ตอนที่ 23 วันนี้ฉันมาอวยพรให้แกไปดี.
ระยะห่างระหว่างทั้งสองนั้นเพียงแค่สิบก้าว
หวงเจิ้งหมิงสามารถควักปืนออกมายิงใส่เขาได้ในทันที
แต่.. แววตาของเขากลับนิ่งสงบ
ทุกๆคนที่รู้จักเขาจะรู้ดีว่า ยิ่งหวงเจิ้งหมิงนั้นเย็นชามากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งหน้ากลัวมากเท่านั้น!
ผู้ที่สงบนิ่งได้ แม้เวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับคนที่สังหารลูกชายตนเอง… มันไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าชายผู้คนนี้มีความน่ากลัวถึงเพียงไหน
หลังจากนิ่งสงบมานาน ในที่สุดหวงเจิ้งหมิงก็เปิดปากของเขา
“แกไม่มีสิทธิที่จะเคารพศพของลูกชายฉัน!” หวงเจิ้งหมิงยืนกำหมัดแน่น เส้นเลือดปรากฏขึ้นที่หน้าผากของเขา
บนใบหน้าของเฉินซ้งเหิงปรากฏรอยยิ้มจางๆ เขาถามออกมาว่า “แล้วใครบอกว่าแกว่าฉันจะมาเคารพมันล่ะ?”
“ฉันแค่อยากมาดูว่าศพของมันเน่าหรือยังก็เท่านั้น!”
“ถึงจะตายไปแล้ว แต่ลูกชายของแกยังคงดูชั่วเหมือนเดิมเลยนะ แกว่าไหม?!”
บรรยากาศตกไปในความเงียบอีกครั้ง!
นี่…!
ตอนนี้แขกทุกคนตกตะลึงจนพูดไม่ออก
นี่มันหยามหน้ากันเกินไปแล้ว!
ทุกคำที่เขาเปล่งออกมาล้วนเป็นคำที่ท้าทายตระกูลหวงทั้งสิ้น
ทำไมชายคนนี้ถึงได้กล้าหาญถึงเพียงนี้? ใครกันที่อยู่เบื้องหลังเขา?
เขาจงใจมาที่นี่เพื่อยั่วโมโหหวงเจิ้งหมิงงั้นเหรอ?!
อย่างไรก็ตามหวงเจิ้งหมิงยังคงดูสงบ เขาทำเพียงแค่จ้องมองเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่าย
“แกกำลังรนหาที่ตาย” เส้นเลือดบนหน้าผากของหวงเจิ้งหมิงกระตุกเบาๆ เขากดความโกรธเอาไว้และกัดฟันพูดออกมาช้าๆ
ผู้นำตระกูลหวงเป็นเหมือนเป็นเหมือนกับศรในคันธนูที่พร้อมจะยิ่งออกไปได้ตลอดเวลา
แต่ในทางกลับกัน เฉินซ้งเหิงทำเพียงแค่เงยหน้าขึ้นและยิ้มออกมาเบาๆ
“ใครจะอยู่หรือตาย ฉันเท่านั้นที่เป็นคนกำหนด”
“ในเจียงหนานเล็กๆนี้ ไม่มีใครที่สามารถตัดสินชีวิตและความตายของเฉินซ้งเหิงคนนี้ได้ มีแต่ฉันที่เป็นฝ่ายกำหนดชะตาชีวิตของพวกแก”
หลังจากพูดจบเขาก็เดินไปข้างหน้าอย่างไม่แยแส
เฉินซ้งเหิงเดินตรงไปที่โลงศพที่มังกร
บอดี้การ์ดกลุ่มใหญ่รีบวิ่งมาข้างหน้าเพื่อที่จะหยุดเขา
แต่อย่างไรก็ตาม
พวกเขาก็ถูกพลังบางอย่างกระแทกจนกระเด็นออกไป
ร่างของพวกเขาลอยไปในอากาศอย่างไร้ทางสู้
เฉินซ้งเหิงเดินไปข้างหน้าพร้อมกับดูดบุหรี่อย่างใจเย็น
บอดี้การ์ดกลุ่มใหญ่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองโดนอะไร
เพราะว่ามันเกิดขึ้นเร็วมาก มันเร็วมากจนไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
ทุกๆคนเห็นเพียงเงาที่กระเด็นออกไปอย่างรวดเร็ว
คนเพียงคนเดียววิ่งฝ่าศัตรูนับร้อยราวกับวิ่งผ่านทุ่งหญ้า
คนนับร้อย แต่กลับไม่มีแม้แต่คนเดียวที่จะหยุดเขาได้
ฉากนี้ดูราวกับศรที่พุ่งแหวกอากาศ!
ชายคนหนึ่งเอาชนะคนนับร้อยอย่างง่ายดาย
รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเฉินซ้งเหิง ตอนนี้เขาไม่ได้เก็บซ่อนอารมณ์เลยแม้แต่น้อย
เขามาที่นี่ในวันนี้ก็เพื่อมาดูว่าตระกูลหวงนั้นจะมีกำลังมากขนาดไหน
และในที่สุดหลังจากที่เขามาพิสูจน์มันด้วยตัวเอง
เขาก็ผิดหวังกับมันอย่างมาก
พวกเขาบอกว่าตัวเองนั้นเป็นลูกหลานที่สืบทอดสายเลือดมาจากหวงจินหลงไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไม… เขาถึงไม่รู้สึกถึงพลังใดๆจากคนพวกนี้เลย?
เขาผิดหวังกับคนพวกนี้จริงๆ
แต่ในเมื่อวันนี้เขามาที่นี่แล้ว เขาจึงตัดสินใจที่จะบอกลากับนายน้อยหวงที่นอนแข็งอยู่ในโลงเสียหน่อย
เฉินซ้งเหิงเดินขึ้นไปบนแท่นพิธีศพอย่างช้าๆ
เขามองไปที่โลงศพมังกร จากนั้นก็ค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ๆ
ร่างไร้วิญญาณของหวงซู่หยางนอนอยู่อย่างนั้น เขาสวมชุดคลุมปักลายมังกรของแม่ทัพ แม้ว่าเขาจะตายไปแล้ว แต่หวงเจิ้งหมิงก็ไม่ยอมให้ศักดิ์ศรีของเขาเสื่อมลง ลูกชายของเขาจะต้องถูกฝังอย่างสมเกียรติ
เฉินซ้งเหิงมองไปที่ศพที่นอนนิ่งอยู่ในโลงและพูดว่า “หวงซู่หยาง ตอนที่ฉันเจอแกครั้งแรกฉันไม่เคยคิดเลยนะว่าเรื่องทั้งหมดจะต้องมาลงเอยแบบนี้ แกยังจำสิ่งที่แกเคยขู่ฉันได้ไหม? แต่ช่างมันเถอะ วันนี้ฉันมาอวยพรให้แกไปดี”
เฉินซ้งเหิงพูดช้าๆพร้อมกับจ้องมองไปที่ศพในโลงสลักมังกร
“แกกล้าดียังไง! ทำไมถึงไม่จุดธูปเคารพศพ!”
ในตอนนั้นเองก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นมาจากด้านหลัง
มุมปากของเฉินซ้งเหิงยกโค้งขึ้นและกลับไปมองที่ต้นเสียง
หวงฮงฮุยลูกชายคนที่สองของตระกูลหวง เขายืนกำหมัดแน่นอยู่หน้าโถงไว้ทุกข์ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าที่ไม่มีสิ้นสุด ถ้าพ่อของเขาไม่ได้สั่งห้ามเขาเอาไว้ ป่านนี้เขาคงจะควักปืนออกมาเหนี่ยวไกใส่ชายคนนี้ไปแล้ว
“ฉันต้องขอโทษด้วยจริงๆ ครั้งนี้ฉันรีบเกินไปก็เลยไม่ได้เอาธูปมาด้วย” เฉินซ้งเหิงแตะจมูกของเขาและกล่าวต่อว่า “งั้นเอาไว้คราวหน้าฉันจะจุดธูปให้แกละกัน!”
