ตอนที่ 33 มันเหมาะกับเจ้ามากกว่า
ซาเรียมองกายเดินเข้ามาในร้านด้วยใบหน้าที่นิ่งเฉย เธอคิดในใจว่า ‘ทำไมวันนี้เด็กนี่ดูแปลกไป’ แต่ซาเรียก็ไม่ได้สนใจมากนัก เพราะเธอยังคงมีเรื่องให้คิดอีกมาก
“เจ๊ซาเรีย ผมจะเข้าไปเล่นแดนสงครามก่อนสักเกม” กายบอกเธอจะเข้าไปแดนสงคราม
“นายมีเวลา 1 ชั่วโมงก่อนโลกราชันเริ่มขึ้น”
“ผมจะออกมาให้มัน”
กายพูดจบก็เดินไปที่แคปซูล หลังจากนอนลงไปแล้วเขาก็สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และกล่าว “ลิ้งค์เกม” หลังจากเข้ามาในแดนสงครามแล้ว กายก็ไม่รอช้าไปยังประตูบานเดิม เขาเลือกดินแดนแห้งแล้ง ห้องที่ 100 อีกครั้ง รอเพียงเวลาไม่นาน แดนสงครามก็ได้เริ่มขึ้น…
เหล่าผู้เล่นที่กระหายในการต่อสู้ได้มองไปที่ผู้เล่นคนอื่น ๆ ด้วยความกระหาย ทุกคนมีความตื่นเต้นในแววตาที่ฉายออกมา บางคนก็ว่างแผนของตัวเอง
และในเวลาลาเพียงไม่กี่วิเมื่อทุกคนเข้ามาจนหมดแล้วสัญญาณการเริ่มต้นการเข่นฆ่าในแดนสงครามก็เริ่มขึ้น…
“แดนสงคราม ดินแดนแห้งแล้ง”
“ฉากกลางคืน”
“ผู้เล่นจำนวน 1,000 คน”
“เงื่อนไขในการเคลียร์ดินแดนแห้งแล้ง”
“1. แย่งชิงเหรียญตราแห่งผู้ชนะเพื่อครอบครองทุกสิ่ง”
“2. เหลือผู้เล่น 100 คน จัดอันดับ 100 อันดับตามการสังหารมากที่สุดเพื่อแบ่งเงินรางวัล”
“เริ่มเกมแดนสงครามใน 3 2 1”
บนท้องฟ้าจุดศูนย์กลางของแดนสงครามมีข้อความประกาศขึ้นเหมือนทุกครั้ง พร้อมกับตารางอันดับ 100 อันดับสังหาร
เสียงดัง คลื่น!!!!!!!!
จากนั้นก็มีภูเขายักษ์สูงสองร้อยเมตรดันตัวขึ้นมาจากผืนดิน บนยอดเขามีเหรียญตราแห่งผู้ชนะเปล่งประกายแวววาวตามมาด้วย เงาสีดำซึ่งจำลองมาจากผู้เล่นที่เข้าร่วมถูกสร้างขึ้นบนภูเขาจำนวน 1000 ล่างเทียบเท่ากับผู้เล่น
***ตัวก๊อบปี้ กับ เงา คือสิ่งเดียวกัน***
“ฮ่า ๆ มาแล้วพวกเราลุยเลย”
“ล่าผู้เล่นหรือเงาก่อนดี”
“ฉันศึกษามาแล้วจัดการผู้เล่นมีโอกาสติดอันดับมากกว่า”
“งั้นก็ดี พวกเราพร้อมแล้วมาเล่นเกมกัน”
เหล่าผู้เล่นส่งเสียงโห่ร้องอย่างยินดี โดยเฉพาะพวกที่มากกันเป็นทีมใหญ่ ๆ ต่างวิ่งเข้าสู้กันราวกับนักเลงตีกัน
บรรยากาศรอบ ๆ นั้นต่างกับกายมาก เขามองดูผู้เล่นด้วยความหงุดหงิด มีหลายคนแค่เข้ามาวิ่งเล่นเฉย ๆ ด้วยซ้ำ ผู้เล่นเหล่านี้ไม่ได้จริงจังอะไรมากราวกับมาดื่มด่ำบรรยากาศเฉย ๆ
“ที่นี่ไม่ใช่เกม”
“โลกนี้คือสงคราม”
“พวกแกมีทุกสิ่ง”
“ส่วนฉันต้องอดทนยอมก้มหน้าเท่านั้น”
“บัดซบ! พวกแกตายไป”
“ตายไปให้หมด”
กายชักดาบเดซี่ออกมา เขาปลดปล่อยความโกรธทั้งหมดของตัวเองลงใส่ผู้เล่น กายไม่ได้เลือกจัดการกับผู้เล่นเดี่ยวเท่านั้น แต่เขายังจัดการกับผู้เล่นที่มาเป็นทีมอีกด้วย
“อ๊ากกก!!!”
“ปีศาจ ผู้เล่นนี่ทำไมถึงแข็งแกร่งขนาดนี้”
“มันคือลอร์ดเจ็ดโลหะ ผู้เล่นที่ใช้ศิลปะการต่อสู้ได้”
“ว่าไงนะ บ้าเอ๊ยทำไมมันถึงมาอยู่นี่ได้”
“ไอ้โง่ แกไม่รู้เหรอว่าลอร์ดเจ็ดโลหะประจำอยู่ที่ห้องเลข 100 ของดินแดนแห้งแล้ง ทีหลังแกหัดดูสถิติบนประตูดินแดนแห้งแล้งบ้าง”
“สถิติอะไร??”
“สถิติผู้ชนะอันดับ 1 ด้วยคะแนนสังหารมากที่สุดของดินแดนแห้งแล้งยังไงเล่า”
ผู้เล่นหลายคนได้แต่ยืนขาสั่นเมื่อได้ยินเรื่องเหล่านี้ แต่กายกลับไม่รู้เรื่องพวกนี้เลยและเขาก็ไม่สนใจด้วย เพราะตอนนี้กายกำลังสู้กับทีมผู้เล่นที่มีมากกว่า 20 คนอยู่
“ลอร์ดเจ็ดโลหะมาเป็นลูกน้องฉันซะ” ผู้เล่นที่พูดไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็น [นักเลง1] ชายคนนี้ยังตามมา
ผู้เล่นทั้ง 20 คนมีชื่อเหมือนกันนั้นก็คือ [นักเลง 1] จนถึง [นักเลง 20]
กายมอง [นักเลง 1] แล้วก็โมโห ‘ไอ้บ้านี่พามา 5 คน..สู้ฉันไม่ได้เลยไปจ้างคนมาเข้าทีมเพิ่มมาอีกสินะ’
“ศิลปะการต่อสู้ รูปแบบศาสตราวุธ ฟัน”
“ฟัน…………..”
“ฟัน……….”
“ฟัน……”
“ฟัน…”
กายใช้ศิลปะการต่อสู้ติดต่อกัน 5 ครั้งเก็บทั้งกลุ่มหมดในเวลาไม่ถึงนาที เขาไม่แม้แต่หยุดดู [นักเลง 1] ตายไปด้วยซ้ำ
“บัดซบฝากไว้ก่อนเถอะ! ฉันจะต้องให้นายมาเป็นลูกสมุนให้ได้!” เสียงของ [นักเลง 1] หายไปพร้อมกับลูกไฟลอยหายไปบนท้องฟ้า
…..
ผู้เล่นทุกคนต่างสังหารกันอย่างโหดร้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีไนเรลเข้าไปกระตุ้นพวกเขาด้วยแล้ว ผู้เล่นหลายคนเมื่อกลางวันยังคงไม่เก่งมากนัก แต่หลังจากต่อสู้หลายครั้งพวกเขาก็เริ่มปรับตัวได้ แม้จะไม่มีใครแข็งแกร่งขึ้น แต่ฝีมือในการเล่น ไม่สิฝีมือในการต่อสู้ผู้เล่นพัฒนาขึ้นมาก
หลังจากนั้น 50 นาทีเต็มกายก็ออกจากเกม ลุกออกจากแคปซูลวิ่งเข้าห้องน้ำไปอ้วก
ซาเรียมองดูเงินที่ถูกโอนเข้ามา จำนวน 350,000 บิท และก็มองกายอย่างเข้มขึง
ซาเรียถามกาย “นายไหวไหม โลกราชันกำลังจะเริ่มแล้ว”
“ผมไหว เจ๊ไม่ต้องห่วง ผมพักสัก 5 นาทีพอแล้ว”
ซาเรียพยักหน้าพยักหน้าจากนั้นก็เดินไปหยิบอาหารแช่แข็งมาอุ่นและวางไว้ที่โต๊ะที่กายนั่งกินประจำ “กินซะ”
หลังจากนั้นเธอก็หันไปแบ่งเงินกับกาย และโอนบางส่วนไปในไอดี “ลอร์ดเจ็ดโลหะ” เพื่อใช้เป็นทุนในครั้งต่อไป
……
ขณะเดียวกันที่ประตูดินแดนแห้งแล้ง ผู้เล่นต่างพากันมองรายชื่อสถิติที่ติดอยู่บนประตู
“สถิติสังหารเปลี่ยนไปอีกครั้ง”
“ใครกัน ที่มาแทนที่ลอร์ดเจ็ดโลหะที่ทำไม้เมื่อตอนกลางวัน”
“ไม่! มันไม่ใช่ใครแต่เป็นลอร์ดเจ็ดโลหะ พระเจ้า จัดการไปถึง 302 คน เหลือเชื่อ”
ผู้เล่นที่อยู่ที่ประตูดินแดนแห้งแล้งต่างก็พากันพูดถึงชื่อของผู้เล่น ลอร์ดเจ็ดโลหะ หลายคนต่างหารูปของผู้เล่นคนนี้เพื่อดูว่าเขาคือผู้เล่นอาชีพคนไหน หรือมาจากสโมสรเกมไหนกันแน่ แต่ในรูปที่ดึงออกมาจากวิดีโอทั้งหมดกลับมองไม่เห็นหน้าที่ชัดนัก เพราะกายใช้ผ้าปิดหน้าบางส่วนไว้
นั้นยิ่งทำให้ลอร์ดเจ็ดโลหะดูลึกลับเข้าไปอีก
…..
วันที่ 20 เมษายน ปีที่ 70 เวลา 00.00 น.
ภายในโลกราชัน หอพักระดับต่ำของสถาบันศาสตร์นักรบ กายตื่นขึ้นมาในห้องนอนของตัวเองเหมือนกับเช่นปกติ แต่ครั้งนี้เขาไม่ได้นอนต่อ กายลุกขึ้น แต่งตัวและเดินออกไปจากห้องไป
เขาเดินสำรวจไปรอบ ๆ สถาบันศาสตร์นักรบในเวลากลางคืนเงียบสงบที่แสนเงียบสงบ เขาเดินไปทางสนามประลอง ยังมีคนที่ฝึกฝนอย่างหนักอยู่เช่นกัน
กายยังเดินต่อไปเรื่อย ๆ จนถึงประตูทางเข้าสถาบันศาสตร์นักรบ เดินไปตามยานร้านที่เปิดตอนกลางคืน จนออกจากนอกเขตนครดาราฟ้า
นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่มาที่นครดาราที่เขาเดินสำรวจไปรอบ ๆ แบบนี้ทำให้เขาได้เห็นหลายอย่าง ได้สัมผัสกับลมเย็น ๆ และต้นไม้ขนาดใหญ่ เขาเดินมาหยุดอยู่ที่เนินเขาที่มีต้นไม้ใหญ่ ซึ่งบริเวณนี้ไม่ได้ใกล้จากประตูนครดาราฟ้า
เด็กหนุ่มทิ้งตัวลงนอนมองดูท้องฟ้าของโลกราชันโดยไม่พูดอะไรเลยแม้แต่น้อย ในความรู้สึกกายมีแต่ความสบายใจ กายค่อย ๆ ทิ้งทุกอย่างให้มันลอยหายไปกับสายลมในโลกแห่งนี้เท่านั้น
กายตื่นขึ้นมาในตอนเช้าวันต่อมา เขารู้สึกหนาวจากน้ำค้างเล็กน้อย แต่ก็รู้สึกดีด้วยเช่นกัน
“มาลุยกันต่อ” สายตาของกายเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นเขาวิ่งกลับมาที่สถาบันศาสตร์นักรบ ตรงไปที่โรงตีเหล็กไร้เวลาในทันที
และเริ่มงานหลอมแท่งเหล็กไม่หยุดทั้งวันแม้แต่ข้าวเช้าและกลางวันก็ไม่ได้กินจนกระทั้งตกเย็น กายจึงหยุดมือ เพราะมีอามาหาเขา
“มีอามีอะไรหรือเปล่า?” กายมองหญิงสาวอย่างสงสัย
“เจ้าไม่ได้มาที่ตามนัดแถมยังปล่อยให้ข้ารอตั้งนาน”
“นัด?”
