ตอนที่ 94 ตอนจบของเรื่องเล่าและช่วยเหลือคน
“เช้าวันต่อมาทุกคนนั้นตกอยู่ในอาการหวาดกลัวมากเพราะค่าคืนนี้พวกเขาต้องตายอย่างแน่นอนทําให้หลายคนวิ่งหนีกันไปอย่างบ้าคลั่งเหลือเพียง 4 คนเท่านั้นที่ตั้งสติและคิดว่าถ้าอยากรอดต้องกลับไปที่หมู่บ้านนั้นเพื่อหาค่าตอบว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่พวกเขาพากันกลับไปที่หมู่บ้านก่อนจะมืด ทุกอย่างยังเหมือนเดิมและชาวบ้านก็ยังใช้ชีวิตเหมือนปกติแทบไม่ต่างจากวันนั้นที่พวกเขาออกไป”
“ทั้ง 4 พยายามค้นหาไปทั่วหมู่บ้านแต่ไม่เจออะไรจนในที่สุดพวกเขาก็ตัดสินใจทุบหมู่บ้านทิ้งโดยเริ่มจากหลังที่ 4 ก่อนไม่มีชาวบ้านคนไหนคิดจะหยุดพวกเขาแม้แต่น้อยจนบ้านทั้งหลังถูกทุบทิ้งในที่สุดพวกเขาก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา”
“เกิดอะไร?” ลิลี่ถามอย่างอยากรู้มาก
“พวกเขาเจอกับแท่นบูชายัญใต้บ้านและซากกองกระดูกทั้งหมดคือชาวบ้านในหมู่บ้านหลังจากนั้นพวกเขาก็ช่วยกันทุบบ้านที่เหลืออีก 3 หลัง มันคือแท่นบูชาเช่นกันในที่สุดพวกเขาเหล่าคณะสํารวจก็รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นคนทั้งหมู่บ้านนั้นตายไปแล้วพวกเขากลายเป็นเครื่องสังเวยให้กับปีศาจส่วนที่พวกเขาเห็นอยู่นี้อาจจะเป็นเพียง ภาพลวงตาหรืออาจจะแค่ภาพสะท้อนในตอนที่พวกเขามีชีวิตอยู่”
“กิราหรือว่าชื่อนี้ชื่อของทุ่งหญ้ากิราก็คือชื่อของปีศาจกิรา”มีอาถามกาย
“ถ้าตามเรื่องเล่าก็ใช่ตําการก็คือปีศาจกิราถ้าจะพูดให้ถูกมันคือเทพแห่งความแห้งแล้งความตายมากกว่าดังนั้นมันจึงกระหายจะกินเลือดเนื้อ”
“แล้วพวกเขาที่เหลือรอดหรือเปล่า” นี่คือคําตอบที่พวกเขาอยากรู้จากเรื่องเล่าของกาย
“รอดสิไม่อย่างนั้นจะมีคนมาเล่าเรื่องต่อๆกันมาได้อย่างไร ว่ากันว่ายามค่ำคืนมาถึงพวกเขาก็ยังไม่มีวิธีทําลายปีศาจเจ้าของแทนบูชาทั้ง 4 นี้ได้นั้นทําให้ตกกลางคืนมีชาวบ้านที่ใบหน้าเหลือแต่ปากออกมาตามล่าพวกเขาอีกครั้งแต่ก่อนที่พวกมันจะได้ฆ่าพวกเขาอยู่ๆโลกราชันก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้นความมืดและแสงสว่างปะทะกันทําลายล้างสิ้นแทบจะทุกอย่างในโลกราชั้นส่วนที่คนในคณะสํารวจนั้นรอด ตายมาได้อย่างปาฏิหาริย์จากนั้นทุ่งหญ้ากิราก็กลับมาเป็นทุ่งหญ้าปกติไม่มีใครเจอกับปีศาจกิราอีกเลยทําให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องเล่าต่อๆ กันมาในทุ่งหน้าเท่านั้นและเรื่องนี้ก็จบลงแค่ตรงนี้”
