เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!! – ตอนที่ 249

< < 161 Sec1 > >

ท้องทะเล นกพิราบ แล้วก็ไสยศาสตร์—ทั้งหมดคือจุดเด่นของอาณาจักรแห่งสายน้ำ ‘เนลยอน’ หนึ่งในสี่มหาอำนาจแห่งโลกใบนี้ ทั้งยังเป็นอาณาจักรที่ก้าวหน้าไปไกลเหนือยิ่งกว่ามหาอำนาจด้วยกันเสียอีก หากมองในหลายๆด้านแล้ว ไม่ว่าจะกำลังรบ หรือว่าเทคโนโลยีเวทมนตร์ สามารถกล่าวได้ว่าอาณาจักรเนลยอนแห่งนี้คืออาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคสมัยนี้ได้เลยละ

ต่างกับ ฟัฟนิร์ และแซร์อิซที่หยุดอยู่กับที่ ต่างกับ เกรลที่เดินถอยหลัง แต่เป็นเนลยอนที่ก้าวไปข้างหน้า ..แต่ก็หารู้เลยว่าการก้าวไปข้างหน้านั้นก็จำเป็นที่จะต้องต่อสู้กับหลายๆสิ่ง

ความเปลี่ยนแปลง คือสิ่งที่มนุษย์หวาดกลัวไม่มากก็น้อย และบังเอิญว่าอาณาจักรเนลยอนแห่งนี้ก็กำลังมุ่งไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ว่านั่น ขณะนี้ผมกำลังนั่งอยู่บนเรือหรูเพื่อข้ามฝั่งไปยังอาณาจักรเนลยอน เป็นเวลากว่าสามวันแล้วที่นั่งอยู่บนเรือ

สงครามภายในกำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ ไม่ทราบรูปแบบ ไม่ทราบสเกลการต่อสู้ แต่ผมในฐานะผู้มาเปลี่ยนแปลงจำเป็นต้องไปเข้าร่วม เพราะที่แห่งนั้น–มีเรนไปด้วย

เป้าหมายแรก และเป้าหมายสูงสุดในตอนนี้คือการโค่นเรนให้ได้เร็วที่สุด เพื่อการนั้น ..

“เลยต้องจากบ้านเกิดเมืองนอนมาที่ไกลแสนไกล กลายเป็นคนต่างด้าวที่ใครๆก็ต้องมองอย่างดูแคลน หาเช้ากินค่ำ เก็บเล็กเก็บน้อย ทั้งหมดก็เพื่อคนที่บ้านเกิด เรเซอร์เอ๋ย ช่างน่าสงสารเสียนี่กระใด เรเซอร์น้อยที่อยู่ใต้กางเกงนี่ก็ด้ว–”

“ไม่เข้าใจหรอกนะว่าเพ้ออะไร แต่เรเซอร์เป็นพวกชอบทำอะไรแปลกๆแล้วให้คนอื่นเขาด่าสินะคะ?”

‘มาสเตอร์นี่เกินเยียวยาในหลายๆความหมายเลยนะคะ’

ระหว่างที่ผมกำลังเพ้ออะไรไปเรื่อง เพราะโรคโฮมซิคอยู่นั้น อานิม่า เทพแห่งจิตวิญญาณผู้อยู่ในร่างน้องสาวของเวฟช่วงอายุราวๆ 17 ปี ได้พูดตบมุกผมอย่างเป็นธรรมชาติ เพราะความสามารถในการเข้าถึงจิตวิญญาณ ทำให้เธอเข้าถึงจิตใจของผมและเข้าใจได้ว่าผมต้องการอะไร

นอกจากอานิม่า คนที่รับหน้าที่ด่าผมก็คือ ‘ยูนา’ วิญญาณระดับเทพที่ผมทำพันธสัญญาด้วย

“ช่วยไม่ได้นี่ ฉันคิดถึงคนที่บ้านเกิดจริงๆนะ”

อย่างเบลลามีงี้ เรเซลงี้ อันนางี้ พักหลังๆมานี้ทำแต่งาน ช่วงจู๋จี๋ขงผมกับว่าที่ภรรยาและแฟนทั้งหลายก็ไม่ยักจะมีเลย …ผมถอนหายใจออกมาไม่รู้กี่ครั้งแล้วของวัน อานิม่าคงจะเบื่อเธอเลยลุกขึ้นเดินไปชมวิวทิวทัศน์ที่ตัวเธอไม่เคยเห็นมาก่อน เนื่องจากว่าอาศัยอยู่แต่ในป่าอาถรรพ์

‘ว่าไปมาสเตอร์ ไม่คิดว่าจะโดนหลอกไปฆ่าบ้างเลยหรือคะ?’

