Chapter 149 – กองทัพสัตว์อสูรปะทะทหาร อมตะ…
“ไปลงนรกซะ!”
“ครั้งหน้าข้าคงต้องซื้อแหวนมิติซะแล้ว ไม่อย่างนั้นข้าคงตายเพราะเหนื่อยเกิดไป.” ลั่วเทียนบ่นกับตัวเอง จากนั้น เขาก็มองไปยังคลื่นทหารอมตะและเผยให้เห็นรอยยิ้มที่ชั่วร้ายและเย็นชาก่อนที่จะพูดว่า “พวกเขากลับไปซะ ถึงคราวที่ข้าจะแสดงฝีมือมั่งแล้ว!”
เทียนเจว๋และอีกสองคนมองดูกองป้ายมิติที่ด้านหน้า ของลั่วเทียนและอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าเขากําลังทําอะไร แต่พวกเขาก็ยังถอยกลับไปขณะที่ภายในใจยังเต็มไปด้วยความระวัง
ฉินหยู่เอ๋อร์หัวเราะคิกคักและถามว่า “เด็กอย่างเจ้าจะทําให้โลกสั่นสะเทือนไปได้แค่ไหนกัน?”
ลั่วเทียนหันมามองนางและพูดว่า “เจ้าจะรู้ในไม่ช้า”
หลังจากนั้น
ลั่วเทียนก็มองไปที่หยินซางที่อยู่บนพระราชวังราชาทมิฬและตะโกนว่า“หยินซาง เจ้ามันน่ารังเกียจเสียจริง! แต่เดิมบิดาคนนี้จะทําให้เจ้ารู้ว่าทักษะกลั่นแมลงภู่ของเจ้ามันเส็งเคร็งเพียงใด แต่ข้าจะแสดงให้เจ้าเห็นว่ากองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาตร์ของกองทัพอมตะเป็นเช่นไร!”
เพียงพูดจบ…
ลั่วเทียนก็คว้าป้ายมิติและโยนมันขึ้นบนอากาศ
“หม?”
“ไอ้เด็กนี้ตั้งใจที่จะฟาดทหารอมตะด้วยท่อนไม้เน่าๆจริงๆรึ?”
“5555..ไอ้เด็กนี่มันโง่อย่างแท้จริง!”
“โง่ไม่แบ่งใครเลย! ราชาทมิฬ นี่เป็นการแสดงละครตลกประเภทใดกันก่อนที่จะทําพิธีบูชาสวรรค์งั้นรึ? มันก็น่าหัวร่อจริงๆนั่นแหละ 5555..”
ด้านหลังของราชาทมิฬมีคนหลายคนที่มาจากนิกายชั่วร้ายและเริ่มหัวเราะเยาะลั่วเทียน
ขณะที่ป้ายมิติลอยอยู่บนอากาศ ริมฝีปากของลั่วเทียนก็ยกยิ้มอย่างมาดร้าย ทันใดนั้นเขาก็ตะโกนออกไปว่า “หมีโกธาหายนะ บดขยี้มันให้หมด!”
“ตูมม !”
เสียงดังสนั่นเต็มท้องฟ้าก่อนที่จะมีสัตว์ปีศาจระดับ 4 หมีโกธาหายนะลงมาที่พื้น ดวงตาทั้งสองข้างของมัน มีเปลวเพลิงแห่งความตาย มันสูงกว่าสิบเมตร
ที่นั่นพื้นดินเป็นชิ้นๆขณะที่มันลงมาถึงพื้น
“ตูม-…”
“ตูม-…”
หมีโกธาหายนะเป็นเหมือนรถบดดินที่พุ่งเข้าชนให้เหล่าทหารอมตะและทําให้พวกมันกระเด็นไปทั่วทุกหนทุกแห่ง ในเวลาเพียงไม่นานคลื่นการโจมตีระลอกแรกก็ถูกป้องกัน
แม้ว่าประมาทแต่ไม่ดื้อดึง!
แค่พลังเพียงอย่างเดียวก็ทําให้ทุกอย่างวุ่นวายแล้ว!
คนจากนิกายชั่วร้ายที่เพิ่งเยาะเย้ยลั่วเทียนหุบปากลงทันทีพร้อมกับมีสีหน้าน่าเกลียด
“สัตว์ปีศาจ?”
“มันเป็นสัตว์ปีศาจระดับ 4 ที่มีแมลงภู่ ราชาทมิฬ ท่านบอกว่าท่านเป็นคนเดียวที่ปรับแต่งแมลงภู่ได้? ไอ้เด็กนี่ก็ทําให้ได้เหมือนกันและเขายังสามารถหลอมรวมแมลงภู่กับสัตว์ร้ายได้ด้วย ผลลัพธ์ของมันดูเหมือนจะเหนือกว่าทหารอมตะของท่านเสียอีก”
“ถูกต้อง แมลงภู่ที่ท่านให้เราสามารถใช้กับสัตว์อสูรได้เหมือนกันหรือไม่?”
“ทําไมข้าถึงไม่คิดที่จะใช้แมลงภู่กับสัตว์ปีศาจ? เมื่อข้าจับสัตว์ปีศาจระดับสูงได้และทํากองทัพสัตว์ปีศาจ เหล่านั้นทําสงครามใครจะมาหยุดพวกมันได้?”
“555 เป็นความคิดที่เยี่ยมมาก ข้าจะพยายามลองในภายหลัง เด็กคนนี้ค่อนข้างมีหัวคิดโชคดีที่เขาจับสัตว์ปีศาจระดับ 4 เพียงแค่ตัวเดียวไม่งั้น…”
ก่อนที่คนจากนิกายชั่วร้ายจะพูดเสร็จ
ลั่วเทียนคว้าป้ายมิติอีกหลายอันและโยนมันไปยังทิศทางต่างๆพร้อมกับตะโกนเสียงดัง “เต่าหินโลหะ, หมาป่า พายุเสือเนตรเดียวออกมา! ไปเล่นพวกมันให้ตายเลย 555…”
“ตูม-, ตูม-, ตูม”
เสียงดังสนั่นออกมาอย่างต่อเนื่อง
สัตว์ปีศาจระดับ 4 ปรากฏออกมากลางอากาศ ร่างกายของมันมีกลิ่นอายแห่งความตายที่พร้อมจะบดขยี้ฝ่ายตรงข้าม.
ทุกคนในปัจจุบันตกตะลึง
เทียนเจว๋ จ้องมองไปยังเบื้องหลังของลั่วเทียนและรู้สึกว่าตัวของลั่วเทียนกลายเป็นยักษ์ เขากําหมัดอย่างตื่นเต้น โดยไม่รู้ตัว
ภาพของที่ฉินหยู่เอ๋อร์กําลังหัวเราะราวกับมีดอกไม้เบ่งบานไปทั่ว จากนั้นนางก็พูดด้วยความตื่นเต้น “ดูดี ดูดีเกินไปแล้ว! คนที่พี่สาวคนนี้เลือกไม่คิดเลยว่าจะร้อนแรงขนาดนี้ น้องชายสุดหล่อตัวน้อยๆของข้า พี่สาวคนนี้รักเจ้าแทบบ้าตายไปแล้ว 5555..”
ไปเม่ยก็ตกใจ ลั่วเทียนทําให้เขาตกใจหลายครั้งมาแล้ว ทําให้หัวใจของเขาไม่เต้นแรงจนเกินไปและดูเหมือนเขาจะปรับสภาพได้แล้ว ตอนแรกเขาคิดว่าลั่วเทียนไม่อาจทําให้เขาตกใจได้อีกแล้ว แต่เขาก็ได้ทํามันอีกครั้ง
เขาไม่เคยคิดเลยว่าแมลงภู่จะถูกปลูกฝังในสัตว์ปีศาจได้เหมือนกัน!
มันไม่ใช่แค่เขา แม้แต่บรรพบุรุษของเผ่าหลักโลกก็ไม่เคยคิดมาก่อน หากพวกเขามีความคิดเหล่านี้เมื่อหมื่นปีก่อน เผ่าหลักของโลกส่วนใหญ่ต้องปกครองทวีปนี้ทั้งทวีปแน่ๆ
เพราะ…
ไม่ว่าจะยุคไหนๆ สัตว์ปีศาจส่วนใหญ่ก็ยังถือว่าไม่ใช่สิ่งมีชีวิตปกติ!
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ก็ปรากฏแสงวาบอยู่ในดวงตาของไปเม่ย จากนั้นเขาก็หัวเราะและพูดว่า “เด็กคนนี้ เขาเป็นคนขวางโลกจริงๆ!”
ไปเม่ยไม่อาจหาสิ่งที่เหมาะสมกว่านี้ในการอธิบายตัวตนของลั่วเทียนได้อีกต่อไป สําหรับเขาลั่วเทียนไม่ได้เป็นมนุษย์ไปแล้วและได้กลายเป็นบุคคลในตํานาน!
ในพระราชวังทมิฬ.
คนจากนิกายชั่วร้ายมีใบหน้าที่ดูน่าเกลียดอย่างยิ่ง จากใบหน้าของพวกเขาราวกับว่าพวกเขาได้กินแมลงวัน เข้าไปฝูงหนึ่ง
มันเป็นสิ่งที่ดูน่าเกลียดเหมือนกับการแสดงออกของหยินซาง เขาไม่คิดว่าแมลงภู่จะนํามาใช้กับสัตว์ปีศาจได้ เขาได้ปรับแต่งแมลงภู่มาเป็นร้อยๆปีและไม่เคยคิดมองในมุมกลับเลย เมื่อเห็นว่าลั่วเทียนได้นํากองทัพสัตว์ปีศาจออกมา มันก็สร้างความรําคาญให้กับเขาเป็นอย่างมาก
ความรําคาญนี้จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่ออีกฝ่ายได้เปรียบคุณ.
เขายังคิดว่าตัวเองเป็นอัจริยะอันดับต้นๆของประวัติศาสตร์เผ่าหลักโลก เมื่อมันเกี่ยวกับการปรับแต่งแมลงภู่ เขาไม่คิดเลยว่าคนที่มีเวลาเพียงสองสามวันจะเป็นอัจริยะอันดับต้นๆแทน และเรื่องของเขาก็เหมือนกับเรื่องตลกเรื่องนึง
หยินซางรําคาญอย่างมาก
เขาขมวดคิ้วและตะโกน “ทําร้ายเขาให้ราบ!”
ด้วยการที่มีทหารอมตะกว่า 37,000 คนอยู่ภายใต้คําสั่งของเขา เมื่อได้ยินเสียงที่บ้าคลั่งของหยินซาง พวกเขาก็ยิ่งบ้าคลั่งมากยิ่งขึ้นขณะที่วิ่งดาหน้าเข้าไป ในตอนแรกมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่วิ่งออกเนื่องจากมีปัญหาทางด้านพื้นที่ แต่ตอนนี้ทุกคนเริ่มหลั่งไหลออกมาจากทั่วทิศทาง
หยิงซางที่พูดออกมาอย่างหยาบคายและเจือไปด้วยความโกรธที่เขายับยั้งเอาไว้ “ปุยเจียน,ไต้เปา เจ้าสองคนไปฆ่ามนุษย์ก่อไม่ต้องสนใจสัตว์ปีศาจ”
“น้อบรับคําสั่ง!”
จากสถานที่ไม่รู้จักด้านหลังหยินซาง มีเงาสีเข้มสองสาย พุ่งออกมาจากวังขึ้นไปบนอากาศ
การแสดงออกของคนจากนิกายชั่วร้ายเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด
กลิ่นอายของปุยเจียนและไต่เปาที่แผ่ออกมานั้นต่างจากทหารอมตะคนอื่นๆอย่างชัดเจน นี่แสดงให้เห็นว่าพวกเขา แข็งแกร่งอย่างมาก
ระดับ 4 ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหนเขาก็ไม่อาจเทียบกับผู้คุมของท่านได้ใช่ไหม? คอยดูข้าคิดว่าเด็กคนนี้คงอยู่ได้อีกไม่นาน”
“ข้าก็เห็นด้วยเหมือนกัน”
“สัตว์ปีศาจระดับ 4 นั้นมีความสามารถอยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่แข็งแกร่งพอ การที่จะรับมือกับทหารอมตะกว่าสามหมื่นคนมันก็เหมือนกับการอุดรูน้ําที่ทะลักออกมาเท่านั้น”
มีทหารอมตะมากเกินไปถนนสายหลักและตรอกซอกซอยเล็กๆ เต็มไปด้วยพวกของเขา
เมื่อกลุ่มคนที่พุ่งออกมา สัตว์ปีศาจอมตะที่ลั่วเทียนส่งออกมานั้นก็ถูกกุ้มรุมด้วยทหารอมตะ แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้สึกเจ็บปวดใดๆและพยายามต่อสู้กลับ แต่พวกเขาก็ไม่อาจทําลายกองทัพอมตะของหยินซางได้
ความแตกต่างด้านจํานวนมีมากเกินไป.
แต่…
ลั่วเทียนสงบนิ่งมาก เมื่อเห็นว่าทหารอมตะมารุมเร้าอย่างไม่จบไม่สิ้นเหมือนกับมดเจอน้ําตาล เขาก็เริ่มทําหน้านิ่วและตะโกน “เวรเอ้ย บิดาคนนี้จะทําลายกองทัพของเจ้าเอง!”
เขาหยิบแผ่นมิติออกมา 10 อัน.
และมองไปรอบๆ
ลั่วเทียนได้โยนป้ายมิติออกไปยังพื้นที่เหล่านั้นแตกต่างกันหลากหลายทิศทาง
“ตูม !”
“ตูม-!”
“ตูม !”
ได้ยินเสียงคํารามบนฟากฟ้ากว่า 10 เสียงพร้อมกัน! สัตว์อสูรระดับ 5 ก็ตกลงมาพร้อมด้วยพลังที่ดุร้าย!