ตอนที่ 49 กระโดดลงน้ำตก
ค้อนขวานฟาดเข้าไปที่ปลายคางของเจเดน จนร่างลอยหงายหลังตกกระแทกผืนน้ำหมดสติคาที่ไปในทันที
ตัวของกายก็ไม่ได้ดีกว่ากันมากนัก ดาบของเจเดนแม้ไม่อาจจะตัดเกราะเกล็ดทมิฬได้ แต่ก็ยังมีแรงกระแทกที่มหาศาลไม่แพ้กัน
“ต้องรีบก่อนที่คนอื่นจะมา” กายหอบหายใจแฮก ๆ เดินเข้าไปดูว่าเจเดนเป็นอย่างไรบ้าง เจเดนยังไม่ตาย ปลายคางแตกกระดูกร้าว ส่วนฟันนั้นไม่ต้องพูดถึงแถมเลือดยังไหลเต็มปากโชคดีที่มันไม่กระทบกับการหายใจ เขาได้แต่หวังว่าหมอในโลกราชันจะรักษาได้
กายลากเจเดนขึ้นมาให้พ้นน้ำพอให้เจเดนไม่จมน้ำตาย ก่อนจะลงมือค้นตัวของเจเดนอย่างไม่เกรงใจ ยังไงเขาก็ต้องหากำไรบ้าง และแล้วในที่สุดเขาก็เจอแหวนเงินเม็ดงามหนึ่งวง เหรียญทองอีกห้าสิบเหรียญ
“เหลือเชื่อ เขาพกเงินมาด้วย” กายไม่รอช้าเก็บมันลงไปทั้งหมด ที่ทำอยู่มันไม่ได้เรียกการปล้นแต่เรียกว่าสินสงคราม กายคิดเข้าข้างตัวเองก่อนจะค้นหาเหรียญตรา
เหรียญตราของเจเดนไม่ได้ซ่อนไว้แต่อย่างใด เขาแขวนมันไว้ที่คอตามปกติ อาจจะเพราะเจเดนมั่นใจมากกว่าจะไม่มีใครจัดการเขาได้และชิงมันไป
ขณะที่กายก้มลงไปดึงเหรียญตราออกมาจากคอของเจเดนและถือไว้ในมือ ในตอนนั้นก็ลูกศรยิงเข้าไปที่หน้าอกของกายอย่างรุนแรง ตัวของกายลอยไปตามแรงของลูกศรกระเด็นกระดอนไปสามตลบก่อนที่จะหยุดลง
“อ๊าก…อัก!” กายรู้สึกโคตรเจ็บหน้าอก เขารีบเอามือขึ้นมาจับดูก็เจอกับหัวลูกศรปักคาอยู่บนเกราะ มันเจาะไม่ผ่านเกราะ เมื่อมองไปยังทิศทางหนึ่งห่างไป 100 เมตรมีชายอีกคนยกธนูที่ไร้ลูกศรเล็งเข้าอยู่ แสดงให้เห็นว่านั้นเป็นฝีมือของนักเรียนชายคนนี้
นักเรียนชายมองกายพลางคิดในใจว่าตนเองดูถูกนักเรียนที่เป็นเพียงนักรบฝึกหัดขึ้น 1 ไปหน่อย จึงใช้เพียงศิลปะการต่อสู้ เจาะทะลวง ขั้น 1 เท่านั้น แต่ที่มากกว่านั้นคือสายตาของนักเรียนคนนี้สนใจเกราะที่สายใส่อยู่มาก
ในตอนนั้นเองนักเรียนชายก็หันไปพูด “พวกเจ้ามาแล้วอย่างนั้นเหรอ”
ที่ด้านหลังนักเรียนอีก 8 คนตามมาจนถึงแล้ว
“เจเดนไปไหน” หญิงสาวที่ยิงธนูใส่กายก่อนหน้านี้ถามขึ้น
“ท่านลีอาน่าเจเดนโดนมันจัดการไปแล้ว แต่มันโดนธนูข้ายิงไปน่าจะยังเจ็บหนักจนลุกไม่ขึ้นอยู่ตรงนั้น”
“ไปดูว่าเจเดนเป็นอย่างไรบ้าง ที่เหลือไปจับมัน” ลีอาน่าวิ่งนำคนอื่นไปหากาย
กายที่จุกจนลุกไม่ขึ้นไอออกมาอย่างรุนแรง ดูเหมือนเขาจะช้ำในซะแล้ว แต่พอมองขึ้นมากายก็เห็นว่าหญิงสาวหัวหน้ากลุ่มวิ่งมาทางเข้าแล้ว
“บ้าเอ๊ย” กายยังกำเหรียญตราในมือแน่น พยายามฝืนตัวลุกขึ้นมาด้วยความทุลักทุเลวิ่งออกไป บางครั้งพออยู่ในสถานการณ์คับขันคนเราก็จะมีลูกฮึดขึ้นมา ตอนนี้กายอยู่ในสภาพนั้น
ในระหว่างวิ่งไปตามน้ำ กายก็เอาเหรียญตราของเจเดนเก็บไว้ในเกราะแขน กายกลัวมันหล่นจึงยัดมันไม้ลึกกว่าปกติ
ฟริ้ว!
