ตอนที่ 16 ความเย่อหยิ่ง.
เวลาหกโมงเช้า เมฆขาวก่อตัวขึ้นบนท้องฟ้าทางทิศตะวันออก
เมืองเซี่ยงไฮ้เต็มไปด้วยหมอกจากค่ำคืนที่มืดมิด
ข่าวดังข่าวหนึ่งแพร่กระจายไปในแวดวงการธุรกิจ ช็อกไปทั่วทั้งเซี่ยงไฮ้อย่างรวดเร็ว
หวงซู่หยาง ทายาทตระกูลหวงที่โด่งดัง ได้เสียชีวิตแล้วเมื่อคืนนี้
ผู้คนที่ได้ทราบข่าวต่างตกตะลึง
ข่าวนี้ทำให้เมืองเซี่ยงไฮ้ต้องสั่นสะเทือนครั้งใหญ่!
ราวกับคลื่นลูกใหญ่ที่ซัดเข้าเมืองอย่างรุนแรง
หายนะครั้งใหญ่กำลังก่อตัวขึ้น…
ในขณะที่ทั้งเมืองกำลังวุ่นวาย เฉินซ้งเหิงกำลังวิดพื้นอยู่ในคฤหาสน์โดยที่ร่างกายเต็มไปด้วยเหงื่อ
เขาสงบนิ่งราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
คฤหาสน์นี้ถูกซื้อโดยชิวอี้เหลิน เดิมทีคฤหาสน์นี้มีเจ้าของอยู่แล้วแต่อยู่ต่างประเทศ และด้วยราคาที่สูงกว่าตลาดถึง 50% คฤหาสน์นี้จึงได้รับการตกแต่งอย่างหรูหราพร้อมเข้าอยู่อาศัยทันทีเมื่อวานนี้
หลังจากเสร็จสิ้นจากการวิดพื้นเก้าพันเก้าร้อยครั้ง เฉินซ้งเหิงก็ดันตัวขึ้นและเดินเข้าไปในห้องน้ำ…
หลังจากอาบน้ำเสร็จ มีเสียงเคาะประตูดังมาจากด้านนอก
เฉินซ้งเหิงสวมเสื้อผ้าและเปิดประตูออก
“คุณเฉินคะ คุณหนูชิวอี้เหลินให้มาเชิญคุณไปทานอาหารเช้าด้วยกันค่ะ..” พี่เลี้ยงที่ยืนอยู่หน้าประตูกล่าวอย่างนอบน้อม
เฉินซ้งเหิงพยักหน้าช้าๆพร้อมกับจุดบุหรี่และเดินตามพี่เลี้ยงข้ามสนามหญ้าไปยังคฤหาสน์ตระกูลชิวที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
กลางห้องโถงของคฤหาสน์ตระกูลชิวมีโต๊ะยาวพร้อมกับอาหารเช้ามากมายเตรียมไว้พร้อมแล้ว
ชิวอี้เหลินที่อยู่ในเครื่องแบบ OL สีดำนั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหาร
ชิวหวยไห่พ่อของเธอก็นั่งอยู่หน้าโต๊ะอาหารพลิกดูหนังสือพิมพ์ในมือ
เก้าอี้ด้านซ้ายมีชิวชวงเซี่ยน้องสาวอยู่ในชุดนอนกระโปรงสีชมพู ใบหน้าของเธอบูดบึ้งเนื่องจากความหิว หากพ่อของเธอไม่ได้สั่งให้เธอรอก่อน… เธอแทบจะเขมือบอาหารที่อยู่ตรงหน้า
ทุกคนบนโต๊ะอาหารรอการมาของเฉินซ้งเหิง นี่เป็นภาพที่น่าประทับใจ แต่เสียดายที่เฉินซ้งเหิงไม่ได้สนใจ
เมื่อเห็นว่าเฉินซ้งเหิงมาถึงแล้ว ชิวหวยไห่ก็วางหนังสือพิมพ์ลง
“เสี่ยวเฉินมาแล้ว” ชิวหวยไห่กล่าวทักทายด้วยเสียงทุ้ม “นั่งลงสิ.. มาทานอาหารด้วยกัน”
ในฐานะที่เป็นผู้อาวุโสกว่า ชิวชิวหวยไห่จึงคุ้นเคยกว่าที่จะเรียกเขาว่า ‘เสี่ยวเฉิน‘
