ตอนที่ 50 กลุ่มโจรผู้เล่น
กายมองภาพตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา มีศพนักเรียนชายคนหนึ่งหมกอยู่ในกองใบไม้ กายไม่รอช้ารีบหันหลังหาต้นไม้ หยิบค้อนขวานออกมา มองไปรอบ ๆ
สถานการณ์ตรงหน้าไม่ปกติมาก
ใครกันที่ฆ่านักเรียนคนนี้
กายมองไปรอบตัวด้วยความระมัดระวัง หลังจากหยุดยืนนิ่ง รอบตัวก็เหมือนกับวังเวงขึ้นมาอย่างมาก ด้านบนต้นไม้มีเสียงลมพัดช้า ๆ ในตอนกลางวัน แสงแดดส่องลงมาตามใบไม้ ไม่มีเสียงน่าสงสัยอะไรหรือใครที่อยู่ใกล้ ๆ แถวนี้อีก
ผ่านไปสักพักกายไม่มีอะไรเกิดขึ้น กายก็ใช้ค้อนขวานเขี่ยไปที่ศพที่ตอนนี้ใบหน้าซีดขาว
ศพนี่…ดูเหมือนจะตายมาได้สักพัก มีใบไม้รอบตัวเขาคงจะโกยเอามาปิดตัวเอง ทำให้ที่มือทั้งสองข้างเต็มไปด้วยดินและเศษใบไม้
กายสังเกตทุกอย่าง ก่อนจะค้นตัวของนักเรียนชายคนนี้อย่างน้อยก็ต้องรู้ชื่อของเขาให้ได้ อีกอย่างกายต้องหาพลุสัญญาณ
แต่พอพลิกตัวศพ ปรากฏว่าที่ด้านหลังของศพมีรอยฟันหลายแผลมาก มันมาจากอาวุธที่หลากหลายชนิด เห็นแบบนี้กายรู้ได้ทันที ว่าคนที่ฆ่าไม่ได้มีแค่คนเดียว มีทั้งรอยฟันที่ลากยาว มีทั้งลอยธนูที่หัวลูกศรยังปักคาอยู่ ซึ่งส่วนก้านถูกหักออกไปแล้ว มีรอยแผลหอกและขวานอยู่ด้วย
“ไม่มี ข้าพลาดอะไรไป” กายพึมพำคิดไปคิดมาในที่สุดเขาก็คิดออก ศพที่ไม่ใส่ชุดเกราะ มันเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น นักเรียนของสถาบันศาสตร์นักรบไม่มีใครไม่ใส่ชุดเกราะในการทดสอบครั้งนี้ แต่ตอนนี้ศพข้างหน้ากายแทบจะตัวเปล่าเล่าเปื่อย ราวกับมีใครมาปล้นไป
พลุสัญญาณ! ไม่มี!
การตายของนักเรียนชายคนนี้…ไม่ใช่เกี่ยวกับนักเรียนคนอื่น!
กายลุกขึ้นยืนขณะที่มองไปที่ศพด้วยความเคร่งขรึม ตามปกติแล้วนักเรียนคนอื่น ๆ จะรู้ว่าห้ามขโมยพลุสัญญาณ ห้ามฆ่าคนอื่นในการทดสอบ แต่นักเรียนชายที่ตายข้างหน้าของเขาชุดเกราะก็ไม่มี แต่ยังโดนรุมโจมตีขนาดนี้มัน ต้องเป็นฝีมือคนนอกอย่างแน่นอน
มีคนนอกเข้ามาในการทดสอบ ที่นี่อันตรายขึ้นซะแล้ว
กายคิดหันหลังและออกจากที่นี่ เขาต้องไปโดยเร็วที่สุด ถ้าศพนักเรียนคนนี้มาที่นี่แสดงว่าคนนอกพวกนั้นจะต้องมาตามมาทางนี้อย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นนักเรียนที่ตายคงไม่รีบเอาใบไม่มากลบตัวเองซ่อนตัวแบบนี้ ถ้าไม่มีใครตามมา
แกร็ก!
แต่แล้วก็มีเสียงของกิ่งไม้ที่ถูกเหยียบจนแตกหักดังมาจากด้านหลัง กายรีบหันกลับมามอง ในตอนแรกกายคิดว่าจะเป็นกลุ่มคนนอกที่ไล่ตามคนตายมา แต่เป็นกลุ่มอาลีน่าต่างหาก
เฮ้อ..ค่อยยังชั่ว นึกว่าพวกคนนอกซะอีก อย่างน้อยนักเรียนพวกนี้ก็คงไม่กล้าฆ่าข้าหรอก
กายรู้สึกโล่งใจขึ้นมาบ้าง แต่อาลีน่าไม่ได้อารมณ์ดีเลยแม้แต่น้อย สภาพของเธอและกลุ่มดูเหนื่อยล้าพอสมควร เพราะพวกเขารีบวิ่งตามกายมา
“ดูซิหลังจากข้าอัดเจ้าจนเดินไม่ไหว เจ้าจะยังยิ้มได้อยู่ไหม” คนอื่น ๆ ที่เหลือเข้ามาล้อมกายทันที ส่วนเจเดนนั้นได้สติขึ้นมาแล้ว ปากของเขายังมีบาดเจ็บจนพันผ้าสีขาวไว้ รอบคอมีกิ่งไม้ยาวประมาณคืบตัดเท่า ๆ กัน มัดด้วยเศษผ้าพันไว้รอบคอเพื่อกันคอของเจเดนไม่ให้ขยับเขยื้อนไปมา มันคือเฝือกคอแบบง่าย ๆ
ท่าทางของเจเดนตลกมากในจากตาของกาย
นั้นทำให้เจเดนรู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก มันพูดออกมาไม่ได้ แต่มองกายด้วยสายตาดุดันแทน
“ศพ บัดซบเจ้าฆ่าเขาอย่างนั้นเหรอ” ลูก้าที่เข้าใกล้กายสุดมองเห็นศพนักเรียนชายจากด้านหลัง
“เจ้าทำอะไรลงไป”
ทุกคนต่างมองไปที่ศพด้านหลังของกาย ที่ถูกกายลากออกมาจากกองใบไม้ ทำให้คนพวกนี้ยิ่งเข้าใจผิดไปอีก เมื่อเห็นมือของกายเลอะไปด้วยดินและใบไม้
“เขาฆ่าคนตาย ต้องโดนตัดสิทธิ์สอบตก ไปเอาพลุสัญญาณของคนที่ตายมายิงไปบนท้องฟ้าเรื่องนี้ต้องให้อาจารย์อิกลินตัดสิน” อาลีน่ากล่าวออกมา
สองคนที่คนหนึ่งใช้โล่ อีกคนใช้ดาบเดินเข้าไปช่วยกันหาพลุสัญญาณในตัวของศพนักเรียน แต่มันกลับไม่มีอยู่ ทั้งสองส่ายหัวมองไปทางอาลีน่าเป็นการบอกว่าหาไม่เจอ
อาลีน่าขมวดคิ้วพลางมองชายหนุ่มที่ตอนนี้ดูหอบหายใจอยู่
ไม่น่าเป็นไปได้เขาบาดเจ็บอยู่ แล้วจะฆ่าคนได้เร็วขนาดนี้ในสภาพเช่นนี้ได้ยังไง
กายตอนนี้กำลังอดทนกับความเจ็บปวด แม้จะไม่มีบาดแผล แต่ก็ช้ำภายในไม่มากก็น้อย ในตอนแรกมันยังชา ๆ แต่ตอนนี้อาการชาหายไปแทนที่ด้วยความปวดแทน โดยเฉพาะแผ่นหลัง ไหล่ และหน้าอกที่รับการโจมตีมาอย่างหนัก
“ใจเย็นก่อน ข้ามาถึงเขาก็นอนตายอยู่แล้ว แถมของทั้งหมดยังโดนปล้นไปอีก เราควรจะรีบออกไปจากตรงนี้” กายบอกกับคนพวกนี้ แต่กลุ่มของอาลีน่าไม่ตอบสนองกับคำพูดของกาย ทุกคนรอให้อาลีน่าตัดสินใจอยู่
“ศพนี่ไม่เกี่ยวกับเรา เอาเหรียญตราเขามาแล้วไปจากที่นี่กัน หลังจบการทดสอบค่อยไปบอกกับทางอาจารย์อิกลิน” อาลีน่าตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ซึ่งก็ถูกต้องเพราะต่อให้มีคนตาย การทดสอบก็ต้องดำเนินต่อไป
ที่ผ่านมาในทุกการทดสอบมักจะมีคนตายอยู่แล้ว มันจึงไม่แปลกอะไรมากนัก
