< < 91Sec1 > >
ตรงหน้ายูจิคือ ‘โซล่า เลนนอน’ เทพธิดาผู้สร้าง ผู้ที่พลิกโฉมวิทยาการณ์เวทมนตร์ของโลกใบนี้
สำหรับวงการอุปกรณ์เวทมนตร์ที่ยูจิเฝ้าติดตามมาตลอด เธอคือจุดสูงสุด คือไอดอลของทุกๆคนในวงการ หรือไม่ก็เป็นคนที่น่านับถือในความสามารถ
เทพแห่งวงการอุปกรณ์เวทย์–เทพธิดาผู้สร้าง นิยามสั้นๆก็ประมาณนี้
เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้เปรียบได้ดั่งไอดอล ยูจิก็แก้มแดง ตาเป็นประกาย ตัวแข็ง ขาสั่นมือสั่นหงิกๆ
สภาพอย่างกับคนคลั่ง
“วะ วะ หวัดดีครับ คือผมชื่อยูจิ”
“ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก ชื่อโซล่า เลนนอนค่ะ”
เธอแนะนำตัวเหมือนปกติ เหมือนว่าตัวเองไม่ได้พิเศษอะไร ยูจิรู้สึกประทับใจและพยายามเก็บอารมณ์ตื่นเต้นของตัวเองไว้
“ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก คุณ..เลนนอน?”
“เรียกว่าโซล่าเถอะค่ะ”
“คะ ครับ คุณโซล่าสินะครับ”
ยูจิเกร็งไม่ไหวแล้ว ไม่ได้มองหน้าโซล่าเลย เพราะรู้ตัวว่าถ้ามองตอนนี้ ตัวเองได้ไม่เป็นอันได้พูดอะไรต่อแล้วแน่ๆ
“คะ คือ คือ..”
“หายใจเข้า หายใจออกนะค่ะ คุณยูจิ”
โดนไอดอลเรียกชื่อ—-ยูจิรู้สึกว่าตัวเองตายตอนนี้ก็ไม่เสียชาติเกิดแล้ว
แล้วก็
“ไม่ต้องกลัวหรอกนะคะ ฉันทำร้ายใครไม่เป็นหรอก ฉันทำเป็นแค่การสร้างคะ”
..นั่นสินะ
ยูจิทำตามที่เธอว่า หายใจเข้า-หายใจออก ทำอย่างนั้นซ้ำไปมา 5 รอบก็ตั้งสติได้
“ติดตามผลงานมาตลอดครับ จะเอาใจช่วยต่อไปนะครับ”
ยูจิโค้งศรีษะให้ โซล่าเห็นก็ปัดมือเหมือนบอกว่าไม่ต้องก็ได้แบบเขินอาย
“คนอาณาจักรฟัฟนิร์รู้จักฉันด้วยเหรอเนี่ย”
“ที่นี่ร้านอุปกรณ์เวทมนตร์นะครับ แถมยังเป็นร้านที่ค่อนข้างเฉพาะทางด้วย ทุกคนที่อยู่ในร้ายนี้รู้จักชื่อเสียงเรียงนามของคุณโซล่าดีอยู่แล้วครับ รวมถึงผมด้วย”
พอพูดแบบนั้นโซล่าก็พึ่งสังเกตุถึงสายตาคนรอบข้างที่มองมาเป็นระยะๆตลอด บางคนก็แก้มแดงก่ำ บางคนก็ตาเป็นประกาย บางคนก็ทำสีหน้าหมันไส้ใส่ แต่ส่วนน้อย
ส่วนยูจิก็อยู่กึ่งกลางระหว่างแก้มแดงกับตาเป็นประกาย
โซล่าโค้งศรีษะให้ทุกคนเบาๆ และกลับมายิ้มสวยๆให้ยูจิ
“ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ”
“ไม่ขนาดนั้น? พูดเป็นเล่นครับ คุณโซล่าเป็นผู้พลิกโฉมวงการณ์อุปกรณ์เวทมนตร์เลยนะครับ ใครจะคิดล่ะว่าอุปกรณ์เวทย์อย่างคทาที่เกิดจากการผสมระหว่างการเล่นแร่แปรธาตุกับวิชาไสยศาสตร์จะช่วยเร่งประสิทธิภาพตัวคทาไปได้มาก เทียบเท่ากับคทาชั้นสูงราคาไม่ต่ำกว่า 500,000 เหรียญอิกดราซิล (500,000บาทไทย) ทั้งๆที่ทำขายจริงๆ ขายกันแค่ 100,000 เหรียญอิกดราซิล การพัฒนาของคุณทำให้เกิดคทาที่มีคุณภาพเท่ากันคทาชั้นสูงเมื่อสิบปีก่อน ทั้งๆที่ราคาถูกกว่าตั้งหลายเท่าตัว”
ยูจิพูดออกมาไม่หยุด ความเป็นโอตาคุอุปกรณ์เวทมนตร์ของยูจิทะลักออกมาจนไม่มีใครหยุดได้แล้ว
ถ้าพวกแอนตี้โอตาคุอุปกรณ์เวทย์มาเห็นเข้า คงจะทำหน้าแหยงแล้วบอกว่า ‘เหม็นเนิร์ดว่ะ’ แหงๆ
“ทุกวันนี้มีเด็กๆที่เข้าไม่ถึงอุปกรณ์เวทย์นับแสนนับล้านชีวิต ที่เข้าถึงอุปกรณ์เวทย์ได้เพราะคุณเลยนะครับ ที่หมู่บ้านที่ช่วยเลี้ยงดูผมเองก็เหมือนกัน เครื่องอำนวยความสะดวกเวทมนตร์มากมายถูกขึ้นตั้งห้าเท่าจนชาวบ้านตาดำๆจับต้องได้ ผมในฐานะนักเรียนเองก็มีเงินพอจะจับจ่ายใช้สอยอุปกรณ์เวทย์มาเพื่อวิจัยพัฒนาตัวเองด้วยเพราะคุณเหมือนกัน ถ้าเป็นเมื่อสิบปีก่อน แม้แต่คริสตัลเวทมนตร์ผมก็ไม่มีโอกาสได้แตะ แค่ตัวไม้คทาผมก็แตะไม่ได้แล้วครับ—การสร้างของคุณมันทำให้โลกนี้ดีขึ้นนะครับ!”
“ไม่คิดเลยว่าฉันจะทำคุณประโยชน์ขนาดนี้. ..ทุกๆวันแค่นอนหมกตัวทำอุปกรณ์เวทย์แท้ๆ”
โซล่าพูดแบบซึมๆ กระนั้นก็ไม่สามารถหยุดความเร่าร้อนในใจยูจิได้
“อุปกรณ์เวทย์ที่ยืดหดได้นั่นมันอะไรน่ะครับ! เวทมนตร์สุดไฮเทคที่ไม่ต้องมีคริสตัลเวทย์ก็ได้นั่นมันอะไรน่ะครับ!! ถุงมือเวทมนตร์นั่นมันอะไรน่ะครับ!! การใช้งานคริสตัลเวทมนตร์ที่หลากหลายนั่นก็ด้วย ใครจะคิดล่ะว่าคริสตัลเวทย์สามารถเอามาใช้เป็นพลังงานให้รถไฟได้!! วะ วะ ว่าแต่!! ได้ยินข่าวลือว่ากลุ่มค้นคว้าคทาเวทย์ในสังกัดของคุณโซล่าค้นพบคทาเวทย์ในตำนาน ‘การาวิเทีย’ นี่จริงรึเปล่าครับเนี่ย!!? ไม่ใช่ว่าหลังจากยุคนี้ไป ถ้าคุณได้วิเคราะห์โครงสร้างตัวคทาแล้ว จะให้กำเนิดคทาเวทย์ที่ควบคุมแรงโน้มถ่วงมาหรอกนะครับ ถ้าทำได้ขึ้นมา นักเวทย์ได้ล้นโลกแน่ครับ!!”
‘การาวิเทีย’ คทาเวทย์ในยุคมังกรธาตุ ตัวคทาถูกใช้โดยวีรบุรุษที่สู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับวีรสตรียูนา คทามีความสามารถในการควบคุมแรงโน้มถ่วง ว่ากันว่ามันสามารถยกภูเขาทั้งลูกได้เลย
แต่หลังจบสงครามกับมังกรธาตุ วีรบุรุษผู้ใช้การาวิเทียก็หายสาบสูญไปพร้อมกับตัวคทาเวทย์ จากนั้นก็ไม่เคยมีใครพบเห็นการาวิเทียอีกเลย จนผู้วิจัยทางประวัติศาสตร์ชี้ว่า การาวิเทีย เป็นเพียงเรื่องแต่งเท่านั้น ที่ก้อนหินลอยได้ หรือมีคนบินได้ เป็นเพราะเวทมนตร์โบราณในยุคมังกรธาตุ
ถ้าหากการค้นพบ การาวิเทีย เป็นเรื่องจริง โลกนี้ได้พัฒนาไปอีกครั้งแน่ๆ ถ้าทำคทาที่ควบคุมแรงโน้มถ่วงได้หลายชิ้น บางทีนักเวทย์อาจจะขึ้นมามีคุณภาพกว่านักดาบได้โข และยุครุ่งเรื่องของนักเวทย์ก็จะมาถึง พร้อมกับการตกงานของนักดาบหลายคน
ยุคสมัยแห่งเวทมนตร์อาจจะเปิดฉากเลยก็ได้—-ด้วยความเป็นโอตาคุขี้มโนเข้าไส้ ยูจิคิดถึงอนาคตได้ยิ่งใหญ่ถึงเพียงนั้นเลยล่ะ
“ก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องปกปิดอะไรหรอกค่ะ ..เจอแล้วค่ะ เป็นคทาที่ยอดเยี่ยมมากๆเลย”
“———ยุคสมัยใหม่มาถึงแล้ว!”
“แฮะๆ”
โซล่าเกาแก้มกึ่งลำบากใจ เพราะยูจิดูจะดีดไปหน่อยขัดกับอิมเมจแรกพบ
“ยุคใหม่ ยุคใหม่ …อ๊ะ”
ยูจิตัวแข็งทื่อ เหงื่อตกเลย เหมือนจะพึ่งรู้สึกตัวว่าตัวเองกำลังพล่ามอะไรอยู่
“ขอโทษด้วยนะครับ”
“ไม่หรอก”
ยูจิก้มหัวให้ ถอนหายใจเฮือกโตและเงยหน้าขึ้นมาดูคทาเวทย์สีเขียวเข้มและสีขาวบนมือตัวเอง
“เมื่อตะกี้บอกว่าเลือกตัวสีขาวดีกว่าสินะครับ ขอทราบได้รึเปล่าว่าทำไม”
ยูจิคนเดิมกลับมาแล้ว โซล่าพยักหน้ารับ แตะปลายจมูกตัวเองคล้ายกำลังวิเคระห์
“ให้เดา คุณยูจิเลือกตัวสีเขียวเข้ม เพราะมันเร็วกว่าตัวสิขาว และพกพาง่ายสินะคะ”
“ทำไมถึงรู้เหรอครับ”
“ชุดคุณค่ะ คุณคงจะเป็นนักเรียนจากวิทยาลัยเวทมนตร์เรดฮอต เมื่อสามปีก่อนฉันมีโอกาสเที่ยวชมโรงเรียนบ่อยๆ ที่โรงเรียนมีหลายห้องต้องเข้าใช้ในแต่ล่ะคาบเรียน เลือกได้ใช้คทาเวทย์ที่พกพาง่ายจะดีกว่า ซึ่งสีเขียวเข้มนั้นตอบโจทย์ ต่อมาคือการใช้ยาก จากที่ดูตราสัญลักษณ์คุณยูจิคงจะอยู่ห้องสายทฤษฎี ซึ่งห้องๆนี้ไม่จำเป็นต้องฝึกใช้เวทมนตร์โจมตี หรือเล็งเป้าหมายอะไรมากนัก ที่ทำก็แค่ใช้คทาร่ายเวทย์เบื้องต้นควบคู่ไปกับอุปกรณ์เวทย์เพื่อทำการวิจัย การต่อสู้ไม่ใช่เรื่องจริงจังมาก”
ยูจิพยักหน้าไปด้วยระหว่างที่โซล่าอธิบาย ตัวเธอเวลาพูดถึงอุปกรณ์เวทย์นั้นคล้ายจะหลุดอยู่คนล่ะโลก เหมือนอยู่ในโลกส่วนตัวของตัวเอง ซึ่งยูจิเข้าใจอารมณ์โซล่าอยู่ เพราะเขากับเธอก็มีปฎิกิริยาเหมือนๆกันเวลาพูดเรื่องที่สนใจ
แม้ว่ายูจิจะเลือกเพื่อพัฒนาทักษะต่อสู้ เพราะนั้นที่เดาเลยผิดหมด แต่ถ้ามองในมุมนักเรียนมันก็ถูกหมด เป็นเพราะเธอไม่รู้ข้อมูลเกี่ยวกับยูจิ แต่หากมองในมุมนักเรียนปกติก็ต้องอย่างที่เธอว่านั่นแหละ
ทว่า
เธอกลับบอกว่าตัวสีขาวดีกว่า ทั้งๆที่ตัวสีเขียวเข้มมันดีกว่าทุกด้านในฐานะนักเรียนตั้งขนาดนั้น
ยูจิรู้สึกสนใจขึ้นมา
“พูดขนาดนี้แล้ว ตัวสีขาวมันดีกว่ายังไงเหรอครับ”
“เทียบทุกๆด้านแล้ว ในสถานะนักเรียนห้องทฤษฎี คุณยูจิควรเลือกสีเขียวเข้ม ทว่าถ้าในฐานะนักเรียนผู้แสวงหาความรู้ คุณควรเลือกสีขาว”
ยูจิงง โซล่าจึงเริ่มอธิบาย
“ตัวสีขาว เป็นอุปกรณ์เวทย์ที่ค่อนข้างใหม่คะ แต่ของที่ใช้ประกอบค่อนข้างถูก แต่ก็อยู่ในมาตรฐานที่ดีเมื่อเทียบกับราคา”
“ครับ เป็นของ Z plus ด้วย ขึ้นชื่อเรื่องความถูกกับคุณภาพ รุ่นออกใหม่ก็ตามเทคโนโลยีเวทย์ทันตลอด”
“เพราะอย่างนั้นแหละเลยต้องเลือกมากกว่า”
“ทำไมล่ะครับ ไม่เข้าใจเลย”
“ก็อุปกรณ์เวทย์รุ่นล่าสุด โดยเฉพาะของบริษัท Zplus มันสามารถดัดแปลงโครงได้นี่คะ”
ดัดแปรงโครงสร้าง หรือก็คือปรับแต่งอุปกรณ์เวทย์ได้ตามใจชอบ
ถ้าต้องการ ตัวสีขาวก็สามารถมีคุณภาพพอๆกับตัวสีเขียวเข้มได้ไม่ยาก ถึงอย่างนั้น
“แต่ฝีมือผมมัน..”
“คุณเป็นนักเรียนทุนนี่ค่ะ ฉันเชื่อในมาตรฐานนักเรียนทุนของวิทยาลัยเรดฮอต ที่สำคัญถ้าเป็นนักเรียนก็ต้องพูดถึงการศึกษา ฉันคิดว่าคทาเวทย์ที่ไม่ได้มีหน้าที่เพื่อใช้อย่างเดียว แต่มีไว้เพื่อศึกษาควบไปด้วย เป็นตัวเลือกสำหรับนักแสวงหาความรู้คะ”
ฟังถึงตรงนี้ยูจิก็เห็นด้วยกับโซล่าหมด ในฐานะนักเรียน ถ้าอยากพัฒนาตัวเอง ก็จนเลือกสีขาวที่ทันสมัยและปรับแต่งได้ ทว่า..ที่ยูจิต้องการคือพลัง แล้วเขาก็ไม่มั่นใจในทักษะการประดิษฐ์ของตัวเองด้วย
“ทักษะการสร้างของผมไม่ได้ดีอะไรมากหรอกครับ”
“แต่คุณก็พยายามศึกษาอยู่นี่?”
ใช่แล้ว ยูจิมีซื้ออุปกรณ์เวทย์มาประกอบเองบ้าง อาจไม่ใช่เรื่องที่ถนัด แต่เขาก็พยายามอยู่ ดูได้จากมือที่มีรอยแผลได้ โซล่าน่าจะสังเกตุจุดนี้ได้
ยูจิยังลังเลอยู่ ถึงจุดนี้โซล่าเลยโชว์หลังมือที่เต็มไปด้วยแผลทรงเดียวของยูจิแต่มากกว่าเป็นสิบเท่า
ยูจิถึงกับอึ้ง
“ที่สำคัญไม่ใช่ความถนัด แต่เป็นการพัฒนาค่ะ ในฐานะนักเรียนที่แสวงหาความรู้เช่นคุณ ฉันขอแนะนำตัวสีขาว” โซล่าพูดต่อด้วยรอยยิ้ม “แต่นี่เป็นคทาเพื่อการศึกษา ถ้าเป็นการต่อสู้ ตัวสีเขียวเข้มจะดีกว่า เพราะนั้นเลือกเลยนะ ว่าจะซื้อเพื่อศึกษา หรือซื้อเพื่อต่อสู้กับคนอื่น”
..ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ยูจิคิดจะซื้อคทาเวทย์เพื่อสู้? ไม่ใช่ว่ายูจิต้องการคทาเวทย์เพื่อพัฒนาการสร้างอุปกรณ์เวทย์ของตัวเองหรือไง?
ยูจิรู้สึกละอายใจและรู้สึกดีใจที่มีคนมาเตือนสติไว้ก่อน
“..เข้าใจแล้วครับ”
ยูจิยิ้มอย่างอ่อนแรง
“ขอเลือกตัวสีขาวตามคำชี้แนะนะครับ””
“ค่ะ ถ้าว่างๆฉันจะช่วยดูให้นะ ถ้าไม่ขัดข้องอะไร”
..เอ๊ะ?? ดังขึ้นในใจยูจิ
“ช่วยดู? ไม่ใช่ว่าคุณโซล่างานเยอะหรือครับ ถึงขนาดรบกวนเวลาคุณมาช่วยนี่มัน”
สู้เอาเวลาช่วยตัวเอง ไปพัฒนาวิทยาการณ์เวทมนตร์จะดีกว่า
“ฉันเองก็เป็นวัยรุ่นนะ ยังเด็กอยู่เลย เรื่องงานบางครั้งก็อยากถอนตัวเหมือนกัน ..แล้วก็ยื่นสมัครเป็นนักศึกษาวิทยาลัยเรดฮอตไปแล้วด้วย น่าจะมีเวลาว่างพอมาช่วยดูนั่นแหละคะ”
ยิ่งกว่าช่วยดูอุปกรณ์เวทย์ให้ยูจิ คือ ‘โซล่า เลนนอน’ คนนั้น เข้าวิทยาลัยเวทมนตร์เรดฮอต
ยูจิตาค้าง
“เอ๊ะ นี่มันอะไร ไม่เห็นมีข่าวมาเลย”
“คาดว่าอีกสามวันจะเริ่มประกาศล่ะค่ะ ถ้าที่จักรวรรดิ์ข่าวก็เริ่มออกมาแล้ว”
โซล่ามองขึ้นฟ้าเหมือนกำลังจิตนาการเรื่องในวิทยาลัยลอยๆ
“…นี่มัน..ข่าวใหญ่เลยไม่ใช่เหรอ”
“จะเริ่มเข้าเรียนกลางคันค่ะ สายทฤษฎีเหมือนคุณยูจิ”
“จะ จำไม่ผิดข้อสอบการเข้าเรียนการคันนี่มัน”
“ก็ไม่ได้ยากนะ”
คงจะอย่างนั้น อีกฝ่ายคือโซล่า เลนนอน ไม่มีทางที่เธอจะไม่รู้ แต่ แล้วจะเข้ามาทำไม ในเมื่อที่วิทยาลัยเรดฮอตไม่มีอะไรมอบให้โซล่าได้แล้ว
“มีเหตุจำเป็นจะต้องเข้าด้วยเหรอครับ”
“ฉันไม่ใช่อันเดดนะค่ะ ย่อมอยากพักบ้างอยู่แล้ว”
“ขะ ขอโทษด้วยนะครับ”
“ไม่หรอกค่ะ คือ..ฉันเองก็อยากจะใช้ชีวิตเหมือนเด็กทั่วไปบ้าง อ่านหนังสือกับเพื่อน เที่ยวเล่นกับเพื่อน คุยเรื่องสนุกสนานกันไม่เว้นวันตลอดสามปี แล้วก็..ความรัก”
โซล่าหรี่ตาลง มีโฉมหน้าที่งดงามคล้ายคนอยู่ในห้วงความรัก
“..ฉันตกหลุมรักคนๆหนึ่งอยู่ ..ที่วิทยาลัยเวทมนตร์เรดฮอต มีเจ้าชายในฝันของฉันอยู่”
ยูจิกลืนน้ำลายดังอึก
“..คนๆนั้น”
“เรเซอร์ ดราแคล์ ..ไม่ทราบว่าคุณยูจิรู้จักรึเปล่าคะ?”
ชื่อที่เหนือความคาดหมาย—เรเซอร์คือเป้าหมายของโซล่า เลนนอน
“รู้จักครับ เขาเป็นเพื่อนผมเอง”
เป็นเพื่อนคนสำคัญ
โซล่ารู้ได้ว่าทั้งสองสนิทกันจากสีหน้ายูจิชั่ววูบหนึ่ง จึงรุกกุมมือทั้งสองข้างของยูจิด้วยนิ้วที่เล็กและนุ่มกว่าคนวัยเดียวกัน
“ช่วยแนะนำเขาให้ฉันได้รึเปล่าคะ?”
โซล่าพูดเสียงใสอย่างตื่นเต้น
นี่แหละคนที่ตกอยู่ในความรัก ..ยูจิเห็นภาพซ้อนทับโซล่ากับเบลลามี