ทันใดนั้นความเงียบก็เข้าปลกคลุม
หวงเจิ้งหมิงพูดไม่ออก
หวงฮงฮุยพูดไม่ออก
ทุกคนที่อยู่ในงานพูดไม่ออก
ทุกๆคนตกใจกับคำพูดของเขา
รอถึงงานศพของหวงฮงฮุยแล้วจะจุดธูปให้อย่างนั้นเหรอ?!
เขาหยิ่งผยองขนาดนี้ได้อย่างไร? ถึงขนาดกล้าพูดคำที่อุกอาจเช่นนี้ต่อหน้าสมาชิกหลายคนของตระกูลหวงเลยงั้นเหรอ?
ช่างเป็นการยั่วยุที่กล้าหาญจริงๆ!
“แกกำลังติดพันความตาย” หวงฮงฮุยหยิบปืนพกสีดำออกมาอีกครั้ง
ปากกระบอกปืนสีดำชี้ไปทางเฉินซ้งเหิง
แขกที่อยู่ในมหาวิหารแตกตื่นอีกครั้ง
ทุกคนโดยรอบรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที
สถานการณ์กลับกลายเป็นไม่สามารถควบคุมได้อีกครั้ง
รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากของเฉินซ้งเหิง
“แกมีความกล้ามากพอที่จะเหนี่ยวไกลอย่างงั้นเหรอ?”
เฉินซ้งเหิงก้าวไปข้างหน้าด้วยร้อยยิ้มที่เย้ยหยัน
แทนที่เขาจะหลบแต่เขากลับเดินตรงเข้าไปหาปากกระบอกปืนสีดำแทน!
“ก่อนหน้านี้ ตอนที่พี่ชายของแกยังไม่ตาย มันก็ทำแบบนี้เหมือนกัน แต่หลังจากนั้นไม่นาน มันก็ลงไปนอนตัวแข็งอยู่ในโลงอย่างที่เห็นนั่นไง” เฉินซ้งเหิงพูดช้าๆด้วยน้ำเสียงไม่แยแส
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทุกคนที่อยู่รอบๆต่างพูดไม่ออก “….”
เขาท้าทายหวงเจิ้งหมิงยังไม่พอ ตอนนี้เมื่อมีปืนมาจ่อตรงหน้าเขายังไม่กลัวแม้แต่น้อย นี่เขาไม่กลัวตายจริงๆงั้นเหรอ?
“ปัง!” เสียงคำรามของปืนดังขึ้นพร้อมกับใบหน้าที่ดุร้าย ในที่สุดหวงฮงฮุยก็ลั่นไก
กระสุนเจาะทะลุลำกล้อง พุ่งผ่านอากาศและมุ่งตรงไปที่ศีรษะของเฉินซ้งเหิง
เมื่อเห็นเช่นนั้น รอยยิ้มที่มุมปากของเฉินซ้งเหิงก็น่ากลัวมากขึ้น
ขณะที่กระสุนกำลังจะทะลุศีรษะ ร่างของเขาก็หายไป..!
กระสุนเจาะทะลุอากาศตรงเข้าไปที่ผนังห้องโถงด้านหลัง
กำแพงมีควันกระจายออกมา
หลังจากสิ้นสุดเสียงปืน ทุกๆอย่างก็กลายเป็นเงียบราวกับป่าช้า
แขกทุกคนอ้าปากค้าง…
นี่มัน..?
เกิดอะไรขึ้น?
กระสุนพุ่งออกไป แต่… เขาหลบกระสุนได้อย่างงั้นเหรอ?
เขาหายไปได้ยังไง…?
หรือว่าเขาจะเป็นผี?!
หัวใจของทุกคนเต้นไม่เป็นจังหวะ สายตานับร้อยคู่ แต่กลับไม่มีใครเห็นว่าเฉินซ้งเหิงหลบกระสุนได้อย่างไร!
ไม่ไกลออกไป ร่างเหี่ยวย่นหลังค่อมของหวงจงอดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านด้วยความตกใจ
แม้มองไม่ทันว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขาสามารถจับเทคนิคการเคลื่อนไว้ของชายหนุ่มคนนี้ได้!
เขาเคลื่อนไหวรวดเร็วราวกับสายฟ้า
ชายคนนี้น่ากลัวเกินไป!
ทักษะเคลื่อนไหวที่น่ากลัวอะไรเช่นนี้!
ว่ากันว่ามีเพียงกองกำลังลับเท่านั้นที่เชี่ยวชาญทักษะที่น่ากลัวนี้! หน่วยทหารพิเศษใช้พลังที่น่าทึ่งเพื่อทะลุขีดจำกัดของร่างกายมนุษย์ พวกเขาเหล่านั้นแข็งแกร่งเหนือคนธรรมดามาก ร่างกายของพวกเขาหลบกระสุนได้อย่างง่ายดาย ทักษะการเคลื่อนไหวนี้อาจเรียกได้ว่าเทียบได้กับความเร็วของเสียง!
ภายใต้แว่นกันแดดของหวงเจิ้งหมิงที่ยืนอยู่ ดวงตาของเขากลายเป็นว่างเปล่า เขาไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน
เฉินซ้งเหิงยิ้มออกมา เขาหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดไฟอย่างช้าๆ
จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปหาหวงฮงฮุยทีละก้าว
“น่าเสียดาย กระสุนของแกมันยังช้าไปหน่อย”
มือของหวงฮงฮุยที่ถือปืนกำลังสั่นเทา เขาจ้องมองไปที่เฉินซ้งเหิงด้วยความไม่เชื่อ
ขาของเขาค่อยๆอ่อนแรงลง หวงฮงฮุยก้าวถอยหลังช้าๆพร้อมกับขาที่สั่น
“วันนั้นพี่ชายของแกก็ยิงใส่ฉันเหมือนกัน แต่น่าเสียดายที่ต้องจบชีวิตลงอย่างน่าอนาถ”
ด้วยรอยยิ้ม เขาค่อยๆกำนิ้วทั้งห้าของมือขวาจนเกิดเสียงข้อต่อลั่น
กร๊อบ! กร๊อบ! กร๊อบ!~
บอดี้การ์ดจำนวนนับไม่ถ้วนเข้าล้อมเฉินซ้งเหิงอย่างรวดเร็ว
สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า!
บรรยากาศกลายเป็นเยือกเย็น
ตอนนี้ อากาศคลุ้งไปด้วยกลิ่นของความตาย!
ทันใดนั้นบอดี้การ์ดคนหนึ่งก็เข้ามาขวางทางไม่ให้เฉินซ้งเหิงก้าวเดินต่อไป
“ฆ่ามัน…!” บอดี้การ์ดคนนั้นพูดออกมาด้วยใบหน้าที่เย็นชา
“นี่แกต้องการที่จะสังเวยชีวิตของตัวเองเพื่อนายน้อยขยะแบบนี้อย่างนั้นเหรอ?”
เฉินซ้งเหิงเงยหน้าขึ้นมองไปที่บอดี้การ์ดร่างกำยำคนนั้นอย่างไม่แยแส
“ก็ได้ ฉันจะทำให้พวกแกสมหวัง”
ทันใดนั้นเขายกมือขวาขึ้นไปคว้าคอบอดี้การ์ดร่างกำยำ
“กร๊อบ!!”
เสียงแตกหักดังลั่น!
ฝ่ามือของเขาเปรียบดั่งคีมตัดที่แหลมคม ภายในพริบตาเขาสามารถหักคอของบอดี้การ์ดร่างกำยำจนฉีกขาดได้อย่างง่ายดาย
ดวงตาของบอดี้การ์ดที่ถูกหักคอเบิกกว้าง เลือดสีแดงฉานทะลักออกมาจากปากแผลใหญ่
ตึก! ตึก! ตึก!
ร่างของบอดี้การ์ดก้าวถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว เลือดที่คอของเขาไหลทะลักออกมาอย่างบ้าคลั่งจนไม่สามารถหยุดมันไว้ได้!
“ตุ๊บ!!” ร่างของบอดี้การ์ดล้มลงอย่างแรง พื้นโดยรอบนองไปด้วยเลือด