ตอนที่ 5 ประตูสู่โลกราชัน
ซาเรียกำลังเก็บกวาดร้านและเดินไปปิดไปที่หน้าร้าน ในขณะนั้นเองเด็กหนุ่มที่มากับไทเลอร์วันนี้ก็วิ่งเข้ามาในร้านด้วยท่าทีร้อนรนถามเธอว่า
“จริงไหมที่ว่าเล่นเกมราชันสงครามออนไลน์สามารถทำเงินได้” กายพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหอบ เนื่องจากเขารีบวิ่งมาไม่หยุดพัก
ซาเรียรู้สึกงงกับคำถามของเด็กหนุ่ม แต่ก็พยักหน้าเป็นการบอกว่า “ใช่” ไป
กายได้ยินดังนั้นก็ยิ้มออกมา รีบดึงแขนเสื้อข้างขวาขึ้นให้กับซาเรียดู ส่วนซาเรียก็มองชายหนุ่มอย่างสนใจกับท่าทีแปลก ๆ ของเขา แต่เมื่อเห็นว่าที่ข้อมือของกายมีลิ้งค์เกมอยู่ เธอถึงกับขมวดคิ้วรีบเดินเข้าไปจับแขนของกายยกขึ้นมามองอย่างชัดเจน
กายไม่รอให้ซาเรียคาดเดาเขารีบบอกไป “มันคือลิ้งค์เกมราชันสงครามออนไลน์”
ซาเรียมองที่ลิ้งค์เกมสลับกับกายไปมาจนเขารู้สึกกลัวว่าเจ้ซาเรียที่ไทเลอร์เรียกจะคิดฆ่าคนชิงของ จึงรีบพูดตัดตอนไป “คือมันยืนยันเจ้าของแล้ว ดังนั้นจึงมีแค่ผมที่ให้ได้ ไม่งั้นผมคงเอามันไปขายแล้ว”
“ปัญญาอ่อน” ซาเรียด่ากายไม่ไว้หน้าเมื่อได้ยินว่ากายคิดจะขายลิ้งค์เกม “นายต้องการอะไรถึงบอกฉันเรื่องลิ้งค์เกม”
“ผมมีลิ้งค์เกมแต่ไม่มีแคปซูล”
“นายเลยจะมาขอยืมแคปซูลเกมของฉัน” ซาเรียยื่นหน้าเข้าไปใกล้กายมากขึ้น กลิ่นตัวของซาเรียและรูปร่างที่ยั่วยวนของเธอทำเอากายรู้สึกเขินอายรีบหันหน้าไปทางอื่นเล็กน้อย
“ใช่ครับ ผมต้องการยืมลิ้งค์เกมของร้านพี่สาวก่อน ถ้าเกิดผมสามารถหาเงินจากเกมได้จะจ่ายค่าเช่าให้” กายพูดด้วยความสุภาพเล็กน้อย
“ไม่!”