จะว่าไปก็จริงแฮะ ถึงจะบอกว่าฟัฟนิร์ฝากมา แต่ผมก็ไม่ได้พบฟัฟนิร์ตัวเป็นๆด้วยสิ แถม ..คนที่จะก่อสงครามกลางเมืองก็เป็นผู้นำตระกูลอามาเทราสึ ซึ่งขัดกับคนที่จะต่อต้านสงครามกลางเมืองอย่าง อามาเทราสึ โทมิเรีย เป็นถึงเจ้าหญิงประจำตระกูล แต่ดันมีแนวคิดคนละทางกันเฉยเลย มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นแค่แผนล่อผมมา

แต่–ถึงจะเป็นกับดัก ผมก็มั่นใจว่าตัวเองสามารถผ่านมันไปได้

ข้างๆตัวผม–มีสิ่งของยาวราว 1.5 เมตร ขนาดไม่ใหญ่ ยกเว้นบริเวณหัวที่ดูใหญ่เป็นพิเศษ มันคืออุปกรณ์ชิ้นใหม่ที่ผมพึ่งได้มา สิ่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยเซียน มีวัตถุดิบชั้นสูงหลายอย่างถูกใช้ในการสร้างมันขึ้นมา ไม่ว่าจะ การาวิเทีย ,มณีอัคคี,เซปเตอร์เดธ ทุกอย่างถูกหลอมรวมเข้าเป็นอาวุธชิ้นเดียว

พึ่งได้มา และลองใช้แล้วเล็กน้อย พอได้มาก็รู้ตัวเลยว่าตัวเองกำลังมีอีโก้เพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ราวกับว่ามันคือสิ่งที่ถูกสร้างมาเพื่อตัวผม

เอาเป็นว่าหายห่วง

ผมปล่อยเนื้อปล่อยตัวนอนพักผ่อน และคุยเล่นกับยูนาอยู่ในใจ ขณะเดียวกันอานิม่าก็ออกไปเดินเล่น

 

****

ระหว่างที่กำลังนอนหลับฝันดีอยู่นั้นเอง ..เสียงเท้าก็ดังสนั่นทั่วทั้งเรือ ทำให้ผมต้องลืมตาตื่นจากฝัน ด้วยความหงุดหงิดผมส่งเสียงไม่พอใจในลำคอ

เกิดอะไรขึ้นเนี่ย? …ยูนาไม่ตอบ เหมือนว่าจะเลยตอนเที่ยงไปแล้ว ทำให้ยูนาไม่สามารถโผล่มาพูดคุยกับผมได้อีก อานิม่าเองก็ไม่อยู่ให้ถาม ผู้คนที่นั่งอยู่ข้างหน้าเองก็ไม่มีใครเลย

เกิดอะไรขึ้นกั–

“อย่าขยับเชียวนะเฟ้ย!”

เอ๊ะ-บริเวณแก้มของผมมีปืนจ้อเข้ามา 

เป็นปืนพกสีเทาที่มีวงแหวนเวทย์สลักอยู่ข้างๆ–นั่นมันปืนเวทมนตร์ผิดกฏหมายที่โดนยกเลิกผลิตไปแล้วนี่นา จำได้ว่ายูจิเคยเล่าให้ฟังอยู่ เห็นว่านอกจากจะเลิกผลิตยังออกกฏหมายว่าห้ามใช้แล้วด้วย ที่มีแปลว่าถือของโจรอยู่ชัดๆ

ผมหรี่ตามอง ด้วยความที่พึ่งตื่นเลยยังงงๆอยู่

แล้วทำไมถึงเอาปืนมาจ่อหน้าผมล่ะ?

คำตอบของคำถาม ผมได้ทันทีที่หายจากอาการมึน นอกจากผมแล้ว ทุกคนก็นอนอยู่กับพื้นในสภาพยอมศิโรราบ แล้วก็เจ้าพวกนี้มีสัญลักษณ์รูปหัวกระโหลกใส่แว่นอันเป็นเอกลักษณ์ของโจรสลัดชื่อดังในแถบนี้ด้วย

จำไม่ผิด น่าจะเป็นกลุ่มโจรสลัด ‘มาเซล’

เรื่องกลุ่มโจรสลัดช่างมันก่อน แต่อานิม่าหายไปไหนของเขากันนะ

“คือไม่ทราบว่าเห็นผู้หญิงผมสั้นสีดำแถวๆนี้รึเปล่าครับ”

“บอกให้หมอบไง!”