เฉินซ้งเหิงที่ได้ยินชื่อนี้ถึงกับผงะ… เสี่ยวเฉิน?! มองไปทั่วทั้งแผ่นดินจีนไปจนถึงโลกตะวันตก ไม่มีใครที่กล้าเรียกเขาด้วยชื่อนี้ เว้นแต่… อีกฝ่ายไม่ต้องการจะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป
วันนี้ นักฆ่าที่ได้ชื่อว่าเป็นเทวทูตแห่งความตายกลับถูกเรียกว่า ‘เสี่ยวเฉิน‘ (เฉินน้อย) โดยประธานบริษัทเล็กๆ
เฉินซ้งเหิงนั่งลงที่โต๊ะโดยที่ไม่ได้พูดอะไร
“เราเริ่มทานกันเถอะ” ชิวหวยไห่กล่าว
ในที่สุดชิวชวงเซี่ยก็ทนไม่ไหว เธอยื่นกรงเล็บออกมา.. คว้าข้าวโพดและเริ่มแทะอย่างหิวโหย
ชิวอี้เหลินเหลือบมองน้องสาวด้วยดวงตาที่สวยงาม… จากนั้นเธอก็หยิบมีดและส้อมขึ้นมา ค่อยๆหั่นสเต็กเป็นชิ้นเล็กๆแล้วตักเข้าปาก
เฉินซ้งเหิงหยิบมีดและส้อมขึ้นมา เขาเริ่มหั่นชิ้นสเต็กอย่างสง่างาม ทุกการเคลื่อนไหวของเขาดูราวกับชนชั้นสูงในยุโรป จนดูเหมือนเขาเป็นเจ้าชายจากประเทศไหนสักประเทศ
ชิวหวยไห่ที่นั่งอยู่หัวโต๊ะจ้องมองเฉินซ้งเหิงด้วยดวงตาที่ลึกล้ำราวกับว่าเขาต้องการจะค้นหาบางสิ่งจากชายหนุ่มลึกลับคนนี้
ชิวชวงเซี่ยทานอาหารเช้าเสร็จอย่างรวดเร็ว “พ่อคะ หนูจะขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะคะ~”
จากนั้นเธอก็ใช้ขาที่ขาวราวหิมะทั้งสองวิ่งขึ้นไปชั้นบนเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าไปโรงเรียน
ในเวลานี้ที่โต๊ะอาหารเหลือเพียงชิวหวยไห่ ชิวอี้เหลินและเฉินซ้งเหิง
ชิวหวยไห่หายใจเข้าลึกๆก่อนจะพูดออกมาว่า “เมื่อคืน… หวงซู่หยางถูกคุณฆ่าตายจริงๆเหรอ?”
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา… บรรยากาศก็เงียบลงทันที
ข่าวการเสียชีวิตของหวงซู่หยางได้แพร่กระจายไปทั่วเมืองเซี่ยงไฮ้อย่างรวดเร็ว ชิวหวยไห่ที่มีเครือข่ายข่าวเป็นของตัวเอง มันจึงเป็นธรรมดาที่เขาจะต้องสืบหาเกี่ยวกับข่าวที่น่าตกใจนี้
ดวงตาที่สวยงามของชิวอี้เหลินซับซ้อนขึ้นมา จู่ๆเธอก็วางมีดและส้อมในมือลง เมื่อคืนเธอก็เป็นหนึ่งคนที่อยู่ในเหตุการณ์ฆาตกรรมนองเลือดนั้น…
มีเพียงเฉินซ้งเหิงคนเดียวที่ยังคงเพลิดเพลินกับมื้ออาหารราวกับว่าเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบทสนทนานี้
“ใช่ ผมฆ่าเขาเอง” เฉินซ้งเหิงตอบขณะที่มือกำลังหั่นสเต็ก
แม้ว่าชิวหวยไห่จะรู้อยู่แล้ว แต่เมื่อได้เห็นท่าทางที่เย็นชาของเฉินซ้งเหิงแบบนี้ หัวใจของเขาก็สั่นสะท้านขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ถูก!
ดวงตาบ่งบอกว่าเขากำลังตกใจ
เขาหายใจเข้าลึกๆและพูดออกมาว่า “เสี่ยวเฉิน คุณกับอี้เหลินควรจะต้องออกจากเซี่ยงไฮ้กันได้แล้ว ผมจะจัดเตรียมเครื่องบินส่วนตัวเอาไว้ให้ หลังจากมื้อเช้าทั้งสองจะต้องออกจากเซี่ยงไฮ้ทันที” เสียงของชิวหวยไห่เด็ดขาด
“นั่นไม่จำเป็น” เฉินซ้งเหิงเอาส้อมเงินจิ้มเนื้อเข้าปากอย่างใจเย็น
“เสี่ยวเฉิน… เรื่องนี้จะล่าช้าไม่ได้นะ! หากถึงตอนนั้นเส้นทางของสนามบินเซี่ยงไฮ้ทั้งหมดอาจถูกตระกูลหวงปิดกั้นไปหมดแล้ว! อำนาจของตระกูลหวงนั้นครอบคลุมไปทั่วเมืองเซี่ยงไฮ้ หากต้องการจะปิดกั้นเมืองทั้งเมือง มันก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพวกเขา!” การแสดงออกของชิวหวยไห่ดูเคร่งขรึม
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ร้ายแรงอย่างมาก! นี่เป็นเหตุการณ์ที่จะสั่นสะเทือนทั่วทั้งเมืองเซี่ยงไฮ้ในรอบหลายสิบปี! ลูกชายคนโตของตระกูลหวง หนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเซี่ยงไฮ้ได้ถูกสังหาร ในตอนนี้ราวกับว่าทั่วทั้งเมืองเซี่ยงไฮ้กำลังถูกเขย่าอย่างรุนแรง!
จะมีการนองเลือดเกิดขึ้นอย่างแน่นอน!
“ก็แค่คนตระกูลหวงตายไปหนึ่งคน ทำไมคุณต้องตื่นเต้นด้วย?” เฉินซ้งเหิงถามขึ้นขณะที่กำลังบรรจงตัดชิ้นเนื้อในจาน ส้อมเงินและมีดของเขาค่อยๆจิ้มชิ้นเนื้อเข้าปาก “พวกเขาต้องการจะปิดเมืองงั้นเหรอ? ดีเลย! ผมจะได้ไม่ต้องไปตามหาพวกเขาให้ยุ่งยาก”
ชิวหวยไห่ตกตะลึง เขาอยู่ในวงการนี้มาครึ่งชีวิต… นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นชายหนุ่มที่หยิ่งผยองขนาดนี้! เป็นเพราะเขายังเด็กจึงไม่รู้ถึงความโหดร้ายของโลกนี้ หรือว่าเขามั่นใจในตัวเองกันแน่?!
ชิวหวยไห่หันมาให้ความสนใจกับลูกสาวของเขา ถึงแม้ว่าเฉินซ้งเหิงจะไม่ยอมหนีไป แต่ชิวอี้เหลินลูกสาวของเขาจะต้องไป ลูกสาวของเขาจะต้องปลอดภัย!
“พ่อคะ หนูเองก็จะไม่ไปไหนเหมือนกัน” ชิวอี้เหลินพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “หนูมีหน้าที่ต้องดูแลบริษัท หากหนูไม่อยู่แล้วใครจะมารับช่วงต่อ”
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเงียบลงทันที
เธอรู้ดีว่าตอนนี้กำลังตกอยู่ในอันตราย แต่เธอก็ไม่กลัว ในใจของเธอนั้นทั้งหวังและสงสัยว่า ชายลึกลับคนนี้จะสามารถต่อกรกับตระกูลหวงได้จริงเหรอ?!
ชิวหวยไห่ถอนหายใจ สีหน้าของเขาดูกังวลมาก ท้ายที่สุดเขาก็ไม่สามารถโน้มน้าวลูกสาวของเขาได้
“พ่อคะ พี่สาวคะ… มีอะไรรึเปล่า? ทำไมสีหน้าถึงดูไม่ดีกันเลย?” ในตอนนั้นเองเสียงหวานๆก็ดังขึ้นขัดจังหวะความเงียบ
บนบันไดวน ชิวชวงเซี่ยที่อยู่ในชุดเสื้อยืดสีขา กระโปรงพลีทสั้นสีดำ กำลังก้าวขาลงมาอย่างอารมณ์ดี
“ไม่มีอะไรหรอก น้องรีบไปโรงเรียนเถอะ เดี๋ยวจะสายเอา” ชิวอี้เหลินจิบนมร้อนและพูดออกมา
ชิวชวงเซี่ยทำหน้ามุ่ย จากนั้นก็สะพายกระเป๋า Hermes สี Jaune d’or เดินออกจากคฤหาสน์ไปพร้อมกับความสงสัย
ไม่กี่วินาทีต่อมา เสียงเครื่องยนต์ของเจ้าวัวดุ Lamborghini สีชมพูก็คำรามออกมาจากโรงรถและขับออกไป…
ชิวอี้เหลินรีบทานอาหารเช้าแล้วลุกขึ้นกล่าวคำอำลากับพ่อของเธอ
ชิวอี้เหลินและเฉินซ้งเหิงเดินออกจากตัวคฤหาสน์ไปพร้อมกัน
……
Mercedes-Benz S600 สามคันมุ่งหน้าไปยังบริษัทชิวฉี
ตลอดการเดินทาง ชิวอี้เหลินนั่งอยู่ในรถด้วยสายตาซับซ้อน ด้วยเหตุผลบางอยย่างเปลือกตาขวาของเธอกระตุกราวกับว่าเป็นการบ่งบอกถึงลางร้าย…
ทันใดนั้นก็มีแจ้งเตือนข้อความดังมาจากโทรศัพท์มือถือของเธอ
ชิวอี้เหลินเปิด Email ดูด้วยความสงสัย แต่เมื่อเห็นเนื้อหาของ Email นั้น ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็กลายเป็นซีดขาวในทันที
“มีอะไร?” เมื่อเฉินซ้งเหิงเห็นว่าการแสดงออกของชิวอี้เหลินดูไม่ปกติ เขาจึงถามออกมา
“เจ้าของโรงแรมเหอผิง… ถูกตัดขาแล้วแขวนไว้ที่หน้าโรงแรม!” น้ำเสียงของชิวอี้เหลินสั่นกลัว จากนั้นเธอก็ยื่นโทรศัพท์ให้เฉินซ้งเหิง
เฉินซ้งเหิงเหลือบมองบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ในนั้นแสดงภาพที่เปื้อนเลือด
หลินเจี้ยงเจิ้งเจ้าของโรงแรมเหอผิง ถูกแขวนไว้ที่เสาธงหน้าโรงแรมโดยไร้ขา!
นี่เป็นการประกาศสงคราม
ในที่สุด ตระกูลหวงก็เริ่มลงมือแล้ว…
หวงซู่หยางตายในโรงแรมเหอผิง หลินเจี้ยงเจิ้งที่เป็นเจ้าของของโรงแรมจึงไม่สามารถปัดความรับผิดชอบได้!
นี่คือการแก้แค้นของตระกูลหวง
“มันก็แค่การเล่นของเด็กๆเท่านั้น” เฉินซ้งเหิงถอนสายตาออกอย่างไม่แยแส เขาหลับตาลงเพื่อพักผ่อนต่อ การกระทำของเขานี้ราวกับว่าภาพนั้นไม่ได้สร้างผลกระทบอะไรต่อเขาเลยแม้แต่น้อย
Mercedes-Benz ขับต่อไปอย่างเงียบๆ ภายในรถเองก็เงียบเช่นกัน
ขณะที่รถเบนซ์กำลังแล่นผ่านสี่แยก จู่ๆก็มีรถบรรทุกที่เต็มไปด้วยหินพุ่งออกมาจากข้างทาง
รถบรรทุกกำลังพุ่งเข้าหา Mercedes-Benz อย่างน่ากลัว!
ชิวอี้เหลินตกใจสุดขีด… เธอตื่นตะหนกจนทำอะไรไม่ถูก
ทีบอดี้การ์ดที่อยู่ในในรถเบนซ์คันที่ขับตามมาก็ตกใจเช่นกัน รถบรรทุกคันนั้นพุ่งออกมาด้วยความเร็ว!
“หมอบลง!” ดวงตาของเฉินซ้งเหิงหรี่ลง เขาตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว เขาเอื้อมมือไปโอบกอดที่เอวของชิวอี้เหลินทันที
“ตูม!!” รถบรรทุกพุ่งชน Mercedes-Benz เข้าอย่างแรง!
รถ Mercedes-Benz ทั้งคันกลิ้งออกไปอย่างรุนแรง จนกระเด็นไปไกลหลายร้อยเมตร
เฉินซ้งเหิงกอดชิวอี้เหลินไว้แน่น เขาหมุนตัวไปในอากาศและทิ้งตัวลงบนพื้นอย่างนุ่มนวล…