“ขอบคุณ” กายพูดขอบคุณไปเพราะคิดว่าซาเรียตกลง แต่เมื่อตั้งสติได้ว่าซาเรียไม่ตกลงกายก็งง จึงถามกลับไป “เออทำไมครับ”
“ฉันไม่โอเครกับข้อตกลงของนาย เอาแบบนี้แล้วกันเดี๋ยวฉันจะคิดข้อเสนอใหม่ ถ้านายตกลงก็ใช้ลิ้งค์เกมได้”
“ตกลง” กายพูดออกไปทันที
ซาเรียมองกายด้วยความสนใจอีกครั้ง ‘เด็กนี่ยังไม่ทันได้ฟังข้อเสนอก็ตอบตกลงซะแล้ว คงจะเป็นพวกซื่อ ๆ สินะ’ เธอหยิบอมยิ้มออกจากปากเหมือนคีบบุหรี่ด้วยความเคยชิน แต่เมื่อรู้ว่าแสดงท่าทีแบบนั้นก็หยุดและพูดออกมา
“นายไม่ต้องรีบก็ได้ลองฟังที่ฉันบอกก่อน ในแดนสงครามเมื่อผู้เล่นชนะจะได้เงินเดิมพันของผู้เล่นคนอื่น ๆ เอาแบบนี้ใหม่เรามาแบ่งเงินกัน 50/50 ฉันจะออกค่าเดิมพันในแดนสงครามและให้นายยืมใช้แคปซูลเป็นการแลกเปลี่ยน แต่แน่นอนถ้านายแพ้จะต้องทำงานใช้หนีฉัน ส่วนระยะเวลาของสัญญา เอาเป็นว่าเมื่อถึงเวลานายก็จะรู้เอง แต่ไม่ต้องห่วงฉันไม่เอาเปรียบเด็กแบบนายอย่างแน่นอน”
กายถอยห่างจากเจ้ซาเรียด้วยท่าทีครุ่นคิด
“นายควรจะรีบหน่อยวันนี้เป็นวันเปิดตัวเกมอีกไม่นานก็เที่ยงคืนแล้ว” ซาเรียชี้ให้กายมองดูเวลา ตอนนี้มันเวลา 23.40 แล้ว
“ตกลง” กายรู้อยู่แล้วว่ายังไงเขาก็ไม่มีทางเลือกบางครั้งโอกาสก็ไม่ได้มีมาบ่อย ๆ อีกอย่างเจ้ซาเรียก็ดูจะเป็นคนดี ไม่งั้นไทเลอร์คงไม่เคารพเธอมากขนาดนั้นอย่างแน่นอน
ซาเรียได้ยินดังนั้นก็ยิ้มออกมา ทำเอากายเขินไปเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ใช่เด็กแล้ว แม้จะอายุ 19 ล่ะนะ จึงยิ้มออกมาเช่นกันจากนั้น
เมื่อซาเรียเห็นกายยิ้มตอบโดยไม่เขินอายเธอ ก็ทำเอาซาเรียสนใจเด็กนี่ขึ้นมาอีก ซาเรียเดินไปปิดไฟป้ายร้านจากนั้นก็พากายเข้าไปที่ห้องแคปซูล แต่ในตอนนั้นทั้งคู่ไม่รู้เลยว่า ไอซ์ที่ผ่านมากำลังยืนมองกายและซาเรียเข้าไปในห้อง เธอกำมือแน่นจากนั้นก็หันกลับเดินขึ้นรถที่จอดรออยู่ออกไป
ภายในห้องแคปซูลซาเรียเปิดเครื่องแคปซูลตัวในสุดให้กับกายและบอกให้เขาเข้าไป จากนั้นก็อธิบายเรื่องของเกมราชันสงครามออนไลน์เท่าที่เธอรู้ให้กายฟัง แม้เขาเคยพุดไปรอบหนึ่งแล้วตอนที่กายและไทเลอร์ถามก่อนออกจากร้านไป แต่เธอก็ยังอธิบายซ้ำ
“อย่างที่เคยบอกเกมราชัน สงครามออนไลน์แบ่งออกเป็นสองโลก คือโลกราชันและแดนสงคราม นายจะพัฒนาระดับพลังและความสามารถของตัวละครได้ในโลกราชัน และแดนสงครามก็คือสถานที่สามารถเอาตัวละครมาสู้เพื่อเงินเดิมพันได้ แต่แน่นอนตอนนี้นายอย่าพึ่งไปสนใจเรื่องของแดนสงคราม เอาตัวรอดในโลกราชันให้ได้ก่อน เพราะที่นั่นก็มีเนื้อเรื่องเป็นของตัวเอง ซึ่งเรื่องในโลกนั้นฉันไม่รู้รายละเอียดมากนักนายต้องลองเล่นเอาเอง”