“โทษทีน–”

“กรี๊ด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”

ปลายกระบอกปืนดังลั่นขึ้นมาทันทีที่ผมขัดขืน เสียงกรี๊ดและเสียงร้องของชายหญิงในเรือดังขึ้นอย่างน่าหวาดผวา ทว่าทันทีที่ควันจากกระสุนจางหายไป มันกลับไม่ใช่ภาพของตัวผมที่นอนกองกับพื้น

“อะ อะไรกัน”

ผมอัดเวทย์ลมเข้าที่ร่างของโจรสลัดตรงหน้าจนปลิวออกจากเรือไป ปืนกระเด็นเข้ามาในมือของผม โจรสลัดคนอื่นที่เห็นทำท่าจะหยิบคนในเรือมาเป็นตัวประกัน

มีอยู่ประมาณห้าคนได้–ผมใช้เวทย์ลมส่งพวกโจรสลัดพุ่งออกจากเรือได้ราวสี่คน พลาดไปหนึ่ง

หมอนั่นหยิบตัวประกันขึ้นมาพร้อมกับเอาปืนจ่อคอของตัวประกัน

“อย่าขยับนะเว้ย!!!”

“ขะ ขะ ขอร้องละ ช่วยด้วย ช่วยด้วย!!”

ตัวประกันเป็นชายชราที่ดูร่ำรวย

 ผมไม่สนเดินเข้าไป มันลงมือยิงตัวประกันทิ้งทันที และเอาปืนมาจะยิงผมต่อ ทว่าปากกระบอกก็บิดไปทางขวาด้วยแรงบีบจากข้อมือของผม

“อึก!”

ผมแทงมือเข้าที่หน้าท้องของโจร เมื่อส่งหมอนั่นไปนอนกับพื้นได้แล้ว ผมก็สัมผัสที่ร่างของชายชรา สร้างเปลวเพลิงสีทองห่อหุ้มร่างกายที่สาหัสเอาไว้ พริบตาเดียวชายชราก็หายจากบาดแผล แต่ก็อยู่ในสภาพนอนสลบแทน

คนภายในเรือค่อยๆพากันลุกขึ้นแบบมึนงง ผมยิ้มให้ทุกคนอย่างเป็นกันเอง และก่อนที่จะเดินออดจากห้องนี้ไปก็มีโจรสลัดคนหนึ่งที่อยู่ในสภาพแขนขาดวิ่งเข้ามาข้างใน หมอนั่นมองซ้ายขวาไปมาด้วยท่าทีตื่นตระหนกอย่างกับเจอผีมา

“กะ เกิดบ้าอะไรขึ้นอีกเนี่ย?”

อีกเนี่ย? แปลว่าก่อนหน้านี้น่าจะเจอเรื่องแนวๆเดียวกันมาสินะ

ทันทีที่คิดอย่างนั้น อานิม่าก็โผล่มาข้างหลังโจรด้วยสภาพที่เลือดท่วมทั้งตัว เธอบีบร่างของโจรตรงหน้าจนเละด้วยพลังของเทพแห่งจิตวิญญาณ

ไม่มีความปราณีเลย

ผมเดินเข้าไปหาอานิม่าที่แม้จะฆ่าคนไปแต่ก็ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรเป็นพิเศษ

“เกิดอะไรขึ้น”

“จู่ๆก็พวกโจรสลัดก็เข้ามาน่ะ เห็นบอกว่าจะจับพวกเราเป็นตัวประกันเพื่อหนีการจับกุมของทหารเรือ”

“แบบนี้นี่เอง”

บนเรือก็เป็นเรือของพวกมีตังค์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ถ้าโชคดีอาจจะได้ตัวประกันที่มีค่าพอก็ได้ อย่างผมที่เป็นลูกชายขุนนางดังจากฟัฟนิร์เป็นต้น

ผมเดินข้ามร่างของกลุ่มโจรออกไปข้างนอกห้อง เมื่อออกไปพบกับทิวทัศน์ภายนอกก็เห็นเรือโจรสลัดขนาดใหญ่กำลังแล่นหนีเรือของทหารเรือราวสิบรำได้

ข้างๆเรือที่ผมนั่งอยู่ก็มีเรือขนาดเล็กของกลุ่มโจรสลัดมาเทียบ แต่ตอนนี้ถูกจอดทิ้งไว้เนื่องจากคนควบคุมเรือทั้งหมดน่าจะโดนพวกผมเล่นงานหมดแล้ว

