ตอนที่ 95 จับเป็นหัวหน้าโจร
“ค่าหัวของเจ้าเท่าไหร่กัน” กายถามพร้อมกับรอยยิ้ม หัวหน้าโจรถึงกับเหงื่อแตกในทันที ก่อนจะสิ้นสติล้มฟุบไปกับพื้น
แค่ถามถึงค่าหัวเท่านั้น ท่าไมหมอนี่มันถึงกลัวจนสลบไปได้ละเนี่ย…
“เฮ้…ตื่นสิเฮ้ย” กายเดินเข้าไปเอาเท้าเขี่ยดู แต่หัวหน้าโจรคนนี้กลับไม่ยอมตื่นขึ้นมาแม้แต่น้อย
มีอา ลิลี่ อาลีน่าและลูก้า ทั้ง 4 จัดการโจรที่เหลือจนหมดไม่มีใครรอดไปได้แม้แต่คนเดียว แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้ฆ่าทุกเพราะหลังจากที่ฆ่าไปเพียงไม่กี่คนที่พยายามสู้กลับหรือคิดจะหนี โจรที่เหลือต่างก็พากันทิ้งอาวุธยกมือยอมแพ้ไปโดยไม่ต้องลงแรงอะไรมากนัก
โจร 4 คนที่ยังไม่ตายถูกจับมารวมกันข้าง ๆ หัวหน้าโจรที่สลบอยู่
“เราจะทําอย่างไรกับพวกนี้ จะให้อัดจนน่วมเลยไหม” ลิลี่ทําท่าทํามือราวกับอดใจไม่ไหวที่จะอัดพวกโจรนั้นทําให้โจรพวกนั้นตัวสั่นด้วยความกลัว เพราะมันเคยเห็นสหายของตัวเองโดนต่อยจนร่างระเบิดมาแล้ว
“ในเมื่อเป็นโจรพวกเราก็แค่ฆ่าทิ้งไปเก็บแล้ว” อาลีน่าเล็งลูกศรไปที่หัวของโจรนั้น ยิ่งทําให้พวกมันกลัวหนักเข้าไปใหญ่
ในตอนนั้นเองกายก็พูดขึ้นมาว่า “พวกเขาลืมไปหรือเปล่าว่าพวกเขาคือโจร”
“ก็ใช่ยังไงพวกเขาเป็นโจร เจ้าถามอะไรแปลก ๆ” ลิลี่มองไปที่กายอย่างไม่เข้าใจ
“แล้วโจรปล้นอะไร?” กายยังถามต่อไป
“เหรียญทอง?” ลิลี่ตอบกลับทันควัน
“แล้วพวกเขาเอาเหรียญทองไปเก็บไว้ที่ไหน”
“ก็เก็บไว้ที่…” ลิลี่อ้าปากค้าง
“หรือว่าเจ้าคิดจะไปขโมยเหรียญทองที่พวกนี้ปล้นมา ข้าเอาด้วย!” ลูก้าพูดออกมา ด้วยสายตาที่เป็นประกาย เขาสนใจเหรียญเงินที่โจรพวกนี้ซ่อนไว้เป็นอย่างยิ่ง
กายมองไปที่ลูก่าอย่างแปลก ๆ เพราะตั้งแต่ผ่านเหตุการณ์ที่การทดสอบชั้นปี 1 มา ลูก้าก็ดูจะชอบเหรียญทองมากขึ้นเป็นพิเศษ
“ถ้านายอยากได้คงต้องไปถามโจรพวกนี้เอา” กายชี้ไปที่โจรที่เหลือ
โจรทั้งสี่คนต่างก็หน้าเสียกันทันที ปกติพวกมันเคยแต่ปล้นคนอื่น แต่ตอนนี้มันกำลังจะถูกปล้น นี่มันโจรปล้นชัด ๆ
หัวหน้าโจรที่สลบอยู่ อยู่ ๆ พอได้ยินว่ากายและพวกต้องการปล้น พวกมันก็กระอักเลือดออกมาอีกครั้ง
“ข้าว่าพวกเราจัดการหัวหน้าโจรนี่ก่อนไหม” มีอาชี้ไปที่หัวหน้าโจร
“จริงสีข้าลืมถามเลย”
“ตัดหัวเขาไปขึ้นค่าหัวกันก่อนก็แล้วกัน”
“ดูของที่เขาใส่สิ้น่าจะพอได้ราคา เอาไปแต่หัวน่าจะสะดวกกว่าแล้วก็เอาพวกของคนตัวไปด้วยก็ได้น่าจะใช้ได้”
“แบบนั้นจะไม่เป็นการไม่เคารพคนตายอย่างนั้นเหรอ”
“คนตายอะไร พวกนี้คือโจร ข้าจะปล้นพวกโจรให้หมดเลย”
ทั้งลิลี่และลูก้าทั้งสองต่างพากันประเมินตัวหัวหน้าโจรกันอย่างสนุกสนาน หัวหน้าโจรที่แกลังสลบตอนนี้มันกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง มันอยากจะร้องไห้ออก สองคนนี้มันเป็นโจรยิ่งกว่าโจร
“มีอาตัดหัวเขาให้หน่อยสิ” ลิลี่หันไปบอกกับมีอา ก่อนที่เธอจะเอาผ้าออกมาเตรี ยมห่อหัว
มีอาไม่รอช้ชักดาบเดซี่ออกมา เดินเข้าไปหาหัวหน้าโจรง้างมือกําลังจะตัดหัวของหัวหน้าโจร ลูกสนุนสี่คนของหัวหน้าโจรนั้นต่างพากันกลั้นหายใจเพราะกลัวคนพวกนี้จะหันมาตัดหัวของมันด้วย
“เดี่ยว ๆ ข้ายอมแพ้แล้ว อย่าตัดหัวข้า…พวกเจ้าเป็นนักล่าค่าหัวใช่ไหม ข้ารู้จุดนัดพบของโจรหลายกลุ่ม หัวหน้าโจรที่แกลังสลบอยู่ ดีดตัวขึ้นมาร้องด้วยความกลัว
กายได้ยินดังนั้นก็สายตาเป็นประกาย มันเดินเข้าไปถามในทันที “เจ้ารู้อย่างนั้นเหรอ แล้วรู้เรื่องของโจรที่มีค่าหัวหนึ่งพันเหรียญทองขึ้นไปด้วยหรือไม่”
“เออ…” หัวหน้าโจรลังเลในทันทีเมื่อพูดถึงโจรค่าหัวหนึ่งพันเหรียญทอง
“ช่างเถอะ มีอาจัดการเลย”
“เดี๋ยว! ข้าบอก แต่ว่าพวกนั้นมันพวกโหดมาก ๆ โจรที่มีค่าหัวหนึ่งพันเหรียญทองนั้นมีสมุนจํานวนมาก และบางกลุ่มโจรที่มีค่าหัวหนึ่งพันเหรียญทองยังอยู่รวมกันอีก”
“เจ้ารู้จักกกลุ่ม
“ประมาณ…ประมาณ 10 กว่ากลุ่ม หัวหน้าโจรรีบพูดออกมา ตอนนี้มันไม่สนใจ แล้วว่าจะขายโจรด้วยกัน ขอแค่ทําให้มันรอดตาย ชีวิตบัดซบของโจรพวกนั้นที่แลกไปก็ถือว่าไม่ไร้ค่าแล้ว อีกอย่างถ้าคนกลุ่มและโจรพวกนั้นฆ่ากันตาย มันก็จะเป็นผู้ได้ประโยชน์อย่างแน่นอน
ข้าจะพากพวกนี้ไปถล่มกลุ่มโจรคู่อริให้หมดเลย ฮ่า ๆ หัวหน้าโจรเริ่มวางแผนในใจ
ส่วนกายและคนอื่น ๆ นั้นต่างตาเป็นประกาย ถ้าพวกเขาได้ข้อมูลจากวงในว่าแบบนี้ การจะถามหาโจรที่มีค่าหัวในทุ่งหญ้ากิรานั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
“ถ้าอย่างนั้นเราใช้แค่หมอนี่เท่านั้นคนอื่น ๆ ก็…” อาลีน่าลูกศรจัดการสังหารโจรสี่คนในทันที
กายและคนอื่น ๆ นั้นไม่ได้ห้ามอาลีน่า เพราะโจรเหล่านี้สมควรตายอยู่แล้ว การฆ่าพวกมันอาจจะทําให้ในอนาคตผู้บริสุทธิ์ไม่ต้องตกตายในน้ํามือของโจรเหล่านี้อีกและที่สําคัญมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะพาโจรหลายคนเดินทางไปด้วย
ทางด้านของพ่อค้าและทีมคุ้มกันต่างพากันมองการสนทนาและการกระทําของ กายและเพื่อน ๆ ด้วยความกลัว โดยเฉพาะเมื่อหญิงสาวที่ใช่หนึ่งศรสังหารโจร 4 คน โดยตาไม่กะพริบแม้แต่น้อย
“พวกนั้นเป็นผู้เล่นเหมือนเราหรือเปล่า” ผู้เล่นที่ใช้ชื่อว่าดวงจันทร์ถามด้วยความ สงสัย