มีอา ลิลี่ อาลีน่า ลูก้า ต่างงงกับตอนจบเป็นอย่างมาก เพราะไม่คิดว่าเรื่องจะถูกตัดจบไปทั้งอย่างนี้ “มีเรื่องเล่าไหมว่าแสงและความมืดพวกนั้นคืออะไรถึงสามารถฆ่าปีศาจกราได้”
“ไม่รู้สิอาจจะมีหรือไม่มีข้าก็ไม่รู้”กายส่ายหัวเพราะที่มันอ่านมาก็มีแค่ตรงนี้ผู้เล่นหลายคนวิเคราะห์ว่าเรื่องเล่านี้อาจจะเนื้อเรื่องลับก็ได้และนั้นคงต้องรอให้ผู้เล่นสายล่าเควสเหล่านั้นไปค้นหา
พวกเขาออกเดินทางกันต่อ จนตกเย็นก็หาที่พักกันยังจุดหนึ่งแถวนี้ไม่มีแหล่งน้ำแต่พวกเขาไม่ต้องกังวลเพราะก่อนออกมาจากจุดพักก่อนหน้าพวกเขาเติมน้ำมาจนเพียงพอให้ใช้ไปได้อีกสองวัน เพื่อถึงเมืองในทุ่งหญ้ากรา
คืนนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนั้นทําให้พวกเขาพักผ่อนกันได้อย่างสบายใจ
เช้าวันต่อมากลุ่มของกายออกเดินทางกันต่อ แต่มาได้ไม่ไกลพวกเขาก็ได้ยินเสียงการต่อสู้เกิดขึ้นมาดังออกมาไม่ไกลมากนัก
“มีคนก่าลังสู้กันอยู่เราไปดูกันเถอะ” กายบอกกับคนอื่น ๆ
หลังจากลัดเลาะมาตามถนนไม่ไกลก็เจอกับพ่อค้าและผู้คุ้มกันที่ถูกล้อมไว้ด้วยโจรกลุ่มหนึ่ง
“มีอยู่ประมาณ 10 คน แต่ส่วนใหญ่แล้วโจรพวกนี้นั้นเป็นเพียงคนธรรมดาเท่านั้น”
“มีคนหนึ่งชายไว้หนวดที่ขี่ม้าตรงนั้นน่าจะเป็นหัวหน้าโจรน่าจะเป็นนักรบฝึกหัด”
“เราจะลงไปช่วยพวกเขาไหม”
กายส่ายหัวก่อนจะกล่าวว่า “ยังก่อนดีกว่า คอยดูท่าที่ไปก่อน ผู้คุ้มกันพวกนั้นน่าจะไม่โดนจัดการง่าย ๆ”
“ข้าเห็นด้วยกับเดวิน” มีอาพูดเสริม
“ตามใจเจ้าก็แล้วกัน” อาลีน่าพูดออกมา ก่อนจะเฝ้าดูอยู่อย่างเงียบ ๆ
“พวกเจ้าว่าหัวหน้าโจรจะมีค่าหัวไหม” ลิลี่ถามด้วยความสนใจมีอาจึงตอบเธอว่า“อาจจะไม่ถึง 1000 เหรียญทอง ถ้าดูจากกองกําลังของมัน”
“ถึงจะไม่ถึงแต่ถ้ามีโอกาสก็ลองตัดไปขึ้นค่าหัวดูน่าจะได้สักสองสามร้อย”ลูก้าจับไปที่ดาบสองมือของตนเองพร้อมจะลงมือได้ทุกเมื่อ
ภายในวงล้อมของกลุ่มโจร พ่อค้าวัยกลางคนหลบอยู่บนรถม้าด้วยความกลัวด้านในรถม้าเขารีบเก็บเงินทองที่พอจะเอาติดตัวได้ไว้กับตัวเองในทันทีเพื่อในกรณีที่ต้องหนีอย่างน้อยก็มีสมบัติติดตัวไปบ้างก่อนที่สายตาและความคาดหวังจะไปตกอยู่ที่กลุ่มผู้คุ้มกันสี่คนที่ตอนนี้กําลังยืนประจันหน้ากับกลุ่มโจรอยู่
“ดวงจันทร์เจ้าไปปกป้องพ่อค้าอย่าให้เขาตาย ภารกิจนี้เราต้องพาพวกเขาไปถึงเมืองเลมิสให้ได้”หัวหน้ากลุ่มคุ้มกันสั่งคนในทีมของตนเองหญิงสาวที่ใช้ชื่อว่าดวงจันทร์ไปที่รถม้าลากขนาด 6 ล้อในทันทีก่อจะคว้าธนูออกมาเล็งไปที่กลุ่มโจร
ทางด้านทีมของเธออีกสามคนก็สู้กับโจรในทันที
ด้วยความที่กลุ่มโจรนั้นเป็นเพียงคนธรรมดาทําให้ต้องใช้สองคนสู้กับกลุ่มผู้คุ้มกันนี้ถึงจะสู้ได้อย่างสูสีในตอนนั้นเองหัวหน้าโจรก็ขี่ม้าควบเข้าหาและโจมตีหนึ่งในผู้คุ้มกันจนกระเด็นไปถึงสามเมตร ที่ไหลมีแผลจากรอยดาบโค้งลากยาวจนน่ากลัว
“บ้าเอ๊ย…เคลโดนเล่นแล้ว ดาบสายฟ้าไปช่วยเคลก่อนข้าจะรับมือกับหัวหน้าโจรเอง”
“ย้ากกก…มาส์ไอ้โจรลูกหมารับดาบของข้าไปกินซะ” ชายที่ถือดาบสองมือไล่ฟันโจรที่พยายามลมทิ้งพวกเขาอยู่ทางด้านหัวหน้าทีมก็เข้าปะทะกับหัวหน้าโจรซึ่งดูเหมือนว่าจะเสียเปรียบพอสมควรเพราะพลังของอีกฝ่ายนั้นมากกว่าแถมยังมีขี่ม้าด้วย
“หัวหน้าโจรนั้นเป็นนักรบฝึกหัดขั้น 2 อย่างแน่นอน ส่วนผู้คุ้มกันพวกนั้นเป็นเพียงแค่นักรบฝึกหันขึ้น 1 เท่านั้น”มีอากล่าวขณะที่สายตายังจับจ้องไปที่การต่อสู้
“เราลงไปช่วยพวกเขากันเถอะ” ลิลี่ชักชวนคนอื่น ๆ
กายมองดูสถานการณ์ข้างล่าง เขาได้ยินชื่อเรียกของคนพวกนั้นไม่ต้องเดาก็รู้ว่ากลุ่มผู้คุ้มกันพวกนี้คือผู้เล่นที่พากันมาทําภารกิจคุ้มกัน
“ถ้าจะลงมือก็อย่าให้หัวหน้าโจรหนีไปได้มีอากับลิลี่เจ้าสองคนไปทางฝั่งนั้นอาลีน่าและลูก้าคอยไปดักโจรที่อาจจะหนีไปทางนั้น ส่วนข้าจะลงไปเปิดก่อนพวกเจ้าคอยหาโอกาสลอบโจมตีพวกมันแล้วกันแต่อย่าให้มันตกใจจนหนีไปก่อนละ”กายอธิบายแผนให้กับพวกเขาฟัง
“ตามนั้น”
“ได้”
“ยืมไม่มีปัญหา”
“ข้าจะซัดไม่เลี้ยงเลย”
ทั้งสี่คนแยกกันไปตามที่วางแผนกันไว้โดยไม่ได้คัดการอะไร เพราะกลุ่มโจรพวกนี้ยังอันตรายน้อยกว่าฝูงหมาป่าที่พวกเขาพึ่งสู้กันมาเมื่อสองวันก่อนซะอีก
“มาเจ้าหมอกวิ่งสุดกําลังเลย” กายกระโดดขึ้นหลังเจ้าหมอกแบกค้อนสันสะเทือนขึ้นมาในท่าโจมตีเจ้าหมอกที่ตอนนี้ได้รับค่าสั่งก็ออกตัวพุ่งกระโดดออกจากหลังพุ่มไม่เข้าหาการต่อสู้เบื้องหน้าในทันที
“เจ้าพวกผู้คุ้มกันขยะ คิดจะขวางข้าอย่างนั้นเหรอ ไปตายซะ!” หัวหน้าโจรควบมาพร้อมกัควงดาบโค้งยาวในมือกําลังจะฟันหัวของผู้เล่นหัวหน้าทีมคุ้มกันแต่แล้วในตอนนั้นเองมันก็ได้ยินเสียงวิ่งห้อตะบึงของม้ามาทางมัน
“นั้นมันบ้าอะไร…” หัวหน้าโจรยังพูดไม่ทันจบก็โดนกายที่ควบเจ้าหมอกมุ่งหาใช้ค้อนสั่นสะเทือนทุบเข้าไปอย่างเต็มกําลังจนทั้งคนและม้าของหัวหน้าโจรลอยหมุนสามตลบตกลงไปที่พื้นดังอุก ม้านั้นโดนการโจมตีด้วยค้อนสั่นสะเทือนไปเต็ม ๆ ทําให้มันถึงกับนอนเลือดไหลทะลักออกจากปากไม่หยุดมันไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีก
ส่วนหัวหน้าโจรนั้นก็สภาพเลวร้ายอยู่บ้างแต่ก็ดีกว่าม้าของมันพอสมควรเพราะแม้จะกระอักเลือดอยู่บนพื้นแต่มือก็พยายามคว้าดาบที่หล่นอยู่ใกล้ ๆและพยุงตัวเองด้วยดาบยืนขึ้นอย่างมึนงงว่าใครกันที่ลอบจู่โจมมัน