“มีใครตายหรือบาดเจ็บรึเปล่า นอกจากพวกโจรสลัด”

“มีอยู่ แต่รักษาให้หมดแล้วน่ะค่ะ”

ได้ยินอย่างนั้นก็โล่งอก ผมเดินกลับเข้าไป ณ ที่นั่งของตัวเอง หยิบเอาอุปกรณ์เวทย์ที่ถูกปกคลุมไว้โดยผ้า ผมยกมันขึ้นมาวางไว้บนบ่าและเดินออกจากห้องด้วยท่าทางชิลๆ

“ตรงไหนดีนะ”

ผมพึมพำขึ้นมาขณะที่เดินไปยืนอยู่ตรงปลายของเรือขนส่งคนสุดหรูหรานี่ 

“ตรงนี้น่าจะดี”

เมื่อได้สถานที่ที่ดีแล้ว ผมก็ปลดผ้าออกจากอุปกรณ์เวทย์–เผยให้เห็นคทาเวทย์ที่มีรูปทรงประหลาด

คทาเวทย์สีทองคำขาว บริเวณปลายคทาเป็นปลายหอกที่ทำมาจากแร่ A-เทียร์ แร่ที่ดีที่สุดบนโลก บริเวณบนสุดของคทาคือคริสตัลหลากสี แดงดำ-ที่มาจากเซปเตอร์เดธ ม่วง-ที่มาจากการาวิเทีย แล้วก็ แดงส้ม-ที่มาจากมณีอัคคี ทั้งหมดถูกห้อยด้วยเส้นใยเวทมนตร์สีขาว

รูปร่างที่สง่างามและน่าเกรงขาม คือความรู้สึกแรกพบต่อตัวคทาเวทย์

ทันทีที่มือสัมผัสเข้ากับตัวคทาเวทย์ คริสตัลทั้งสามก็ส่องแสงสว่างขึ้นมาอย่างสวยงาม

“เปลี่ยนฟอร์ม– [สไนเปอร์]”

คทาเวทย์บริเวณหัวและหลายม้วนเข้ามาหากัน กลายเป็นวงกลมสีทองคำขาว เกิดสายฟ้าแล่นผ่านไปมารอบๆไม่นานรูปทรงใหม่ก็ปรากฏ–สไนเปอร์สีทองคำขาว บริเวณข้างๆมีคริสตัลสามสีประดับอยู่ ผมนั่งลงกับพื้น ตั้งท่ายิงในท่าคุกเข่า ทำทุกอย่างด้วยความใจเย็น

ใส่มานาเข้าไป ทันใดนั้นวงเวทย์ก็ปรากฏขึ้นบริเวณปลาย

เวทย์ที่จะใช้-แสง

“[ชาร์จ]”

ปากกระบอกเลืองแสงขึ้น เวทย์แสงขั้นกลางทั่วๆไปพุ่งออกจากปากกระบอกของปืน

เวทย์แสงทั่วๆไปกลับมีขนาดใหญ่กว่าที่ควรนับสิบเท่า แสงพุ่งออกไปด้วยความรวดเร็ว มันพุ่งผ่านเรือของโจรสลัด พร้อมกับเสียงระเบิดที่ดังสนั่น

ตู้ม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

เรือโจรสลัดหยุดนิ่งทันที ไม่นาน กองทัพทหารเรือน่าจะจับกุมได้

“เรียบร้อย”

ผมโยนสไนเปอร์ขึ้นฟ้าในระดับเดียวกับหัว ปลายกระบอกและหัวกระบอกม้วนเข้าหากันเป็นวงกลม เกิดสายฟ้าแล่นผ่าน พริบตาเดียวมันก็กลับมาเป็นคทาเวทย์เหมือนดั่งเดิม ผ้าที่ปลิวไปตามสายลมได้วนกลับมาพันตัวคทาเวทย์อีกครั้ง เป็นอันจบการใช้งาน

อานิม่าตบมือให้ผมด้วยรอยยิ้ม

“คทาเวทย์ที่สามารถเปลี่ยนฟอร์มการใช้งานได้ตามใจผู้ใช้งาน เป็นความสามารถที่สะดวกสบายจนแอบกลัวเลยนะคะว่าฝีมือจะตกลงรึเปล่า”

นั่นสินะเพราะสะดวกสบายเกินไปนี่แหละ ถ้าไม่ได้เจอคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง ผมเองก็น่าจะอ่อนแอลงจากความสะดวกสบายนี่แหงๆ แม้แต่ผ้าที่ใช้คุมก็ยังมีคุณสมบัติพิเศษในการกลับเข้าที่เดิมโดยไม่ต้องเปลืองแรงผู้ใช้เลย

