เกมราชันสงครามออนไลน์ ตอนที่ 77 ผู้ช่วยนาธานและมิล่า
ตอนที่ 77 ผู้ช่วยนาธานและมิล่า
“เฮ้..เจ้านะเดินระวังหน่อยไม่ได้หรือยังไง”
“ไอ้บ้านี่ จะเบียดขึ้นมาด้านหน้าทําไมวะ”
เสียงของผู้เล่นที่ไม่พอใจเมื่อมีชายคนหนึ่งเดินแทรกตัวเข้าไป ทางประตูร้านไร้ขอบเขตดังขึ้นมาเป็นระยะ แต่ชายคนนั้นก็ไม่สนใจ ยังเดินเข้าไปที่ประตูร้านก่อนจะไขเปิดประตูร้านรีบเข้าไปด้านใน และปิดประตูในทันที
ผู้เล่นที่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นต่างก็พากันตกใจและนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนที่มันจะรู้ว่าคนเมื่อสักครู่คือเจ้าของร้านไร้ขอบเขต
“ขายคนนั้นคือเจ้าของร้าน
“เจ้าของร้านเปิดประตูขายดาบกับมีดให้ข้าหน่อยได้หรือไม่”
“ใช่พวกเรารอมาครึ่งวันแล้ว ถ้าไม่เป็นการรบกวนรีบเปิดร้านได้หรือไม่”
กายได้ยินเสียงเคาะประตูร้านสลับไปมากับเสียงตะโกนก็ถึงกับกลืนน้ําลายด้วยความหวาดหวั่นเล็กน้อย มันรีบวิ่งไปที่หลังร้านจัดการเอาอาวุธที่มีอยู่ไม่ถึง 15 ชิ้นออกมาวางบนชั้นวาง
เหตุที่มีของน้อยขนาดนี้จะโทษกายก็คงไม่ได้ เพราะเมื่อวานมีลูกค้าเยอะเกินไปกายจึงแทบไม่มีเวลาเข้าไปที่โรงตีเหล็กมากนัก ซึ่งมีดสั้นและดาบยาวที่มีอยู่นะตอนนี้คือทั้งหมดที่สร้างได้ช่วงหัวค่ําเท่านั้น
แต่ถึงจะมีแค่นี้กายก็ต้องขายออกไป เพราะไม่อย่างนั้นพวกผู้เล่นเหล่านี้อาจจะทุบประตูร้านหรือไม่ก็พากันขโมยป้ายร้านมันไปแทนได้
แน่นอนว่าหลังจากกายจัดการเปิดประตูร้านผู้เล่นต่างเบียดกันเข้ามาและคว้ามีดสั้นและดาบที่มีอยู่จํานวนน้อยไปจนหมดในเวลาไม่ถึง 20 นาที ส่วนคนที่ไม่ได้นั้นต่างก็พากันบ่นไม่หยุดก่อนจะกลับไปหาเลือกซื้ออาวุธร้านอื่นแทน
เป็นแบบนี้มีปัญหาแน่นอน เพราะเราไม่สามารถสะต๊อกของไว้ในร้านได้ เกิดของในร้านไม่มีสินค้านานเกินไปคงจะทําให้ผู้เล่นไม่เข้ามาอีกก็ได้ หรือเราจะเปลี่ยนไปขายอาวุธที่เป็นเอกลักษณ์ในราคาสูงแทน ไม่สิตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาทําแบบนั้น ด้วยความต้องการของผู้เล่นยังไม่มีใครมีเหรียญทองมากพอจะมาสั่งของแบบนั้นแน่ เราควรจะฉวยโอกาสขายของที่ผู้เล่นเอื้อมถึงและมีความต้องการสูงก่อน
และพอผู้เล่นมีเหรียญทองมากขึ้นเราค่อยหันไปขายของระดับ
กายคิดไม่ตกกับสิ่งที่เกิดขึ้น มันไม่อยากจะต้องใช้เวลาทั้งหมด และทุกวันอยู่แต่ในร้าน
“จริงสิยังมีวิธีนั้นอยู่”
