เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย Chapter 153 -ฉันต้องโจมตีพวกมัน…
Chapter 153 -ฉันต้องโจมตีพวกมัน…
สะพรึง!
เกิดความสะพรึงอย่างมากจากกลิ่นอายที่เขาปล่อยออกมาภาย
ในใจ.
ในเวลานี้หยินซางได้หายตัวไปจากสายตาของลั่วเทียนแม้กระทั่ งกลิ่นอายก็หายไปเช่นกัน พูดให้ถูกต้องคือลัวเทียนไม่อาจหาหยินซางได้จากทางสายตาหรือสัมผัสของเขาเพราะหยินซางเร็วเกินไป
ทันใดนั้น…
ถั่วเทียนขมวดคิ้ว
ราวกับว่ามีการฉีกแยกจากสสารสีดําที่เคล้าไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตายกระแทกมาที่หน้าอกของถั่วเทียน
“ตูมมม !”
ไม่มีเวลาที่จะทันได้ตอบสนอง
ถั่วเทียนไม่มีเวลาต้านทานแม้สักเสี้ยววินาที มีเพียงภายในที่เขาคิดว่าเขาต้องป้องกัน แต่เขาก็ถูกโจมตีเข้าอย่างจัง!
มวลความตายได้กลืนกินบริเวณหน้าอกของเขาอย่างต่อเนื่อง
เส้นเอ็น,เส้นเลือดใหญ่หรือแม้แต่เส้นเลือดฝอยของเขาก็เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตาย กลิ่นอายแห่งความตายกําลังกลืนกินทุกสิ่งอย่างรวดเร็วและบ้าคลั่งจนมันแพร่กระจายออกมาด้านนอกในตอนนี้ลัวเทียนรู้สึกได้ถึงความไม่สบายใจอย่างมากจากการโจมตี ที่หลงเหลืออยู่
บางคนที่อยู่ในขอบเขตปราณวิญญาณขั้น 9 นั้นแข็งแกร่งเกิน
ไป!
ใครจะรู้ว่าเขาแข็งแกร่งขึ้นกี่เท่า กลิ่นอายความตายของหยินซางที่เผาไหม้ราวเป็นไฟที่ไม่มีวันมอด
ไฟแห่งความตายเริ่มที่จะสลายก่อนที่หยินซางจะปรากฏขึ้นบนอากาศ การแสดงออกของเขานั้นเย็นชา ขณะที่ริมฝีปากยกหยันจากนั้นเขาก็ตะโกน “เพียงแค่เจ้าอยู่ในขั้นปราณวิญญาณขั้น 5? ต่อหน้าราชาคนนี้เจ้าก็ไม่อาจเทียบได้กับมดตัวน้อยๆ!”
“อิ่มมม!”
“ความมีน้ําใจของข้านั้นช่างไร้ประโยชน์จริงๆ”
น้ําเสียงของเขาเย็นชาอย่างมากขณะที่เต็มไปด้วยความรังเกียจ
และผยอง.
“ปัง !”
ถั่วเทียนตกลงไปอย่างแรงจนทําลายบ้านหลังหนึ่งขณะนั้น ตอนนี้เขาจมอยู่ในซากอาคาร ขณะที่กลิ่นอายแห่งความตายที่หน้าอกของเขายังคงแพร่ออกไปอย่างต่อเนื่องและรุกล้ําร่างกายของเขาอย่างบ้าคลั่ง “ไม่มีทาง นี่มันเป็นไปไม่ได้ เขาแข็งแกร่งเกินไปและข้าก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาด้วยการบ่มเพาะของข้าในปัจจุบัน…”
“ข้าควรจะทําอย่างไร?”
“ข้าต้องทําอย่างไรดี?”
ขณะที่ลัวเทียนได้ทะลวงขอบเขตมาถึงปราณวิญญาณเขาก็ได้ตระหนักถึงความแตกต่างของความแข็งแกร่งในแต่ละขอบ เขตนั้นช่างกว้างใหญ่มีเพียงแค่ระดับสูงกว่าที่จะบดขยี้คนที่อ่อนกว่า.
ด้วยความแข็งแกร่งของเขาอยู่ที่ปราณวิญญาณขั้น 5 และเบอร์เซิร์กเลเวล 2 ที่เพิ่มความสามารถให้ถึง 4 เท่ามันยังไม่ใกล้เคียงกับหยินซาง.
เขาจะฆ่าหยินซางได้อย่างไร?!
“ระดับการบ่มเพาะ!”
“ความแข็งแกร่ง!”
“มันแตกต่างกันเกินไป!”ลั่วเทียนรู้สึกโกรธมากในตอนนี้ตอนแรกเขาคิดว่าด้วยความแข็งแกร่งของเขาในขั้นที่ 5 ของปราณวิญญาณจะสามารถฆ่าหยินซางได้ เขาไม่เคยคิดเลยว่าความเป็นจริ งมันจะแตกต่างกันมากและคําพูดของเขาก่อนหน้านี้ก็เหมือนกับการเล่นตลกอย่างสมบูรณ์
มันเป็นเรื่องที่โครตตลกเลย!
“น้องลั่ว…”
“สามีตัวน้อย…”
“เด็กเอย…”
เทียนเจว์และอีกสองคนรู้สึกว่าหัวใจขึ้นมาค้ําลําคอเมื่อเห็นลั่วเทียนจมอยู่ในฝุ่นห่างจากพวกเขาไปสองสามร้อยเมตร พวกเขาไม่รู้เลยว่าเขาตายหรือไม่?
“ฮ่าฮ่าฮ่า…”
“ราชาทมิฬ,ราชาทมิฬ,ราชาทมิฬ…”
ทหารอมตะทุกคนตื่นเต้นจากสิ่งนี้และตะโกนก้องทั้งเมืองภูเขา
ศพทมิฬ
นิกายชั่วร้ายที่อยู่ด้านหลังราชาทมิฬมองเขาด้วยความแปลกใจและหลายคนเริ่มประจบประแจง “ราชาทมิฬ ท่านทรงพลังอย่างยิ่ง! เด็กคนนั้นไม่อาจเคลื่อนไหวได้เพียงแค่การโจมตีเพียงครั้ง เดียว ฮ่าฮ่าฮ่า…”
“ราชาทมิฬแข็งแกร่งอย่างมาก”
“แมลงที่อยู่ในระดับปราณวิญญาณขั้น 5 กล้าที่จะกระโดดไปรอบๆต่อหน้าราชาทมิหงั้นรึ? เขาแค่รนหาที่ตายฮาฮ่าฮ่า…”
หยินซางมองกลับมาด้วยใบหน้าที่พึงพอใจขณะที่เขาพูด: “เขากล้าที่จะต่อต้านราชาองค์นี้? ไม่ว่าเขาจะเป็นมนุษย์, ปีศาจหรือผีราชาองค์นี้ก็จะแยกวิญญาณของมันเพื่อที่จะทําให้มันไม่อาจเข้าสู่วัฏสงสารได้ผู้ที่ขัดข้องหมองใจราชาองค์นี้จุดจบของมันก็มีเพียง– ความตาย!ฮ่าฮ่าฮ่า…”
“ราชาทมิฬ ราชาทมิฬ ราชาทมิฬ…”
ทหารอมตะและคนจากนิกายชั่วร้ายเริ่มตะโกน
ไม่นานหลังจากนั้น
ฉินซูเอ๋อร์รีบวิ่งไปยังบ้านที่ถล่มราวกับว่านางเป็นบ้า มีน้ําตาไหลออกมาจากสายตาของนางขณะที่นางตะโกนเสียงดัง “เจ้าไม่ได้บอกว่าเจ้าจะไม่ตาย? เจ้าไม่ได้บอกว่าเจ้าจะพาข้าออกไปจากที่นี่?เจ้าไม่ได้บอกว่าเจ้าจะพัวพันข้าสามพันครั้งหรอกหรอ? เจ้าไม่ได้
พูด…”
“ลุกขึ้น!”
“ลุกขึ้น!”
“ถั่วเทียนลุกขึ้น”
เรียงร้องของฉินซูเอ๋อร์สะเทือนหัวใจของใครหลายๆคนทุกคนสามารถสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดของนาง
เทียนเจวและไปเมยตามหลังนางมาอย่างรวดเร็ว.
“นี่เด็กน้อย เจ้าไม่ได้ลืมสัญญาของเจ้าใช่หรือไม่? เด็กเอยเจ้าควรจะลุกขึ้นเดี๋ยวนี้”
“น้องลั่ว ลุกขึ้น! ลุกขึ้น!
พวกเขาทั้งสามต่างก็ตะโกนออกมาขณะที่พวกเขารีบไปราวกับพวกเขาไม่สนใจชีวิตของพวกเขาอีกต่อไป
“ฮ่าฮ่าฮ่า…”
“ฮ่าฮ่า…”
ยิ่งเสียงร้องไห้ของพวกเขาดังเท่าไร เสียงหัวเราะก็ดังมากขึ้นเท่านั้นแม้หยินซางก็ยังหัวเราะ
“เจ้ายังสามารถลุกขึ้นได้หลังจากที่ถูกราชาทมิฬโจมตี?ตื่นซะเลอะ!”
“เจ้าเด็นนั้นตายไปแล้วและวิญญาณอาจจะสลายไปแล้วเหมือนกัน ฮ่าฮ่าฮ่า”
“คนโง่ทั้งสาม พวกเขาคิดว่าการที่จะตะโกนดังๆจะเรียกคนตายกลับมาได้?”
เสียงหัวเราะเยาะและการดูถูกนานาชนิดเกิดขึ้นเต็มเมือง
ทั้งสามคนยังคงวิ่งไปยังซากอาคารที่ลั่วเทียนตกลง
หยินซางยกยิ้มและเริ่มหัวเราะอย่างดุดัน: “ทหารทุกคนจงฟังขวางพวกเขาและฆ่าพวกเขาให้หมด! ฮ่าฮ่าฮ่า…”
“โอ้ววว !”
ทหารอมตะทุกคนต่างพากันตะโกนรับกันอย่างพร้อมเพรียงพร้อมกับชี้หอกลง
ทันทีหลังจากนั้น
ทหารอมตะนับไม่ถ้วนล้อมรอบพวกเขาทั้งสามคนอย่างรวดเร็ว
ยังมีทหารอมตะเหลือมากเกินไป แม้ว่ากองทัพสัตว์ปีศาจของลั่วเทียนจะสามารถฆ่าพวกเขาได้บางส่วน แต่มันก็เพียงแค่หนึ่งเปอร์ เซ็นสัตว์ปีศาจของเขาก็อยู่ได้ไม่นานก่อนที่หยินซางจะทําลายมันอย่างสมบูรณ์
ที่นี่มีทหารอมตะกว่า 30,000 คนและขวัญกําลังใจของพวกเขาก็ลอยสูงเทียมฟ้า ความแข็งแกร่งที่พวกเขาใช้ออกมานั้นสูงกว่าที่แสดงออกมาก่อนหน้านี้
เพราะมันถูกเวลา
เทียนเจวและอีกสองคนก็หยุดพลังจากที่ถูกขวาง เมื่อพวกเขาจัดการทหารอมตะได้ อีกคนหนึ่งก็จะเข้ามาแทนที่ทําให้พวกเขาไม่อาจโจมตีเปิดทางได้
ทุกครั้งที่ฉินซูเอ๋อร์แยกตัวออกมา นางก็จะถูกผลักกลับเข้ามาที่เดิมร่างของนางเต็มไปด้วยบาดแผล เมื่อนางเห็นซากอาคารอยู่ ตรงหน้านางก็ตะโกนขึ้นมาอีกครั้ง “ถั่วเทียนลุกขึ้นเร็วๆ! ลุกขึ้น!”
ท่ามกลางความมืดมิด..
จิตวิญญาณของเขาสั่นเล็กน้อย
หลังจากนั้น
จิตสังหารจํานวนมากพุ่งออกมาจากจิตสํานึกของเขานี่เป็นจิตสังหารที่มาจากเส้นทางสังหารของยมทูต!
มันเริ่มทําลายกลิ่นอายแห่งความตายที่ปกคลุมร่างกายของเขา
“ตูมมม !”
ทันใดนั้น
ฟองซากศพที่ลอยขึ้นมาก่อนที่จะแตกออกและรดไปที่ร่างลั่วเทียนที่อยู่ในซากอาคารที่กําลังถูกปกคลุมด้วยไฟของกลิ่นอาย แห่งความตายทําให้เขาดูน่ากลัวเป็นอย่างมาก
ในเวลานี้
ทุกคนหยุดสิ่งที่เขาทําและมองเขา
ถั่วเทียนจับหูของเขาและพูดอย่างหงุดหงิด: “พวกแกนเสียงดังจริงๆ มันดังเสียจนข้าไม่อาจหลับต่อไปได้และมันก็ทําให้ข้ารําคาญจริงๆ”
เพียงเสียงเงียบหาย…
ด้านหลังของเขาก็เป็นเงาหลอนของยมทูต
มันถือเคียวขนาดใหญ่และมีรอยยิ้มน้อยๆและดวงตาของมันก็เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งเหมือนกับมองทั้งโลกต่ํา
ยมทูต!
การปรากฏตัวของมันทําให้กลิ่นอายแห่งความตายที่ลุกล้ําลั่วเทียนได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย มันถูกทําลายทันที่อย่างรวดเร็วเสียจนไม่มีโอกาสได้โต้กลับ!
หลังจากนั้น
ถั่วเทียนเงยหน้ามองหยินซางที่อยู่เหนือวังราชาทมิฬและเริ่มยิ้มอย่างดุร้าย จากนั้นเขาก็ตะโกนะ “ไอ้สารเลว บิดาคนนี้จะทําลายศพของเจ้าอย่างแน่นอน! หากบิดาไม่อาจทําให้เจ้าระเบิดเป็นชิ้นๆได้ข้าจะเปลี่ยนมาใช้แซ่ของเจ้า สารเลวข้าโกรธอย่างมากแล้วตอนนี้!”
หลังจากที่พูดอย่างนั้น
ถั่วเทียนเหลือบไปมองเทียนเจ และพูดว่า: “พี่เก้า ข้าต้องการให้ท่านอดทนสักครึ่งชั่วโมง!”
“ครึ่งชั่วโมงก็มากเกินพอ!”
เทียนเจ พยักหน้าอย่างขึงขังและถามอย่างไม่มั่นใจ: “มันก็ได้นะแต่ทําไมเจ้าต้องใช้เวลาครึ่งชั่วโมง?”
ถั่วเทียนพุ่งขึ้นไปบนอากาศและยิ้มอย่างมาดร้ายขณะที่เขาตะโกนนะ“ข้าจะเปลี่ยนให้เมืองนี้ให้กลายเป็นซากและข้าจะทําลายทหารอมตะให้เป็นขยะ!”