ตอนที่ 100 เอาจริง
ออสตินยกดาบในมือขึ้นมากันก่อนจะถอยหลังด้วยความกลัว “พวกเราไม่ได้มีเรื่อง…เรื่องบาดหมางกันอีกอย่างผมไม่รู้จักคุณดังนั้นปล่อย…เอออย่าพึ่งฆ่าผมเลยพอดีผมก่าลังนัดดวลกับไอ้บ้าคนหนึ่งอยู่ขอผมสั่งสอนเขาก่อนแล้วจะรีบยอมแพ้ออกไปในทันทีคุณตกลงไหม”
ออสตินใช้สกิลปากเจรจาในทันที แต่ยิ่งพูดกายก็ยิ่งอึ้งไม่คิดว่าหมอนี่มันจะปัญญาอ่อนได้ขนาดนี้ กายจึงถามกลับไป
“ก็นายไม่ได้รอฉันอยู่หรือไง”
ออสตินงงกับคําพูดของกาย เขาไม่เข้าใจว่าตัวเองจะไปรอ [ลอร์ดเจ็ดโลหะ]ทําเพื่ออะไร แต่ในความหลงตัวเองจนปัญญาอ่อนนั้นออสตินก็พอจะฉุกคิดขึ้นมาได้บ้าง
“แก…แกคือไอ้เด็กที่ร้านเกมนั้น เป็น…ไป…ได้ยังไง” ออสตินถึงกับอ้าปากเหวอในทันที และคิดว่าตัวเองบ้าถึงขนาดไปท้าผู้เล่นแนวหน้าอย่าง [ลอร์ดเจ็ดโลหะ]แถมยังคุยโวโอ้อวดไว้ซะเยอะ ถึงแบบนั้นออสตินกับตื่นเต้นมากกว่าเดิม แต่ยังไม่ทันพูดอะไรมากไปกว่านี้กายก็จัดการลงมือในทันที
“มาเริ่มกันเถอะ”
พูดจบกายก็ควงค้อนสั่นสะเทือนฟาดเข้าไปที่ชายตรงหน้า
“ไม่!!!” ออสตินทําได้เพียงยกมือกันตามสัญชาตญาณ แต่ช่างน่าสงสารเพราะการโจมตีของกายเร็วเกินไปค้อนฟาดเข้าไปที่กลางอกส่งออสตินลอยละลิ่วไปหลายสิบเมตรพร้อมกับเสียงร้องแหลมราวกับหญิงสาวลากยาวไปสุดทาง
ทําเอาผู้เล่นกิลด์กะโหลกแดงที่กําลังวิ่งมากผวาในเสียงร้องของออสติน
“เชี่ย..เสียงร้องนี่ชวนหลอนหูชะมัด เธอคงเจ็บน่าดู”
“หึม เมื่อกี้ไม่ใช่ผู้เล่นผู้ชายอย่างนั้นเหรอ”
“??”
ผู้เล่นพวกนั้นต่างหันมามองหน้ากัน แต่สุดท้ายก็ไม่สนใจเรื่องนี้ต่อ มันหันมาสู้กับ[ลอร์ดเจ็ดโลหะ] เพราะตอนนี้กองกําลังกะโหลกแดงมาถึงแล้ว
“ฮ่า ๆ ลอร์ดเจ็ดโลหะ เจ้าเตรียมตัวตายได้เลย” เสียงของโคเวิร์ตกะโหลกคลั่งดังขึ้นมาตอนนี้โคเวิร์ตกําลังขี่ม้ามาพร้อมกับกองกําลังทหารม้าอีก 30 นาย ทั้งหมดใช้ดาบโค้งเป็นอาวุธแบบเดียวกัน แต่การแต่งกายนั้นบอกได้อย่างชัดเจนว่าเป็นพวกทหารม้าจากกองกําลังโจร
กายที่ตอนนี้ลงมือจัดการออสตินไป หันไปเจอกับโคเวิร์ตที่กําลังพากองกําลังทหารม้าควบมาทางเขา ด้านหลังยังมีพวกผู้เล่นกิลด์กะโหลกแดงนับร้อยๆคน
กายขมวดคิ้วอย่างไม่รู้ตัวเมื่อมองเห็นภาพตรงหน้า แม้ตัวเขาจะแข็งแกร่งแต่พอเจอแบบนี้มันก็ยากจะรับมือเช่นกัน
ในตอนนั้นเองกองกําลังอีกหนึ่งก็เข้ามาประชิดกายเช่นกัน
“ฮ่า ๆ เจ้าจะยอมเป็นลูกน้องข้า นักเลง 1 ผู้นี้ไหม” เสียงของเฮนริกเจ้าของไอดีที่ใช้ฉายาว่า นักเลง1] ดังมาแต่ไกล
ทําไมมีแต่พวกบ้าเบอเยอะขนาดนี้ กายคิดในใจอย่างล่าคาน
แต่เพราะพวกนักเลงนั้นเคลื่อนที่ช่เนื่องจากไม่มีม้า นั้นทําให้กายไม่สนใจไปก่อนเขาควบเจ้าหมอกเข้าจัดการกับโคเวิร์ตก่อนในทันที
“เข้ามาสิวะ” โคเวิร์ตเองก็ไม่น้อยหน้า เขาตรงเข้าหากายเช่นกัน
ระยะห่างของทั้งสองหดสั้นลงเรื่อย ๆ 20 เมตร 15 เมตร 10 เมตร 5 เมตร 1 เมตร
“ตาย!” กายหนักของโคเวิร์ตตวัดฟันมาในนอนใส่กาย
“ห์” กายถอนหายใจในลาคออย่างเย้ยหยัน หงายตัวแนบชิดกับหลังของเจ้าหมอกหลบดาบได้อย่างง่ายดาย การหลบของกายทําให้ทั้งโคเวิร์ตและกายพุ่งผ่านกันไป
กายไม่ได้มีเจตนาจะปะทะกับโคเวิร์ตอยู่แล้ว เพราะนี่คือแดนสงครามชนะหนึ่งคนไม่มีความหมายอะไร มันต้องเป็นผู้อยู่รอดคนสุดท้ายตั้งหากถึงจะเรียกว่าชนะจริง ๆ
“ตาย!” ภายจับค้อนสั่นสะเทือนทุบเข้าไปที่ทหารม้าของกิลด์กะโหลกแดง
“อ๊าก!!!” ผู้เล่นคนนั้นร้องออกมาอย่างไม่ทันตั้งตัวเพราะในตอนแรกพวกมันคิดว่าโคเวิร์ตและกายจะสู้กันก่อน พวกตนคอยลอบโจมตีแต่กายผ่านโคเวิร์ตมาได้และไล่ฆ่าพวกเขา
ในเวลาแค่ไม่ถึง 5 วินาที่กายก็จัดการพวกบนหลังม้าไปมากกว่าสิบคนแล้วม้าของพวกกิลด์กะโหลกแดงไม่มีทางตามเจ้าหมอกของกายทันเพราะพวกมันเป็นเพียงม้าระดับ 1 เท่านั้นถ้าตัวไหนจะตามทันก็มีม้าของโคเวิร์ต
“บัดซบ แน่จริงก็มาสู้กันสิ” โคเวิร์ตตะโกนไล่หลังกาย
ดาบใหญ่ในมือของโคเวิร์ตถูกปาออกไปพุ่งเข้าหาแผ่นหลังของเขา แต่กายก็หันกลับมาใช้ค้อนสั่นสะเทือนฟาดใส่ดาบหนังที่อ ๆ ของโคเวิร์ตกระเด็นลอยไปเสียบทะลร่างของกิลด์กะโหลกแดงคนหนึ่งจนตาย
“แก!ไอ้เวรนี่ ตั้งขบวนล้อมมันไว้” โคเวิร์ตสั่งการ ทหารม้าที่เหลือก็วิ่งวนเป็นวงกลมรอบกายและเจ้าหมอกแต่ไม่มีตัวไหนเข้ามาโจมตีกายขณะเดียวกันผู้เล่นนับร้อยของกิลด์กะโหลกแดงก็มาล้อมกายไว้
“ซวยละซิ” กายมองไปรอบ ๆ ในตอนนั้นเองก็ปรากฏกองทหารม้าลึกลับปรากฏขึ้นมาอีกหนึ่งไม่ใช่ใครแต่เป็นพวกเงาที่เรียนแบบมา มันมีม้ามาด้วยนั้นทําให้ผู้เล่นที่ไม่มีม้าผู้น่าสงสารโดนไล่ฆ่าตายอย่างอนาถ
ทางด้านเดียวกันกลุ่มนักเลงก็เจอกับปัญหานี้เช่นกัน กว่าจะจัดการได้ก็ต้องทําให้ม้าไม่มีพื้นที่เคลื่อนไหวก่อนจะลุมฆ่าเงาที่ขี่ม้าแน่นอนว่าม้าเองก็เป็นเงาดังนั้นจึงโดนจัดการไปด้วย
“แบบนี้แย่แน่ พวกมันเล่นโกงแบบนี้” เฮนริกบ่นออกมา
“ลูกพี่ทําไมเราไม่เอาม้าพวกนี้มาใช้ละ ไม่ก็ไปขโมยม้าพวกนั้นมา” [นักเลง2]ชี้ไปที่มาของกิลกระโหลกแดงที่เจ้าของโดนกายเก็บไปก่อนหน้านั้นแล้ว
“ฮ่า ๆ จริงด้วย ไปเอามาเร็ว แล้วก็ไล่ฆ่าแม่งให้หมดเลย”
“แบ่งคนไปสู้กับพวกเงา ที่เหลือฆ่าลอร์ดเจ็ดโลหะ” โคเวิร์ตสั่งการก่อนจะควบม้าวนไปหยิบดาบหนักและพุ่งเข้าหากาย
“ก็เข้ามาสิ” กายและโคเวิร์ตปะทะกันในทันที ดาบสู้กับค้อน แม้แต่คนบ้าๆแบบโคเวิร์ตก่อยังต้องตกใจกับการปะทะของดาบและค้อนแต่ละครั้ง มือของโคเวิร์ตแทบจะจับดาบหนักไม่อยู่แล้วเพราะพลังที่ส่งมาจากค้อนสั่นสะเทือน
แต่ยังดีที่กิลด์กะโหลกแดงมักรอบโจมตีกายอยู่บ่อย ๆ
“ธนูเตรียมพร้อม”
“ยิ่ง!”
ลูกศรจานวนมากมาจากพวกที่ไม่ได้ขี่ม้าเล็งยิงกายในระยะประชิดมันไม่สนใจว่าจะโดนพวกเดียวกันเองหรือไม่
“เวรเอ๊ย” กายสบถออกมาเพราะตอนนี้เขากําลังได้จังหวะโจมตีช่องโหว่ของโคเวิร์ตแต่ก็ต้องถอยกลับมายกค้อนกันลูกศรที่ยกเข้ามาซึ่งนั้นไม่ใช่แค่กันให้ตัวเองแต่เป็นเจ้าหมอกด้วย
หลังจากปัดลูกศรได้หมดอย่างไม่น่าเชื่อแล้ว กายก็เจอกับการโจมตีของเงาพอดีกายใช้ค้อนสั่นสะเทือนรับการโจมตีไม่ต่างจากโล่ ก่อนจะจู่โจมกลับไปเข้าที่ศีรษะของมันร่างเงาแหลกสลายตายไปในทันที
“ฆ่ามัน มันจนมุมแล้ว”
พวกผู้เล่นกิลด์กะโหลกแดงร้องตะโกนออกมา โคเวิร์ตก็เข้ารุมล้อมสู้ด้วยเช่นกัน
“หึ ถ้างั้นคงต้องเอาจริงแล้วสินะ” กายกล่าวจบก็หยิบดาบหักสังหารออกมาถือไว้อกมือหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างถือค้อนสั่นสะเทือนไว้
“ศิลปะการต่อสู้ ปลดล็อกขีดจํากัดพละกําลัง ขั้น 1”
“ศิลปะการต่อสู้ ปลดล็อกขีดจํากัดความเร็ว ขั้น 1”
โคเวิร์ตและพวกกิลด์กะโหลกแดงสัมผัสได้ว่า บรรยากาศรอบตัวของลอร์ดเจ็ดโลหะเป็นไป แต่ไม่มีใครรู้ว่าคืออะไรที่เปลี่ยน
“เจ้าหมอกลุย” กายตบเท้าให้เจ้าหมอกวิ่งไป แม้กายจะไม่ได้จับสายบังเหียนคุมมันแต่คําสั่งง่ายๆ เจ้าหมอกก็พอเข้าใจ
เจ้าหมอกวิ่งทะยานเข้าหาโคเวิร์ตที่นําหน้าสุดเข้าปะทะกับกาย
“มาสิวะ ศิลปะการต่อสู้ ฟาดฟัน ขั้น 2” โคเวิร์ตร้องคาราม ฟาดฟันดาบใส่กาย
แต่ก่อนที่เจ้า1หมอกจะถึงโคเวิร์ตกายก็กระโดดออกจากม้าและเคลื่อนที่ด้วยความเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ พร้อมกับใช้ศิลปะการต่อสู้ออกมา
“ศิลปะการต่อสู้ ทุบ ขั้น 2”
ค้อนสั่นสะเทือนทุบเข้ามาของโคเวิร์ตดัง ตู้ม!เสียงกระดูกม้าแตกร้าวดังอย่างต่อเนื่องแรงของการโจมตีงัดทั้งม้าและคนลอยขึ้นกลางอากาศ
“มันเป็นไปได้ยังไง…” โคเวิร์ตที่ลอยอยู่ไม่อยากจะเชื่อ แต่กายยังไม่หยุดแค่นั้นหลังการโจมตีกายปล่อยมือออกจากค้อนสั่นสะเทือนเพื่อให้เร็วขึ้นความเร็วของกายยังคงมีอยู่จากศิลปะการต่อสู้ปลดล็อกขีดจํากัดความเร็วที่ใช้ไปเมื่อสักครู่
เขากระโดดเข้าหาโคเวิร์ตที่ลอยกลางอากาศจากนั้นก็จับดาบักสังหารสองมือฟันใส่โคเวิร์ต
“ศิลปะการต่อสู้ รูปแบบศาสตราวุธ ฟาดฟัน ขั้น 2”
“อ๊ากกก…” โคเวิร์ตร้องออกมาอย่างเจ็บปวด ก่อนร่างที่โดนฟันขาดท่อนจะหล่นลงพื้นแล้วก็สลายหายไปเป็นลูกไฟ
ตั้งแต่ใช้ศิลปะการต่อสู้ควบม้าเข้าหาและสังหารโคเวิร์ตนั้นใช้เวลาไม่ถึง 3 วินาทีการกระทําของกายเสริมภาพลึกลับให้กับตัวตนของลอร์ดเจ็ดโลหะอีกครั้งนี่คือการเผยศิลปะการต่อสู้ปลดล็อกขีดจํากัดให้กับผู้เล่นทั่วไปได้เห็นเป็นครั้งแรก
“มันเกิดอะไร”
“ศิลปะการต่อสู้ ใช่…ต้องใช่แน่ ๆ แต่ไม่ใช่แบบกระบวนท่า”
“ฮ่า ๆ แบบนี้พวกเราจะไปสู้มันได้ยังไง มันโกงชัด ๆ ศิลปะการต่อสู้ที่เสริมร่างกายแบบนี้”
ผู้เล่นหลายคนเริ่มสติหลุด บางคนอิจฉาลอร์ดเจ็ดโลหะที่ได้ศิลปะการต่อสู้ปลดล็อกขีดจํากัดมาครอง ถ้พวกเขาได้ไปคงสร้างชื่อเสียงและทําเงินได้มากกมายเช่นกัน
แต่ต่อให้ทุกคนนั้นจะเหม่อลอยไปถึงไหนกายก็ไม่สนใจศัตรูก็คือศัตรูวันนี้กายจะไล่ฆ่าพวกกิลก์กะโหลกแดงอีกครั้ง และในทุ่งหญ้าของโลกราชันกายก็จะไล่ฆ่าเช่นกันเขาจะทํามันจนกว่าพวกบัดซบจะยอมรับว่า“พวกมันสู้เขาไม่ได้”