< < 140 > >
พวกเราทุกคนตามกลอเลียสที่ลากเอามนุษย์ต้นไม้ทั้งหมดขึ้นไปบนผืนดินโดยใช้เวทย์ลม
เพียงไม่นานก็ขึ้นมารับแสงอาทิตย์ยามเย็น ดูจากพระอาทิตย์แล้วน่าจะเกือบๆจะหกโมงเย็นแล้วกระมัง-ผมมองพระอาทิตย์อยู่พักหนึ่งก่อนจะหันไปมองทางกลอเลียสที่รวบพวกมนุษย์ต้นไม้นับสามสิบตนไว้ในจุดๆเดียว
‘ ‘ ‘ ‘ ‘อวาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา’ ’ ’ ’ ’ ’
มนุษย์ต้นไม้ส่งเสียงร้องสุดบ้าคลั่งพร้อมกับปล่อยทักษะการต่อสู้กับเวทมนตร์มากมายเข้าใส่กลอเลียส แต่ทั้งหมดก็ยังไม่มากพอจะเจาะผิวหนังของราชามังกรได้ ถึงกระนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามนุษย์ต้นไม้ในเวลานี้ถือครองทักษะที่น่าหวาดกลัวไว้มากมาย ถ้าหากคนที่ต้องรับมือไม่ใช่ระดับท็อปโลกอย่างกลอเลียสละก็–คงยากจะยื้อไว้ได้
ทุกคนเดินมาอยู่ในระยะที่พอดี เรลันต้าหันมาหาผม
“แล้วสิ่งที่เจ้าบอกว่าจะใช้ล่ะ?”
“..ท่านฮิโรชิ ปืนใหญ่เนลยอนจะพร้อมในอีกกี่นาทีเหรอครับ”
“ไม่เกินห้านาทีหรอก”
ห้านาทีสินะ นั้นก็พอดีเลย
ผมเรียกกระเป๋าเวทมนตร์ออกมา และควักเอา ‘เซปเตอร์เดธ’ กับ ‘มณีอัคคี’ ออกมาจากกระเป๋า
“นั่นมัน ..อาวุธของราชาจอมเวทย์ไม่ใช่หรือครับ เซปเตอร์เดธในตำนาน กับมณีอัคคี”
“ใช่ครับ”
ผมควงตัวคทาเวทย์เพื่อวัดขนาดความยาว เพื่อหาจุดจับที่เข้ามือที่สุด ทำเช่นนั้นหลายสามสิบวิจึงหยุด และชี้คทาไปทางมนุษย์ต้นไม้–มณีอัคคีส่องแสงขึ้นมาอย่างสวยงาม ทุกคนในที่แห่งนี้ต่างจ้องมาที่ผมอย่างสนอกสนใจ ..
“ผู้ถือครองที่แท้จริงสินะ” เรลันต้ากล่าว
“โลกกลมซะจริงๆนะครับ” ฮิโรชิกล่าว
“ดะ เด็กนี่มันอะไรกันเนี่ย” จูเลียสกล่าว
ผมเมินเฉยต่อทุกเสียง และทำการรวบรวมมานาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
อากาศเกินการสั่นไหวพร้อมกับเปลวเพลิงที่ปะทุอยู่รอบตัว มานาจำนวนมหาศาลไหลเข้ามาอย่างไร้ซึ่งจุดสิ้นสุด ไม่ผิดแน่ มันคือการใช้มานาที่เกินตัวไปมาก แต่ด้วยทักษะการควบคุมมานาทำให้ผมยังเหลือมานาอยู่ เพื่อเรียกใช้เวทมนตร์ที่เก็บเอาไว้ให้ได้
อย่างไรเสีย เวทมนตร์นี้ผมก็ใช้ได้ตั้งแต่ก่อนที่ผมจะใช้วิหคอมตะได้ ถ้าหากรู้แค่วิธีใช้แต่ใช้ไม่ได้มันก็แย่ละนะ
“นี่มัน เรเซอร์ ดราแคล์ ตัวนายมีมานามากมายขนาดไหนกัน”
ลีออนโพล่งขึ้น ผมหันไปตอบกลับ
“เทคนิคพิเศษต่างหากครับ การใช้เวทมนตร์ใหญ่ที่กินมานาเกินตัวนับสิบเท่ารึยี่สิบเท่าน่ะ มันมีวิธีใช้ได้ทั้งๆที่มานาไม่พออยู่”
ใช่แล้ว เวทย์ที่จะใช้ต่อจากนี้ ลำพังมานาของผมมันไม่พอหรอก แต่ว่าด้วยเทคนิคการใช้มานาของผม ทำให้สามารถใช้ได้โดยแลกกับการที่มานาหมดตูดในคราเดียว เพราะอย่างนั้นเลยไม่มีโอกาสได้ใช้มันจริงๆเลยสักครั้ง เพราะข้อจำกัดในการใช้เยอะเกินไป
จะบอกว่าเป็นเวทย์ไร้ประโยชน์ก็คงได้
“นั้นรึ สมกับที่โค่นวินดาฟได้สินะ”
ผิดแล้วละ เทคนิคที่ผมใช้ วินดาฟในฐานะราชาจอมเวทย์ใช้ได้ดีกว่าผมเยอะเลย ..เป็นเรื่องยากที่จะยอมรับว่าผมคือจอมเวทย์ที่เหนือกว่าเขา เพราะมันไม่ใช่ความจริง
แม้จะคิดอย่างนั้นแต่ผมก็ไม่ได้พูดตอบกลับอะไร ทำเพียงส่งมานาทั้งหมดไปที่ตัวคทาเวทย์อย่างเซปเตอร์เดธ
..เซปเตอร์เดธ บอกตามตรง เป็นคทาเวทย์ที่ดีที่สุดบนโลกสมชื่อเลย แต่ควบคุมยากมากจริงๆ ผมอาจจะพลาดจนทำทุกอย่างซวยไปหมดก็เป็นได้ ยิ่งใช้เวทย์ใหญ่มันยิ่งคุมยาก เพราะอย่างนั้นผมเลยต้องใช้วิหคอมตะเพื่อฟื้นฟูสติของตัวเองให้มั่นคงตลอด เพื่อไม่ให้หลุดการควบคุมเอาได้
และเมื่อรวมมานาเท่าที่ต้องการได้แล้ว ผมก็ทำการร่ายเวทย์ทันที
“เอาละ..มานาทั้งหลายทั้งมวลเอ๋ย จงฟังเสียงเรียกของข้า จงตอบรับเสียงเรียกของข้า และจงปรากฏร่างให้ข้าเห็นเสียที ถึงรูปร่างที่แท้จริงของเจ้า ..จงตอบรับเจตจำนงศ์ของข้า”
ผมกัดฟันกรามแน่น เพียงแค่ร่ายเวทย์สั้นๆสติก็แทบจะกระเจิงไปจนหมด แม้จะมีวิหคอมตะคอยฟื้นฟูอยู่ก็ตาม ทำเอารู้ได้เลยว่าหากไม่มีวิหคอมตะ การร่ายเวทมนตร์บ้าๆนี่พร้อมกับใช้เซปเตอร์เดธมันเป็นความคิดที่โง่มาก
แต่ตอนนี้ผมมีวิหคอมตะอยู่ มีมณีอัคคีอยู่ มีสิ่งที่จะทำให้ผมไปสู่จุดสูงสุดได้อยู่ เพราะอย่างนั้นเรื่องบ้าๆก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ..
“มานาเอ๋ย จงแสดงให้ข้าเห็นถึงเพลิงวันสิ้นโลกที ..ออกมาซะ—-”
ก้อนมานามารวมกันอยู่บนท้องฟ้า และทั้งหมดก็ค่อยๆกลายร่างเป็นก้อนสีแดงขนาดยักษ์ที่ใหญ่และยาวกว่าสิบเมตร ก้อนสีแดงนั้นแตกและรวมกันนับสิบๆครั้งก่อนที่จะปรากฏเป็นรูปร่างที่สมบูรณ์—
“ออกมาซะ [โนอาห์ คาโน่(ปืนใหญ่วันสิ้นโลก)] !!!!!”
ปืนใหญ่สีเพลิงขนาดสิบเมตร ปรากฏขึ้นบนฟ้าและชี้ลงมายังมนุษย์ต้นไม้ทั้งหมด—รอบปืนใหญ่นั้นระอุไปด้วยเปลวเพลิงที่รุนแรงระดับที่หากมีสิ่งมีชีวิตใดเสียดเข้าไปใกล้นั้น คงจะละเอยหายไปในทันที ไม่เว้นแม้แต่สิ่งมีชีวิตขั้นสูงอย่างมังกรซึ่งมีผิวหนังอันแข็งแกร่ง
“โนอาห์..คาโน่”
ลีออนมองไปที่ปืนใหญ่วันสิ้นโลก ก่อนจะหันมามองทางผม
“เวทมนตร์ที่หายสาบสูญ ..แปดมหาเวทย์ของราชาผู้พิชิต ‘โอลิเวอร์’ เวทมนตร์ล้างโลกในตำนานไม่ใช่รึไง”
..ใช่แล้ว สิ่งนี้เคยมีมาก่อน เคยมีคนที่สร้างมันและเคยใช้มันมาก่อน และคนผู้นั้นก็คือราชาผู้พิชิต ‘โอลิเวอร์’ ตัวตนในตำนานผู้คิดค้นมหาเวทย์ทั้งแปดขึ้น หรือที่รู้จักกันในเวทมนตร์ที่หายสาบสูญ เวทมนตร์ตระกูลโนอาห์ ‘เวทมนตร์แห่งวันสิ้นโลก’
ดูเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อไปหน่อย แต่โอลิเวอร์คือผู้ถือครองที่แท้จริงของมณีธาตุทั้งสี่เพียงคนเดียวในหน้าประวัติศาสตร์ เป็นจอมเวทย์และนักดาบที่เก่งสุดในยุคนั้น ไม่ใช่แค่สองศาสตร์ ศาสตร์อื่นๆเองเขาก็คงจะเก่งที่สุดแล้วในเวลานั้น–สมชื่อราชาผู้พิชิต
เวทมนตร์ที่ผมใช้ก็คือหนึ่งในสิ่งที่โอลิเวอร์เคยพิชิตมา เป็นเวทมนตร์วันสิ้นโลกอย่างปืนใหญ่วันสิ้นโลก
“เวทมนตร์วันสิ้นโลก ตอนที่มณีวายุตอบรับตัวข้า ข้าไม่ยักจะได้เรียนรู้มันเลยแฮะ ..สมชื่อเวทมนตร์ที่หายสาบสูญสินะ” เรลันต้าพูดขึ้นมาอย่างหงุดหงิด
ใช่แล้ว แม้จะถือครองมณีธาตุ ข้อมูลของเวทมนตร์ตระกูลโนอาห์ก็ไม่มีอยู่ ..อย่างไรซะมันก็คือเวทมนตร์ที่หลุดคอนเซปต์เวทย์ทั้งสี่ขั้นอย่าง ต้น กลาง สูง บรรลุ เพราะมันคือเวทมนตร์ระดับมหาเวทย์ และตามชื่อ พลังทำลายล้างของเวทย์นี่มันมากมายระดับน่าหวาดกลัวทีเดียว
“ตามที่คุยกันไว้นะทุกท่าน ช่วยสร้างโล่ป้องกันความเสียหายไม่ให้รุกรามไปทั่ว”
ด้วยพลังของ โนอาห์ คาโน่ กับพลังของปืนใหญ่เนลยอน มันมากพอจะทำลายมนุษย์ต้นไม้ในตอนนี้ได้แน่ๆ ทว่าปัญหาที่สำคัญที่สุดคือจะทำยังไงไม่ให้ความเสียหายจากมหาเวทย์กับอำนาจของเนลยอนมันทะลุเกินขอบเขตุนั่นแหละ
ถ้าหากคุมพลังเอาไว้ไม่อยู่ ไม่ใช่แค่พวกผมที่อยู่ใกล้จะตายกันหมด แต่คนที่อยู่รอบๆ อย่างจักรวรรดิราชันมังกรเองก็คงถูกลบหายไปเช่นกัน
ไอ้เวทย์นี่มันถึงเป็นของใช้ยากสุดอันตรายยังไงละ เพราะถ้าใช้ ตัวผู้ใช้ก็อาจจะตายไปด้วยก็ได้เหมือนกัน ..แน่นอน มณีอัคคีก็ช่วยผมไว้ไม่ได้ เพราะมหาเวทย์แบบ โนอาห์ คาโน่ มันหลุดขอบเขตุของธาตุไปแล้ว มันคือพลังทำลายที่บริสุทธิ์ไร้ซึ่งธาตุที่แน่ชัด แม้ตัวเวทย์จะเป็นเพลิงแต่มันก็ไม่ใช่เพลิงที่อยู่ในขอบเขตุของมณีอัคคี
ผมเองก็ตายได้เหมือนกัน หากโดนเพลิงวันสิ้นโลกนี่เข้าไป ..ต้องวัดดวงแล้ว—
“ไม่ต้องกลัวไป เรเซอร์ ดราแคล์”
อัลเบโด้พูดขึ้นอย่างใจเย็น เสียงที่แสนจะสุขุมของเขาทำให้ผมตั้งสติได้
“คิดว่าทุกคนในที่แห่งนี้คือใครกัน?”
ผมหันไปมองทุกคน—ผู้ที่อยู่ในจุดสูงสุดของโลกใบนี้
“เธอไม่จำเป็นต้องกังวลกันเรื่องไม่เป็นเรื่อง ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดแล้วที่เหลือทุกคนจะจัดการเอง”
“อย่างที่อัลเบโด้มันพูดเลย ไม่รู้หรอกนะว่าแกเป็นใครมาจากไหน แต่ขอยอมรับในฝีมือการใช้เวทมนตร์เลย ข้าไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะมีวันได้พบเห็นเวทมนตร์วันสิ้นโลก ..หึ น่าสนใจเสียจริงๆ”
“คิดว่าฉันเป็นใครกัน มาเจล ปัญหาพระเจ้านะ วางใจได้”
เรลันต้าพูดกับผม เหมือนตั้งใจจะปลอบผมอย่างไรอย่างนั้นเลย ..ส่วนมาเจล มาจากไหนไม่รู้เหมือนกัน ช่างเขาเถอะ
“ที่เหลือให้พวกข้าจัดการเอง”
กล่าวจบมณีวายุก็ตอบรับคำเรียกของเรลันต้า สายลมจำนวนมหาศาลไม่แพ้มานาที่ใช้ในการเรียก โนอาห์ คาโน่ ก็ปรากฏขึ้นรอบตัวเรลันต้า
เรลันต้าหันไปตะคอกใส่ลีออน
“ลีออน ใช้ไอ้ของแปลกนั่นได้แล้ว!”
“…อย่าเรียกเธอว่าของแปลกสิครับ”
“เอาเถอะน่า รีบๆใช้มันซะ”
ลีออนถอนหายใจ และหันไปทางคนในชุดคลุม
“..ฝากด้วยนะ– ‘เกรล’”
…เกรล?
มหามังกรปฐพี?
สิ้นสุดคำขอของลีออน เกรลก็ถอดผ้าคลุมออก และเผยให้เห็นเด็กน้อยที่ดูแล้วอายุไม่น่าเกินเด็กประถมสักเท่าไหร่
ดวงตาสีเหลืองประหนึ่งมังกรนั้นเป็นสิ่งแรกที่ดึงดูดสายตาทุกชีวิต สัญชาตญาณของสิ่งมีชีวิตบอกให้รู้ว่าอย่าได้เมินเฉยต่อเด็กคนนี้ ..เธอคือเด็กสาวผมโพนี่เทลสั้นสี่น้ำตาลที่ดูสวยงาม หากไม่ได้ไว้ผมทรงนี้ ผมของเด็กสาวก็คงยาวราวๆบ่า ตัวผิวสีแทนอ่อน ร่างเล็กอย่างกับเด็กประถมปลาย ข้างในสวมชุดเชิ้ตลายจุดสีดำและสวมกระโปรงทรงเอ ข้างนอกสวมเสื้อกาวด์แบบเดียวกับนักวิทยาศาสตร์
บนหัวของเธอมีกิ๊บติดผมเก่าๆรูปชั่งตีเหล็ก อันเป็นสัญลักษณ์ของการเล่นแร่แปรธาตุ
ตัวเธอนั้นแต่งตัวราวกับผู้ใหญ่ ซึ่งต่างกับภาพลักษณ์ไปไกลโข—เธอคนนั้นคือ มหามังกรปฐพี ‘เกรล’ หนึ่งในสี่มังกรในตำนานที่เคยมอบยุคสมัยที่ดำมืดที่สุดให้กับโลกใบนี้
เกรลยืนเอามือล้วงกระเป๋าเสื้อกาวด์และมองไปทาง โนอาห์ คาโน่
“อันตรายมากเลยไม่ใช่เหรอ”
“นั่นสินะ แล้วคิดว่ายังไง พอจะป้องกันได้มั้ย?’
“ถ้าได้อีกเก้าส่วนคืนก็คงไหว ด้านพลังป้องกัน ฉันเหนือที่สุดในหมู่พี่น้อง”
“นั้นก็เอาไปให้หมดเเลย”
“อือ..ลีออน ก่อนอื่น”
“ว่าไง”
“บอกรักทีสิ”
….
…
หา????
ไม่ใช่แค่ผม ทุกคนพากันตกใจกับที่เกรลกล่าว มีแค่จูเลียสที่มีสีหน้าเขินๆ
ในสถานการณ์ที่ตึงเครียดนี้กลับเกิดการบอกรักของสองสิ่งมีชีวิตเข้า แถมยังบอกกันกลางหมู่ชนคนมากมายอีก ..ลีออนนั้นไร้ซึ่งความเขินอาย เขายิ้มให้เกรลอย่างอ่อนโยน ..และนำมือไปสัมผัสที่หัวของเกรล
“รักนะ เกรล”
“เหมือนกัน”
กล่าวจบ มานาจำนวนมหาศาลก็ไหลสู่ร่างของเกรล—อย่าบอกนะว่า
ปราสาทลอยฟ้า ‘เกรล’ พลังทั้งหมดถูกส่งคืนให้เจ้าของดั่งเดิมแล้วน่ะ เรื่องบ้าๆขนาดนั้นยอมได้ยังไงกัน ในฐานะคนปกครองอาณาจักรแล้ว การมอบพลังนี่ให้มหามังกรคืนง่ายๆนี่มัน ..ข้อครหาทั้งหมดของผมปลิวหายไปในทันทีที่เห็นสายตาของสองคนนั้น
..ไม่มีทางหักหลังแน่นอน ราวกับว่าอีกฝ่ายคือคนสำคัญที่สุดของกันและกัน ความเชื่อใจที่มีให้กันมันมากระดับยากจะเชื่อ
ผมเฝ้ามองเกรลต่อจากนี้ ..เกรลที่ได้รับพลังทั้งหมดกลับคืนมาแล้วได้ส่งกลิ่นอายอันตรายกว่าเก่าออกมา ในฐานะสิ่งมีชีวิตไม่สามารถละสายตาจากเกรลตอนนี้ได้เลย
เกรลถอดเสื้อกาวด์ออก จากนั้นก็เดินออกไปและค่อยๆลอยขึ้นฟ้า–และพึมพำออกมาสั้นๆ
“อาภรณ์เทพมังกร ‘อิชิกามิ(เทพหิน)’”
แสงสีขาวปกคลุมทั่วทั้งร่างของเกรลที่ลอยอยู่บนฟ้า—เพียงไม่นาน ก็ปรากฏให้เห็นเกรลในร่างอาภรณ์เทพมังกร
ร่างนั้นเต็มไปด้วยก้อนหินที่สวยงามทั้งหมด แต่ก็มีบางส่วนที่เผยให้เห็นผิวหนังอย่างบริเวณเนินอกลงมาถึงสะดือ และแผ่นหลัง ตัวปีกของเกรลในตอนนี้คือปีกสีขาวสง่างามที่ส่งแสงออกมาตลอดเวลา บริเวณหัวเองก็ถูกหินปกคลุมอยู่เล็กน้อย บริเวณหู กับบริเวณหัวที่มีมงกุฏหินลอยอยู่ข้างบน
นอกจากนั้นแขนข้างซ้ายของเกรลก็ถือ ‘ขวานหินที่ดูสวยงาม’ เอาไว้อยู่
เกรลในอาภรณ์เทพมังกรนั้นดูสง่างามอย่างไม่น่าเชื่อ ออร่าความยิ่งใหญ่ ความสูงส่งเหนือกว่ามนุษย์ชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่ออยู่ในร่างนี้ ..สมนามมหามังกร—เจ้าแห่งมานา
..ไม่ได้มีแค่มหามังกรเทียมที่ใช้ร่างอาภรณ์เทพมังกรได้สินะ ..มหามังกรจริงๆก็ใช้ได้เหมือนกัน หากได้พลังกลับมาครบแล้วละก็
แสดงว่ามหามังกรยังพัฒนาได้อีกมาก
อยากจะรู้จักอาภรณ์เทพมังกรให้ดีกว่านี้อยู่หรอก แต่ผมเองก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด-ผมเพ่งสมาธิทั้งหมดไปที่ โนอาห์ คาโน่ ..
“มาแล้ว”
คำเรียกของฮิโรชิทำให้ทุกคนทุ่มสมาธิทั้งหมดให้กับทุกๆวินาที
1..2..3…แสงสีฟ้าลอยผ่านท้องฟ้ามา แสงสีฟ้าขนาดยักษ์ แสงสีฟ้าอันเป็นอำนาจแห่งเนลยอน
‘ปืนใหญ่เนลยอน’ ถูกใช้งานแล้ว ผมเองก็ ..ห้ามพลาด ห้ามพลาด ห้ามพลาด ห้ามพลาด ห้ามพลาด ห้ามพลาด ห้ามพลาด ห้ามพลาด ห้ามพลาด ห้ามพลาด ห้ามพลาด ห้ามพลาด
ระหว่างที่ผมบอกตัวเองในใจอย่างนั้น มาเจลก็เดินมาจับไหล่ผม
“เห้ย”
“เพิ่มโอกาสสำเร็จ”
ออร่าสีรุ้งปกคลุมตัวผม ..เพิ่มโอกาสสำเร็จ
“ปัญญาพระเจ้าของฉันคนนี้ คือการเพิ่มความเป็นไปได้ยังไงล่ะ”
มันปัญหาพระเจ้ายังไงฟร้ะ แล้วอีกอย่าง..เพิ่มความสำเร็จ เปลี่ยนแปลงความเป็นไปได้นี่มัน ความสามารถของ—ราชาผู้พิชิต โอลิเวอร์ นี่หว่า!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ไอ้มาเจล ไอ้บ้าเอ้ย!!!!!
ผมอยากจะแหกปากด่ามาเจล แต่ก็ยั้งเอาไว้ได้ทัน ..ก่อนอื่น
“ช่วยได้เยอะเลย”
ผมยิ้มให้มาเจล เจ้าตัวยิ้มตอบแบบเชิดๆ
“แน่นอนอยู่แล้วดิ”
แสงสีฟ้าพุ่งผ่านอากาศมา จากทวีปเนลยอน มันมาอย่างรวดเร็วภายในสามวินาที—ผมที่รวมรวบสมาธิได้ถึงขีดสุด และได้โอกาสสำเร็จเพิ่มจากมาเจลก็ตะโกนขึ้นสุดเสียง ราวกับตอบรับการมาของพลังแห่งเนลยอน
“เผาทุกอย่างให้เป็นจุนซะ—-ปั้ง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
โนอาห์ คาโน่ เกิดวงแหวนเวทย์ซ้ำขึ้นบริเวณปากกระบอก วงแหวนเวทย์เปลวเพลิงทำงานอย่างหนักเพื่อเกิดเป็น–พลังทำลายล้างระดับสูงที่สุดในโลก
แสงสีแดงกับแสงสีฟ้าพุ่งจากบนฟ้าเข้าสู่ภายในบาเรียร์ที่กันมนุษย์ต้นไม้ทั้งหมดไว้พร้อมๆกัน
พร้อมกับที่เกิดการทำลายล้าง เรลันต้าและเกรลก็รวบรวมมานาทั้งหมดออกมาเช่นกัน
บาเรียร์สีน้ำตาลอันเป็นพลังของเกรลเข้าปกคลุมพื้นที่โดยรอบ เช่นเดียวกับสายลมของเรลันต้า—-กลอเลียสบินออกมาจากที่แห่งนั้น และพร้อมกันนั้น เสียงระเบิดระดับเขย่าทวีปก็ดังขึ้นมาจากข้างหลัง
ตู้ม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ทวีปเกิดการสั่นสะเทือน ภายในบาเรียร์ที่มีกั้นไว้ถึงสองชั้นพร้อมกับสายลมที่โอบอุ้มไว้นั้นแทบจะแตกได้ทุกเมื่อ ถึงกระนั้นทั้งเรลันต้าและเกรลก็ใส่พลังทั้งหมดเจ้าไปเพื่อไม่ให้การระเบิดหลุดออกมาได้
เสียงระเบิดดังคงดังกังหวานอยู่อย่างไม่รู้จบ พลังทำลายล้างนี่ แค่เสียงก็มากพอจะฆ่าคนได้แล้ว—เลือดไหลออกจากหูของผม ผมใช้วิหคอมตะปกคลุมทุกคนในที่แห่งนี้เพื่อไม่ให้บาดเจ็บสาหัสจากเสียงระเบิด
เวลาเพียงสั้นๆจากการระเบิดนั้นแสนยาวนาน เพียงไม่กี่วิ แต่รู้สึกว่ามันนานมาก ..ทรมานเหลือเกิน นี่น่ะเหรออำนาจของเนลยอน ..นี่น่ะเหรอเวทมนตร์วันสิ้นโลก ..ช่างน่าหวาดกลัวจริงๆ
เสมือนว่าผ่านไปเป็นผี ในที่สุดฝันร้ายก็หยุดเสียที …
ผมเบิกตามองภาพข้างหน้าให้ชัดเจน
บริเวณที่เกิดการระเบิดนั้น ..ไม่มีอะไรเลย ทุกอย่างที่เกิดการระเบิดถูกลบไปจากโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งผืนดินรวมถึงมนุษย์ต้นไม้ด้วย
บาเรียร์ค่อยๆแตกอย่างช้าๆ สายลมเองก็อ่อนแรงลงด้วย ..พอเป็นอย่างนั้นไอร้อนก็พุ่งเข้าใส่หน้า แม้อยู่ไกลนับกิโลเมตร แต่ก็ยังสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดจากไอร้อน
เกรลบินลงมาหาลีออน จากนั้นก็ทำการคลายอาภรณ์เทพมังกรออก เสื้อที่หายไปก็กลับมา
“ทำได้ดีมาก เกรล”
“เหมือนทุกทีนั่นแหละ”
เกรลรับเสื้อกาวด์จากบนมือของลีออนไปสวมใส่ จากนั้นก็เดินไปเกาะเอวจากข้างหลังของลีออน
“เหนื่อยแล้ว ขอยืมตัวหน่อยนะ”
“ได้สิ”
…เรลันต้ายืนกอดอกมองสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งรอยยิ้ม ฮิโรชิกุมขมับ อับเลโด้ถอนหายใจโล่งอก จูเลียสแทบช็อตตาย มาเจลยืนขาสั่นและพึมพำอะไรไปเรื่อย
“มะ มะ ไม่เลวนี่ ใช้ได้เลย อืม สมกับเป็นว่าที่บรรไดที่มีให้ฉันคนนี้ข้ามอ่ะนะ อืม”
สุดท้าย
“..เผลอๆไม่ใช่แค่จักรวรรดิแล้วละมั้งที่จะถูกลบ หากพลังทำลายนี่หลุดไปได้น่ะ”
กลอเลียสที่กลายร่างเป็นคนจากข้างหลังโพล่งขึ้น
ผมถอนหายใจโล่งอก ..ตอนนี้มานาผมหมดตูดอีกแล้ว เพราะ โนอาห์ คาโน่ ไม่ถูกนับเป็นธาตุเพลิง ทำให้มณีอัคคีไม่ได้ช่วยให้ผมใช้มันได้ง่ายขึ้นเลยสักนิด เซปเตอร์เดธเองก็ไม่ได้ช่วยลดมานาเลยด้วย มานาเสียเท่าเดิมทั้งหมด เพราะมหาเวทย์คือเวทย์ที่แยกออกจากคอนเซปต์อย่างแท้จริง
เพราะอย่างนั้นมันถึงระบุไว้ว่าเป็นมหาเวทย์นั่นแหละ ..ผมค่อยๆปล่อยตัวลงไปนั่งกับพื้น และเฝ้ารอมานาตัวเองกลับมาเพื่อใช้วิหคอมตะฟื้นฟูร่างกายอีกครั้ง
ตอนนี้มีเรื่องที่อยากรู้อีกหลายอย่างเลยละ ..เรื่องของมาเจลที่ถือครองโอลิเวอร์อยู่ หรือเรื่องของอาภรณ์เทพมังกรของเกรล แต่คิดว่าคงไม่มีโอกาสให้ถามสักเท่าไหร่นัก
เอาเป็นว่า-เพียงเท่านี้..ก็จบปัญหาในงานประชุมโลกทั้งหมดได้แล้ว
ได้เวลาไปหาสองคนนั้นต่อแล้วสินะ หนิง ยูจิ ..
****
ภายในงานประชุมโลกที่หลายส่วนมีแต่ซากผุพังนั้น ยูจิและเทียนหลงได้เดินผ่านเศษหินมากมายไปหยุดที่ต้นอ่อนสีทอง ..
“ต้นไม้โลก .. ‘บันไดสวรรค์’”
ยูจิหยิบต้นอ่อนสีทองขึ้นมา และสร้างฟองน้ำปกคลุมต้นอ่อนเอาไว้ ก่อนจะเก็บมันเข้าเวทมนตร์กระเป๋า
“เป็นอันเก็บกู้สมบัติสวรรค์ ..ดีแล้วใช่มั้ยครับ ออร่า”
‘ใช่แล้วล่ะยูจิ ต่อไปก็..ได้เวลาไปเก็บกู้สมบัติสวรรค์ชิ้นต่อไปแล้ว’
ยูจิพยักหน้ารับคำพูดของออร่า ก่อนจะเดินออกจากงานประชุมโลกแห่งนี้ไปพร้อมกับเทียนหลงและออร่าในหัว ..