“อ้ออีกอย่างเวลาเล่นในโลกราชันมีจำกัดคือจะเล่นได้ก็เวลาหลังเที่ยงคืนถึงตีสาม ซึ่งเท่ากับเวลาสามวันในเกมนี่คือความต่างของเวลา ส่วนในแดนสงครามที่ยังไม่เปิดจากที่รู้มามันมีเวลาเท่ากับโลกจริง”
กายฟังแล้วก็เหลือเชื่อ เพราะไม่เคยได้ยินมาก่อนเรื่องโลกเสมือนจริงที่สามารถหน่วงความต่างของเวลาได้แล้ว
“ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้น เพราะเรื่องการหน่วงของเวลาที่ต่างกันเกมราชัน สงครามออนไลน์จึงเป็นที่สนใจของทุกคน ที่สำคัญมันคือเทคโนโลยีที่ไม่มีเกมไหนเทียบได้”
กายได้ฟังที่เจ้ซาเรียอธิบายก็ถึงกลับคิดว่าไม่น่าเชื่อตัวเองจะไปบังเอิญได้ลิ้งค์เกมของเกมที่สุดยอดแบบนี้มาแต่นั่นก็ยิ่งทำให้เขาตั้งความหวังมากขึ้น
“นายใช้ลิ้งค์เกมเป็นใช่ไหม ฉันเซตเครื่องให้เล่นเกมราชันสงครามออนไลน์ไว้แล้ว อีกอย่างที่สำคัญต้องจำไว้ให้ดี ลิ้งค์เกมหนึ่งมีแค่สามชีวิต ถ้าตายครบก็คือจบ”
กายนอนลงไปในแคปซูลเกมจากนั้นก็หลับตาและพูด “ลิ้งค์เกม” กำไลลิ้งค์เกมที่ข้อมือของเกมเชื่อมต่อเข้ากับแคปซูลและทำการเชื่อมต่อระบบด้วยความเร็ว 1 ใน 100 ส่วนของวินาที
หลังจากนั้นภาพตรงหน้าของกายกลายเป็นสีขาวจากนั้นก็เหมือนพุ่งผ่านแถบสีต่าง ๆ ไปอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งเขารับรู้ทุกอย่างอีกครั้งก็มายืนอยู่ในพื้นที่สีขาวขนาดใหญ่สุดลูกหูลูกตา ด้านหน้าของเขามีประตูอยู่สองบาน ที่ประตูแต่ละบานเขียนด้วยอักษรไว้ว่า “โลกราชัน” ส่วนอีกบานคือ “แดนสงคราม”
กายจับลูกบิดประตูแดนสงครามและลองเปิดมันดู แต่ดูเหมือนว่ามันจะล๊อคไว้อยู่ เขาพึ่งจะสังเกตเห็นว่าที่ประตูมีตัวเลขนับถอยหลังอยู่
กายลองจึงเปิดอีกบานแต่ตัวเลขแสดงที่ประตูยังคงนับถอยหลังอยู่เช่นกัน เขาจึงมองดูรอบ ๆ สุดท้ายก็สังเกตว่าด้านหลังมีประตูอยู่เขียนว่า “ล๊อคเอ้า”
กายจึงลองพูดว่า “ล๊อคเอ้า” ทันใดนั้นประตูก็เปิดออกกายจึงเดินออกเข้าไป
……
ที่แคปซูลกายลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆ หลังจากนั้นก็ลุกขึ้น ซาเรียกำลังยืนอยู่ด้านข้างถามว่าเป็นยังไงบ้างกายจึงเล่าว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ให้เธอฟัง
ซาเรียคิดสักพักก็บอกกับเด็กหนุ่ม “คงต้องรอเวลาให้ถึงเที่ยงคืนจึงจะเข้าไปได้ ค่อยเข้าไปตอนที่เหลือเวลาอีก 1 นาทีก็ได้”
กายพยักหน้าเห็นด้วยเขาจึงนั่งรอเวลาส่วนซาเรียก็เดินไปหาของกินเล่นแก้เบื่อ
หลังจากที่เวลามาถึง 23:59 น. กายก็เข้าไปในเกมอีกครั้ง
“ลิ้งค์เกม”
ภาพตรงหน้าของเขาเกิดขึ้นเหมือนเดิมอีกครั้งกายมาหยุดอยู่ตรงประตูทั้งสามบานอีกครั้ง
วันที่ 13 เมษายน ปีที่ 70 เวลา 00:00 น.