ลูกศรพุ่งเข้ามากกระแทกเข้าที่หลังกายอย่างเต็มแรงจนกายหน้าทิ่มลงกระแทกกับน้ำ กายฝืนสภาพที่บาดเจ็บของตัวเองล้มลุกคุกคลานวิ่งต่อ ในใจร้องตะโกนไม่หยุดว่าเจ็บฉิบหายเลย แต่ภายนอกเขาพยายามเก็บอาการเพื่อทำให้ศัตรูเข้าใจผิดว่าเขาไม่เป็นอะไร
“หมอนี่อัดมาก” หนึ่งในหญิงสาวที่ใช้ธนูกล่าวขึ้นมาด้านข้างของอาลีน่า
“มันจะไปเร็วได้สักเท่าไหร่กัน ลูก้า!” อาลีนาเรียกชื่อนักเรียนชายอีกคนที่ใช้ดาบ
“ไว้ใจข้าได้เลย” ลูก้าแค่ได้ยินที่อาลีน่าเรียกก็รู้ว่าเธอต้องการให้ทำอะไร ลูก้าเป็นชายหนุ่มร่างผอมที่เคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว ความเร็วของลูก้านั้นไม่นานก็เข้ามาประชิดตัวของกายได้แล้ว
กายที่พึ่งลุกขึ้นมาได้ พอหันกลับไปมองก็ต้องตกใจ ที่เห็นนักเรียนชายอีกคนวิ่งด้วยความรวดเร็วราวกับว่าเขาวิ่งอยู่บนน้ำ ลูก้ากระโดดข้ามหัวกายมาขวางทางไว้
เมื่อไม่มีทางเลือกกายก็กัดฟันแน่นเก็บค้อนขวานไว้ที่หลัง ก่อนจะดึงดาบกระบองเพชรออกมากวัดแกว่งเข้าสู้กับลูก้า
แต่ความเร็วของลูก้ามากเกินไป กายตามไม่ทันสุดท้ายลูก้าฟันเข้าไปที่หลังของกาย ดาบของลูก้าเฉือนกลับเกราะเกล็ดทมิฬจนเกิดประกายไฟ แต่ไร้ซึ่งเสียงการปะทะ
ตัวของกายล้มลงไป เขายังคงปลอดภัย เกราะสามารถป้องกันการโจมตีของลูก้าไว้ได้
กายหันหน้ากลับมา ใช้มืออีกข้างยันตัวถอยหลัง ขณะที่มืออีกข้างชี้ดาบไปที่ลูก้า แต่แล้วเขาก็ได้ยินเสียงน้ำไหลตกกระทบเบื้องล่างอย่างรุนแรง
ตอนนี้กายมาอยู่ที่หน้าน้ำตกห่างออกไปไม่ถึงก้าว
“ซวยแล้ว” กายไม่คิดว่าตัวเองจะวิ่งมาจนมุมที่น้ำตก เพราะตอนแรกที่หนีมา กายก็คิดว่ามันเป็นธารน้ำเล็ก ๆ แต่ไม่ใช่มันเป็นหนึ่งในสายของแม่น้ำที่ระดับน้ำไม่สูงมากนัก และอีกอย่างหมอกมันลงหน้าเขาจึงไม่ทันสังเกตุเห็น
ลูก้ายิ้มออกมา “เจ้าหนีไปไหนไม่รอดแล้ว”
ขณะเดียวกันหลังการปะทะสั้น ๆ นักเรียนในกลุ่มที่เหลือก็เข้ามาล้อมกายไว้
ในกลุ่มเขายังเป็นนักเรียนผู้ใช้ธนูและอีกคนที่ใช้โล่และดาบมือเดียวหิ้วปีกเจเดนที่ยังหมดสติตามมาด้วย
อาลีน่าก้าวเดินมาข้างหน้าด้วยท่าทีที่เหนือกว่า สายตาของเธอมองมาที่กายอย่างผู้ชนะ
ไม่รู้เพราะอะไรเขารู้สึกไม่ชอบอาลีน่าเอาซะเลย อาจเพราะเธอทำให้เขาหนีหัวซุกหัวซุนก็ได้ ไม่มีชายคนไหนชอบผู้หญิงที่ชนะตนหรอก เว้นแต่ชายคนนั้นจะชอบผู้หญิงคนนั้น
กายกลับมีอีกความรู้สึก กายอยากจะเอาชนะเธอให้ได้ สักวันเขาจะให้เธอมาอยู่แทนที่เขาอยู่ตอนนี้และเขาจะเป็นคนมองเธอแบบที่เธอมองเขาบ้าง
“เจ้าแพ้แล้ว เอาเหรียญตราออกมา รวมทั้งเหรียญของเจเดนคืนมาด้วย” อาลีน่าพูดออกมา พร้อมกับที่ยื่นมือออกไป
“ข้ายังหนีได้”
“หนียังไง กระโดดลงไปในน้ำตกอย่างนั้นเหรอ” อาลีน่ากล่าวประชด
กายหันไปก็กลืนน้ำลาย ในใจคิดว่าจะเอายังไงดี แต่พอเขากำไปที่หน้าอกก็นึกอย่างอย่างขึ้นได้
“เอาไป” กายหยิบเหรียญตราออกมาจากที่คอและเขวี้ยงไปทางอาลีน่า
อาลีน่ารับไว้ได้งอย่างง่ายดาย แม้กายจะปามาอย่างรวดเร็วก็ตาม เธอยิ้มออกมาด้วยความพอใจที่เห็นว่ากายยอมแพ้และเชื่อฟังเธอแล้ว แต่พออาลีน่าดูสิ่งที่อยู่ในมือมันกลับไม่ใช่เหรียญตราแต่เป็นก้อนหิน “บัดซบ! ซ้อมมันเดี๋ยวนี้” อาลีน่าปาหินทิ้ง แต่พอเธอหันไปมองกายปรากฏว่ากายไม่อยู่แล้ว ส่วนคนอื่น ๆ ก็ตกตะลึงอยู่
“เจ้านั้นไปไหนแล้ว” อาลีน่าตะโกนออกมาด้วยความไม่พอใจ
ทุกคนชี้ไปในทางเดียวกัน น้ำตก! อาลีน่ารีบวิ่งไปดูก็เห็นว่าด้านล่างน้ำตกที่สูง 30 เมตรมีฟองน้ำตีขึ้นมา
กายกระโดดลงน้ำตกไปจริง ๆ แถมเธอยังเห็นว่ากายยังไม่เป็นอะไร อันที่จริงเธอก็หวังว่ากายไม่เป็นอะไร เพราะเธอขี้เกียจไปตอบคำถามปู่
“บ้าเอ๊ย ใครรู้ชื่อเจ้านั้นบ้าง” อาลีน่าพูดด้วยความโมโห แต่ทุกคนก็ส่ายหัว
“หาทางลงไป เราต้องตามไปเอาเหรียญคืนมาให้ได้”
ตอนนี้นอกจากจะไม่ได้เหรียญตราจากกายแล้ว พวกเขายังเสียเหรียญตราไปอีกอัน เธอสาบานว่าถ้าก่อนจบหาตัวกายไม่เจอ เธอจะไปเค้นจากปู่เพื่อขอชื่อของกายให้ได้ อาลีน่าฮึดฮัดอย่างไม่พอใจเดินจากไป
…………
ด้านล่างใต้น้ำตกหลังจากกายกระโดดลงมา เขาก็พยายามใช้มือตะกุยตะกายน้ำขึ้นไปหายใจ แต่พอโผล่หัวขึ้นมาสูดอากาศได้ครั้งหนึ่ง ก็โดนแรงของน้ำตกอัดกระแทกจมลงไปอีกครั้ง
กายพยายามบังคับทิศทางและดำน้ำออกไปจากตรงนี้
กระแสน้ำแรงมาก พัดตัวกายไปอย่างรวดเร็ว จนแม้แต่เขาก็ควบคุมทิศทางไม่ได้ บวกกับตัวกายที่หนักมาก จากทั้งค้อนขวานและชุดเกราะเกล็ดทมิฬ ยังดีที่เขาไม่ใส่เกราะหนักไม่งั้นด้วยแรงของกายคงจมหายไปก้นน้ำตกแล้ว ส่วนดาบกระบองเพชรนั้นไม่ต้องพูดถึงมันหายไปในกระแสน้ำแล้ว
ตัวของกายไหลไปตามน้ำกระแทกกับโขดหินดัง อัก! อยู่หลายครั้ง เขาพยายามจะจับโขดหินไม่ให้ตัวเองไหลไปตามน้ำแต่ก็ไม่เป็นผล จนกระทั่งกายลอยไปไกลกว่า 1000 เมตรจึงคานขึ้นมาจากน้ำได้
“แค่ก ๆ” กายสำลักน้ำออกมาจนหมด เขาลากสังขารตัวเองขึ้นบนริมแม่น้ำก็นอนหงายอย่างหมดแรง
ในใจเขารู้สึกเสียดายสุด ๆ ไปเลยนั้นก็คือดาบกระบองเพชร อย่างน้อยถ้าเอาไปขายเขาคงได้เงินมาสักสามถึงสี่ร้อยเหรียญทอง
“เหรียญทองของข้า…” กายหลับตาลงพักหายใจอย่างหมดอาลัยตายอยาก แต่แล้วดูเหมือนจะดึกอะไรขึ้นได้ กายรีบค้นดูก็ค่อยโล่งอกเหรียญตรายังคงอยู่
ตอนนี้เขามีเหรียญตราสามเหรียญแล้ว หนึ่งเหรียญเป็นของเขา อีกเหรียญของไมก้า อีกเหรียญของเจเดน
กายเก็บเหรียญตราทั้งสามเข้าทีเดิม พร้อมกับหยิบหินก้อนเท่า ๆ กันมาอีกหนึ่งก้อน ต้องขอบคุณตอนนั้นที่เขามีก้อนหินจึงดึงความสนใจของคนอื่น ๆ ได้ ทำให้เขามีโอกาสกระโดดหนีลงน้ำตกมา
หลังจากพักพอให้ปรับลมหายใจได้แล้วกายก็รีบออกไปจากแม่น้ำ วิ่งเข้าไปในแนวป่า เขารู้สึกหนาวมาก กายต้องรีบทำตัวเองให้แห้งโดยเร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะแข็งตายได้ในคืนนี้
แต่จะให้มาก่อไฟตอนนี้มันก็ยาก เพราะของเขาหายไปหมดแล้ว อีกอย่างกายคงไม่โง่แบบนั้น เพราะควันจากกองไฟคงระบุตำแหน่งของเขาในทันที
ในระหว่างที่เข้าไปในป่าก็มีพลุสัญญาณถูกยิงขึ้นมากเรื่อย ๆ เขาคิดว่าหลังจากผ่านไป เกือบหนึ่งวันคงเหลือนักเรียนที่ยังอยู่ในการทดสอบไม่ถึง 500 คนแล้ว
ตอนนี้เป็นเวลากลางวันแดดส่องลงมาแล้วหลังจากฝนหยุดตกไปเมื่อเช้า ทำให้อุณหภูมิทั้งผืนป่าเพิ่มขึ้นมาอีกเล็กน้อย
เขามองซ้ายขวาตรงนี้มีต้นไม้ใหญ่พอให้เป็นที่หลบได้หน่อยแถมแดดก็ยังส่องถึง กายเดินเข้าไปคิดจะถอดชุดเกราะและเสื้อผ้าตากสักหน่อย แต่แล้วเขาก็ต้องตกใจมีศพนักเรียนนอนตาย…