ไม่รอช้ากายจัดการขึ้นประกาศหน้าร้านในทันทีว่าจะจํากัดการขายในแต่ละวันคือ มีดสั้นอย่างละ 10 เล่าต่อวันและดาบยาวแค่ 2 เล่มต่อวัน ซึ่งหน้าร้านยังมีผู้เล่นเดินผ่านไปมาบ้าง หลายคนหยุดมองประกาศแปลกๆของ NPC เจ้าของร้านไร้ขอบเขต
หลังจากนั้นกายก็จัดการปิดประตูและหน้าต่างร้านมิดชิดโดยไม่สนใจสายตาของใคร ก่อนที่จะไปขลุกตัวอยู่ที่โรงตีเหล็กลงมือทํางานของตัวเองต่อไป
ซึ่งที่กายแรงรีบนั้นส่วนหนึ่งเพื่อสร้างอาวุธออกมาวางขายที่ร้าน เพื่อเก็บเหรียญทองไปเข้าร่วมงานประมูลที่ใกล้จะถึงและอีกเหตุผลนั้นก็คือกายต้องการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ ทุบ ขั้น 3 ที่พึ่งจะเรียนรู้มาเมื่อไม่กี่วันนี้
ตกเย็นที่ลานต้นโอ๊ค กาย มีอาและลิลี่ยังคงฝึกขี่ม้ากันอยู่ในระหว่างนั้นกายก็เรียกดูระยะเวลาที่เหลือจากการฝึกฝนขี่ม้า
“ฝึกขี่ม้า 12/36 ชั่วโมง เพื่อเริ่มเรียนรู้การขี่ม้าเบื้องต้น (0%)
เป็นเวลา 3 วันที่กายฝึกขี่ม้าช่วงเย็น วันละ 4 ชั่วโมง ทําให้เวลาจาก 36 ชั่วโมงเพื่อเรียนการขี่ม้าเบื้องต้น ตอนนี้เหลือเพียง 24 ชั่วโมงแล้ว ซึ่งนั้นเขาต้องมาฝึกขี่ม้าอีก 6 วันถึงจะสามารถสําเร็จในการเรียนรู้การขี่ม้าเบื้องต้น ส่วนค่าประสบการณ์ที่ตอนนี้ยังเป็น 0 เปอร์เซ็นต์ กายคิดว่ามันคงเหมือนกับศิลปะการต่อสู้ที่ต้องเรียนรู้ก่อน ถึงจะมาเก็บค่าประสบการณ์ที่หลัง
ซึ่งเรื่องค่าประสบการณ์ขี่ม้านั้นกายคิดว่ามันไม่น่าจะยากสักเท่าไหร่ เพราะหลังจากนี้เวลาเดินทางไปที่ทุ่งหญ้ากิรากายต้องอาศัยการขี่ม้าเป็นหลัก นั่นหมายความว่าเขาจะได้ค่าประสบการณ์ต่อเนื่องได้อย่างสบาย
“เดวินพรุ่งนี้เจ้าว่างหรือไม่” มีอาบังคับม้าเดินเข้ามาใกล้กาย
“พรุ่งนี้พอจะมีเวลาอยู่ เจ้ามีอะไรหรือเปล่า”
“ พรุ่งนี้ข้าและลิลี่เราจะไปเลือกของรางวัลจากอันดับในการ ทดสอบของชั้นปี 1”
พอมีอาพูดถึงเรื่องนี้กายก็นึกขึ้นมาได้ว่าตนเองนั้นได้รางวัลจาก การติดหนึ่งในสิบด้วย และมันยังไม่ได้ไปรับรางวัลที่ทางสถาบันให้ เพราะในวันนั้นทุกคนมัวแต่ยุ่งอยู่กับเรื่องผู้เล่นและความลับที่ 99 จากหน่วยงานราตรีมาบอก
และหลังจากวันนั้นกายก็ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องร้านไร้ขอบเขตหลายวัน
“น่าจะเป็นช่วงสายของวันพรุ่งนี้ข้าสามารถเข้าไปที่สถาบันศาสตร์นักรบได้”
“เจ้าหายไปไหนมาช่วงสองสามวันมานี้ ข้าแทบไม่เห็นเจ้าที่สถาบันศาสตร์นักรบ”
มีอาถามด้วยความสงสัย
“พอดีข้าเปิดโรงตีเหล็กและร้านขายของที่ข้าสร้างขึ้น มันไม่ได้ใหญ่มากแต่ช่วงนี้มันยุ่งพอสมควร”
กายบอกมีอาตรง ๆ โดยไม่ได้ปิดบังอะไร เพราะอย่างไรเธอก็เป็นเพื่อนเขา และเขาก็ตั้งใจจะบอกเธออยู่
“โรงตีเหล็ก เจ้าคงไปถึงระดับอาจารย์ช่างโลหะแล้วใช่ไหม”
“ยัง ข้าต้องได้รับการยอมรับและมีชื่อเสียงก่อน” กายยิ้มขณะที่ตอบกลับไป มีอารู้ว่ากายสามารถสร้างดาบเดซี่ได้ ซึ่งเป็นดาบระ ดับ 5 ที่ต้องใช้ระดับอาจารย์ช่างโลหะในการสร้างขึ้นมา
“นั้นก็จริง ถ้าอย่างนั้นไว้ข้าจะไปรอเจ้าที่สถาบันศาสตร์นักรบ”
มีอาพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนจะตกลงว่าจะไปเจอกันที่สถาบันศาสตร์นักรบในวันพรุ่งนี้ ในระหว่างนั้นเองลิลี่ที่ขี่ม้าเข้ามาหยุดอยู่ ข้างทั้งสองก็ถามออกมาด้วยความกระตือรือร้นว่า
“มีอา เดวิน เรามาฝึกอย่างอื่นกันไหม ข้าว่าขี่ม้านานๆมันน่าเบื่อ”
“ข้ามีแต่ดาบมา”
มีอาชี้ไปที่ดาบข้าเอวของเธอให้ลิลี่ดู
“ถ้าอย่างนั้นเรามาฝึกการใช้ดาบกันก็ได้” กายชวนฝึกฝนดาบในทันที เพราะมันคิดว่าตัวเองก็ควรจะฝึกศิลปะการต่อสู้ ฟาดฟัน ขั้น 2 ให้สําเร็จเหมือนกับศิลปะการต่อสู้ทุบได้แล้ว
เนื่องจากถ้าปล่อยไว้นาน ศิลปะการต่อสู้ ฟาดฟันอาจจะตามระดับของมันไม่ทัน และนั้นจะเป็นปัญหาถ้าต้องสู้กับคนระดับเดียวกันแล้วศิลปะการต่อสู้ของตนเองอ่อนด้อยกว่าของศัตรู
ยามเช้ามืดของวันที่ 8 เดือน 2 ปีดาราที่ 997 ขณะที่กายยังคงตื่นขึ้นมาตั้งแต่ยังไม่ตี 4 และเริ่มลงมือหลอมเหล็กและขึ้นรูปของดาบยาวสักพักแล้วเสียงเคาะประตูร้านก็ดังขึ้น
ใครกันมาแต่เช้าขนาดนี้ หรือจะเป็นช่างไม้กิล
กายรู้สึกสงสัยเพราะจากที่รู้มาช่างไม้กิลบอกว่าจะพาเจ้าของร้านเครื่องหนังมาทําความรู้จักกับกายในวันนี้ แต่มันก็ยังคงเช้าเกินไป
กายเดินออกจากโรงตีเหล็กผ่านประตูหลังร้านจากนั้นก็มาที่ประตูหน้าร้าน เมื่อเปิดขึ้นมาก็มีแสงของพระอาทิตย์สีส้มกําลังสาดส่อง ขับไล่ความหนาวเย็นและมืดมิดออกไปจากท้องฟ้ายามเช้าของนครดาราฟ้า
อุณหภูมิยามเช้ายังคงไม่ร้อนมากเท่าไหร่ มันทําให้เกิดสายลมพัดผ่านที่เบาสบายจนกายที่อยู่แต่ในโรงตีเหล็กมาเกือบสองชั่วโมง รู้สึกดีขึ้นมาก
หลังจากรับอากาศของวันใหม่กายมองหาคนเคาะประตู ซึ่งไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นผู้ช่วยะทั้งสองของเขา
