ตอนที่ 15 การฆ่าและการดื่ม.
ชิวอี้เหลินที่ยืนอยู่แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง เฉินซ้งเหิงฆ่าหวงซู่หยางต่อหน้าผู้คนนับร้อย…!
ภายในห้องจัดเลี้ยง มีเพียงเฉินซ้งเหิงเท่านั้นที่นิ่งสงบ เขาเช็ดมือด้วยผ้าผืนสี่เหลี่ยมที่อยู่บนโต๊ะอาหาร จากนั้นก็รินไวน์แดงใส่แก้วและดื่มทั้งหมดในครั้งเดียว
เขาเพิ่งฆ่าคนไปแต่กลับดื่มไวน์ด้วยสีหน้านิ่งเฉย ราวกับเป็นเรื่องปกติ
การฆ่าสำหรับเขาดูเหมือนเป็นเพียงแค่ศิลปะ ไม่มีความตื่นเต้น ไม่มีความรู้สึก เป็นแค่เพียงการเคลื่อนไหวของร่างกายก็เท่านั้น
สมดั่งฉายาที่ได้รับ‘เทวทูตแห่งความตาย‘ที่สังหารเพียงไม่กี่วินาทีอย่างโหดเหี้ยม
ในห้องจัดเลี้ยงแขกทุกคนนิ่งอึ้งราวกับรูปปั้น… บรรยากาศภายในงานเงียบราวกับความตาย
นายน้อยหวงตายแล้ว?! สิ่งนี่จะสร้างความตื่นตระหนกไปทั่วทั้งเซี่ยงไฮ้!
เฉินซ้งเหิงยกข้อมือขึ้นและมองไปที่นาฬิกา จากนั้นก็หันหน้าไปทางชิวอี้เหลินและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ดึกแล้ว กลับกันเถอะ”
ชิวอี้เหลินใช้เวลาสักพักกว่าจะตั้งสติได้ เธอทำเพียงเดินตามหลังเฉินซ้งเหิงไปอย่างเงียบๆ ทั้งสองเดินออกไปจากห้องจัดเลี้ยงด้วยกัน
ดวงตาของบอดี้การ์ดตระกูลหวงดับมืด ในบรรดาบอดี้การ์ดหลายสิบคน ไม่มีเลยแม้แต่คนเดียวกล้าที่จะก้าวเท้าออกไปหยุดยั้งคนทั้งสอง
ชายผู้ที่สามารถฆ่าคนด้วยตะเกียบเพียงด้ามเดียว ชายผู้นี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
ไม่มีใครกล้าที่จะขยับตัวเลยแม้แต่น้อย พวกเขาทำเพียงแค่มองชายคนนั้นเดินจากไป
เฉินซ้งเหิงและชิวอี้เหลินออกจากห้องจัดเลี้ยงอย่างง่ายดาย
สายตาของทุกคนในห้องโถงจ้องมองไปที่ร่างทั้งสองที่กำลังเดินจากไป
ก่อนที่พวกเขาจะรู้ตัว หน้าผากของพวกเขาก็เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อเย็นนับไม่ถ้วนแล้ว!
ในคืนที่มืดมืดถูกแต่งแต้มด้วยดวงดาว
รถเบนซ์สามคันจอดรออยู่หน้าประตูโรงแรม
ชิวอี้เหลินและเฉินซ้งเหิงเดินออกจากโรงแรมมาด้วยกันโดยที่ไม่ได้พูดคุยอะไร
ทันทีที่บอดี้การ์ดเห็นใบหน้าที่ซีดเซียวของชิวอี้เหลิน จึงโค้งคำนับและถามออกมาด้วยความเป็นห่วง “คุณหนูครับ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?”
ชิวอี้เหลินหายใจเข้าลึกๆ เธอพยายามปรับอารมณ์ที่ซับซ้อนและยุ่งเหยิงของตัวเอง เธอสายหัวและพูดว่า “ฉันไม่เป็นไร”
เฉินซ้งเหิงเข้าไปในรถเบนซ์พร้อมกับหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุด จากนั้นชิวอี้เหลินก็ตามเข้าไป
รถเบนซ์ทั้งสามเคลื่อนตัวออกจากรถแรมช้าๆและหายไปในค่ำคืนที่มืดมิด
ที่ห้องสำนักงานผู้จัดการทั่วไปของโรงแรมเหอผิง
ผู้จัดการหลินเจี้ยนเจิ้งนอนอยู่บนโซฟา สูบซิการ์มองไปนอกหน้าต่างของโรงแรมเหอผิง หลังจากผ่านความยากลำบากมีหลายปี… ในที่สุดตระกูลหลินและหลินเจี้ยนเจิ้งคนนี้ก็ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลหวง
ในตอนนั้นเองจู่ๆก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น เลขาหญิงในเครื่องแบบรีบเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ฉันบอกเธอกี่คครั้งแล้วว่าอย่าลุกลี้ลุกลนแบบนี้ เกิดอะไรขึ้น?” หลินเจี้ยนเจิ้งวางซิการ์ลงและตำหนิเลขาหญิง
เลขาหญิงคุกเข่า ร่างบอบบางของเธอสั่นสะท้านอย่างไม่สามารถควบคุมได้ “ขอโทษค่ะคุณหลิน เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว….”
“ทำไม?! นายน้อยหวงฆ่าคนอีกแล้วงั้นเหรอ?” หลินเจี้ยนถามออกมาอย่างใจเย็น “มีอะไรน่าตื่นเต้น? แค่นายน้อยหวงฆ่าคนไม่กี่คน ก็แค่จัดการทำความสะอาดให้เรียบร้อยก็เท่านั้น”
ด้วยอารมณ์ที่รุนแรงของหวงซู่หยาง เขามักจะเข่นฆ่าผู้คนในโรงแรมเหอผิงนี้เสมอ สุดท้ายศพเหล่านั้นก็จะถูกจัดการโดยหลินเจี้ยนเจิ้ง สำหรับหลินเจี้ยนเจิ้งแล้วการที่นายน้อยหวงนั้นสังหารผู้อื่นไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร
“มะ…ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ” เสียงของหญิงสาวสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว “ปะ..เป็น นายน้อยหวงที่ถูกฆ่าค่ะ!”
“ห๊ะ!” ซิการ์ในปากของหลินเจี้ยนเจิ้งตกลงพื้น ทั้งตัวของเขาราวกับถูกแช่แข็งไปในทันที
“อะ… อะไรนะ?” นัยน์ตาของหลินเจี้ยนเจิ้งเบิกกว้าง เขาจ้องมองไปที่เลขาหญิงอย่างไม่เชื่อ
“นายน้อยหวง… ในห้องจัดเลี้ยง … ตายแล้ว!” เสียงของเลขาหญิงสั่นกลัว
เปรี้ยง! หลินเจี้ยนเจิ้งราวกับถูกฟ้าผ่าจนหัวใจของเขาแทบจะหยุดเต้น!
เขาลุกขึ้นจากโซฟาทันที จากนั้นร่างอวบอ้วนของเขาก็รีบวิ่งออกไป!
หลินเจี้ยนเจิ้งรีบวิ่งไปที่ทางเข้าห้องจัดเลี้ยงราวกับหมูป่าที่ไร้สติ!
ในใจกลางห้องจัดเลี้ยง ศพ!ของหวงซู่หยางนอนจมกองเลือดอยู่ รูม่านตาของเขาเบิกกว้างพร้อมกับมีบ่อเลือดบ่อใหญ่ที่ไหลออกมาจากรูที่มีตะเกียบชุ่มเลือดปักอยู่
เมื่อได้เห็นฉากนี้ สีหน้าของหลินเจี้ยนเจิ้งก็ซีดลงทันที! ร่างอ้วนไม่สามารถยืนอยู่ได้อีกต่อไป ขาของเขาอ่อนแรงจนทรุดลงกับพื้น
นายน้อยหวง… ตายแล้วงั้นเหรอ?!!
……
ท่ามกลางความมืด รถเบนซ์สีดำสามคันค่อยๆเคลื่อนผ่านบนถนนช้าๆ
ชิวอี้เหลินนั่งอยู่ในรถด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
หวงซู่หยาง ทายาทของตระกูลหวงจะตายไปทั้งแบบนี้จริงๆเหรอ?
ในตอนนี้ชิวอี้เหลินเต็มไปด้วยความซับซ้อนในใจ ทั้งกลัวทั้งกังวล ลูกชายคนโตของตระกูลหวงถูกฆ่าแบบนี้ เมืองเซี่ยงไฮ้จะต้องเดือดไปทั่วอย่างแน่นอน!
ตระกูลหวงจะไม่มีวันยอมกับสิ่งที่เกิดขึ้น!
ด้วยดวงตาที่สวยงาม เธอหันหน้าไปมองเฉินซ้งเหิงที่อยู่ข้างๆอย่างซับซ้อน
“คุณ… คุณฆ่าเขาทำไม?” ชิวอี้เหลินถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
เฉินซ้งเหิงที่นั่งมองไปนอกหน้าต่าง หันกลับมาตอบทีละคำอย่างช้าๆ
“ชะตาเขาขาดตั้งแต่เขาเล็งปืนใส่ผมแล้ว”
ในใบโลกนี้คนที่กล้าเล็งปืนมาที่เขา ไม่มีใครเลยสักคนที่ยังมีชีวิตรอดมาถึงตอนนี้!
ฟันขาวของชิวอี้เหลินกัดริมฝีปากแดงของเธอแน่นและพูดออกมาอย่างกังวล “คุณหุนหันพลันแล่นเกินไป คุณฆ่านายน้อยหวงไปแบบนี้ มันจะต้องกลายเป็นเรื่องใหญ่อย่างแน่นอน”
“เขาตั้งใจจะฆ่าผม ถึงผมจะไม่ฆ่าเขาวันนี้ สักวันเขาก็ต้องตายเพราะผมอยู่ดี” เฉินซ้งเหิงพูดออกมาด้วยใบหน้าเย็นชา
เขาหยิบบุหรี่ออกมาและจุดไฟ รูปลักษณ์ที่สง่างามนี้มันทำให้ผู้คนแทบไม่เชื่อว่าเขาคนนี้จะเพิ่งฆ่าคนมาจริงๆ!
ดวงตาที่สวยงามของชิวอี้เหลินเผยให้เห็นถึงความกังวล
เธอคิดในใจว่าถึงอย่างนั้นก็คุยกันให้มันจบดีกว่านี้ไม่ได้หรือไง? เมื่อเรื่องมันมาถึงขั้นนี้ มันก็ยากแล้วที่จะแก้ไขความเกลียดชังของตระกูลหวงได้
“แต่ถึงยังไงเขาก็เป็นถึงลูกชายของหวงเจิ้งหมิงนะ ในเมืองเซี่ยงไฮ้ ตระกูลหวงนั้นมีอิทธิพลมากมาย พวกเขาไม่มีทางที่จะปล่อยคุณไปง่ายๆแน่นอน” ชิวอี้เหลินพูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ก็แค่ตระกูลหวง ในสายตาของผมพวกนั้นมันก็ไม่ต่างจากมดหรอก” เฉินซ้งเหิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาพร้อมกับควันบุหรี่ลอยออกมาจากปาก เขาไม่เคยเห็นคนพวกนั้นอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย ไม่ต้องพูดถึงคนพวกนั้นหรอก แม้แต่ทั่วทั้งทิศตะวันตกเมื่อได้ยินชื่อเขาก็ยังต้องสั่นสะเทือน!
แค่หัวหน้าแก๊งในเมืองเซี่ยงไฮ้ มันจะมาเทียบกับ ‘ฮาเดส‘ เทวทูตแห่งความตายที่ราวกับหลุดมาจากนรกอย่างเขาได้ยังไง?
ดวงตาที่สวยงามของชิวอี้เหลินเริ่มกังวลมากขึ้น เธออยู่ในเซี่ยงไฮ้นี้มานาน ไม่มีใครรู้จักความน่ากลัวของตระกูลหวงนี้มากไปกว่าเธออีกแล้ว!
“คุณต้องออกจากเซี่ยงไฮ้คืนนี้เลย… ฉันจะจัดหาเฮลิคอปเตอร์ให้คุณและพาบินออกนอกประเทศภายในคืนนี้” ดวงตาที่สวยงามของเธอจ้องไปที่เฉินซ้งเหิงพร้อมกับขมวดคิ้ว
สถานการณ์ในคืนนี้ร้ายแรงอย่างมาก การตายของนายน้อยหวงจะทำให้เกิดคลื่นใหญ่ซัดใส่ทั่วทั้งเซี่ยงไฮ้แน่นอน! ชิวอี้เหลินไม่ต้องการให้เฉินซ้งเหิงมามีส่วนเกี่ยวข้อง ดังนั้นเธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากให้เขาหนีออกจากเซี่ยงไฮ้ไป
“นั่นไม่จำเป็น” เฉินซ้งเหิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ “ทำไมผมต้องหนีจากพวกมันด้วย?”
“ถ้าพวกมันไม่ต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ ก็ปล่อยให้พวกมันเข้ามา” เฉินซ้งเหิงกล่าวพลางหลับตาลงช้าๆ
ท่าทางไม่แยแสและหยิ่งผยอง! น้ำเสียงและท่าทางเช่นนี้ทำให้อารมณ์ของชิวอี้เหลินซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ชายลึกลับคนนี้มีตัวตนแบบไหนกันแน่? เขามีพลังที่จะต่อสู้กับตระกูลหวงได้จริงๆงั้นเหรอ?
รถ Mercedes-Benz สีดำสามคัน ขับเข้าไปในบริเวณบ้านพักฮู่ไห่ซือหยวนอย่างช้าๆ
ตั้งแต่คืนนี้เฉินซ้งเหิงจะย้ายเข้ามาอยู่ที่คฤหาสน์ฝั่งตรงข้ามของตระกูลชิวที่อยู่ห่างออกไปเพียงร้อยเมตร
เฉินซ้งเหิงก้าวออกจากรถพร้อมกับจุดบุหรี่ไว้ในปาก จากนั้นก็เดินตรงไปที่คฤหาสน์ของเขา
ในค่ำคืนที่มืดมิด เหลือเพียงชิวอี้เหลินเท่านั้นที่ยืนอยู่ เธอจ้องมองไปที่ด้านหลังของเฉินซ้งเหิงเป็นเวลานาน จากนั้นเธอก็หันกลับด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน
……
เวลาเที่ยงคืน ท้องฟ้าถูกแต่งแต้มไปด้วยแสงดาวและแสงจันทร์
แต่คืนนี้เซี่ยงไฮ้ไม่ได้สงบเหมือนทุกคืน!
รถตู้สีดำขบวนหนึ่งแล่นไปตามถนนยามค่ำคืน
“เอี๊ยดดด!” ขบวนรถตู้สีดำกระแทกเบรกหยุดที่หน้าคฤหาสน์เก่าแก่หลังหนึ่ง
ที่ระเบียงของคฤหาสน์เก่าแก่มีแผ่นโลหะอายุนับหลายร้อยปีที่สลักไว้ด้วยตัวอักษรโบราณทรงพลังสองตัว 黄宅 (บ้านตระกูลหวง)
บอดี้การ์ดกลุ่มหนึ่งลงจากรถด้วยสีหน้าที่เศร้าหมอง พวกเขาหามเปลหนึ่งออกมาจากรถตู้อย่างระมัดระวัง เปลนั้นถูกคลุมด้วยผ้าสีขาว สามารถมองเห็นโครงร่างของศพที่อยู่ภายใต้ผ้าขาวได้ลางๆ
บอดี้การ์ดคนหนึ่งรีบวิ่งไปที่ประตูคฤหาสน์เก่าแก่หลังนั้นและกระแทกเปิดประตูอย่างแรง!
“นายท่าน!… ศพ….!”
เสียงที่สั่นดังก้องไปทั่วคฤหาสน์ของตระกูลหวง!
ไม่กี่นาทีต่อมาดวงไฟของคฤหาสน์ทั้งหลังก็ถูกเปิด
ประตูไม้หนาสองบานถูกเปิดออก
หวงเจิ้งหมิงหัวหน้าตระกูลหวง ที่อยู่ในชุดคลุมที่ดูสูงศักดิ์ก้าวออกจากประตูด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม
“ศพอะไรกัน?!” หวงเจิ้งหมิงถามออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
ตระกูลหวงของเขายืนหยัดอยู่บนเซี่ยงไฮ้อย่างสงบสุขมานานนับร้อยปี แต่เที่ยงคืนวันนี้กลับมีข่าวงานศพอะไรเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน?!
บอดี้การ์ดหลายสิบคนที่ประตู คุกเข่าลงกับพื้นอย่างหวาดกลัว
ม่านตาของหวงเจิ้งหมิงหุบลงกะทันหัน!
“นายน้อยของพวกแกอยู่ไหน!?” หวงเจิ้งหมิงถามด้วยน้ำเสียงดุดัน!
คืนนี้… หวงซู่หยางลูกชายคนโตของเขา เป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงธุรกิจที่โรงแรมเหอผิง เป็นไปได้ไหมว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นที่งานเลี้ยงนั้น?
แต่หลังจากคิดสักพัก หวงเจิ้งหมิงก็ส่ายหัว มองไปทั่วทั้งเซี่ยงไฮ้ใครกันที่จะกล้ามาทำให้ตระกูลหวงของเขาขุ่นเคือง
“ตอบมาเร็วๆ ว่านายน้อยของพวกแกอยู่ที่ไหน?!” หวงเจิ้งหมิงเริ่มโมโห
กลุ่มบอดี้การ์ดที่คุกเข่าอยู่ก็ยิ่งสั่นสะท้านมากกว่าเดิม พวกเขาสบตากันและหันไปมองเปลที่อยู่ข้างหลัง
ดวงตาของหวงเจิ้งหมิงหรี่ลง จากนั้นเขาก็จ้องมองไปที่เปล
ร่างที่ดูราวกับเสือของเขาสั่นสะท้านขึ้นมาทันที! หัวใจเต้นเร็วขึ้นจนแทบจะหลุดออกมา! นั่นคือ…?!
หวงเจิ้งหมิงก้าวเดินไปที่เปลอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็กระชากผ้าขาวออกทันที!
เปรี๊ยง! หวงเจิ้งหมิงราวกับถูกฟ้าผ่า!!
ลูกชายของเขาหวงซู่หยาง ตอนนี้นอนเป็นศพร่างซีด… มีตะเกียบปักอยู่ที่คอของเขา
ร่างกายของหวงเจิ้งหมิงสั่นสะท้าน เท้าของเขากระทืบลงพื้นอย่างแรงจนพื้นแตก!!
เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน หวงซู่หยางลูกชายของเขา ตอนออกไปจากคฤหาสน์ยังมีชีวิตอยู่เลย…
เพียงไม่กี่ชั่วโมงชีวิตและความตายแยกออกจากกันได้อย่างไร?!
“มัน! เป็น! ใคร!!”
ที่หน้าคฤหาสน์ของตระกูลหวง บอดี้การ์ดหลายสิบคนคุกเข่าตัวสั่นอย่างหวาดกลัว
“ฉันถามว่ามันเป็นใคร!!” ใบหน้าของหวงเจิ้งหมิงซีดเซียวราวกับวิญญาณชั่วร้าย ทันใดนั้นเขาก็บีบคอหัวหน้าบอดี้การ์ดอย่างแรง ยกร่างหัวหน้าบอดี้การ์ดขึ้นจากพื้น “ใครมันเป็นคนทำ!! ใคร?!”
คอของหัวหน้าบอดี้การ์ดกลายเป็นสีม่วง เขาหายใจไม่ออกและเสียงของเขาก็สั่นสะท้าน “มือคือ… คนของชิวอี้เหลิน… ที่ฆ่า…นายน้อย!”
ใบหน้าของหวงเจิ้งหมิงโกรธเกรี้ยว เขาก็กระชากคอของหัวหน้าบอดี้การ์ดจนขาดออก! เลือดทะลักออกจากร่างกายที่ไร้หัว!
“ชิว..อี้..เหลิน!!” มือของหวงเจิ้งหมิงชุ่มไปด้วยเลือด ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเม็ดเลือดที่กระเด็นมาจากศพของหัวหน้าบอดี้การ์ด ในตอนนี้เขาดูราวกับปีศาจร้าย!!
“ชีวิตของทั้งตระกูลชิวต้องมาสิ้นสังเวยให้กับวิญญาณของลูกชายฉัน!!”