ประตูสู่โลกราชันได้เปิดออก กายจึงสามารถเดินเข้าไปในนั้นได้แล้วและหลังจากนั้นภาพทุกอย่างตรงหน้าก็หายวับไป
กายรับรู้ได้ถึงความหนาวจากรอบข้าง เสียงของสายฝนที่ตกลงอย่างต่อเนื่อง เขาลืมตามองไปรอบกายอย่างช้า ๆ เต็มไปด้วยความแปลกใจ เพราะเขากำลังนอนอยู่กับพื้นเย็น ๆ ในห้องเก่า สภาพทรุดโทรม เต็มไปด้วยฝุ่นและหยากไย่จากใยแมงมุม
กายรีบลุกขึ้นสำรวจสภาพของตัวเองและก็หันไปเห็นกระจกที่อยู่ในห้อง ตอนนี้หน้าตาของเขาเปลี่ยนไป มีผมสีน้ำตาล ดวงตาที่ฟ้า “แต่หน้าตาหล่อสู้ใบหน้าในโลกจริงไม่ได้” กายพึมพำออกมา ขณะที่มองดูชุดที่เขาสวมอยู่ มันเป็นแค่เสื้อผ้าบาง ๆ จนไม่สามารถเรียกว่าเสื้อผ้าได้เลยแม้แต่นิดเดียว
หลังจากที่มองดูตัวเองอยู่เขาก็รู้สึกหิวขึ้นมา มันเป็นความหิวที่ราวกับว่าเขาอดข้าวทั้งวันเลยก็ไม่ผิด แต่เมื่อมองดูรอบ ๆ มันก็ไม่มีอะไรกินเลย
ขณะที่เขาเดินออกจากห้องเพื่อหาอะไรกินก็ได้ยินเสียงฝนที่ตกลงอยู่ข้างนอก นั้นคือสามารถที่บ้านถึงเย็นยะเยือกในกลางคืนแบบนี้
เพียงแต่เปิดประตูออกไปก็เจอกับฝนที่ตกลงมาจริง ๆ เขายืนมือทั้งสองข้างออกไปลองน้ำฝนที่เย็นจากนั้นก็ดึงมือกลับมาดื่มน้ำที่มือทั้งสองประคองอย่างระวังทำอยู่สองสามครั้งก็รู้สึกดีขึ้นมาก เขาจึงถือโอกาสใช้น้ำเย็น ๆ ล้างหน้าน้ำฝนที่เย็นเวลาล้างหน้าแล้วมันให้ความรู้สดชื่นเป็นอย่างมาก
กายถึงกับชมว่าเกมมันสร้างออกมาได้เหมือนจริงมาก จนเขาก็คิดแล้วว่านี่มันใช่ในเกมจริง ๆ เหรอ
เขาเดินกลับเข้ามาในบ้านที่มืดมองไปรอบ ๆ ด้วยความเวิ้งว้างจนรู้สึกขนลุก
“หรือว่านี่คือเกมสยองขวัญ ก็อาจจะเป็นไปได้” กายเริ่มกลัวขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อเจอกับบรรยากาศแบบนี้ เสียงฝนที่ตกลงข้างนอก ลมที่พัดวิว ๆ และภายในบ้านที่มืดมิดจนรู้สึกเย็นไปถึงแผ่นหลัง
แม้จะกลัวแต่กายก็ยังคงเดินสำรวจต่อหลังจากที่เดินคลำหาทางจนที่สุดก็เจอกลับห้องครัว กลางห้องมีโต๊ะที่ให้รับประทานอาหารอยู่ตัวหนึ่ง ด้านบนมีตะเกียงน้ำมันกายจึงรีบหยิบมันเพื่อจุดจะได้มีแสงสว่าง แต่เขาลืมไปว่าจะจุดมันยังไง
หลังจากควานหาอยู่นานก็เจอกับไม้ขีดไฟ กายจุดไม้ขีดทำให้ทั้งห้องมีแสงสีส้มอมเหลืองจากไม้ขีดสว่างไปทั่วทั้งห้อง แต่ก่อนที่กายจะได้ยื่นไม้ขีดไฟที่จุดแล้วไปจุดไส้ตะเกียง เสียงตีของไม้ดัง ปัง!
“เชี่ย!” กายสะดุ้งตกใจอุทานออกมาและเผลอทำไม้ขีดไฟหลุดมือดับไป
กายรีบหยิบก้านใหม่มาจุดด้วยความลนลาน ส่วนใจหนึ่งก็ได้แต่ภาวนาว่าอย่าได้เป็นผีเลย หลังจากตะเกียงน้ำมันจุดขึ้นมันก็ให้ความสว่างมากกว่าไม่ขีดก้านเล็ก ๆ หลายสิบเท่า เขาปรับความแรงของตะเกียงน้ำมันก่อนที่จะถือมันออกไปดูว่าเสียงที่เกิดขึ้นคืออะไร
แสงสีส้มจากตะเกียงน้ำมันส่องสว่างไปรอบทิศทาง กายตามแสงของตะเกียงที่ตัวเองถืออยู่โดยมีเงาของเขาทอดยาวอยู่ด้านหลัง
ในระหว่างที่เดินเสียงตีก็ดังขึ้นเป็นบางครั้งจนมาใกล้เสียงเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งใจ เพราะมันไม่ใช่ผีหรืออะไร แต่เขาดันลืมปิดประตูตอนที่กลับเข้ามาเมื่อสักครู่
กายยืนมือไปจับประตูเสียงไม้ที่ตีกันก็เงียบลงเขาปิดประตูอีกครั้งละและหาอะไรมายึดไว้มันจะได้ไม่เปิดออกเพราะแรงลมอีก กายกำลังจะหันกลับ และนึกขึ้นได้ปกติหนังสยองขวัญมักจะมีฉากแบบนี้อยู่ พอเขาหันกลับไปจะมีผีโผล่มาใช่หรือไม่
“ผีก็ผีสิยังไงมันก็คือเกม ก็แค่ผีปลอม ๆ” กายหันขวับกลับไปพร้อมด้วยแสงตะเกียงในมือ แต่แน่นอนว่าเขาหลับตาหยีทันที แต่เมื่อค่อย ๆ ลืมตาก็ไม่เห็นมีอะไร จึงแกล้งไอและจัดท่าทางของตัวเองใหม่แม้จะไม่มีใครเห็นภาพน่าอายของเขาก็ตาม
กายเดินกลับไปที่โต๊ะในห้องครัวในตอนแรก โดยที่ไม่รู้เลยว่าด้านนอกบ้านท่ามกลางสายฝนมีแสงสีฟ้าส่องสว่างอยู่ในความมืดลอยละล่องอย่างไร้จุดหมายและหายไปในพื้นดิน
กายกลับเข้ามาในห้องครัว เขาวางตะเกียงลงบนโต๊ะและก็พึ่งจะสังเกตเห็นว่าบนโต๊ะมีเนื้อตากแห้งวางใส่จานอยู่
ด้วยความหิวเขาจึงหยิบมันขึ้นมากิน แต่มันแข็งมาก กายต้องเคี้ยวอยู่นานกว่าจะกลืนได้ และเพราะแบบนั้นเขาจึงต้องหาเหยือกไม้ในห้องครัวไปลองน้ำฝนด้านนอกมาดื่มขณะที่เคี้ยวเนื้อแห้งไปด้วย รสชาติของเนื้อแห้งไม่ต่างจากกินเปลือกไม้ แต่เมื่อได้น้ำเปล่าช่วยมันก็ทำให้มีรสชาติหวาน ๆ ติดปากเล็กน้อย
กว่าจะกินอิ่มกายก็รู้สึกปวดกรามไปข้างหนึ่งกันเลยทีเดียว