ทางด้านของโจรที่เหลือต่างก็อ้าปากค้างที่อยู่ ๆ ก็มีคนสอดมือเข้ามายุ่งกับการต่อสู้ของพวกมันแถมยังซัดหัวหน้ามันซะเกือบหมดสภาพ
แต่ในตอนนั้นเองก็มีลูกศรยิงทะลุกลางอกของโจรคนหนึ่งเกิดเป็นรูใหญ่เท่ากานั้นซึ่งเป็นลูกศรของอาลีน่าที่ใช้พร้อมศิลปะการต่อสู้เจาะทะลวง ขั้น 1 โจรธรรมดาที่ไม่ได้เป็นแม้แต่นักรบฝึกหัดนั้นไม่มีทางร้านได้อยู่แล้ว
โจรที่โดนยิงล้มลงตายไปทั้งที่ยังไม่เห็นแม้แต่หน้าของคนที่สังหารมัน
“ลอบโจมตี
“หนีเร็วพวกเรา”
โจรที่เหลือต่างก็ตกใจขวัญหนี้ในทันที พวกมันมักจะซุ่มโจมตีคนอื่นแต่ตอนนกลับโดนลอบโจมตีแทนนั้นทําให้ไม่มีโจรคนไหนนั้นคิดจะสู้แบบทิ้งชีวิตอยู่ที่นี่อีกต่อ
หัวหน้าโจรที่เห็นแบบนั้นแม้จะโมโหกาย แต่มันก็รักชีวิตและกลัวตายเช่นกันมันรู้แล้วว่าคนที่ลอบโจมตีกลุ่มโจรพวกมันนั้นเป็นนักรบฝึกหัดและมันตัวคนเดียวคงไม่สามารถสู้ได้
แต่พอมันจะหันหนีกลับโดนหัวหน้าทีมคุ้มกันเข้ามาขัดขวางไว้ก่อน
“จะไปไหนไอ้โจรลูกหมา ศิลปะการต่อสู้รูปแบบศาสตราวุธ ฟาดฟัน ขั้น 1”
“ไอ้เวรนี้ ข้าจะฆ่าแกก่อนหนีก็แล้วกัน” หัวหน้าโจรจับดาบโค้งหมุนควงเข้าปะทะกับหัวหน้าทีมคุมกัน พร้อมกับใช้ศิลปะการต่อสู้ออกมา
“ศิลปะการต่อสู้ รูปแบบศาสตราวุธ ปัดป้องขั้น 1” ดาบโค้งของหัวหน้าโจรราวกับมีลื่นไหลสุด ๆ มันปัดการโจมตีฟาดฟันของหัวหน้าทีมคุ้มกันออกไปด้านข้างได้อย่างง่ายดาย
“อะไรกัน” หัวหน้าทีมคุ้มกันถึงกับตกใจ
แต่หัวหน้าโจรไม่เปิดโอกาสให้กับหัวหน้าทีมคุ้มกันอีก มันใช้ “ศิลปะการต่อสู้รูปแบบศาสตราวุธฟาดฟันขั้น 1” โจมตีส่วนกลับไปทันที
“เวรแล้ว” หัวหน้าทีมคุ้มกันรู้ว่าตอนนี้มันไม่รอดอย่างแน่นอน
แต่แล้วในตอนนั้นเองก็มีการโจมตีเข้ามาขัดจังหวะหัวหน้าโจรไว้ด้วยค้อนสั่นสะเทือนดังปัง!
“อ๊าก..!” หัวหน้าโจรร้องด้วยความเจ็บปวด มือไม่อาจจะถือดาบได้อีกเพราะราวกับการปะทะเมื่อครู่ส่งพลังงานผ่านมาทางดาบเข้ามาฉีกมือของมัน
มันรีบปล่อยดาบโค้งกระเด็นไปอีกทิศทางในทันที ก่อนที่ใบดาบโค้งจะแตกกระจายหัวหน้าโจรมองไปที่ดาบที่แตกด้วยความตกใจกลัวดาบระดับ 3 ของมันแตกไม่มีชิ้นดีส่วนมือของมันนั้นถึงกับสั่นอย่างรุนแรง ก่อนแทนจะหักห้อยลงกับพื้น
หัวหน้าโจรทรุดตัวลงกับพื้นด้วยความเจ็บปวด มันพยายามจะคลานหนีไปจากตรงนี้แต่เบื้องหน้าของมันนั้นถูกขวางไว้ด้วยชายหนุ่มที่มีค้อนด้ามใหญ่พลาดไว้ที่น่า
“ค่าหัวของเจ้าเท่าไหร่กัน” กายถามพร้อมกับรอยยิ้ม หัวหน้าโจรถึงกับเหงื่อแตกในทันทีก่อนจะสิ้นสติล้มฟุบไปกับพื้น