยเรื่องราวยากๆขนาดนี้ ผมว่าเอมม่าคงไม่เข้าใจแน่
“เอมม่าจังก็รักคุณชาร์ล็อตเหมือนกันใช่มั้ยครับ”
“ล็อตตี้…ร้องไห้ด้วยตะกี้”
อ๋อออออ ตอนออกจากห้องน้ำที่เห็นร่างเปลือย จำได้ว่าเธอน้ำตาคลอเบ้าด้วย เอมม่าเลยคิดไปเองว่าชาร์ล็อตเกลียดเธอ
“สบายใจได้ครับ คุณชาร์ล็อตไม่มีทางเกลียดเอมม่าด้วยเรื่องแค่นั้นหรอกครับ”
เอาจริงๆ ก็ไม่ได้มั่นใจเต็มร้อยในสิ่งทื่พูด แต่เพื่อให้เอมม่าสบายใจ ผมได้แค่บอกเธอไปแบบนี้ อย่างน้อยสิ่งที่ผมเชื่อมั่นสุดใจคือ ความจริงก็ย่อมเป็นความจริง วิเคราะห์จากพฤติกรรมที่ผ่านมา ผมเชื่อว่าชาร์ล็อตไม่เกลียดเอมม่าแน่
“แต่ว่า เธอโกรธอยู่…”
เอมม่ายังคงคิดไปเองว่าชาร์ล็อตโกรธ บางทีคงเป็นเพราะความกังวลต่างๆนาๆทำให้เอมม่ามองอะไรเป็นแง่ลบไปหมด ต่อให้ผมตอบสิ่งที่เอมม่ากังวลได้อันหนึ่ง แต่เดี๋ยวก็ไปกังวลเรื่องอื่นต่ออีก
แต่ก็นะ มาถึงจุดนี้ คำพูดที่ผมจะเลือกใช้ก็มีอันเดียว
“ผมยืนยันได้ว่า คุณชาร์ล็อตไม่มีทางเกลียดเอมม่าแน่นอนครับ เอมม่าไม่เชื่อคำพูดพี่เหรอ”
“เปล่าค่ะ หนูเชื่อ”
“งั้นเหรอครับ ขอบคุณครับผม”
“อืม”
พอผมกล่าวขอบคุณเอมม่า น้องส่งรอยยิ้มน่ารักผงกหัวให้ ดูเหมือนว่าน้องจะกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมแล้ว
ถ้าอย่างนั้น ลองหาวิธีแก้ปัญหาแบบนี้ดูสักหน่อยละกัน
“แต่ว่า เอมม่าจังทำให้คุณชาร์ล็อตเดือดร้อน อันนี้เป็นเรื่องจริง ยอมรับมั้ยครับ”
“อืม”
โอ้ว ตอนแรกคิดว่าเธอจะปฏิเสธด้วยซ้ำ แต่เอมม่ากลับยอมรับง่ายๆแทน ดีแล้วล่ะ ถ้าสำนึกผิดแล้ว เรื่องน่าจะง่ายกว่าเดิมเยอะ
“ถ้าอย่างนั้น พรุ่งนี้เอมม่าไปขอโทษคุณชาร์ล็อตด้วยกันกับผมนะครับ”
ถ้าทำผิดก็ต้องขอโทษ อันนี้คือสิ่งที่ควรทำ ผมอยากให้น้องมีจิตสำนึกที่ดีในเรื่องนี้
และถ้าเอมม่าขอโทษ ผมเชื่อว่าความสัมพันธ์ของเอมม่ากับชาร์ล็อตต้องกลับมาดีเหมือนเดิมแน่
พอสบายใจ ผมก็คิดเพลินๆก่อนหน้าว่า ไอ้ที่คุณชาร์ล็อตบอกผมเรื่องปักธงความหมายจริงๆมันคืออะไรกัน แต่ว่าเรื่องไม่จบง่ายๆ เพราะคำตอบของเอมม่าคือ
“ไม่ไป”
“อ้าว.. เหตุผลคืออะไรครับ”
อะไรที่คิดว่ายากก็เคลีย์ง่ายดาย อะไรที่คิดว่าง่าย ดันตอบมาเหนือความคาดหมายซะงั้น นี่ผมคาดการณ์ตกหล่นอะไรไปนะ
“ล็อตตี้โกรธเอมม่าอยู่”
“อืม ใช่ครับ ฉะนั้นเพื่อให้หายโกรธ เราต้องไปขอโทษไงครับ”
ผมไม่รู้สิ่งที่เอมม่าคิด แต่ปกติตามคอมม่อนเซ้นส์ ถ้าถูกโกรธก็ต้องไปขอโทษให้หาย หรือจะบอกว่าน้องเป็นคนที่เกลียดการขอโทษคนอื่นเหรอ
“หนูกลัวที่จะพูดว่าขอโทษ”
อ๋อออออออออ เข้าใจแล้ว ทุกอย่างลงล็อคหมดละ
เอมม่าไม่ได้เกลียดการขอโทษคนอื่น
จริงๆแล้วเอมม่าก็คงรู้แต่แรกแล้วว่าชาร์ล็อตรักเอมม่ามาก แต่เพราะว่าไม่ได้ฟังจากคำพูดของคุณชาร์ล็อตโดยตรง เธอก็เลยไม่มั่นใจว่าสิ่งที่คิดมันถูกมั้ย เลยกลัวที่จะเผชิญหน้ากับคนที่โกรธอยู่
แต่ถึงเข้าใจความรู้สึก ก็ไม่ใช่ว่าจะคลี่คลายปัญหาง่ายๆ เรื่องกลับมาซับซ้อนอีกแล้ว
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ถ้าไปขอโทษตรงๆคุณชาร์ล็อตต้องยกโทษให้แน่”
“ไม่เอา”
เอมม่าส่ายหัวดิกไม่ทำตามคำขอของผม แสดงชัดเจนว่ายังไงก็ไม่ไปขอโทษแน่ ผมที่เล่นกับเอมม่าทุกวันรู้ดีว่า ถ้าเอมม่าดื้อ ออกอาการชัดเจนขนาดนี้ พูดเรื่องเดิมไปก็เปล่าประโยชน์อยู่ดี และแน่นอนว่า ถึงผมจะฝืนบังคับให้ขอโทษได้ แต่ถ้าไม่ได้มาจากความต้องการของน้องจริงๆ ผมคิดว่ามันเป็นการกระทำที่เปล่าประโยชน์
เอาจริงๆนะ แค่น้องไปขอโทษ เผลอๆคุณพี่ชาร์ล็อตเตรียมยกโทษให้ก่อนเอมม่าจะเอ่ยปากพูดจบด้วยซ้ำ
แต่น้องดันไม่กล้าเผชิญหน้าโดยตรง ปัญหาตรงนี้ผมต้องขบคิดหนักเลยว่าจะเอาไงดี มันต้องมีวิธีสิ
เอาวะ ลองแบบนี้ดูละกัน
“้เอมม่าครับ ถ้าลองขอโทษแบบนี้ เอมม่าทำได้มั้ยครับ”
ผมยื่นข้อเสนอให้เอมม่า กดมือถือ ยื่นบางอย่างให้เธอดู
เอมม่าดูจบ ผมลุ้นหนักเลย คำภาวนาของผมในใจคือ ขอให้น้องทำเหอะ อย่าส่ายหัวปฏิเสธนะ
และคำตอบคือ
“อืม เอมม่าทำได้ค่ะ”
เอมม่าตอบกลับน้ำเสียงหนักแน่น
“ทำได้จริงนะครับ”
“อืม”
“เยี่ยม ดีละครับ พรุ่งนี้เดี๋ยวพี่ไปซื้้อของให้ แล้วเอมม่าก็ทำตามนี้นะ”
“อืม เอมม่าจะพยายาม”
เอาจริงๆวิธีที่ผมคิดก็เสี่ยงเอาการ มีแววว่าเอมม่าจะปฏิเสธด้วยซ้ำ แต่พอน้องตอบตกลง ผมนี่โล่งเลย
ดูจากอารมณ์ สีหน้าท่าทาง ผมมองว่าเอมม่าพูดจริงทำจริงพยายามจริงแน่ โชคดีว่าพรุ่งนี้ผมไม่ต้องไปโรงเรียน เลยมีเวลามากพอที่จะซื้อของให้น้อง
“ถ้างั้นวันนี้นอนได้แล้วนะครับ”
พรุ่งนี้เดี๋ยวน้องจะต้องใช้แรงกายและความพยายามมาก ผมเร่งให้น้องรีบพักผ่อน ลูบหัวเอมม่าอย่างอ่อนโยนกล่อมให้นอน
“เอมม่า…อยาก…คุยกับ..โอนี่จังต่อ”
“พรุ่งนี้เอมม่ามีเวลาได้คุยอีกเยอะครับ นอนก่อนเนอะ”
“อืม”
เอมม่ากล่าวจบหลับตานิ่งก่อนจะผล็อยหลับไป ผมรออีกสักพักจนได้ยินเสียงลมหายใจเป็นจังหวะของเอมม่า แสดงว่าเธอหลับสนิทแล้ว
“ฝ้นดีนะครับ เอมม่าจัง”
ผมค่อยๆลุกจากเตียง ไม่ให้เอมม่าสะดุ้งตื่น รวบรวมความคิดและไตร่ตรองถึงสถานการณ์วันพรุ่งนี้
“โอเค ห้องนี้ใช้ได้ แล้วก็เราจะเตรียมไว้สักสองสี คำนวนพื้นที่ห้องกับตำแหน่งที่จะวางแล้วถือว่าผ่าน”
ผมตั้งใจคิดคำนวนอย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้แผนการขอโทษวันพรุ่งนี้ของเอมม่าล้มเหลวเด็ดขาด
**
จบ CH5-4 ครับ
ตอนต่อไปมาลุ้นกันว่า แผนการของอาโอยางิที่จะให้เอมม่าใช้คืนดีกับคุณชาร์ล็อตคืออะไร หากใครทนไม่ได้ ไปอ่านล่วงหน้าได้ในเพจเลยนะครับ
อยากอ่านไวกว่าใครนิดหนึ่ง คลิกติดตามเพจผู้แปลได้ตรงนี้เลยจ้า kurakon