นักเรียนพวกนี้ช่างใจดำกันซะจริง ๆ
กายเลือดมือไปหยิบค้อนขวานยังไงเขาก็คิดว่าจะสู้กันอีกสักครั้งแม้จะสู้ไม่ได้ถ้าตายอย่างมากเขาก็รอเวลาฟื้นคืนชีพเท่านั้น แต่ถ้าไม่ได้อยู่ในสถาบันศาสตร์นักรบต่อ เส้นทางศิลปะการต่อสู้เขาก็จะถูกตัดขาด
ข้าขอลองเสี่ยงดูสักครั้ง…
“เดี๋ยวก่อน มีคนมา” เอนาย่า หนึ่งในนักธนูหญิงสาวอีกคนนอกจากอาลีน่า เธอที่คอยระวังรอบ ๆ รีบหันธนูเล็งไปยังพุ่มไม้แห่งหนึ่ง
คนอื่น ๆ หันกลับไปมองดู ตอนนี้ในแนวหลังต้นไม้รอบพวกเขามีกลุ่มนักสู้ที่ไม่คุ้นเคยล้อมไว้อยู่ พวกมันมีกันมากกว่า 100 กว่าคน
“ไม่คิดว่าจะไล่ตามนักเรียนที่หนีมาแล้วจะได้เจอกับปลาอีกฝูง” หนึ่งในกลุ่มคนที่ล้อมที่นี่ไว้เดินออกมา เป็นชายอายุราว ๆ 30 ปี แต่งกายดูดีคล้ายกับโจร ชุดเกราะเป็นหนัง แต่ส่วนใหญ่แล้วมันไม่ใช่เซตเดียวกัน
“เฮ้ยดูนั้น NPC ผู้หญิงอีกคน คนนี้ข้าขอ”
“จะบ้าเหรอ! แกนี่มัน…ถ้าอยากทำเรื่องแบบนั้นออกจากเกมแล้วไปซื้อกินเอาเลยไป!”
“ฮ่า ๆ ข้างนอกกฎหมายมันเข้มงวดจะตาย ทำในนี้แหละดีออก”
“ถ้าเจ้าอยากโดนทางสมาคมคงหักเงินเดือนแกแน่นอน”
ขณะที่กลุ่มคนแปลกหน้ากำลังพูดคุยกันอยู่นั้น อาลีน่าและกลุ่มของเธอก็ระวังตัวเต็มที่ เพราะไม่รู้ว่าคนพวกนี้ต้องการอะไร เธอไม่เข้าใจหลายอย่างที่พวกมันพูดแม้แต่น้อย
กายที่สังเกตคนพวกนี้ตอนนี้เขารู้แล้วว่าคนพวกนี้เป็นใคร พวกคือผู้เล่น เขาหันกลับไปมองศพที่ตายด้านหลังก็ปะติดปะต่อเรื่องราวได้บ้าง
ผู้เล่นที่ทำตัวเหมือนโจร…
กายเคยอ่านเจอมาบ้าง ผู้เล่นพวกนี้มองที่นี่เป็นเกม ไม่สนใจว่าจะฆ่า NPC ไปมากแค่ไหน พวกมันปล้น ทำเงินจากของที่ได้ จากนั้นก็เอาไปขายให้กับผู้เล่นคนอื่น ๆ ตามจริงแล้วมันก็ถือเป็นเรื่องปกติของผู้เล่นในการปล้นของ แต่ผู้เล่นปกติจะปล้นโจร หรืออะไรพวกนี้ แต่กลุ่มโจรผู้เล่นกลุ่มนี้ คงไม่เลือกเป้าหมาย ขอแค่เป็น NPC ที่ไหนก็ได้
และเป้าหมายในครั้งนี้ของพวกมันคงจะเป็นนักเรียนของสถาบันศาสตร์นักรบที่ออกมาทดสอบในปีนี้
ทางสถาบันศาสตร์นักรบก็คงคิดไม่ถึง ว่าจะมีกลุ่มคนไม่กลัวพวกเขาพากันมาไล่ฆ่าและปล้นนักเรียนของตัวเองแบบนี้
บางทีหลังจากนี้อาจจะมีหมายจับผู้เล่นพวกนี้กระจายไปทั่วนครดาราฟ้า แต่มันก็คุ้มค่า เพราะนักเรียนแต่ละคนนั้นมาจากตระกูลเจ้าพนักงาน สิ่งของที่ติดตัวมาด้วยนั้นไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
ทั้งชุดเกราะ อาวุธ ทั้งเครื่องประดับในตัวอีก ในช่วงที่เกมเริ่มต้นแบบนี้ สำหรับผู้เล่นแล้ว มันคือสิ่งที่มีค่ามาก ถ้าเอาไปขายให้ผู้เล่นคนอื่น ๆ อย่างน้อยก็คงจะได้สัก 50,000 บิทในโลกจริงได้สบาย
“เฮ้ยพวกเด็กน้อย ถอดเสื้อผ้า อาวุธ และของมีค่าทั้งหมดซะ แล้วพวกเจ้าจะรอดไปได้อย่างมีชีวิต” หนึ่งในผู้เล่นหัวล้านกล่าวออกมา ก่อนจะถือดาบพุ ๆ เดินเข้าไปหานักเรียนชายผมทองผู้ใช้ดาบ
นักเรียนหัวทองคนนี้ชื่อ กรี ลินดิน
“เป็นแค่นักรบฝึกหัดขั้น 1 คิดมาปล้นของ ๆ ข้าอย่างนั้นเหรอ” กรี ลินดินพูดด้วยความไม่ชอบใจก่อนจู่โจมใส่ชายหัวล้านคนนั้นในทันที
ผู้เล่นหัวล้านไม่อาจจะตอบสนองได้ มันทำได้เพียงแต่ยกดาบในมือขึ้นมากัน
“ศิลปะการต่อสู้ รูปแบบศาสตราวุธ ฟาดฟัน ขั้น 2” ดาบของกรี ลินดิน ตัดเข้าไปที่ของชายหัวล้านจนขาดในดาบเดียว เลือดสาดกระจายตามรอยดาบ
“อั๊ก! อัก…” ชายหัวล้านใช้มือจับคอ ร่างสั่นกระตุก หลังจากนั้นหนึ่งวินาทีเลือดก็ซึมออกตามรอยแผลที่คอ ก่อนหัวของผู้เล่นจะหลุดหล่นลงกับพื้นดัง ตุบ! เลือดพุ่งออกมาจากคอแดงฉานราวกับดอกไม้ไฟ
คนทั้งหมดต่างตกใจ ไม่คิดว่ากรี ลินดินจะลงมือในทันที
อาลีน่ามีสีหน้าน่าเกลียด
กายก็ไม่ต่างกัน
ความฉิบหายกำลังมาเยือนแล้ว…
ร่างของชายหัวล้านล้มลง พร้อมกับกลายเป็นลูกไฟพุ่งขึ้นท้องฟ้าไป
กลุ่มของอาลีน่ารวมเธอด้วยต่างมองภาพตรงหน้าอย่างตกใจ อาลีน่าพึมพำออกมา “พวกมนุษย์ไฟ ถอยกลับมารวมกลุ่มกันเร็ว”
กายได้ยินอาลีน่าพูดว่า ‘มนุษย์ไฟ’ เขาก็รู้สึกแปลกใจ
หรือว่าพวก NPC จะเรียกผู้เล่นว่ามนุษย์ไฟ แสดงว่าพวกเขารู้ถึงการมีอยู่ของผู้เล่นแล้วอย่างนั้นเหรอ
กายอยากจะเข้าไปถามอาลีน่า แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เวลา เพราะหลังจากกรี ลินดินฆ่าผู้เล่นหัวล้านไป กลุ่มผู้เล่นนับร้อยก็ลงมือโจมตีพวกเขาเช่นกัน
“กรีระวัง!” เอนาย่าร้องเตือน
ลูกศรยิงเข้ามาเบื้องหน้ากรี ลินดิน ด้วยความรวดเร็วของกรี ลินดิน ใช้ดาบขึ้นมากันได้อย่างปลอดภัย
“ศิลปะการต่อสู้ รูปแบบศาสตราวุธ เจาะทะลวง ขั้น 2” เอนาย่ายิงธนูเข้าใส่มือธนู ลูกศรเข้าไปที่คอหอยของผู้เล่นที่ใช้ธนูคนนั้น กระดูกคอแตกละเอียดตกตายไปในทันที
กลายเป็นลูกไฟพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า
กรี ลินดินรีบถอยกลับมารวมกับคนอื่น ๆ เพราะกลุ่มโจรผู้เล่นมีมากเกินไป แต่แล้วก็มีผู้เล่นอีกสองคนโผล่ออกมาพร้อมกับหน้าไม้
ฟริ้ว! ฟริ้ว!
หน้าไม้สองลูกยิ่งทะลุเกราะเบาของกรี ลินดิน ดอกหนึ่งเข้าที่แผ่นหลัง อีกดอกเข้าที่ต้นขา ร่างของกรี ลินดินล้มไถลไปกับพื้นดินและใบไม้ก่อนจะร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
หน้าไม้!
“พวกมันมีหน้าไม้ ไปช่วยกรีถอยออกมาเร็ว” อาลีน่าตะโกนออกมาด้วยความกลัว คนในกลุ่มของเธอก็ไม่ต่างกัน