“ไม่รู้สิ แต่ตอนนี้เราช่วยกันทําแผลให้เคลก่อนดีกว่า ไม่งั้นเขาอาจจะเสียเลือดตายเอาได้” ผู้เล่นที่ใช้ชื่อว่าดาบสายฟ้าพยุงชายที่โดนฟันด้านหลังจนเป็นแผลลากยาว ใบหน้าของผู้เล่นคนนั้นซีดขาวราวกับคนตาย ทั้งสองรีบเอายาที่ซื้อมาใส่ห้ามเลือดในทันที
ทางด้านของหัวหน้าทีมคุ้มกันและพ่อค้าเดินเข้ามาหากายและคนอื่น ๆ ก่อนจะกล่าวขอบคุณพวกเขา “ข้าคือ หัวเหล็ก หัวหน้าทีมคุ้มกัน ขอขอบคุณพวกเจ้ามากที่ช่วยเหลือพวกเราในครั้งนี้ ถ้าไม่อย่างนั้นละก็…พวกเราคงไม่มีใครรอด”
“นักล่าค่าหัวเดวิน เรื่องที่ช่วยนั้นไม่เป็นไร เพราะถือเป็นหน้าที่ซึ่งต้องจัดการเก็บกวาดพวกนี้อยู่แล้ว” กายตอบกลับไป
“เออ..ท่านรับนี่ไว้เป็นสินน้ําใจที่ช่วยพวกเราได้หรือไม่” พ่อค้าล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้ออย่างระวังก่อนจะเอาถุงที่บรรจุเหรียญทองออกมา
กายรู้สึกแปลกกับการกระทําของพ่อค้ามาก แต่เขาเห็นสีหน้ากังวลของพ่อค้า เขา จึงยื่นมือไปรับถุงเงิน นั่นทําให้พ่อค้ถอนหายใจด้วยสีหน้าโล่งใจ
นั้นทําให้กายรู้ว่าการช่วยเหลือพวกเขาโดยไม่หวังอะไรตอบแทนนั้นกลับกลายเป็นทําให้พวกเขารู้สึกกังวลมากขึ้นกว่าเดิม ว่ากายอาจจะหวังอย่างอื่นอย่างเช่นการปล้นของทั้งหมดไปแทน เพราะด้วยความแข็งแกร่งของกายนั้นสามารถทําได้ไม่อยากเลย
กายส่งถุงเงินให้กับมีอา เพื่อให้เธอจัดการมันต่อ ส่วนกายนั้นยังคงคยกับพ่อค้า และหัวหน้าทีมคุมกันที่ใช้ชื่อหัวเหล็กต่อ
“ว่าแต่พวกเจ้าจะไปที่ไหนกัน” พ่อค้าถามกายด้วยรอยยิ้ม
กายจึงยิ้มตอบกลับไปและกล่าว “พวกเรากําลังไปที่เลมิส”
“อย่างนั้นเหรอ นั้นเป็นสถานที่เดียวกันกับที่พวกข้าค่าลังจะไป เอาแบบนี้ไหมพวกเจ้าเดินทางไปพร้อมกันเป็นอย่างไร” พ่อค้ารีบช่วยกายในทันที
“ถ้าไปด้วยกันพวกเราสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ถึงเลมิสในระหว่างเดินทางหัวเหล็กกล่าวเสริม
กายคิดอยู่สักพักจึงหันไปถามคนในกลุ่ม เพราะถึงแม้กายจะทําหน้าที่ในการน่ากลุ่มอยู่ ณ ขณะนี้ แต่เขาก็ไม่ใช่หัวหน้ากลุ่มจริง ๆ เป็นเพียงกลุ่มที่รวมเดินทางกันเท่านั้น
แน่นอนว่าพวกเขาไม่มีเหตุให้ต้องปฏิเสธ การเดินทางไปกับคนที่ชํานาญเส้นทางอย่างพวกพ่อค้านั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากกว่าเสีย
“แน่นอน แต่พวกข้าต้องไปเอาม้าและสัมภาระก่อน”
“ไม่มีปัญหา อีกครึ่งชั่วโมงเราค่อยออกเดินทางกันก็ได้”
พ่อค้าตอบกลับด้วยความยินดี ไม่ต่างจากหัวเหล็ก เพราะนั่นหมายความว่าจะมีคนแข็งแกร่งมาร่วมเดินทางมากขึ้น ทําให้มันปลอดภัยขึ้นเช่นกัน และอีกส่วนนั้นคือผู้เล่นอย่างพวกเขานั้นสามารถติดต่อกับ NPC ที่มีพลังสูงนั้นอาจจะทําให้ได้มีโอกาสรับศิลปะการต่อสู้อย่างนั้นมากขึ้น
แน่นอนว่าหัวเหล็กนั้นไม่รู้ว่ากายนั้นก็เป็นผู้เล่นเหมือนกับตนเอง
กายไม่คิดจะบอกเรื่องนี้กับใคร เขาพยายามทําตัวให้เหมือนกับ NPC มากที่สุด เพราะมันนํามาซึ่งผลประโยชน์มากกว่าการเปิดเผยว่าเป็นผู้เล่นซะอีก
หลังจากกายไปเอาเจ้าถูกและคนอื่น ๆ ก็ไปพาม้าและสัมภาระของตนเองมาพวกเขาก็มารวมกลุ่มของพ่อค้า ในตอนนั้นเองพ่อค้าที่เห็นหนังหมาป่าก็ถึงกับตาลุกวาว รีบเดินเข้ามาดูด้วยความสนใจ
“หนังพวกนี้มัน สุดยอด คุณภาพดีกว่ามาก พวกเจ้าไปได้มันมาจากไหนกัน” พ่อค้าจับไปที่หนังหมาป่าพลางพิจารณา
“พวกเราพึ่งล่ามันมาเมื่อวานก่อน” กายตอบกลับไปพร้อมรอยยิ้ม
“ขายให้ข้าได้หรือใหม่ แน่นอนว่าข้าให้ราคาไม่ต่างจากเลมีสมากนักอย่างแน่นอน” พ่อค้าถามออกไปตรง ๆ เพราะถ้ามันสามารถซื้อหนังหมาป่าพวกนี้มาได้ก็คงหาช่องทางทํากาไรได้อีกมาก
กายได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าว่าตกลง เพราะการขายให้พ่อค้านั้นมันสะดวกกว่าการเอาไปเร่ขายหรือหาช่องทางด้วยตนเอง ยังไงเขาก็ไม่ได้เดินทางมาเพื่อทําการค้าขาย แต่กําลังจะไปล่าหัวคนอยู่
“นั้นก็ได้ แต่ว่าส่วนอื่น ๆ ไม่ใช่ของข้าเจ้าต้องไปตามพวกเขาเอาเอง” กายชี้ไปที่หนังหมาป่าอื่น ๆ หนังหมาป่าพวกนี้ทุกคนช่วยกันล่ามา ดังนั้นจึงแบ่งกันไปอย่าเท่าเทียม และกายไม่สามารถตัดสินใจขายของคนอื่น ๆ ได้โดยพลการ
“แน่นอน ข้าลืมแนะนําตัวเองไปเลย ข้าชื่อ ฟลินต์ ถ้าเจ้าอยากจะขายของอะไรก็ตาม…ข้าสามารถช่วยขายมันออกไปได้” พ่อค้าฟลินต์ยิ้มอย่างมีเลศนัย
กายพยักหน้าอย่างเข้าใจ ของที่พ่อค้าฟลินต์หมายถึงนั้นก็คือของที่พวกเขากําลังไปปล้นมาจากพวกโจร แต่พ่อค้าฟลินต์รู้ว่าอะไรควรพูดไม่ควรพูด เรื่องที่กายก่าลังทํานั้นรู้น้อยเท่าไหร่ยิ่งดี
พ่อค้าของฟลินต์นั้นขอสนใจแค่กาไรที่จะได้ก็พอแล้ว
หลังจากนั้นพวกเขาก็ช่วยกันมัดหันหน้าโจร แต่ดูเหมือนทุกคนจะไม่ค่อยสบายใจ เพราะอย่างไรหัวหน้าโจรก็เป็นนักรบฝึกหัดขึ้น 2 เชือกธรรมดานั้นไม่อาจจะมัดเขาได้นาน
ในตอนนั้นเองพ่อค้าฟลินต์จึงเสนอให้ใช้โซ่เหล็กที่เขาเอามาด้วยมัดหัวหน้าโจร ทําเอาหัวหน้าโจรสาปแช่งพ่อค้าฟลินต์ไม่หยุดหย่อน เพราะมันบาดจับขนาดนี้จะเอาแรงที่ไหนไปหลบหนีได้ แค่เชือกทําธรรมดามันยังไม่มีปัญญาจะดิ้นหลุด
หลังจากมัดหัวหน้าโจรและโยนมันไปบนหลังรถม้าของพ่อค้าแล้ว ทุกคนก็ออกเดินทางกันมุ่งหน้าไปที่เลมสต่อ โดยทิ้งศพไว้ทั้งอย่างนั้น เพราะไม่นานหลังจากนี้เหล่านักกินซากจะมาเก็บกวาดไปเอง
ในทุ่งหน้ากิรานั้นความตายนั้นถือเป็นเรื่องปกติมากซะยิ่งกว่าการดื่มน้ําซะอีก