ตอนที่ 26 ก็แค่รังมด.
ตลอดช่วงเช้า ข่าวที่งานศพของตระกูลหวงล่มแพร่สะพัดไปทั่วเมือง
ที่อาคารชิวฉีกรุ๊ป ภายในห้องของประธานบริษัท
ชิวอี้เหลินยืนกอดอกอยู่ที่หน้าต่าง เธอจ้องมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเหม่อลอย ขนตายาวสะบัดเบาๆราวกับว่าเธอกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่
เมื่อวานนี้เฉินซ้งเหิงได้ขอให้เธอเตรียมพวงหรีดไว้ให้สี่พวง เขาบอกว่าเขาจะไปร่วมงานศพของนายน้อยหวง
หลังจากที่ได้รู้จักเขา ในที่สุดเธอก็เข้าใจว่าชายคนนี้เป็นดั่งสัตว์ร้ายที่เธอไม่สามารถควบคุมได้
เธอไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ทำไมเขาถึงไปงานศพของตระกูลหวง? เขาทำราวกับว่าเป็นหมาป่าที่เข้าไปในถ้ำเสือ
และงานศพของตระกูลหวงก็เปรียบดั่งถ้ำเสือ…
ตั้งแต่เช้าที่ชิวอี้เหลินรู้ว่าเฉินซ้งเหิงไปงานศพของตระกูลหวง เธอก็รู้สึกกังวลมาตลอด จากนั้นเมื่อเธอรู้ว่างานศพของตระกูลหวงถูกยกเลิก มันก็ยิ่งทำให้หัวใจของเธอเต้นเร็วขึ้น เธอรู้สึกเหมือนมีบางอย่างเกิดขึ้นแต่เธอก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
เฉินซ้งเหิงไปงานศพของตระกูลหวง จากนั้นงานศพก็ถูกยกเลิก?
เขาไปทำอะไรที่งานศพกันแน่?
ตอนนี้เขายังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า..?
ในเวลาเดียวกัน
ที่ห้องของประธานใหญ่
ชิวหวยไห่เองก็รู้สึกกระวนกระวายใจไม่แพ้กัน
เขาเดินไปมาอย่างกระสับกระส่ายในห้องทำงาน
เขาอยู่ในวงการธุรกิจมาหลายสิบปี ทำให้เขามีเครือข่ายข่าวกรองที่ครอบคลุมทั่วทั้งเซี่ยงไฮ้ เมื่อเขารู้ว่าคนที่ไปขัดขวางงานศพของตระกูลหวงคือเฉินซ้งเหิง เขาที่อยู่ในฐานะผู้นำของตระกูลชิวก็ไม่สามาถรถนิ่งเฉยได้อีกต่อไป
หลังจากนั้นเขาก็ส่งคนไปยืนยันข่าว แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้อะไรกลับมาเลย ตระกูลหวงนั้นปิดข่าวทั้งหมดไว้อย่างสมบูรณ์
สิ่งที่เขารู้ในตอนนี้มีเพียงแค่ งานศพของตระกูลหวงจัดไม่สำเร็จเท่านั้น
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในงานศพนั้น…
เขาไม่สามารถคาดเดาได้เลย
เมื่อไม่รู้ก็ยิ่งไม่สบายใจ
การเข้าไปในงานศพของตระกูลหวง มันก็ไม่ต่างจากแมงเม่าที่บินเข้าสู่กองเพลิง
ถึงแม้ว่าชายหนุ่มแซ่เฉินจะมีพลังมากมาย
แม้ว่าเขาจะมีพลังมากขนาดไหน แต่สิ่งที่เขาไปเผชิญนั้นคือ ตระกูลหวงทั้งตระกูล!
ทั้งตระกูลหมายถึงอะไรน่ะเหรอ?
มันก็หมายถึงผู้คนนับพันยังไงล่ะ!
มันเป็นไปไม่ได้!
เพราะเป็นไปไม่ได้เลยที่คนๆเดียวจะจัดการกับคนนับพันได้!
การกระทำของเสี่ยวเฉินไม่เพียงแต่จะเป็นการทำร้ายตัวเองเท่านั้น แต่มันกำลังทำให้ตระกูลชิวเข้าสู่ทางตันไปด้วย
เขาจะรับมือกับการแก้แค้นของตระกูลหวงได้อย่างไร?
……
เวลา 11:00 น.
หน้าอาคารชิวฉีในวันที่แสงแดดจ้า มีรปภ. สองคนประจำการอยู่ตรงหน้าอาคาร
ทันใดนั้น Mercedes-Benz สีดำก็ขับเข้ามาจากระยะไกลและค่อยๆหยุดลงที่หน้าอาคารชิวฉี
รองเท้าหนังสีดำเงาคู่หนึ่งค่อยๆก้าวออกมา เฉินซ้งเหิงออกมาจากรถพร้อมกับจุดบุหรี่ในปากของเขาด้วยอารมณ์ที่สง่างาม
เขาเดินเข้าไปในอาคารชิวฉี
ในขณะเดียวกัน ข่าวเรื่องที่เขามาก็ไปถึงหูผู้บริหารระดับสูงหลายคนในบริษัททันที
เฉินซ้งเหิงกลับมาแล้ว
ภายในห้องของประธานบริษัท
ใบหน้าที่สวยงามของชิวอี้เหลินกลายเป็นซับซ้อน
เขากลับมา?
“ให้เขามาพบฉันเดี๋ยวนี้” ชิวอี้เหลินสั่งเลขาอย่างเคร่งขรึม
ไม่กี่นาทีต่อมา
ประตูห้องทำงานถูกผลักออก
เฉินซ้งเหิงเดินเข้ามาช้าๆพร้อมกับบุหรี่ในปาก
ชิวอี้เหลินหันกลับมา ดวงตาที่สวยงามของเธอดูซับซ้อน เธอมองสำรวจชายหนุ่มตรงหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า…
เธอแปลกใจจนพูดอะไรไม่ออก
เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเธอยังสร้างปัญหาในงานศพของตระกูลหวงอยู่เลย แต่ในตอนนี้เขากลับมาปรากฏตัวต่อหน้าเธออย่างไร้รอยขีดข่วน!
เขาออกมาได้อย่างไร?
ตระกูลหวงปล่อยให้เขากลับมางั้นเหรอ?
“คุณเฉิน คุณเป็นอะไรหรือเปล่า?” ชิวอี้เหลินถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
เฉินซ้งเหิงค่อยๆพ่นควันออกมาเบาๆ
“ทำไมผมจะต้องเป็นอะไรด้วย? ผมก็แค่ไปส่งคุณหวงเป็นครั้งสุดท้ายก็แค่นั้น”
“คุณคิดว่าผมจะเป็นอะไรงั้นเหรอ?” ใบหน้าของเฉินซ้งเหิงนิ่งสงบราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ชิวอี้เหลิน “….”
ไปส่งคนตายแบบไหนกันให้มีคนตายเพิ่ม?
“คุณเฉิน วันนี้คุณหุนหันพลันแล่นเกินไป” เสียงของชิวอี้เหลินดูเคร่งขรึมขึ้นมา แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าเฉินซ้งเหิงนั้นกลับมาอย่างปลอดภัยได้อย่างไร แต่การกระทำของเฉินซ้งเหิงในวันนี้ก็ถือเป็นการเติมเชื้อไฟเข้าไปในกองเพลิง หลังจากนี้เรื่องทั้งหมดจะรุนแรงขึ้น
“คุณใจร้อนเกินไป ตระกูลหวงก็ไม่ต่างจากถ้ำเสือ แม้ว่าคุณจะเก่ง แต่คุณก็ไม่สามารถต่อสู้กับคนทั้งตระกูลได้”
“ถ้ำเสือ?” เฉินซ้งเหิงสูดควันเข้าลึกๆและพูดต่อ
“ตระกูลหวงสำหรับผมมันก็แค่รังมดเท่านั้น”
จากนั้นเขาก็หันหลังเดินออกจากห้องทำงานไปอย่างไม่แยแส
เหลือเพียงชิวอี้เหลินที่ยืนอยู่ในห้องคนเดียว
……
งานศพของตระกูลหวงครั้งนี้ส่งผลกระทบทำให้คนทั้งเซี่ยงไฮ้ตื่นตัว
เรื่องที่งานศพจัดไม่สำเร็จกลายเป็นประเด็นของการพูดคุยไปทั่วทั้งเมือง
คลื่นลูกใหญ่กำลังจะซัดเข้าสู่เซี่ยงไฮ้แล้ว
ในฐานะตัวเอกของความวุ่นวายครั้งนี้ เฉินซ้งเหิงยังคงเอนกายบนเก้าอี้ของเขาพร้อมกับสูบบุหรี่อย่างไม่แยแสเรื่องราว
จนกระทั่งพลบค่ำประตูสำนักงานก็ถูกผลักให้เปิดออก
“คุณเฉิน ฉันเลิกงานแล้ว เรากลับกันเถอะ” ชิวอี้เหลินทักทายเขาในห้องที่เต็มไปด้วยกลิ่นควันบุหรี่
ชิวอี้เหลินไม่กล้าที่จะออกคำสั่งต่อผู้อำนวยการฝ่ายความมั่นคงภายในคนนี้ ไม่ใช่เพราะว่าเฉินซ้งเหิงนั้นเคยช่วยชีวิตเธอไว้ แต่เป็นเพราะออร่าของผู้ชายคนนี้แข็งแกร่งมากจนชิวอี้เหลินไม่กล้ามองเขาตรงๆ
เฉินซ้งเหิงเหิงทิ้งก้นบุหรี่และเดินออกจากห้องทำงานอย่างใจเย็น
ที่ชั้นล่างมีรถ Mercedes-Benz สีดำห้าคันจอดรออยู่
ทั้งสองเข้าไปในรถ
รถสีดำห้าคันขับออกไปช้าๆ
ตลอดทาง ภายในใจของชิวอี้เหลินเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย
นับตั้งแต่วันนี้ ความแค้นระหว่างตระกูลชิวและตระกูลหวงจะไม่มีทางลงเอยด้วยดีได้อีกแล้ว
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ จากนี้ไปในทุกๆวินาที อันตรายสามารถเข้าหาเธอได้ทุกเมื่อ
และบนถนนตอนนี้ก็เงียบเกินไป
รถ Mercedes-Benz ห้าคันขับไปตามถนนสายหลักเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง จากนั้นรถทั้งหมดก็เข้าไปในพื้นที่ของฮู่ไห่ซือหยวน
แม้ว่าจะไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น แต่รอบข้างมันก็เงียบเกินไปจนน่ากลัว
ขบวนรถ Mercedes-Benz ค่อยๆหยุดที่ประตูคฤหาสน์ของตระกูลชิว
ชิวอี้เหลินลงจากรถ ดวงตาที่สวยงามของเธอมองสำรวจไปรอบๆ คฤหาสน์ที่มีหน่วยอารักขาคอยคุ้มกันอย่างแน่นหนาตลอดเวลา
แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ความวิตกกังวลภายในใจของเธอลดลงเลยแม้แต่น้อย
ตระกูลหวงสืบทอดต่อกันมาเป็นร้อยปี ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมามีตระกูลมากมายถูกทำลายลงด้วยอำนาจของตระกูลหวง
เธอลองจินตนาการอยู่ในใจ หากตระกูลหวงมาที่นี่ เธอและครอบครัวของเธอจะจะเผชิญกับมันอย่างไร?
แสงไฟสว่างจ้าไปทั่วทั้งคฤหาสน์
อาหารในค่ำคืนนี้ถูกปรุงโดยหลัวเซียงหนานแม่ของชิวอี้เหลิน
บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารที่น่ารับประทาน
ท้องฟ้าด้านนอกคฤหาสน์เริ่มมืดลง
มองไปที่จานอาหารมากมายที่อยู่บนโต๊ะ แต่ชิวอี้เหลินกลับไม่รู้สึกอยากอาหาเลย ภายใต้ความกดดันของอารมณ์ที่ซับซ้อนของเธอในตอนนี้ เธอจะกินมันลงได้ยังไง? เธอถือตะเกียบแต่เธอไม่ได้มองอาหารที่อยู่ตรงหน้าเลยด้วยซ้ำ
ชิวชวงเซี่ยน้องสาวของเธอที่อยู่ข้างๆกำลังเหยียดตะเกียบออกและยกมือทั้งสองข้างขึ้นพึงกับโต๊ะที่เต็มไปด้วยจานอาหาร เธอดูไม่เหมือนกับเด็กผู้หญิงเลย
ในวัยเพียง 17 ปี เธอจะรู้ได้อย่างไรว่าความอ่อนหวานเป็นแบบไหน? และยิ่งไปกว่านั้นเธอไม่ใช่เด็กสาวที่อ่อนโยน
เด็กหญิงตัวเล็กเอื้อมมือไปคว้าปูตัวใหญ่ขึ้นมาจากจานและเริ่มขยับเปลือกอย่างชำนาญ
แม้ว่าเปลือกปูขนฮอกไกโดจะกองอยู่เต็มตรงหน้าเธอ แต่เธอก็ไม่ได้สนใจเลยสักนิด เพราะคติคลาสสิคประจำตัวของเธอที่ว่า ‘วันนี้กินไปก่อน พรุ่งนี้ค่อยลด‘
“พี่สาว หนูได้ยินมาว่ามีคนไปทำลายงานศพของนายน้อยตระกูลหวงงั้นเหรอคะ?”
ชิวชวงเซี่ยแทะปูขนฮอกไกโดพร้อมกับกระพริบตาที่สวยงามมองไปที่ชิวอี้เหลินอย่างอยากรู้อยากเห็น
ทันทีที่คำถามนี้ออกมา… บรรยากาศก็กลายเป็นเงียบไปทันที!