เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!! – ตอนที่ 203

< < 136 Sec4 > >

มหามังกรเพลิงสามตน สองตัวจริง หนึ่งตัวปลอม กับเด็กแฝดชายหญิงคู่หนึ่งกำลังมุ่งหน้าไปที่ที่หนึ่งประหนึ่งว่ามีจุดหมายชัดเจนอยู่แล้ว

ดาเนียลและมาริรู้สึกหวั่นใจเล็กน้อย แต่ทันทีที่ทั้งสองตะขิดตะขวงภายในใจ ฟัฟนิร์ก็หันกลับมาพูด

“อย่าได้กลัวไปเจ้าตัวน้อยทั้งหลาย พวกข้ามีพลังวิเศษที่สามารถจับมานาได้อย่างดีเลิศต่างกับพวกมนุษย์ ฉะนั้นแล้วจึงไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่พวกข้าจะรับรู้ได้ว่าที่แห่งใดคือที่แห่งใด” 

เด็กๆได้แต่งงกับที่ฟัฟนิร์พล่าม อธิบายเหมือนอยากโม้สรรพคุณของตัวเองมากกว่า ชินที่มองอยู่ห่างๆขยับเข้ามาพูดแทน

“สรุปคือที่ที่พาไปไม่ได้มั่วหรือมีแผนอะไรในใจ แค่พาไปจุดที่มีคนอาศัยอยู่เยอะสุดตามปฏิกิริยามานาโดยคาดว่านั่นอาจจะเป็นจุดรวลพลสำหรับตอบโต้เรื่องฉุกเฉินชั่วคราวครับผม ท่านหนิงและท่านฟัฟนิร์คิดจะพาคุณชายคุณหนูทั้งสองไปส่งที่แห่งนั้นขอรับ เพราะคาดว่านั่นเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด” ชินยิ้มให้อย่างอ่อนโยน “สบายใจได้ครับ ถึงท่านฟัฟนิร์จะเป็นพวกที่ชอบหาเรื่องใส่ตัวทั้งกับตัวเองและคนที่อยู่ข้างกาย แต่ถ้าท่านผู้นี้ตัดสินใจจะปกป้องใครแล้วจะไม่มีทางปล่อยให้ตกอยู่ในอันตรายแน่นอนครับ”

“..คะ ครับ!”

พอชินที่ดูมีความเป็นผู้ใหญ่สูงพูดแล้วเด็กๆทั้งสองก็คล้อยตามเอาง่ายๆ รวมถึงคุณยายในร่างเด็กอย่างฟัฟนิร์ด้วย

“ต้าวชิน ..ไว้ใจข้าขนาดนี้เลยสินะ”

เมื่อได้ฟังสิ่งที่ชินพูดฟัฟนิร์ก็ถึงกับน้ำตาซึม กับคู่หูร่วมเดินทางที่นานวันเข้าก็เริ่ใสวมบทเป็นคุณแม่ผู้ดุด่าการใช้ชีวิตสุดจะสะเพร่าของตัวเอง วันดีคืนดีก็หันมาชมกันแทนแบบนี้ย่อมปรับตัวไม่ทัน เจอแบบนี้เข้าไปจะอดไม่ให้ปลื้มได้อย่างไรกัน

หนิงเห็นก็อ้าปากค้างแล้วเขยิบเข้าไปกระซิบแบบตั้งใจให้ฟัฟนิร์ได้ยิน

“จริงเหรอคะเนี่ย คนที่ดูไม่ได้เรื่องแบบนั้นเนี่ยนะ”

“หงะ!? เอาอีกแล้วนะนังของปลอมนี่ หยุดเลยนะ!”

อย่างน้อยๆก็อยากเก็บความทรงจำที่ล้ำค่านี้ไว้ไม่อยากถูกทำลาย—ชินตอบกลับทันควัน

“จริงสิครับ”

ฟัฟนิร์เอียงคอฉงน ชินเห็นก็อมยิ้มพลางเอียงคอตามคล้ายจงใจเลียนแบบท่าทาง ..

“ไม่ได้โกหกครับนะขอรับ ท่าน-ฟัฟนิร์”

ว่าแล้วฟัฟนิร์ก็ยิ้มร่าทันที

“ตะ ต้าวชิน ว่าแล้วเชียวเจ้านี่ไว้วางใจได้จริงๆ มีแค่เจ้านี่แหละที่ไม่ได้เลวพอจะทำลายศํกดิ์ศรีของข้าได้ลงคอ ..ต่างกับคุณ..คุณวีรสตรีบ้ากล้าม(ยูนา) แล้วก็ ..อีหัวขโมยนี่สุดขั้วเลว”

“เก่งนักก็พูดให้ชัดถ้อยชัดคำไม่ได้เหรอ?”

ชินเห็นทั้งสองเล่นตลกอะไรกันไม่รู้ก็หัวเราะออกมาเบาหวิวอย่างมีมาดอัศวินผู้ดี

“เป็นเกียรติที่ท่านรู้สึกเช่นนั้นครับ”

 

****

ภายในความมืดที่ลึกที่สุดในงานประชุมโลกที่ผิดเพี้ยน ..เรนและอลิซาเบธที่นั่งวินิจฉัยข้อมูลทั้งหมดอยู่ที่แห่งนั้นได้เงยหน้าขึ้นมาเผชิญหน้ากับผู้ที่มาเยือน

“จะว่าเรื่องบังเอิญหรืออะไรดีนะ ..รู้สึกถึงผมได้หรือครับถึงได้ตรงมาทางนี้” เรนถอนหายใจแรง “เป็นใครกันครับ”

ทั้งสองไม่รู้ว่าใครเป็นผู้มาเยือน—จนกระทั่งชายคนนั้นได้ก้าวเท้าออกมา เพียงแค่นั้นจิตสังหารทั้งหมดก็พุ่งตรงใส่ทั้งสองคน จิตสังหารจำนวนมหาศาล ระดับที่เหนือยิ่งกว่าเอเธอร์ทำให้เรนแทบจะสติแตก

ชุดเกราะที่ถูกสร้างขึ้นเพียงพิเศษสำหรับคนๆเดียว ดาบมารสีดำน้ำเงินที่มีกลิ่นอายประหลาดโชยออกมา และเหนือสิ่งอื่นใดคือตัวตนของผู้ที่ก้าวเท้าออกมาอย่าง ‘ไรเดน อาคาสะ’ 

ดวงตาสีแดงไม่ได้จับจ้องไปที่ใดเป็นพิเศษ ถึงกระนั้นจิตสังหารที่พุ่งเข้าใส่ก็มีปริมาณมากกว่าที่เอเธอร์เคยใช้ใส่พวกตน—อลิซาเบธพุ่งตัวมาขวางเรนเอาไว้พร้อมกับเคียว ‘บาคุนาว่า’

“เพราะอยู่ใกล้ด้วยเลยไม่ใช่เรื่องยากอะไร ..อย่างไรซะมันก็ไม่ใช่เรื่องน่าภาคภูมิใจสักเท่าไหร่ เพราะกว่าจะแยกได้ว่านี่คือที่ๆตัวก่อเหตุอย่างพวกแกอยู่ก็ปาไปตั้งหลายนาที”

จากที่กล่าวมา ทันทีที่ถูกส่งไปจุดต่างๆภายในงานประชุมที่บิดเบือน ไรเดน อาคาสะ ก็ได้ตรวจสอบหาที่อยู่ของเรนจนพบ และรีบตรงมาทางที่เรนอยู่ด้วยคนเดียวทันที

ทั้งหมดเกิดขึ้นภายในไม่กี่นาที นั่นคือเรื่องที่..ธรรมดา สำหรับไรเดน อาคาสะคนนี้ การจะทำเช่นนี้ได้ไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นแต่อย่างไร

“กับจุดที่ผมคนนี้กางเขตุปิดการรับรู้เป็นพิเศษเนี่ยนะ? ในเวลาไม่กี่นาทีด้วย ..หึ เอาเถอะ ฉันคนนี้ที่ได้พบเจอกับสัตว์ประหลาดของจริงมาแล้วก็ไม่จำเป็นจะต้องรู้สึกกลัวอะไรอีกต่อไป” 

เรนจ้องหน้าไรเดนตรงๆโดยไร้ซึ่งความหวาดกลัวใดๆ

“แล้วยังไงต่อ? คิดว่าตัวเองจะทำอะไรได้ล่ะ?”

“ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรทั้งนั้น หน้าที่ของฉันคือการเด็ดหัวแกนี่คือเรื่องที่ทุกอาณาจักรทั่วทั้งโลกได้ตัดสินออกมา” 

“แล้วทำไมไม่โจมตีสักที? ไอขี้ขลาดที่ไม่กล้าโจมตีเพราะกลัวทางนี้จะมีไพ่อะไรซ่อนไว้มันน่ากลัวซะทีไหน ถ้าเป็นเอเธอร์มันคงจะบุกเข้ามาโดยไม่กลัวอะไรเลยแท้ๆ ..นั่นคือสิ่งที่บ่งบอกว่าแกเป็นมนุษย์อยู่ กับมนุษย์อย่างแก ..กับมนุษย์อย่างแก ผมจะประหารให้ดู”

เรนตั้งท่าใช้วิชาไสยศาสตร์โดยมีอลิซาเบธบังข้างหน้าเอาไว้ ทางด้านไรเดนนั้นก็ชักดาบออกจากฝัก 

ทันใดนั้นจิตสังหารก็พุ่งใส่เรนโดยเจาะจง

….

…!!!

“อร้วกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!”

เรนอ้วกออกมาอย่างน่าสังเวช

“ท่านเรน!”

“..บ้าอะไรวะเนี่ย..นะ นี่แก ..แรงกดดันระดับนั้น”

จิตสังหาร แรงกดดันที่มนุษย์ส่งออกมาไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องพลัง เพียงแค่สิ่งนี้มีอยู่มากไม่ได้หมายความว่าคนๆนี้จะแข็งแกร่ง เพียงแต่—มันก็คือเครื่องยืนยันได้อย่างหนึ่ง ว่าอย่างน้อยๆคนๆนี้ก็ไร้ความลังเลในการฆ่าคน และมีทฤษฎีที่ว่าจิตสังหารจะมากขึ้นไปตามปริมาณคนที่เคยสังหาร

หากยึดตามทฤษฎีแล้ว 

ไรเดน อาคาสะ คงจะยืนอยู่บนกองศพนับล้าน ในฐานะ ‘อาวุธสงคราม’ ที่อาจจะทัดเทียมหรือเหนือกว่าอำนาจมหามังกรทั้งหลาย

“เหมือนจะเข้าใจอะไรผิดไปนะ ภัยพิบัติเรน”

ดวงตาสีแดงหรี่ลงอย่างเย็นยะเยือก พร้อมกับท่าตั้งดาบที่สมบูรณ์แบบ–ท่าตั้งดาบทำให้เรนนึกถึงเทพดาบขึ้นมา

เมื่อได้เจอสิ่งนี้ เรนก็นึกขึ้นมาได้ถึงข่าวลือที่ว่า ไรเดน อาคาสะ คือหนึ่งในลูกศิษย์ของเทพดาบ

เคยถูกวิชาดาบของเทพดาบฆ่าอย่างโหดร้าย แรงกดดันที่มหาศาล ความรู้สึกที่ถูกทำให้เป็นเหมือนผู้ถูกล่ากลับมาอีกครั้ง ทั้งหมดทำให้เรนผู้แสนขี้ขลาดไม่สามารถตอบโต้อะไรได้เลย ได้แต่ยืนนิ่งน้ำตาและน้ำลายไหล คล้ายว่าสามารถช็อคตายไปทั้งอย่างนี้ได้เลย

“ที่ต้องวิเคราะห์ไม่ใช่ความสามารถของแก แต่เป็นทางหนีต่างหาก”

สีแดงจากดวงตาได้กลืนกินสติทั้งหมดของเรนไปจนหมด หัวของเรนไม่สามารถรับรู้อะไรได้แล้ว

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะถูกแรงกดดันของไรเดนเล่นงาน และอีกส่วนหนึ่งคือหลังจากที่โดนกดดันได้เพียงวิเดียว หัวของเรนก็ได้หลุดออกจากบ่า

“….”

เรนตายแล้ว

และคงจะฟื้นชีพหลังจากที่ไรเดนได้จากไป จังหวะนี้ก็ให้อลิซาเบธหนีจากไรเดนให้รอด แค่นั้นพอ

ควรจะเป็นอย่างนั้น ทว่าไรเดนกลับยืนเฉย

“..รีบๆคืนชีพมาซะสิ”

ถูกรู้หมดแล้ว—เรนลุกขึ้นยืนพร้อมกับหัวใจที่ถูกสร้างขึ้นมากใหม่

เรนในร่างผู้ชายตัวใหญ่ซึ่งเป็นร่างต้นฉบับของหัวใจที่ช่วงชิงมาได้พุ่งตัวหนีสุดแรงเกิด พร้อมกับแหกปากออกมาอย่างไม่คิดชีวิต

“หนีเร็ววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว”

 

ป.ล.สู้เขานะกระสอบทรายคุง

เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!!

เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!!

เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!!
Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!! << 0 >> รู้สึกว่าโลกเราช่วงนี้จะฮิตต่างโลกกันสินะ? ถ้าจำไม่ผิดนวนิยายประเภทไลทโนเวลของญี่ปุ่นในยุค 2020 จะฮิตกันเอาเรื่องเลย ขนาดผมก็เคยอ่าน หรือเคยดูอนิเมที่ดัดแปลงจากนิยายมาอีกทีไม่น้อยเลย ใช่ มันค่อนข้างสนุกเลย อาจจะเป็นเพราะมันช่วยสนองนีทให้ผมก็ได้ เพราะปกติผมมักจะเป็นผู้แพ้เป็นประจำทั้งๆที่พยายามากแล้ว พอได้เห็นคนๆหนึ่งประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม ซึ่งนั่นก็คือพระเอกมันก็ชวนให้รู้สึกภาคภูมิใจในตัวเขาด้วย พร้อมไปกับสาวๆในฮาเร็มของแกด้วยอะนะ แต่ด้วยความที่เป็นตลาดที่ใหญ่ ทำให้มีหลายความเห็นตามไปด้วย หลายครั้งที่นิยายแนวนี้จะถูกวิจารย์ในเชิงไม่ดี อาทิเช่น ส้ำซากจำเจ เดาทางง่าย ตัวละครผู้หญิงง่าย ทุกอย่างง่ายไปหมด บางเม้นต์ก็ร้ายแรงขนาดบอกว่า ‘นี่ไม่ใช่นิยายแต่เป็นสินค้า’ อืม ถ้าในมุมผมก็ไม่ได้รังเกียจอะไรหรอก ออกไปในทางชอบด้วยซ้ำ แต่ขอติหน่อยเถอะ ตัวร้ายส่วนใหญ่ในเรื่องแนวนี้โคตรจะไม่น่าให้อภัย คนอะไรมันจะเลวได้ขนาดนั้น เลวถึงแก่นแท้เลยพวกตัวร้ายในนิยายต่างโลกเนี่ย ไม่น่าให้อภัยที่สุด โง่ก็โง่ กระจอกก็กระจอกชิบหายเลย ไร้ความคิดความอ่าน กลับตัวก็ไม่เป็น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset