ตอนที่ 96 เมืองเลมิส
เลมิส มีหลายชื่อเรียก คนต่างถิ่นเรียกมันว่า เมืองเลมิส กลุ่มโจรเรียกมันว่าแหล่ง ปลดปล่อยเลมิส ส่วนคนพื้นเมืองเรียกพวกมันว่าตลาดเลมิส เลมิส เป็นสถานที่รวมตัว และแลกเปลี่ยนกันของผู้คนในทุ่งหญ้ากิราที่นี่แม้จะดูเหมือนอยู่ภายใต้การปกครอง ของนครดาราฟ้า แต่กลับรวมเชื้อชาติและชุมอานาจที่หลากหลายเอาไว้ได้อย่างน่าป ระหลาดใจ
ในเลมิสมักมีคํากล่าวที่ว่า ยามอรุณรุ่งนครดาราฟ้าคือเจ้าปกครอง แต่ยามอาทิตย์ อัสดงที่นี่พลังคือกฎ ดังนั้นในเวลายามค่ําคืนนั้นเลมิสจะอันตรายกว่ากลางวันมากนัก เนื่องจากไม่ค่อยมีทหารยามมาสอดส่องดูแล
เวลาในทุ่งหน้ากิราล่วงเลยมาถึงช่วงบ่ายของวัน ในที่สุดกายและกลุ่มก็เดินทา งมาถึงเลมิสพร้อมกับพ่อค้าฟลินต์และทีมคุ้มกันของเขา เบื้องหน้าสายตาของกายนั้น มีอาคารจํานวนมากสร้างจากทั้งไม้ หินดิน ปูนผสมผสานสถาปัตยกรรมและวัฒนธร รมต่างกันไป แต่อาคารทั้งหมดนั้นเน้นไปที่การระบายความร้อนในยามกลางวันและ การป้องกันความหนาวเย็นในยาวกลางคืน
รอบเมืองเลมิสไม่มีกําแพงสูงใหญ่อะไร มันมีเพียงคูคลองน้ําที่ปูด้วยหินอย่างดี ถูกขุดไว้รอบเมือง แต่ที่น่าแปลกคือมันไร้ซึ่งสายน้ําไหล เพราะหน้าที่ของคูคลอง เหล่านี้จะแสดงให้เห็นก็ตอนที่ฝนตก น้ําฝนจะไหลตามเส้นทางพวกนี้ตรงไปเก็บยัง แอ่งน้ําเพียงแห่งเดียวในเลมิส “ทะเลสาบเลมิส”
ทะเลสาบเลมิสนั้นคือแหล่งน้ําขนาดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงสถานที่แห่งนี้ มีพื้นที่กว่า 500 เมตรและความลึกนั้นไม่อาจจะวัดได้ เพราะไม่มีใครโง่ดําน้ําลงไปดูอีก ส่วนพวก ที่โง่นั้นตายไปกับกระแสน้ําใต้ทะเลสาบหมดแล้ว
ที่นี่ไม่มีใครเป็นเจ้าของทะเลสาบเลมิส เพราะใครที่คิดขึ้นมาควบคุมจะโดนทุกคน รมทิ้งทันที เนื่องจากน้ําในดินแดนแห้งแล้งก็เหมือนกับโลหิตแห่งชีวิต ไม่มีใครต้อ งการให้คนอื่นมาคอยบกการชีวิตของตนเองหรอก
กายควบเจ้าหมอกโดยมีเจ้าถูกตามหลัง เขาเคลื่อนที่เข้ามาตามทางภายในเลมิส สองฝั่งนั้นมีร้านค้าวางของค้าขายทุกอย่างอยู่ตลอดสองข้างทาง มีผู้คนจับจ่าย ใช้สอยซื้อของกันอย่างคึกคัก เงินตราแลกเปลี่ยนที่นี่ส่วนใหญ่นั้นเป็นเหรียญทองคํา เหรียญเงินและเหรียญทองแดง แต่น้อยคนที่จะให้สัญญาเงินสดมากนัก เนื่องจากมัน มีค้าที่ไม่แน่นอนในที่ห่างใกล้แบบนี้
โชคยังดีที่เราไม่ได้แลกเหรียญทองเป็นสัญญาเงินสดก่อนมา..กายมองลอดผ่าน ผ้าบาง ๆ ที่คลุมบังแสงแดดตามทางเดิน ทําให้แดดไม่สาดส่องจนด้านล่างร้อนเกิน ไป เขากําลังสารวจมองดูพวกอาวุธในเลมิส น่าแปลกที่สถานที่ซึ่งมีแหล่งแร่จานว นมากแบบทุ่งหญ้ากิรานี้ กลับมีแต่พวกอาวุธระดับต่าทั้งนั้น พวกอย่างนั้นถึงกับไม่มี แม้แต่ระดับ 1 เลยก็มี
ไม่ว่าที่ไหนช่างโลหะก็หายากไม่แพ้กันสินะ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสถานที่แบบทุ่งหญ้า กิราเลย
“พวกเจ้าจะไปที่ไหนกันต่อ พอดีพวกเราต้องไปทางนั้นเพื่อจัดของที่ขนมาเข้า คลังสินค้า ถ้าไม่มีที่พักไปพักสถานที่ของข้าก็ได้ ข้ายินดีต้อนรับพวกเจ้าอย่างดี” พ่อ ค้าฟลินต์ถามด้วยความจริงใจ ถ้าเป็นไปได้พ่อค้าฟลินต์อยากจะดึงกลุ่มของกายมา ร่วมงานกับตน
“ข้าต้องไปที่สมาคมนักล่าค่าหัวก่อน ส่วนที่พักนั้นเรามีอยู่แล้ว แต่ก็ขอบคุณเจ้า มากที่ชวนพวกเรา ไว้มีโอกาสข้าจะไปเยี่ยมเยือน” กายและกลุ่มแยกตัวออกมาในทัน
“เฮ้…ข้านึกว่าเจ้าจะไปพักที่บ้านของพ่อค้าแบบฟรี ๆ ซะอีก ว่าแต่เจ้าไปได้ที่พัก ตอนไหน” ลิลี่ควบม้าเข้ามาถามกาย
“เราเป็นนักล่าค่าหัว ดังนั้นไม่ควรจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคนอื่นมากเกินไป มันไม่ใช่ เรื่องดีของทั้งเราและคนที่เราเจ้าไปยุ่งจะดีกว่า” กายหันไปให้ทั้งสองอธิบาย
“ที่จริงแล้วที่สมาคมนักล่ามักจะมีห้องพักให้พวกนักล่าค่าหัวเช่าพักอยู่ เราสามารถ ไปพักที่นั้นได้” มีอาตอบลลี่
“จริงสีข้าลืมเรื่องนี้ไปเลย”
“นั้นก็เพราะเจ้ามัวแต่เล่นกับกระสอบทรายนั้นยังไง”
“เอาน่านาน ๆ ที่จะมีของเล่น
ลิลี่ยิ้มแก้เขินก่อนจะเดินไปทุบที่กระสอบอีกสองสามครั้ง ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ อาลีน่าเข้าร่วมสนทนา
“ถ้าพวกนายไม่รังเกียจก็มาพักกับพวกเราได้ ที่นั้นเป็นบ้านพักของลุงของฉันเอง” อาลีน่าบอกกล่าว ลุงที่เธอหมายถึงแน่นอนว่าหมายถึง อาจารย์ใหญ่แอดดิสัน
“แบบนั้นคงรบกวนเธอเกินไป แต่ถ้าเธอช่วยจับเขาไปขังไว้ที่นั่นได้ก็จะช่วยได้ มาก เพราะคงไม่สะดวกถ้าจะลากเขาเข้าไปในสมาคมนักล่าค่าหัวตอนนี้นัก” กายชี้ไป ที่หัวหน้าโจรที่ตอนนี้ถูกใช่กระสอบแขวนไว้บนหลังม้า
หัวหน้าโจรไม่กระดิกแม้แต่น้อย อันที่จริงมันก็อยากแต่พอขยับเล็กน้อยก็จะโดน กําปั้นของใครก็ไม่รู้ต่อยเข้าไปที่หน้าทันที จนตอนนี้มันไม่คิดจะขัดขึ้นอีก
“ได้เรื่องนั้นไม่มีปัญหา ข้าว่าคนอื่น ๆ อีกคนก็น่าจะมาถึงที่นี่แล้ว หรือไม่ก็คงอีก ไม่นานพวกเรารีบไปรายงานตัวกับทางสมาคมนักล่าค่าหัวแล้วก็ขอใบประกาศจับมา จากนั้นค่อยไปรีดข้อมูลและลงมือล่ากันดีกว่าก่อนที่จะโดนแยกงานไปจนหมด” อาลี น่าตอบอย่างคันไม้คันมือ ลูกก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย
กายพยักหน้าว่าเข้าใจแล้วก่อนที่ทั้งสองคนจะแยกกันไป กาย มีอา ลิลี่ไปที่ สมาคมนักล่าเพื่อหาห้องพักและรายงานตัว ส่วนอาลีน่าและลูกกาลังไปที่บ้านพัก เพื่อเอาหัวหน้าโจรไปเก็บและค่อยมารายงานตัวที่หลังอีกที
ซึ่งหลังจากนั้นพวกเขาก็ค่อยมารีดข้อมูลของหัวหน้าโจรพร้อมกัน ส่วนหลังจา กนั้นคงต้องวางแผนกันอีกที
กายและอีกสองสาวมายังฝั่งที่ปลอดภัยที่สุดในเลมิส ที่นี่มีอาคารสองถึงสามชั้นอ ยู่จํานวนมาก ดูดีสะอาดตาในระดับหนึ่งเลยที่เดียว เพราะสถานที่ตั้งของทั้งกองทหาร จากทางสภาสูงของนครดาราฟ้าตั้งมั่นอยู่ นอกจากนั้นยังมีกลุ่มธุรกิจมากกมายเกี่ยว กับสินแร่เข้ามาตั้งสํานักงานย่อยของตัวเองในที่นี้ เพื่อควบคุมเหมืองและสินค้าของตนเอง
สมาคมนักล่าเองก็เป็นหน่วยงานกึ่งทางการกึ่งอิสระ มันตั้งอยู่ไม่ไกลจากเขตนี้ เช่นกัน
ใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีก็มาถึงสถานที่มีป้ายติดไว้ว่าเป็นสมาคมนักล่าค่าหัวประจาเล มิส กายและพรรคพวกพาม้าเจ้ามาก่อนจะสั่งให้คนดูแลม้าให้น้ําและอาหารพวกมัน อย่างดี
ส่วนข้าวของนั้นกายยังไม่ได้ขนเข้าไปด้วย เพราะเขาจะเข้าไปสอบถามเรื่องห้อง ก่อน
“ในที่สุดก็มาถึงสักที” ลิลี่โดดลงจากม้าวิ่งเข้าไปในสมาคมนักล่าค่าหัวเป็นคนแรก กายและมารีบวิ่งตามไป
ด้านในนั้นช่างต่างจากที่กายคิดไว้ เขาคิดว่ามันจะเป็นเหมือนกับสํานักงานแบบใน โลกความจริงที่ผู้คนต่างเข้ามาต่อแถวทําเอกสารอะไรแบบนี้ แต่กลับไม่ใช่ที่นี่มันคือ ร้านบาร์ดี ๆ นี่เอง มีผู้คนทั้งชายหญิงต่างพักผ่อนอยู่จํานวนมาก บางคนก็ดื่มแต่หัววัน บางคนก็เพียงนั่งพูดคุยกัน
กายเดินเข้ามาสอบถามบริกรชายที่ทําหน้าที่ต้อนรับลูกค้า “นักล่าต้องไปรา ยงานตัวที่ไหน”
บริกรหันมามองมาที่กายและตอบกลับตามปกติ “ข้าสามารถรับเรื่องรายงานให้ได้”
“อืม” กายพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะถาม “ที่นี่มีห้องวางไหม”
“มีอยู่สําหรับนักล่าค่าหัวเท่านั้น ห้องระดับต่าคืนละ 5 เหรียญทอง ห้องระดับกลาง 10 เหรียญทอง และห้องระดับสูง 20 เหรียญทอง” บริกรชายตอบ
“พวกเธอจะพักด้วยกันหรือแยกห้อง” กายถามมีอาและลิลี่
“ฉันจะพักกับลิลี่” มีอาตอบ ก่อนจะหยิบเอกสารของตัวเองออกมา ลิลี่ก็ทําเช่นกัน
“ขอห้องระดับกลางสองห้องก็แล้วฝากรายงานตัวด้วย” กายหยิบเอกสารทั้งสามส่ง ให้กับบริกรชายคนนั้น ส่วนที่พวกเขาต้องมารายงานตัวนั้นก็เพื่อให้สะดวกในตอนที่ ออกล่าค่าหัว
บริกรชายเดินเข้าไปหลังร้านพร้อมกับเอกสารทั้งสาม กาย มีอาและลิลี่จึงสั่งเครื่อง ดื่มมานั่งกินระหว่างรอ เครื่องดื่มที่นิยมนั้นส่วนใหญ่จะผสมแอลกอฮอล์ทั้งสิ้น ดังนั้น พวกเขาทั้งสามจึงสั่งเป็นน้ําเปล่าผสมน้ําแข็ง
“ไม่น่าเชื่อว่าแค่น้ําเปล่าผสมน้ําแข็งจะแก้วละ 1 เหรียญเงิน” ลิลี่บ่นอุบ กายเอ งก็เช่นกันแต่เขาไม่ได้พูดอะไรออกมา เพราะเข้าใจว่าสถานที่แห้งแล้งแบบนี้น้ําแข็ง จึงแพงมากเป็นเรื่องธรรมดา ส่วนมีอานั้นเธอก็ขมวดคิ้วไปด้วย
“ข้าเลี้ยงน้ํามื้อนี้เองก็แล้วกัน” กายหยิบเหรียญทองออกมาวางบนโต๊ะ
“มันต้องอย่างนี้สิสมกับเป็นช่างโลหะหน่อย” ลิลี่ยิ้มออกมาคว้าเหรียญทองให้กับมีอา
“เจ้าเอามาให้ข้าทําไม” มีอาถามด้วยความสงสัย
“ก็มันยังเหลืออีกตั้ง 7 เหรียญเงิน ไว้เอาไปซื้อน้ําทีหลังได้อีกตั้ง 7 แก้ว ดังนั้นให้ เจ้าเก็บไว้ก็แล้ว เพราะข้านั้นเก็บเงินไม่ค่อยอยู่” ลิลี่พูดออกมารีบยัดเงินใส่มือมีอา ก่อนจะคว้าแก้วน้ํามาดื่มอีกหลายอีก
กายส่ายหัวกับความงกของลิลี่ “เธอก็ได้ส่วนแบ่งจากหนังหมาป่าไม่ใช่หรือไง”
“ใช่แล้ว แต่เงินส่วนนั้นฉันจะเอาไว้ซื้อวัตถุดิบและจ้างช่างโลหะสักคนสร้างเก ราะดี ๆ สักตัวไว้ใช้” ลิลี่อธิบาย
“ถ้าเจ้าเงินไม่พอข้าให้กู้ก่อนเอาไหม” มีอายิ้มด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
กายเองก็ไม่น้อยหน้ารีบเสนอตัว “ถ้าเจ้าหาช่างโลหะไม่ได้ เรามาลองพูดคุยราคา กันได้
“พวกเจ้าสองสามีภรรยา…อย่าคิดเอาเปรียบข้า เดี๋ยวข้าลองเช็คราคาตลอดก่อน ค่อยว่ากัน” ลิลี่ลังเลก่อนจะพูดติดตลกออกมา
“เจ้าพูดว่าใครเป็นสามีภรรยากัน” ทั้งมีอาและกายพูดออกมาพร้อมกัน ก่อนที่จะ หันไปมองหน้ากันด้วยใจเต้น
กายได้แต่บอกตัวเองใจเย็น เราจะมีแฟนสาว 2D อย่างนั้นเหรอ
ในขณะที่บรรยากาศกระอักกระอ่วน ก็เป็นจังหวะกับที่บริกรชายที่หายไปหลังร้าน เกือบ 20 นาที่เดินกลับออกมา พร้อมกับกุญแจออกมาสองดอกและเอกสารยืนยัน ตัวตนส่งให้กับกาย