ตอนที่ 9 ชีวิตของเธอเป็นของฉัน.
ในห้องทำงาน ดวงตาของชิวอี้เหลินเป็นประกาย
“คุณต้องการอะไรนอกเหนือจากสิ่งที่ฉันเสนอให้หรือเปล่าคะ?!” เธอจ้องไปที่เฉินซ้งเหิงอย่างใจจดใจจ่อ
“ไม่ล่ะ…” เฉินซ้งเหิงตอบอย่างไม่แยแส เขาไม่ได้สนใจเรื่องเงินเลยแม้แต่น้อย
“โอเค! ฉันจะให้ค่าตอบแทนคุณปีละ 100 ล้านหยวน นอกจากนี้ทุกๆสิ้นปีฉันก็จะให้โบนัสเงินพิเศษอีก 50 ล้านหยวน คุณโอเคไหม?” ชิวอี้เหลินถามด้วยรอยยิ้ม
“ยังไงก็ได้” สำหรับเฉินซ้งเหิง เงินจำนวนนี้ไม่ได้มีความหมายสำหรับเขาเลย
“เยี่ยมไปเลย! คุณรอสักครู่นะ ฉันจะสั่งให้เลขาเตรียมสัญญามาให้” ชิวอี้เหลินดีใจจนไม่สามารถเก็บอาการไว้ได้ เธอรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากที่ชายเขายอมรับข้อตกลง
ไม่นานเลขาซุนเสวี่ยก็นำเอกสารสัญญาจ้างเข้ามาให้
เฉินซ้งเหิงเซ็นสัญญาโดยที่ไม่ต้องอ่าน
จากนั้นชิวอี้เหลินก็อ่านสัญญาที่ชายคนนี้ลงนามอย่างละเอียด นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้รู้จักกับชื่อของผู้ชายคนนี้
เฉิน … ซ้ง … เหิง?
ชื่อนี้… ทำให้เธอหัวใจเต้นแรงอย่างอธิบายไม่ถูก
เธอมองไปที่ชื่อในสัญญาอย่างแน่วแน่ การจ้างชายลึกลับคนนี้เข้ามาในบริษัทนั้น มันอาจจะนำอันตรายที่เธอไม่คาดคิดมาด้วยก็ได้ แต่ชิวอี้เหลินก็เชื่อมั่นในการตัดสินใจของตัวเอง ตั้งแต่วินาทีที่เฉินซ้งเหิงได้ช่วยชีวิตเธอไว้ เธอเชื่อมั่นว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้มีนิสัยชั่วร้ายอย่างแน่นอน หรือต่อให้มีเธอก็ยินดีที่จะเดิมพัน!
“คุณเฉิน ยินดีต้อนรับเข้าสู่ชิวฉีกรุ๊ปอย่างเป็นทางการค่ะ” ชิวอี้เหลินยื่นมือเล็กๆออกไป
เฉินซ้งเหิงไม่ได้จับมือกับเธอ แต่มองไปที่เธออย่างเฉยเมยและพูดว่า “นับจากนี้ไปคุณอยู่ภายใต้การดูแลของผม ทุกๆอย่างจะต้องผ่านการตัดสินใจของผมเท่านั้น ต่อจากนี้ชีวิตของคุณไม่ได้เป็นของคุณอีกต่อไป แต่มันเป็นของผม เข้าใจไหม?!”
นี่เป็นคำสั่งที่เผด็จการและเอาแต่ใจอย่างยิ่ง!
มือขาวเรียวของชิวอี้เหลินห้อยอยู่กลางอากาศ ใบหน้าสวยของเธอบ่งบอกถึงความสับสน นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนกล้าพูดกับเธอด้วยท่าทางแบบนี้!
เลขาซุนเสวี่ยเองก็ยืนอยู่ข้างๆด้วยความมึนงงเช่นกัน เกิดอะไรขึ้น!? ซุนเสวี่ยทำงานที่บริษัทนี้มานานกว่าห้าปีแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนกล้าใช้น้ำเสียงที่เย่อหยิ่งแบบนี้คุยกับประธานชิว ผู้ชายปริศนาคนนี้เป็นใครกันแน่?!
ดวงตาที่สวยงามของชิวอี้เหลินประหม่า จากนั้นเธอก็ค่อยๆถอนมือกลับมา
“คุณเฉินคะ นี่คือเลขาส่วนตัวของฉัน เธอชื่อว่าซุนเสวี่ย หากคุณต้องการอะไรเพิ่มเติม คุณสามารถติดต่อเธอได้โดยตรง”
เลขาซุนเสวี่ยที่อยู่ในชุดเครื่องแบบเลขา โค้งคำนับให้กับเฉินซ้งเหิง
เฉินซ้งเหิงไม่ได้ให้ความสนใจใดๆกับซุนเสวี่ยเลยแม้แต่น้อย เขามองไปรอบๆห้องราวกับว่ากำลังค้นหาอะไรบางอย่าง จากนั้นก็ก้าวไปที่โต๊ะทำงานของชิวอี้เหลินและนั่งลงบนเก้าอี้โดยไม่สนสายตาใคร!
คิ้วของซุนเสี่ยวผูกกันเป็นปม ผู้ชายคนนี้กล้ามาก! โดยปกติแล้วประธานชิวนั้นเป็นคนที่เจ้าระเบียบสุดๆ เธอเกลียดคนที่แตะต้องสิ่งของในสำนักงานตามอำเภอใจโดยที่ไม่ได้รับอนุญาติ แต่ในตอนนี้ชายคนนี้กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานของเธอโดยตรง
ชิวอี้เหลินที่ยืนอยู่ก็ตกตะลึง เธอจ้องมองไปที่เฉินซ้งเหิงด้วยใบหน้างุนงง
มือของเฉินซ้งเหิงสอดเข้าไปใต้โต๊ะไม้มะฮอกกานี เขาหยิบอุปกรณ์โลหะสีเงินขนาดเท่าเมล็ดถั่วออกมาจากใต้โต๊ะ
“สิ่งนี้คืออะไร?” เมื่อเห็นสิ่งนั้นชิวอี้เหลินก็ถามออกมาด้วยความประหลาดใจ
“เครื่องดักฟังขนาดเล็กความถี่ต่ำ” หลังจากพูดจบเขาก็บีบโลหะเงินในมือแตกเป็นชิ้นๆ
ภายในห้องลับแห่งหนึ่งที่อยู่ในตัวเมืองเซี่ยงไฮ้
ชายคนหนึ่งกำลังสวมหูฟังสีดำ แอบฟังเสียงที่ส่งมาจากต้นสาย
จู่ๆก็มีกระแสไฟฟ้าพุ่งออกมาจากหูฟัง มันแทบจะเจาะเข้าไปในแก้วหูของเขา เขารีบถอดหูฟังออกทันที
เมื่อรู้ว่าเครื่องดักฟังถูกทำลายใบหน้าของชายคนนั้นก็กลายเป็นดุร้าย จากนั้นก็ทุบมือไปที่หูฟังอย่างรุนแรง
ภายในห้องทำงานของชิวอี้เหลิน
ใบหน้าสวยของชิวอี้เหลินซีด เธอแปลกใจอย่างมากกับสิ่งที่เห็น!
เธอไม่อยากเชื่อเลยว่า จะมีคนติดตั้งเครื่องดักฟังเอาไว้ในห้องทำงานของเธอ
เลขาซุนเสวี่ยก็มองไปที่ฉากนี้ด้วยสีหน้าตกตะลึงเช่นกัน ด้วยระบบการรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนาของบริษัท ใครกันที่กล้าเข้ามาติดตั้งอุปกรณ์ดักฟังในห้องของประธาน!
เฉินซ้งเหิงยังไม่หยุด เขาเริ่มตรวจสอบทั่วทั้งสำนักงานและก็พบอุปกรณ์ดักฟังอีกหลายชิ้น ทั้งในโซฟา โคมไฟตั้งโต๊ะ ตู้หนังสือและที่อื่นๆ
หูของเขาเหมือนกับเรดาร์ ไม่ว่าเขาเดินไปตรงไหนก็จะเจอกับอุปกรณ์เล็กๆที่แอบซ่อนไว้
เมื่อมองไปที่ชิ้นโลหะขนาดเล็กที่ถูกบดขยี้ ดวงตาที่สวยงามของชิวอี้เหลินก็กลายเป็นเย็นชา “ฉันจะต้องหาให้ได้ ว่าใครเป็นคนทำเรื่องนี้!”
“ตำแหน่งที่ติดตั้งเครื่องดักฟังไว้ มันเป็นจุดที่ต้องทำความสะอาดทั้งหมด” เฉินซ้งเหิงกล่าวอย่างใจเย็น “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมอยากให้เปลี่ยนพนักงานทำความสะอาดในบริษัททั้งหมด”
ชิวอี้เหลินรู้สึกตกใจกับคำพูดของเฉินซิงเหิง พนักงานทำความสะอาดของบริษัทเป็นคนทำอย่างนั้นเหรอ?!
หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน เธอก็พยักหน้าเห็นด้วย
“คุณช่วยฉันไว้อีกครั้งแล้ว” ชิวอี้เหลินกล่าว สิ่งที่เขาทำนี้ถือว่าเป็นการช่วยเธอไว้อีกครั้ง หากอุปกรณ์ดักฟังยังคงซ่อนอยู่ มันก็แปลว่าทั้งความลับเรื่องธุรกิจและเรื่องส่วนตัวของเธอก็จะมีคนอื่นรู้ ซึ่งแน่นอนว่าความปลอดภัยของเธอก็จะอยู่ในความเสียง
เฉินซ้งเหิงจุดบุหรี่แล้วพูดช้าๆ “ผมต้องการจะรู้สถานการณ์ทั้งหมดของบริษัทของคุณ เตรียมเอกสารมาให้ผมก่อนค่ำวันนี้”
ชิวอี้เหลินลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้าให้เลขาซุนเสวี่ย
“และก็อีกอย่าง…” เฉินซ้งเหิงมองไปที่หน้าต่างที่สูงจากพื้นจรดเพดานของห้องทำงาน “ถ้าคุณยังไม่อยากตาย ก็เปลี่ยนหน้าต่างเป็นกระจกกันกระสุนซะ”
หลังจากพูดจบเขาก็เขี่ยบุหรี่แล้วเดินออกจากห้องไป
เลขาซุนเสวี่ยทำตามที่ชิวอี้เหลินได้สั่งไว้
ชิวอี้เหลินสั่งให้ซุนเสวี่ยจัดเตรียมห้องทำงานขนาดใหญ่ให้กับเฉินซ้งเหิง
ห้องทำงานของเขาจะอยู่ติดกับห้องทำงานของชิวอี้เหลิน
นี่เป็นคำจากชิวอี้เหลินโดยตรง
เฉินซ้งเหิงเดินเข้าไปในห้องทำงานและมองไปรอบๆ
“คุณเฉินคะ คุณพอใจกับห้องทำงานนี้หรือเปล่าคะ?” ซุนเสวี่ยถามออกมาเบาๆ
เฉินซ้งเหิงพยักหน้าและนั่งลงบนเก้าอี้อย่างไม่สนใจ
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็ออกไปได้” เฉินซ้งเหิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
แม้ว่าซุนเสวี่ยจะมีหน้าตาและหุ่นที่น่าดึงดูด แต่เขาก็ไม่ได้มีน้ำเสียงอ่อนโยนต่อเลขาสาวสวยคนนี้เลยสักนิด
“หากคุณเฉินต้องการอะไร สามารถติดต่อฉันได้โดยตรงเลยนะคะ ฉันทำงานอยู่ในห้องถัดไป” ซุนเสวี่ยกล่าวก่อนที่จะปิดประตู
ตอนนี้ทั้งชั้นเก้าสิบเก้ากลายเป็นวุ่นวาย ความสงสัยของพนักงานทั้งหมดได้ระเบิดออกมาแล้ว!
ทุกคนต่างคาดเดาตัวตนของชายปริศนาคนนี้ เขาเป็นใครกัน?! เขาสามารถใช้ห้องทำงานที่อยู่ติดกับห้องประธานชิวได้ด้วยงั้นเหรอ?
นี่มันเป็นเรื่องที่แปลกมาก! ห้องนั้นเว้นวางไว้นานแล้ว แม้แต่ซุนเสวี่ย เลขาส่วนตัวของประธาน ก็ยังไม่มีสิทธิได้ใช้ห้องนั้นเลย ผู้ชายคนนั้นต้องเป็นคนที่สนิทกับประธานมากแน่ๆ!
หรือว่า เขาจะเป็นญาติของตระกูลชิว?…
ในห้องทำงาน เฉินซ้งเหิงนั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้พร้อมกับพ่นควันบุหรี่ออกมา
เขานั่งคิดบางอย่างอยู่ในหัว เขาที่มีได้รับฉายาว่าเป็นเทวทูตแห่งความตาย ที่ครั้งหนึ่งเคยทำให้ทั้งซีกโลกตะวันตกต้องหวาดผวา แต่ตอนนี้กลับนั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศเล็กๆ ในฐานะผู้ดูแลความปลอดภัย การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันเช่นนี้ ทำให้เฉินซ้งเหิงรู้สึกตลกตัวเองขึ้นมา ‘ฉันมานั่งทำบ้าอะไรที่นี่!!?’
ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าต้องรอให้องค์กรพระคัมภีร์เข้ามาโจมตี เขาจะไม่มีวันรับงานที่ไร้เดียงสาอย่างนี้แน่นอน!
ครึ่งชั่วโมงต่อมา เลขาซุนเสวี่ยเดินเข้ามาพร้อมกับแฟ้มเอกสาร
“คุณเฉินคะ นี่คือเอกสารรายงานข้อมูลลับของบริษัทที่คุณต้องการ ประธานสั่งให้ฉันนำพวกมันมามอบให้คุณค่ะ” ซุนเสวี่ยวางเอกสารลงบนโต๊ะ จากนั้นก็โค้งตัวและเดินออกจากห้องทำงานไป
เฉินซ้งเหิงหยิบเอกสารขึ้นมาพลิกดูอย่างใจเย็น
ข้อมูลรายงาน
ชิวฉีกรุ๊ปดำเนินธุรกิจหลักในการผลิตภัณฑ์ยา อุปกรณ์ทางการแพทย์ อสังหาริมทรัพย์ ประกันภัยและการเงิน
มูลค่าตลาดของบริษัทเกิน 1 แสนล้านหยวน
นี่คือบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับประเทศ
เฉินซ้งเหิงอ่านข้อมูลของบริษัทไปได้สักพัก จู่ๆสายตาของเขาก็หยุดอยู่ที่สรุปรายงานผลิตภัณฑ์ยาตัวใหม่
ตัวยาชินคังไถ่แคปซูลที่ปล่อยออกมาล่าสุด
รายระเอียดการใช้ยา: มีไข้, ปวดศีรษะ, เจ็บแขนขา, จาม, น้ำมูกไหล, คัดจมูก, ไอ, เจ็บคอและอาการอื่น ๆ ที่เกิดจากโรคไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่
ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์นี้เป็นผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ที่คิดค้นโดยชิวอี้เหลิน เผยแพร่ครั้งแรกที่โรงแรมเชอราตันเมื่อคืนที่ผ่านมา
ดวงตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อย เมื่อคืนที่ผ่านมาชิวอี้เหลินได้ปล่อยผลิตภัณฑ์ยาและจากนั้นเธอก็ถูกโจมตีโดยเซราฟิมแห่งองค์กรพระคัมภีร์!
ยิ่งไปกว่านั้นเป้าหมายของเซราฟิมเมื่อคืนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่การลอบสังหาร แต่เป็นการลักพาตัว
เป็นไปได้ไหมว่าอาจจะมีอะไรเกี่ยวกับชิวอี้เหลินที่องค์กรพระคัมภีร์นั้นต้องการจะครอบครอง?!
……
เมื่อสองปีก่อนหลังจากที่องค์กรพระคัมภีร์แทรกซึมเข้ามาในแผ่นดินจีน ก็เกิดคดีฆาตรกรรมมากมาย สองปีต่อมาทุกอย่างก็เกิดขึ้นอีกครั้ง
เฉินซ้งเหิงวิเคราะห์รายงานหน้านั้นอยู่พักใหญ่ ก่อนจะบดขยี้เป็นบอลกระดาษแล้วโยนทิ้ง
……
ที่เขี่ยบุหรี่บนโต๊ะทำงานของเฉินซ้งเหิงเต็มไปด้วยก้นบุหรี่
เขานั่งอยู่ในห้องทำงานแบบนี้ทั้งวัน จนกระทั่งดวงอาทิตย์เกือบจะลับขอบฟ้า เขาบีบก้นบุหรี่และลุกขึ้นยืน
บุหรี่ก็ไม่ต่างจากชีวิต เหล้าก็ไม่ต่างจากบ้าน ส่วนการฆ่านั้นเปรียบเหมือนทั้งสองอย่างอยู่รวมกัน นี่คือความหมายของชีวิตเขา
ชีวิตของเขาเหมือนจะใช้เวลาทั้งหมดไปกับบุหรี่ แอลกอฮอล์และการสังหารอยู่ตลอดเวลา…
เขาลุกขึ้นเดินออกจากห้องทำงาน
เวลาห้าโมงเย็น ภายในอาคารชิวฉีก็ยังคงวุ่นวาย
ผู้คนที่ใกล้ถึงเวลาเลิกงานกำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อส่งต่อให้เพื่อนร่วมงานของตัวเอง
เฉินซ้งเหิงเดินออกจากห้องไปที่ประตูห้องทำงานของชิวอี้เหลินที่อยู่ติดกัน
สายตาของพวกพนักงานมองอย่างอยากรู้อยากเห็น
ผู้ชายคนนั้นเข้าไปในห้องประธานแล้ว แถมเขายังเข้าไปโดยที่ยังไม่ได้ขอขออนุญาตเลยด้วย!
พนักที่อยู่งานแถวนั้นต่างมองหน้ากันอย่างสงสัย
ทำไมทุกๆคนถึงแปลกใจกันน่ะเหรอ! ก็เพราะประธานชิว เป็นคนที่เข้มงวดเรื่องระเบียบมากยังไงล่ะ มันทำให้ยิ่งมองยิ่งสงสัยว่าชายแปลกหน้าคนนี้เป็นใครกันแน่?!…