“คู่ฝึกซ้อมหรือเจ้าลืมไปแล้ว”
กายได้ยินดังนั้นก็นึกขึ้นได้การฝึกซ้อมตอนเย็นที่เคยนัดกับเธอไว้ กายมองไปที่มีอาแต่สายตาของเด็กสาวกับมองไปที่ดาบเดซี่ที่เอวของเขามากว่า
“เจ้าอยากได้ดาบเล่มนี้จริง ๆ อย่างนั้นเหรอ”
“ใช่!…แต่เจ้าไม่ยอมขายให้ข้า เอ๊ะ!”
ก่อนที่หญิงสาวจะพูดจบกายก็โยนดาบเดซี่ให้กับมีอา “ดาบเดซี่มันเหมาะกับเจ้ามากกว่าข้า”
มีอารับดาบมามือของเธอสั่นเล็กน้อย “เจ้าพูดจริงใช่ไหม”
“แน่นอนมันเป็นของเจ้าแล้ว” กายยิ้มออกมาด้วยความภาคภูมิใจเล็กน้อยเมื่อเห็นมีอาดีใจ เขาเริ่มรู้สึกชอบ NPC คนนี้ขึ้นมาแล้ว
“เอาละข้ากลับไปทำงานต่อก่อน”
“เดี๋ยวก่อน! เจ้าให้ดาบข้า งั้นเอานี่ข้าให้เจ้า” มีอาสิ่งกล่องที่เธอถือมาด้วยให้กับกาย
“นี่คือ?”
“อาหารเย็นของข้า แต่ตอนนี้ข้าไม่มีเวลากินแล้ว เจ้าเอาไปกินเถอะ” เธอพูดจบก็ยัดกล่องอาหารใส่มือไนเรลก่อนจะหายไปพร้อมกับดาบเดซี่
“เออ ขอบใจนะ แต่ว่าเรื่องเงินนะ…” แต่กายพูดไม่ทันเพราะมีอาวิ่งไปไกลแล้ว “เธอคงไม่คิดว่าฉันยกให้ฟรี ๆ ใช่ไหม ช่างมันเถอะเธอคงไม่ลืมเหรียญเงินของฉันหรอก”
กายเดินกลับเข้าไปในโรงตีเหล็กไร้เวลาเพื่อทำงานต่อ แต่พอเห็นกล่องอาหารท้องของเขาก็ร้องออกมา
‘พักกินข้าวสักหน่อยคงไม่เสียเวลามากหรอกมั้ง’ กายเปิดกล่องอาหารออกมาก็ต้องตกใจ มันมีแต่อาหารแพง ๆ ทั้งนั้น
“เชี่ย! อาหารพวกนี้ราคามันไม่ต่ำกว่า 1 ทองเลย แถมยังได้มาฟรี ๆ อีก” กายยิ้มออกมา เขาจัดการลงมือกินโดยไม่เกรงใจแม้แต่น้อย
หลังจากจัดการอาหารจนอิ่มท้องแล้วกายก็ทำแท่งเหล็กตามจำนวนโควตาสำหรับ 6 วันยาว ๆ เสร็จอีกด้วย ซึ่งมันก็ทำให้เขาใช้เวลาในวันแรกของเกมจนหมด