“ถ้าโดนด่าว่าเก่งเพราะอาวุธก็เถียงไม่ออกเลยละ”

นอกจากการเปลี่ยนแปลงรูปร่างได้ก็ยังมีความสามารถอื่นๆอีก หลักๆก็มาจากคริสตัลสามสี่ที่ห้อยเอาไว้ คุณสมบัติของการาวิเทีย คุณสมบัติของเซปเตอร์เดธ แล้วก็คุณสมบัติของมณีอัคคี นอกจากนั้นความรุนแรง ความเร็วการโจมตี ความเร็วการร่าย ก็เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ความสามารถย่อยๆก็มีแยกออกมาในแต่ละอาวุธฟอร์มที่เลือกใช้งานอีก ทั้งผมยังสามาถใช้ตัดมิติเสริมพลังขึ้นไปได้อีกขั้นอีก

พูดถึงข้อเสียก็มีแค่กินมานามหาศาล แต่ข้อเสียเดียวก็โดนกลบโดยวิหคอมตะไปแล้วด้วย

ไม่เชิงข้อเสียอีกอย่างก็คือมันเยอะเกินไป บอกตามตรงว่าหลายๆอย่างมันก็เยอะเกิน ผมเองก็ยังใช้ไม่คล่องเท่าไหร่ แต่จากที่ลองใช้แล้วสองสามฟอร์มอาวุธเช่นนี้มันเข้ามืออย่างบอกไม่ถูกน่ะนะ เอาเป็นว่าก็คงต้องเรียนรู้ต่อไป เกี่ยวกับของขวัญชิ้นโตที่โซล่ามอบให้กับผม นาม ‘เรลันดาฟ’ คทาเวทย์ที่จะได้รับการขนานนามว่าทรงพลังที่สุด ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันรึอนาคต

คอนเซปต์ของมันก็คือ ‘ทรงพลังที่สุดตลอดกาล’ และ ‘เป็นอาวุธที่ถูกสร้างเพื่อเรเซอร์ ดราแคล์’

ผมวางเรลันดาฟไว้บนบ่า และยืนดูการจับกุมโจรสลัดของทหารเรือ

 

เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!!

เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!!

เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!!
Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!! << 0 >> รู้สึกว่าโลกเราช่วงนี้จะฮิตต่างโลกกันสินะ? ถ้าจำไม่ผิดนวนิยายประเภทไลทโนเวลของญี่ปุ่นในยุค 2020 จะฮิตกันเอาเรื่องเลย ขนาดผมก็เคยอ่าน หรือเคยดูอนิเมที่ดัดแปลงจากนิยายมาอีกทีไม่น้อยเลย ใช่ มันค่อนข้างสนุกเลย อาจจะเป็นเพราะมันช่วยสนองนีทให้ผมก็ได้ เพราะปกติผมมักจะเป็นผู้แพ้เป็นประจำทั้งๆที่พยายามากแล้ว พอได้เห็นคนๆหนึ่งประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม ซึ่งนั่นก็คือพระเอกมันก็ชวนให้รู้สึกภาคภูมิใจในตัวเขาด้วย พร้อมไปกับสาวๆในฮาเร็มของแกด้วยอะนะ แต่ด้วยความที่เป็นตลาดที่ใหญ่ ทำให้มีหลายความเห็นตามไปด้วย หลายครั้งที่นิยายแนวนี้จะถูกวิจารย์ในเชิงไม่ดี อาทิเช่น ส้ำซากจำเจ เดาทางง่าย ตัวละครผู้หญิงง่าย ทุกอย่างง่ายไปหมด บางเม้นต์ก็ร้ายแรงขนาดบอกว่า ‘นี่ไม่ใช่นิยายแต่เป็นสินค้า’ อืม ถ้าในมุมผมก็ไม่ได้รังเกียจอะไรหรอก ออกไปในทางชอบด้วยซ้ำ แต่ขอติหน่อยเถอะ ตัวร้ายส่วนใหญ่ในเรื่องแนวนี้โคตรจะไม่น่าให้อภัย คนอะไรมันจะเลวได้ขนาดนั้น เลวถึงแก่นแท้เลยพวกตัวร้ายในนิยายต่างโลกเนี่ย ไม่น่าให้อภัยที่สุด โง่ก็โง่ กระจอกก็กระจอกชิบหายเลย ไร้ความคิดความอ่าน กลับตัวก็ไม่เป็น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset