เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!! – ตอนที่ 238

< < 152 Sec2 > > 

เช้าวันต่อมาที่แสนสดใสภายในป่าแห่งพงไพรที่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม ไม่ว่าจะกระต่ายหรือว่างูที่เลื้อยไปมา ..เอาเป็นว่าธรรมชาติช่างสวยงาม

“พวกงูมันจะไม่โจมตีพวกเราหรอก ถ้าไม่เข้าไปในเขตุหรือถ้าเกิดมันไม่หน้าเลือดขึ้นมาจริงๆ”

“เอ๊ะ แบบนั้นก็”

“อือ ตายกันหมดแน่ถ้ามันหน้าเลือดขึ้นมา ถ้าแมมม่อนโดนโจมตีก่อนก็หมดสิทธิ์รอดเลย ว่าก็ว่าเถอะ ต่อให้ไม่ใช่แมมม่อน แต่ถ้าโดนพิษเข้าไป เราก็ช่วยไม่ได้หรอกนะ เพราะวัตถุดิบถอนพิษไม่พอ

“ยังไปไม่ถึงที่หมายก็เสี่ยงตายซะแล้วค่ะ ..”

เมลเบลหน้าซีดขึ้นมาอีกครั้ง อันเดียอัสทำท่าจะเดินไปใกล้ๆงูแต่ก็โดนเมลเบลดึงแขนไม่ให้ไปได้ทัน ส่วนแมมม่อนนั้นก็เดินตามหลังดิลุคอย่างนิ่งสงบ

“ว่าแต่ที่ที่จะไปนี่คือ?”

“แม่น้ำในป่า–โอ้ ถึงแล้วพอดีเลย”

ดิลุคเดินผ่านพุ่มไม้เข้าไป ทุกคนตามหลังดิลุคไป และ—ได้พบกับแม่น้ำที่แสนสวยงาม

น้ำใสจนเห็นพื้น พื้นหญ้าสีเขียวขจีคล้ายส่องแสง ธรรมชาติที่แสนสวยงามซึ่งเต็มไปด้วยกระต่าย กวาง แล้วก็ฝูงนกนานาชนิด

นอกจากนั้นกลางแม่น้ำนั้นก็มีหินตั้งอยู่โต้กับสายน้ำ และก็มีผู้ที่นั่งอยู่บนหินก้อนนั้น

หญิงงามผู้หลุดมาจากเทพนิยาย? นั่นคือความคิดแรกบนหัวของทุกคน ยกเว้นแมมม่อนผู้ไม่เคยอ่านเทพนิยาย

“คนๆนั้น..”

“คนที่ตามหาไง”

เธอคือหญิงสาวที่มีเลือนผมสียาวถึงเอว ไว้ผมเปิดหน้าผากเล็กน้อย เพื่อโชว์ให้เห็นเขาอันเป็นสัญลักษณ์ของเผ่ามังกรน้ำ ดวงตาสีฟ้าประหนึ่งท้องทะเล ผิวสีขาวราวหิมะ ยิ่งกว่าภาพลักษณ์ที่เหนือธรรมชาตินั้นก็คือเลือนร่างของเธอที่สมบูรณ์แบบ สูงถึง 170 ซ.ม. หุ่นดีอย่างไม่น่าเชื่อ และการแต่งกายที่เผยเนื้อผิวเยอะของเธอก็ช่วยเพิ่มสเน่ห์ในฐานะหญิงสาวเข้าไปใหญ่

แล้วก็ ..หางที่ผุดมาจากบริเวณกึ่งกลางระหว่างสะโพกกับเอวนั่นก็ด้วย

เมลเบลปิดปากตัวเองอึ้งกับความงาม

แมมม่อนกระพริบตาปริบๆแบบไม่ได้สนใจอะไร

อันเดียอัส ..แก้มแดงแจ๋และเหงื่อแตก

“งดงามอะไรอย่างนี้”

“นั่นสินะ งดงามจริงๆ สมกับเป็นเผ่ามังกรน้ำที่ขึ้นชื่อความสวยงามที่สุดในหมู่มังกร”

ดิลุคพูดแบบพึงพอใจ แต่ก็ไม่ได้หลงในความงามมากมายอะไร เธอเดินไปอยู่หน้าแม่น้ำในท่าเท้าสะเอว

“ขอคุยด้วยหน่อยได้รึไม่?”

“..”

หญิงสาวเผ่ามังกรน้ำกระพริบตาสองสามจังหวะ ปรายสายตามองทุกคนอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มให้

“ค่ะ มีธุระอะไรกับดิฉันหรือคะ?”

เสียงเองก็ไพเราะ ทำเอาเกือบเผลอคิดไปว่านี่คือเสียงของเทพธิดา

ทุกคนโดยเฉพาะอันเดียอัสกำลังเคลิ้มได้ที่ ใช่ ทุกคน แม้แต่แมมม่อนที่ทีแรกดูไม่ได้สนใจก็เริ่มแก้มแดงขึ้นมา

“..รู้สึกแปลกๆ”

“แหงอยู่แล้วสิ ในน้ำมีเวทมนตร์สเน่ห์เทลงราวๆยี่สิบลิตรได้”

“ “ “ ….” ” ”

ผู้หลงในสเน่ห์ของหญิงสาวต่างหันไปมองที่เธอ

“ไม่ใช่นะคะ ฉัน..ไม่ได้ทำ จริงๆนะ”

หญิงสาวหรี่ตาหนีด้วยสีหน้าลำบากใจ

“ท่านดิลุค ..อย่าใส่ร้ายเธอสิครับ”

“น่าสงสารแย่เลยค่ะแบบนี้”

“ดิลุค รู้สึกแปลกๆ ไม่ชอบเลย”

ดิลุคคว้าอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋า มันคือหญ้าสีเหลืองที่เปล่งกลิ่นเหม็นออกมา

“ ‘เวทมนตร์สเน่ห์’ หนึ่งในเวทย์ที่เรียนยากที่สุด แล้วก็ไม่ได้มีความจำเป็นต้องเรียนอะไรขนาดนั้น มันจึงเป็นเวทย์ที่ถูกหลงลืม ไม่ยักจะเชื่อเลยนะว่าจะมีคนบ้าพอเรียนเวทย์ที่พัฒนาได้ยากเช่นนี้อยู่  เฮ้อ เสริมความงามเพื่อความพึงพอใจของตัวเองมันก็ดีอยู่หรอกนะ แต่เล่นใช้มนต์สะกดนี่เข้าขั้นวิตถารแล้วไม่ใช่หรือไง ถ้าไม่มั่นใจในตัวเองขนาดนั้นก็ไปหัดแต่งหน้ามาซะสิ ไม่ใช่มาเล่นกับจิตใจคนอื่น”

“ไม่ใช่จริงๆนะคะ”

“อ๋อเรอะ ถ้านั้นก็ดูนะ วินาทีที่เราโยนดอกไม้เหม็นอย่างกับขี้นี่ลงไปในน้ำ สเน่ห์ของเธอก็จะถูกหักล้าง”

หญิงสาวผู้งดงามเมื่อได้ยินก็ปิดปากตัวเอง แล้วก็หลั่งน้ำตาออกมา

“ไม่ใช่..นะ”

“ท่านดิลุค ทำเกินไปแล้วนะคะ!!”

“อย่าทำเธอร้องไห้นะครับ!”

“ดิลุค–ขอโทษ”

ทั้งสามวิ่งเข้าไปล็อคตัวดิลุค จนดอกไม้กลิ่นขี้ในมือหลุดลงพื้น

“เอาเข้าไป เป็นกันหนักขนาดนี้ ดูท่าจะเรียนไปไกลพอสมควร แล้วก็ความงามที่มีเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็ช่วยเสริมสเน่ห์เข้าไปอีก น่าสนใจจริงๆ”

“ไม่เข้าใจเลยค่ะว่าคุณกำลังพูดอะไร แต่ที่พูดมันเป็นการกล่าวหาค่ะ ..แต่ถึงจะพูดอย่างนั้นไป คุยก็คงไม่เชื่อฉันหรอกนะคะ”

“อือ ไม่เชื่อหรอก ก็เธอน่ะ มันเป็นขยะตัวแม่ไงละ นังเพศยาที่บังอาจล่อลวงสหายของเรา”

ดิลุคพูดอย่างเรียบเฉย หญิงสาวได้ยินเช่นนั้นก็ได้แต่ยิ้มตอบกลับอย่างไร้ทางตอบโต้ พลางบีบน้ำตาออกมาอย่างน่าสงสาร ประหนึ่งว่าเธอคือผู้ถูกกระทำ–ซึ่งก็ใช่

“..ช่วยฟังหน่อยนะคะ อดีตของดิฉัน”

“ว่ามา”

 

****

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีหญิงสาวเผ่ามังกรคนหนึ่งอาศัยอยู่ในห้วงลึกของมหาสมุทร ณ เมืองของเผ่ามังกรน้ำ

เธอนั้นงดงามกว่าใครๆ ใช่ งดงามเป็นที่สุด งดงามถึงขนาดที่เหล่าชายชาตรีแห่งท้องทะเลทั้งหลายต่างก็หลงใหลในตัวเธอกัน กระทั่งคนที่มีครอบครัวหรือคู่อยู่แล้วก็ต่างมุ่งหน้ามาหาเธอกัน อย่างกับฝูกนกที่ตั้งใจแย่งอาหารกัน ภาพนั้นไม่ต่างกับสัตว์เดรัจฉานทั่วๆไป ความงามของเธอมันมากจนเกินไป มากถึงมาก มากระดับไม่รู้จะเปรียบเทียบยังไง ผู้ชายต่างพากันขาดสติและมุ่งมาหาเธอ

เหล่าหญิงสาวที่อิจฉาความงามของเธอเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็รังแกเธออย่างรุนแรง และขับไล่เธอออกจากเมืองมังกรน้ำ ทั้งๆที่เธอไม่ได้ทำอะไรผิด แค่สวยเกินไปไม่นิดหน่อย

เธอที่ไม่ได้ทำอะไรผิด แค่สวยมากเกินไปได้แต่จำยอมเดินออกจากบ้านเกิดของตัวเอง ทิ้งอดีตของตัวเองและปรีกตัวมาใช้ชีวิตอยู่ในที่ที่ห่างไกลจากผู้คน เพื่อไม่ให้ความงามของตัวเองทำร้ายผู้ใดอีก

 

****

“บางที ..ความงดงามก็มาในรูปแบบฝันร้ายค่ะ”

เมื่อเล่าจบ หญิงสาวเผ่ามังกรน้ำก็ร้องไห้ออกมาอย่างอัดอั้นไว้ไม่อยู่ อันเดียอัสและเมลเบลเองก็พากันร้องไห้ตามๆกัน แมมม่อนนั้นก็นอนดิ้นไปมากับพื้นคล้ายกำลังต่อสู้กับภายในจิตใจของตัวเอง

“ฮะ ฮะ ตอแหลสิ้นดี”

ดิลุคชี้นิ้วด่าพร้อมเสียงหัวเราะที่ไร้รสชาติ เธออาศัยจังหวะที่สองหน่อเอาแต่ร้องไห้ หนึ่งหน่อเอาแต่ดิ้นไปมาราวกำลังโดนคำสาป เธอหยิบดอกไม้กลิ่นขี้ขึ้นมาและโยนลงน้ำทันทีโดยไม่ฟังใครตอบโต้อะไร

“….”

หญิงสาวเผ่ามังกรถอนหายใจเฮือกโต ก่อนจะมองลงไปในน้ำที่ค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นสี—ขี้

“แหวะ”

ภาพลักษณ์สาวสูงส่งหายไปในทันที เพราะเธอผู้งดงามราวเทพธิดาตรงหน้าจู่ๆก็อ้วกแตก ดิลุคมองภาพนั้นพลางหัวเราะแบบไร้อารมณ์ไปด้วย

อันเดียอัส เมลเบลค่อยๆพากันหยุดร้องไห้ อาการโดนคำสาปของแมมม่อนก็หายไปด้วยเช่นกัน

“นี่มัน..”

“มนต์สะกดสินะครับ ไม่รู้สึกตัวเลย ..คือเธอสวยมากจนผมไม่รู้ตัวเลย”

“ขอบ..คุณ..ดิลุค”

ดิลุคเดินไปจับไหล่แมมม่อนที่หายใจฮอบจากการต่อสู้กับตัวเอง ด้วยส่วนสูงที่ไม่ต่างกันมาก มันเลยเหมือนพี่สาวตัวเตี้ยกับน้องชายอายุน้องยังไงๆชอบกล

“เห็นยัยเลวที่กำลังอ้วกแตกเป็นสีรุ้งอยู่นั่นรึไม่?”

“เห็น”

“เล่นมันซะ”

“เข้าใจ”

แมมม่อนหันไปหาเป้าหมาย–หญิงสาวเผ่ามังกรผู้งดงาม 

“ดะ เดี่ยวสิค่ะ แบบนี้มันไม่ถูกต้องนะคะ ดิฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย!”

“แล้วจะร่ายเวทย์สเน่ห์ไว้ในน้ำทำไมไม่ทราบ แถมระดับยังสูงพอดูด้วย คงจะใช้เวลานานพอควรเลยนะกว่าจะเรียนรู้มันจนถึงขั้นนี้ได้น่ะ”

“หาว่าดิฉันเป็นยัยป้าขึ้นคางหรือคะ!?”

“อือ ดูๆแล้วน่าจะใช่ โดนขับไล่เพราะสวยเกินไปบ้าอะไรกัน ทำไมเรื่องที่เล่ามันมีแต่คำว่าสวย คำว่างามอย่างเดียวเล่า เน้นจังเลยสองคำนี้ แล้วก็ต่อให้สวยระดับเธอก็เถอะ แต่มนุษย์คงไม่ตกต่ำถึงขนาดทิ้งลูกทิ้งเมียตัวเองมันซะทุกบ้านหรอกนะ”

หญิงสาวเผ่ามังกรน้ำได้ยินเช่นนั้นก็เริ่มมีน้ำโห ในขณะที่ริมฝีปากมีน้ำลายไหลยืดอยู่จากการอ้วก

“ตั้งใจจะบอกอะไรกันแน่คะ?”

“ที่บ้านเมืองมันแตกก็เพราะเธอใช้เวทมนตร์สเน่ห์ไม่ใช่หรือไง? พอที่ทำมันไปลำบากคนอื่นเข้าก็ไม่หยุดจนโดนเนรเทศก็ถูกแล้วนี่”

“…ฉันไม่ใช่คนผิดสักหน่อย ฉันแค่..อยากมีชีวิตเหมือนคนปกติก็เท่านั้นเอง”

น้ำตาไหลลงมาอีกครั้ง ภาพที่เห็นดูยังไงดิลุคก็เป็นฝ่ายไปรังแกเขาเห็นๆ อันเดียอัส ในฐานะผู้ชาย เขาเริ่มรู้สึกรับไม่ได้

“เกินไปแล้วนะ ท่านดิลุค”

“หา? นี่เรากำลังช่วยจากการล่อลวงอยู่นะ”

“สาวงามที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม และรายล้อมไปด้วยสิ่งมีชีวิตที่น่ารักน่ะ ไม่มีทางเป็นแม่มดร่ายมนต์คทาหรอก”

เมื่อกี้ก็เอ็งไม่ใช่เรอะที่บอกว่าโดนมนต์สเน่ห์เข้า?

“แบบนี้นี่เอง ในฐานะมนุษย์นั้นไม่เลวเลย มีปัจจัยตัณหาล้นเหลือเช่นนี้เนี่ย”

อันเดียอัสเห็นท่าทางของดิลุคก็รู้สึกหมดความเคราพ เขาเดินไปบังหญิงสาวผู้งดงามและอ้าแขนขึ้นมา

“ถ้าจะรังแกเธอคนนี้ต้องผ่านศพผมไปก่อ–”

“โง่รึไงหะ นายน่ะ!”

จัดให้ตามคำขอ เมลเบลวิ่งไปซัดหน้าอันเดียอัสสุดแรง จนเจ้าตัววูบหล่นลงน้ำที่มีกลิ่นขี้และสีเป็นขี้ไป …

“..ชิ ไร้ประโยชน์จริงๆ”

เสียงพึมพำที่เต็มไปด้วยโทสะดังขึ้น หญิงงามผู้แสนอ่อนโยนตรงนี้ได้กลายเป็นหญิงงามผู้เต็มไปด้วยความบิดเบี้ยวจากโทสะเสียแล้ว

“เห็นว่าเป็นผู้ชายก็นึกว่าจะใช้อะไรได้ ที่ทำได้ก็มีแค่เห่าโฮ่งๆแบบหมากากๆเองไม่ใช่หรือไง ชั้นต่ำเอ้ย เพราะแบบนี้ไงเลยไม่ค่อยถูกกับพวกผู้ชายเลเวลต่ำๆเท่าไหร่”

“ไม่แอ๊บหน่อยรึ?”

“ไม่ต้องแอ๊บ ดิฉันก็สวยกว่าหล่อนแล้วค่ะ ยัยขี้เล่ห์ ..เธอด้วย ยัยมนุษย์ขี้เล่ห์กากๆ”

ไม่ได้ด่ากลับแค่คนเดียว แต่เล่นด่ากลับสองคนในรวดเดียว

“เสียมารยาทจริงๆ เห็นแบบนี้แต่เราก็น่าจะงดงามพอตัวอยู่นะ”

“คาก ถุ้ย! พูดมาได้เนอะ”

หญิงงามถุยน้ำลายใส่ร่างของอันเดียอัสที่ลอยอยู่บนน้ำแบบจงใจ จุดนี้ทำให้เห็นแก่นแท้ของเจ้าตัวได้ดีทีเดียว

..สวะแหละ-ทุกคนต่างพร้อมใจคิดเหมือนๆกัน

“ทีแรกก็ตั้งใจใช้สันติวิธีหรอกนะ พวกโง่”

“โง่? พูดถึงเราที่ทำลายแผนการณ์ของคนฉลาดอย่างเธอออกหรือ?”

“หุบปากแล้วก็ขมิบตูดซะ ยัยขี้เล่ห์ ฟังนะ เห็นแบบนี้ แต่เราก็คือเผ่ามังกรน้ำที่แสนสวยแล้วก็ใจดี ไม่ใช่พวกป่าเถื่อนเหมือนผู้หญิงในเผ่าที่ไม่รู้จักการเสริมความงามให้ตัวเอง ฮะ ฮะ ใช่ ดิฉันน่ะต่างกับไอ้พวกขี้เล่ห์ในหมู่บ้านที่แค่หาผัวได้เร็วกว่าหน่อยก็ทำมาอวด พอโดนดิฉันที่สวยกว่าโปรยสเน่ห์เข้าหน่อย แค่เอาจริงนิดหน่อย ผัวของพวกมันก็มาตอมดิฉันเป็นแมลงวันแล้วละค่ะ! ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!!!!!!!!!!! มาบอกว่าดิฉันอิจฉาเหรอถึงใช้ศาสตร์มืด? ศาสตร์มืดอะไรกัน! เขาเรียกว่าการเสริมความงามค่า รู้จักรึเปล่าน่ะ การแต่งหน้าน่ะ อีพวกหน้าผีดิบเอ้ย! จับไอ้ผู้ชายจมดอกไม้ขี้นี่ไปแต่งหญิงยังจะดูดีกว่าเลย คาก ถุ้ย!! อ่าๆ เอาเป็นว่า ถ้าให้มีคนตายมันจะทำความสะอาดยากก็รีบๆเก็บไอ้เปรตนี่ไปอาบน้ำล้างตัว แล้วก็ยัดใส่หลุมศพซะนะ มันจะได้ตื่นมาขาดอากาศหายใจตายต่อให้หมดเวรหมดกรรม โทษฐานที่บังอาจปกป้องดิฉันไม่ได้” 

..สวะจริงๆด้วย-ทุกคนต่างพร้อมใจคิดเหมือนๆกัน

“แล้วก็ มีเงินเท่าไหร่เอามาให้หมดเดี่ยวนี้ อย่าให้เผ่ามังกรน้ำอย่างดิฉันได้เอาจริงเชียว”

“การปล้นคือเป้าหมายดั่งเดิมนี่เอง”

“หล่อนก็มีเป้าหมายที่อยากได้จากดิฉันไม่ใช่หรือคะ?”

ดิลุคพยักหน้ารับตรงๆ

“อยากจะให้รักษาแขนให้น่ะ หรือถ้าทำไม่ได้ อย่างน้อยก็อยากให้ช่วยสอนเวทมนตร์หน่อย แต่ ดูๆแล้วน่าจะเป็นยัยแก่ไม่มีใครที่เอาแต่หมกตัวอยู่ในบ้าน แล้วได้แต่มองออกไปนอกหน้าต่าง พลางอิจฉาคู่รักที่ผ่านไปผ่านมา แต่ตัวเองก็ดันไร้สเน่ห์เกินไปจนไม่มีใครเอา เลยหันไปเรียนเวทมนตร์ชั้นต่ำมาล่อลวงผัวชาวบ้าน คนแบบนี้ ไม่น่าจะพึ่งพาอะไรได้ อย่างน้อยๆก็ขอฆ่าถลกหนังไปขายหน่อยละกัน น่าจะทำให้อยู่กินไปได้อีกนานเลย”

“ก็สวยสิค่ะ!!!!!”

 

ป.ล.ขอโทษที่ช่วงสองสามวันนี้หายไปนะครับ พอดีผมติดปัญหาเรื่องการจัดการเวลาส่วนตัวนิดหน่อยน่ะครับ
 

เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!!

เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!!

เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!!
Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!! << 0 >> รู้สึกว่าโลกเราช่วงนี้จะฮิตต่างโลกกันสินะ? ถ้าจำไม่ผิดนวนิยายประเภทไลทโนเวลของญี่ปุ่นในยุค 2020 จะฮิตกันเอาเรื่องเลย ขนาดผมก็เคยอ่าน หรือเคยดูอนิเมที่ดัดแปลงจากนิยายมาอีกทีไม่น้อยเลย ใช่ มันค่อนข้างสนุกเลย อาจจะเป็นเพราะมันช่วยสนองนีทให้ผมก็ได้ เพราะปกติผมมักจะเป็นผู้แพ้เป็นประจำทั้งๆที่พยายามากแล้ว พอได้เห็นคนๆหนึ่งประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม ซึ่งนั่นก็คือพระเอกมันก็ชวนให้รู้สึกภาคภูมิใจในตัวเขาด้วย พร้อมไปกับสาวๆในฮาเร็มของแกด้วยอะนะ แต่ด้วยความที่เป็นตลาดที่ใหญ่ ทำให้มีหลายความเห็นตามไปด้วย หลายครั้งที่นิยายแนวนี้จะถูกวิจารย์ในเชิงไม่ดี อาทิเช่น ส้ำซากจำเจ เดาทางง่าย ตัวละครผู้หญิงง่าย ทุกอย่างง่ายไปหมด บางเม้นต์ก็ร้ายแรงขนาดบอกว่า ‘นี่ไม่ใช่นิยายแต่เป็นสินค้า’ อืม ถ้าในมุมผมก็ไม่ได้รังเกียจอะไรหรอก ออกไปในทางชอบด้วยซ้ำ แต่ขอติหน่อยเถอะ ตัวร้ายส่วนใหญ่ในเรื่องแนวนี้โคตรจะไม่น่าให้อภัย คนอะไรมันจะเลวได้ขนาดนั้น เลวถึงแก่นแท้เลยพวกตัวร้ายในนิยายต่างโลกเนี่ย ไม่น่าให้อภัยที่สุด โง่ก็โง่ กระจอกก็กระจอกชิบหายเลย ไร้ความคิดความอ่าน กลับตัวก็ไม่เป็น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset