ฮาเดสผู้สังหารพระเจ้า
ตอนที่ 38 สังโลงศพเอาไว้ให้ตัวเองด้วย
“กริ้งๆ!” เสียงเรียกเข้ามือถือดังขึ้น
เฉินซังเหิงผงะ เขาลังเลไปครู่หนึ่งจากนั้นก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา
เฉินซังเหงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาดู… ชื่อผู้โทรปรากฎบนหน้าจอ: ชิวอี้เหลิน
เมื่อเห็นอย่างนั้นเจตนาฆ่าไม่มีที่สิ้นสุดในสายตาของ
เฉินซังเหิงก็สงบลง
เขารับโทรศัพท์
“คุณเฉิน คุณ… โอเคไหม?” เสียงที่น่าดึงดูดของชิวอี้เหลินดังออกมาจากโทรศัพท์อย่างกังวล
่ ่
“ผมไม่เป็นไร ตอนนี้ผมกําลังทานอาหารอยู่” เฉินซึ่งเหิงกล่าวอย่างใจเย็น
“ทานอาหาร? คุณต่งไม่ได้ทําให้คุณลําบากใช่ไหม?” ชิวอี้เหลิน ถามด้วยความเป็นห่วง
เฉินซังเหิงยิ้มจางๆ “ไม่หรอก คุณต่งดูแลผมดีมาก”
คุณต่งที่กําลังคุกเข่าอยู่บนพื้นตัวสั่นอีกครั้ง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกลัวอย่างยิ่ง
“โอ้… ถ้าอย่างนั้นก็กลับมาเร็วๆ นะคะ… ฉันจะรอคุณที่บริษัท” ชิวอี้เหลินที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์พูดเบาๆ
“โอเค” เฉินซึ่งเหิงตอบตกลงแล้ววางสาย
หลังจากวางโทรศัพท์ลง เขาก็เหลือบมองคุณต่งเบาๆ
หัวใจของต่งกั่วหูสั่นอย่างแรง เขาคุกเข่าด้วยความกลัวและส่ายหัวอย่างรุนแรง ”นายท่านได้โปรดอย่าฆ่า ผมเลย!จะให้ผมเป็นวัวเป็นม้าผมก็ยอมทั้งหมด จะให้ผมเป็นหมาก็ยังได้!ได้โปรดนายท่าน ได้โปรดเถอะ!”
ดวงตาของเฉินซังเหิงสงบ เขาทําเพียงแค่จ้องมองอย่างไม่
แยแส
“ตั้งแต่วินาทีที่คุณลั่นไก คุณก็ได้ตายไปแล้ว” เฉินซังเหิงมองอย่างแผ่วเบา เขาหยิบกระดาษทิชชูจากโต๊ะอาหารและเช็ดคราบเลือดออกจากมือ
ในโลกนี้ถ้าคุณกล้าที่จะยิงใส่ “ฮาเดส มันก็เท่ากับว่าคุณได้ตายไปแล้ว!
เฉินซังเหิงจะไม่ปล่อยให้ใครก็ตามที่ข่มขู่เขา รอดไปได้
จากนั้นเขาก็ก้มหน้าลงมองรองเท้าหนังใต้ฝ่าเท้า จากนั้นเขาก็ยกเท้าขึ้นและเช็ดคราบเลือดบนรองเท้าออก
“ได้โปรด นายท่าน ปล่อยผม… ไม่ว่าท่านอยากได้อะไรผมจะให้ทั้งหมด… ผมจะเป็นสุนัขให้ท่าน! ผมจะเป็นวัวเป็นม้าให้ท่าน!” ต่งคิ้วหูตัวสั่น เขาคลานไปอยู่ใต้เท้าของเฉินซังเหิงขอความเมตตาอย่างน่าสังเวช
เขาซึ่งเป็นนายใหญ่แห่งต่งเหมินผู้สง่างามแต่ในเวลานี้มันได้กลายเป็นเช่นนี้ไปแล้ว มันน่าอายและน่าตกใจเกินไป
ก่อนหน้านี้ เขานั่งอยู่บนโซฟาหนังเสืออย่างน่าเกรงขาม
แต่ในวินาทีถัดมา เขากลับต้องกลัวจนรดกางเกงขาของเขาหัก และตอนนี้เขาก็พยายามคลานด้วยร่างกายที่ส้นเทาไปที่เท้า อ้อนวอนขอความเมตตาอย่างน่าสังเวช
เฉินซึ่งเหิงจุดบุหรี่และมองดูรองเท้าหนังสีดําแวววาวใต้ฝ่าเท้าของเขา
ตอนนี้รองเท้าของเขาสะอาดแล้ว และเขาก็ไม่อยากให้มันเปื้อนอีก
สายก่อนน่านี้ได้เตือนสติของเขาว่า ความปลอดภัยของผู้หญิงที่คุยโทรศัพท์เมื่อครู่นี้สําคัญกว่า เขาต้องรีบไปที่นั่น ไม่อย่างนั้นหากเกิดอะไรขึ้นกับผู้หญิงคนนั้น แผนการทั้งหมดที่นําไปสู่ ”องค์กรพระคัมภีร์” ก็จะสูญเปล่า
“เอาล่ะ ชีวิตของคุณ เอาไว้คราวหน้าก็แล้วกัน” ดวงตาของเฉินซังเหิงสงบลง เขาติดกระดุมและจัดชุดสูท
“สั่งโลงศพเอาไว้ให้ตัวเองด้วย ในอีกสามวันคุณจะได้ใช้มัน”
นัยน์ตาของเขาดูเฉยเมยพร้อมกับมีบุหรี่ที่อยู่ในปากจากนั้นก็เหยียบลงบนซากศพเพื่อไม่ให้เปื้อนเลือดค่อยๆเดินออกจากคฤหาสน์ไป
รอบๆ สมาชิกชุดดําตัวสั่นด้วยความห วาดกลัวจนก้าวถอยหลังทุกคนมองเขาด้วยความสยดสยอง ราวกับว่ากําลังมองปีศาจ
ตอนนี้มืดแล้ว ดวงดาวปรากฏบนท้องฟ้ายามค่ําคืนที่มืดมิด
เฉินซ้งเหิงมองขึ้นไปที่ดวงดาวในคืนที่มืดมิดและพ่นควันออกมา
วินาทีถัดมา พื้นดินใต้ฝ่าเท้าของเขาก็ทรุดลงทันที! ร่างของเขาพุ่งขึ้นไปบนฟ้าราวกับซุปเปอร์แมน เขากระโดดขึ้นไปบนฟ้าและหายไปในคืนที่มืดมิด
เวลาหกโมงเย็น ที่อาคารชิวฉี
ภายในอาคารชิวฉี พนักงานในบริษัทเลิกงานกันหมดแล้วเหลือเพียงชิวอี้เหลินที่นั่งอยู่คนเดียว
ชิวอี้เหลินยืนอยู่หน้าหน้าต่างที่สูงจากพื้นจรดเพดานของห้องสํานักงาน ด้านนอกหน้าต่างเป็นทิวทัศน์พระอาทิตย์ตกที่สวยงาม จิตใจของเธอกําลังรู้สึกกังวล แขนเรียวบางของเธอโอบไหล่อันหอมกรุ่นของตัวเองไว้เบาๆ ผมยาวดูยุ่งเหยิงเล็กน้อย ดวงตาที่สวยงามของเธอที่กําลังมองไปทางพระอาทิตย์ตก แต่เธอกลับไม่ได้จดจ่อกับมันเลย… เธอกําลังกังวลอ ย่างมาก
คุณเฉินออกไปตั้งแต่ตอนบ่ายจนตอนนี้ตะวันลับขอบฟ้าไปแล้ว ทําไมเขาถึงยังไม่กลับมา?
คุณต่งไม่ใช่คนธรรมดา เขาเป็นคนของโลกใต้ดิน แม้ว่าต่งเหมินและตระกูลหวงจะแข็งแกร่งพอๆกันแต่คนในสังคมของคุณต่งกลับไร้ศีลธรรมและไม่มีกฎเกณฑ์ใดๆมันจึงทําให้เธอกังวลอย่างมาก
เฉินซังเพิ่งไปคนเดียว เขาอาจจะเจอเรื่องร้าย
ทันใดนั้นเอง ประตูห้องก็ถูกดันเปิดออกพร้อมกับเสียงดังเอี้ยด
ชิวอี้เหลินหันกลับมาด้วยความประหลาดใจ… เธอเห็นว่างของชายที่คุ้นเคยยืนอยู่ที่ประตู
ชุดสูทสง่างามและผิวที่ขาวสะอาดของเขายังคงไม่เปลี่ยนไป
“คุณกลับมาแล้ว” ความกังวลในหัวใจของชิวอี้เหลินหายไปในที่สุด
“อืม” ดวงตาของเฉินซังเหิงสงบ “เรากลับบ้านกันเถอะ…”
ชิวอี้เหลินพยักหน้าหันหลังและเดินออกจากห้องทํางาน
ทั้งสองไม่ได้พูดอะไรกันต่อ แค่เดินเคียงข้างกันไปเงียบๆลงลิฟต์และออกจากอาคารชิวฉี
ด้านนอกมืดมากแล้ว ที่หน้าอาคารชิวฉี ขบวนรถ Mercedes-Benz กําลังจอดรออยู่
ทั้งสองขึ้นรถ
Mercedes-Benz สตาร์ทเครื่องแล้วขับออกไป
“คุณต่งเรียกคุณไปหาทําไม?” ขณะนั่งอยู่ในรถ ชิวอี้เหลินถามออกมาด้วยน้ําเสียงที่ซับซ้อน
ต่งเหมินเป็นกองกําลังใต้ดินที่โหดเหี้ยมและเลือดเย็นมันจึงทําให้เธอรู้สึกเป็นห่วงเขา
–
เฉินซังเหิงค่อยๆ พ่นควันออกมา “มันเป็นเรื่องเล็กน้อยเขาแค่ชวนผมไปคุยเรื่องหรวนเหวินเหย่า”
คุณหรวน?
หัวใจของชิวอี้เหลินนิ่งไป ในไม่ช้าเธอก็ตอบสนอง
หรือนี่อาจะเป็นการแก้แค้นของหรวนเหวินเหย่า
แต่เธอก็ไม่คิดว่าหรวนเหวินเหย่าจะโหดร้ายขนาดไปขอให้คุณต่งจากต่งเหมินแก้ปัญหาให้แบบนี้
ในเซี่ยงไฮ้ ไม่มีใครที่ไม่รู้ว่าต่งเหมินนั้นทําธุรกิจค้าความ
ตาย
อย่างไรก็ตาม คุณเฉินคนนี้ดูเหมือนจะไม่กลัวต่งเหมินเลย? นอกจากนี้เขายังสามารถกลับมาได้อย่างปลอดภัยอีกด้วย
ชิวอี้เหลินมองไปที่ชายที่อยู่ข้างๆ เธอโดยไม่รู้ตัว
เขานั่งอย่างเงียบๆ สูบบุหรี่เบาๆ ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูประณีต
แต่ในตอนนั้นเอง ท้องของชิวอี้เหลินก็ส่งเสียงร้องออกมา
บรรยากาศในรถดูอึดอัดขึ้นเล็กน้อย
เพราะความกังวล เธอจึงไม่ได้กินอะไรเลยทั้งวัน
“หิวไหม?” เฉินซึ่งเพิ่งหันหน้ามามองเธอ
คือ ใบหน้าที่บอบบางและสวยงามของชิวอี้เหสินเปลี่ยนเป็นสีแดงในทันที
“ไม่ ไม่ค่ะ” เธอทั้งอายและตื่นตระหนก
ในตอนนี้ ประธานหญิงที่มีอํานาจในสายตาของคนภายนอกกําลังรู้สึกเหมือนว่าตัวเองนั้นเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆ
“ไปกินข้าวเถอะ ผมเองก็หิวแล้วเหมือนกัน” เฉินซึ่งเหิงเพิกเฉยต่อคําอธิบายของเธอและพูดออกมาเบาๆ
“หือ?” ชิวอี้เหลินมองเขาด้วยดวงตาที่สวยงาม “ที่บ้านของคุณต่ง คุณไม่ได้ทานไปอาหารไปแล้วงั้นเหรอ?”
“อาหารของเขาไม่อร่อย
เฉินซังเหิงไม่อธิบายมากเกินไป แต่มันก็เป็นเรื่องจริงที่ในตอนนั้นคฤหาสน์ต่งเหมินนั้นมีแต่กองเลือดและศพ เต็มไปหมดมันทําให้เขาไม่มีความอยากอาหารเลยจริงๆ
“อั้ม” ชิวอี้เหลินตอบเบาๆ นัยน์ตาอันละเอียดอ่อนของเธอฉายแววเบาๆ “ฉันจะพาคุณไปทานอาหารที่ร้านหนึ่งอาหารที่นั่นอร่อยมาก”
“ยังไงก็ได้” เฉินช้งเหิงตอบอย่างแผ่วเบา จากนั้นก็วางมือลงบนหน้าอกของเขา หลับตาและพักผ่อน
ชิวอี้เหลินสั่งให้คนขับเปลี่ยนทางไปร้านอาหาร
สิบนาทีต่อมา ขบวนรถ Mercedes-Benz ก็หยุดอยู่ที่หน้าร้านอาหารตะวันตกที่หรูหรา
ร้านอาหารตะวันตกบลูเวล
นี่คือร้านอาหารมิชลินชั้นนําของเซี่ยงไฮ้ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยได้รับการจัดอันดับให้เป็นสามดาว
ชิวอี้เหลินเลือกที่นี่
เธอนําเฉินชงเหิงเข้าไปในร้าน
เธอเลือกตําแหน่งที่จะนั่งริมหน้าต่าง
บริกรชาวฝรั่งเศสก้าวมาข้างหน้าและยื่นเมนูให้
เมนูนี้เป็นเมนูฝรั่งเศสล้วนๆ
หากไม่เข้าใจภาษาฝรั่งเศสจะไม่สามารถสั่งได้
“คุณเฉิน คุณชอบกินอะไร? ฉันจะช่วยคุณสั่ง” ชิวอี้เหลินที่นั่งอยู่ตรงข้ามโต๊ะยื่นมือของเธอออกเพื่อจะช่วยเฉินซึ่งเหิงสั่งอาหาร เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้ภาษาฝรั่งเศส และภาษาของประเทศเองก็ซับซ้อนมากและน้อยคนนักที่จะเรียนรู้ได้
อย่างไรก็ตาม เฉินซึ่งเพิ่งพูดภาษฝรั่งเศสออกมาอย่างคล่องแคล่วและเริ่มสั่งอาหาร
“เฌอ-เวอ-อุน-สเต็ก-ฟรอยด์…”
“เอตอุนโซมง…”
การสั่งอาหารของเขานั้นสง่างามมาก สําเนียงฝรั่งเศสที่บริสุทธิ์ของเขาทําให้เขาดูสง่างามมากขึ้น
ใบหน้าที่ละเอียดอ่อนของชิวอี้เหลินนิ่งชาไป ดวงตาที่สวยงามของเธอมองไปที่ชายตรงหน้า…
ชายคนนี้ทําให้เธอประหลาดใจได้ทุกครั้งจริงๆ
เขารู้ภาษาฝรั่งเศสด้วยงั้นเหรอ?