“นาธาน มิล่าทําไมเจ้าทั้งสองถึงได้มากันแต่เช้าขนาดนี้” กายถามด้วยความสงสัย เพราะจากที่บอกไว้ในสัญญาคือเริ่มงานตอน 8 โมงตรง
“ท่านเดวิน พ่อข้าบอกให้ข้ามาที่นี่แต่เช้าขอรับ” นาธานบอก พูดไปก็อ้าปากหาวไป กายพอจะเข้าใจว่าพ่อของนาธานคงกังวลเรื่องเวลามาก โดยเฉพาะการทํางานวันแรกจึงให้นาธานมาก่อนเวลาเพื่อสร้างความประทับใจให้กับกาย
“ข้ามักตื่นเช้าเสมอจึงมาทําความคุ้นเคยกับงานก่อนเจ้าค่ะ” มีล่าตอบกลับกาย
“ถ้างั้นพวกเจ้าเข้ามาก่อน ตอนนี้ข้ายังไม่มีงานอะไรนอกจากทําความสะอาดร้าน แต่ก่อนในเมื่อพวกเจ้ามาแล้วข้าก็จะแบ่งงานให้พวกเจ้าทําก่อนก็แล้วกัน”
“ขอรับ/เจ้าค่ะ”
ทั้งสองขานรับด้วยความเคารพ ซึ่งกายก็พยายามทําความคุ้นเคยกับความสุภาพของทั้งสองและพยายามวางตัว ในฐานะนายจ้างกึ่งอาจารย์ แม้มันจะเป็นแค่ในโลกในเกมแต่กายคิดว่าเขาควรจะทําให้ดีที่สุด
กายพาทั้งสองเข้ามาคุยกันด้านในร้าน หลังจากนั้นก็กล่าวว่า “ที่จริงแล้วพวกเจ้าก็น่าจะเดาได้บ้างว่าทําไมข้าถึงเลือกพวกเจ้ามา มิล่าข้าคิดว่าจะให้เจ้าคอยจัดการดูแลหน้าร้านและคอยขายของให้กับลูกค้าที่เข้ามาในร้าน เพราะเจ้านั้นเก่งในเรื่องการคํานวณและมีประสบการณ์ด้านนี้มาบ้าง”
“ส่วนเจ้านาธาน เจ้ามีพละกําลังดังนั้นควรจะไปช่วยงานที่โรงตีเหล็ก และถ้าเกิดที่หน้าร้านมีปัญหาอะไรก็คอยออกมาช่วยมิล่าดูแลร้าน”
พอได้ยินอย่างนั้นนาธานไม่มีปัญหาอะไร แต่มิล่านั้นดูเหมือนจะมีอะไรอยากจะพูด กายพอจะเดาได้ว่ามิล่าคิดอะไรอยู่ มันจึงกล่าวต่อ
“พวกเจ้าไม่ต้องกังวล ถ้าเจ้าอยากจะเรียนรู้เรื่องทักษะช่างโลหะ ข้ายินดีจะสอนให้ในตอนเย็นหรือตอนที่ข้ามีเวลา แน่นอนว่าพวกเจ้าต้องทําให้ข้าว่าคุ้มค่าที่จะสอนด้วย” กายบอกเงื่อนไขของเขาไปตรงๆ แน่นอนว่าทั้งสองต้องแสดงให้กายเห็นศักยภาพหรือความคุ้มค่าที่จะสอนทักษะช่างโลหะให้
ซึ่งในเรื่องทักษะช่างโลหะแม้กายจะยังคงนับว่าเป็นมือใหม่ในโลกราชัน ถ้านับจากเวลาที่มันเล่นเกม แต่เขายังมีสมุดบันทึกช่างโลหะ ซึ่งมากพอจะให้ใครก็ตามที่อ่านเรียนรู้จนเป็นช่างโลหะได้อย่างไม่มีปัญหา
แต่กายคงจะไม่บอกใครถึงเรื่องนี้ เพราะไม่อย่างนั้นมันคงเป็นผู้เล่นที่โง่น่าดู
“พวกเจ้ามีปัญหาอะไรไหม”
“พวกเราไม่มีปัญหาอะไรขอรับ/เจ้าค่ะ”
“ถ้างั้นพวกเราก็มาเริ่มงานกันเถอะ” กายพยักหน้าอย่างพอใจ ก่อนจะเริ่มทํางานกันต่อในทันที ซึ่งทั้งสองยังต้องทําความคุ้นเคยกับร้านไร้ขอบเขตอีกสักพักด้วยเช่นกัน