< < 167 Sec3 > >
นักดาบในเกราะมังกรเหล็กนั้นมีรูปร่างที่ดูสวยงาม และทรงพลัง เกราะสีเงินแวววับ ประดับด้วยเพชรพลอยสีฟ้าส่องประกายแสงสีขาว ตัวเกราะโอบอุ้มไว้ทั่วทั้งร่าง กระทั่งหัวเองก็ถูกปกคลุมไว้ บริเวณหัวมีดวงตาสีเพชรส่องแสง และรอยบริเวณปาก บนหัวเป็นเขาสองเขา ตัวเกราะไม่ได้มีขนาดที่ใหญ่หรือเพิ่มส่วนสูงอะไร ว่าตามตรง มันมีขนาดไม่ต่างกับร่างดั้งเดิมของเรย์เลย ประหนึ่งว่าตัวชุดเกราะนั้นเป็นผิวหนังของเรย์เอง
“[เกร็ดมังกร-บรามุนต์]”
แสงสีขาวส่องตามเพชรสีฟ้า เรย์ตั้งท่าดาบ รอบตัวมีควันเย็นเกิดขึ้น พาโวตั้งท่าดาบตาม …ทว่า ท่าที่เตรียมนั้นแปลกไปกับทุกที
ดาบข้างซ้ายวางไว้บนไหล่ซ้าย ดาบข้างขวาแอบไว้กับใต้ไหล่ซ้าย ร่างก่ายนิ่งไม่การขยับ ไม่ได้ยินกระทั่งเสียงหายใจ ..เกิดเสียงประหลาดแว่วขึ้น เสียงนั้นเบามาก—ทว่า กลับทำให้เกิดปรากฏการณ์ประหลาดขึ้นได้
บริเวณใบหูของเกราะมังกรเหล็กบรามุนต์นั้นมีเลือดไหลออกมา เช่นเดียวกันกับดวงตา ดาบมังกรเหล็กล่วงลงกับพื้น ร่างกายของเรย์ตั้งท่าดาบทั้งที่ในมือไร้ซึ่งดาบ ไม่มีการขยับใดๆ
พริบตาเดียว
พาโวก็ไปอยู่ข้างหลังของเรย์ในท่าตั้งดาบเดิม ทว่า บริเวณใบดาบนั้นมีเลือดอาบอยู่
เกร็ดมังกร หรือเกราะมังกร ค่อยๆมีเลือดซึมออกมา เลือดทะลักออกจากตัวเกราะ เกราะแตกเป็นเสียงๆเศษซากของเกราะหล่นเต็มพื้น เกราะค่อยๆถูกทลายและเผยให้เห็นร่างของเรย์ที่ยืนนิ่งไร้สติ แก้มหูแตก ดวงตามีเลือดไหลออกมา และไร้ซึ่งนัยน์ตา ตรงไหล่ยาวไปถึงเอวทั้งสองข้างมีฟันขนาดใหญ่
สภาพที่ปรากฏนั้นย่ำแย่ ถึงขนาดที่สามารถตายได้เลย
“[รำแพน]”
ปรี๊ด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
เสียงตัดอากาศดังกึกก้องขึ้นมา สายลมพุ่งเข้าใส่ร่างของเรย์เป็นพายุ เรย์แหงนหน้าขึ้นฟ้าและกระอักเลือดออกมา พร้อมกับเลือดในร่างกายที่พุ่งออกจากร่าง
พาโวเก็บดาบเข้าฝัก สายลมพลันหายไปพร้อมกันกับที่พาโวเก็บดาบ พร้อมกันนั้นร่างของเรย์ก็ได้ล้มลงกองกับพื้นในสภาพนอนตะแคงโดยที่รอบตัวเต็มไปด้วยกองเลือด
“เกราะมังกรเหล็ก ..ทรงพลังไม่ต่างจากเดิมเลยสินะ”
แม้จะเป็นการต่อสู้ที่จบในจังหวะเดียวอย่างราบคาบ แต่พาโวก็กล่าวชมออกมา ..ถึงจะชนะในคราเดียว แต่มันไม่ได้ง่ายเลย
[รำแพน] คือ วิชาดาบขั้นบรรลุของพาโว การโจมจีของรำแพนเริ่มตั้งแต่การตั้งท่าดาบแล้ว เสียงจากการตั้งดาบจะโจมตีเข้าใส่หูและดวงตาของศัตรู ถ้าจ้องท่าเตรียมตัวโดยตรง ต่อให้เป็นเอเธอร์ก็คงมีสภาพไม่ต่างกับเรย์ และเมื่อเตรียมตัวจนจบ การออกดาบสองจังหวะก็จะเริ่มขึ้น โดยที่มันเป็นดาบลวงตาที่ไม่อาจมองเห็นได้ หรือถ้ามองเห็นทั้งหมดก็เป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น การฟาดฟันมีความเร็วเหนือยิ่งกว่า [ดาบประกายแสง] ของเทพดาบ และจังหวะการใช้งานรำแพนก็จะเป็นการพุ่งเข้าไปฟัน แน่นอนว่าการเคลื่อนที่ของรำแพนก็มีความเร็วสูง ระดับที่เรย์ที่ได้รับพลังของมังกรเหล็กมาก็ไม่อาจตอบสนองได้ทัน กล่าวคือ [รำแพน] เป็นการสร้างสถานกาณณ์ สร้างความเสียหาย และพุ่งตัวไปอย่างรวดเร็วพร้อมๆกัน โดยที่ทั้งหมดนั้น คุณภาพของมันเหนือยิ่งกว่า [ดาบประกายแสง] [จังหวะแตะสายลม] ของเทพดาบเสียอีก
..ทว่า
พาโวก็อยู่ในสภาพที่เริ่มหายใจแรง ดวงตาคล้ายว่าพร้อมจะปิดตลอดเวลา
รำแพนคือวิชาดาบไร้เทียมทาน บางที วิชาดาบนี้อาจจะเป็นวิชาดาบที่ทรงพลังที่สุดวิชาหนึ่งเลย แต่ข้อจำกัดก็คือขีดจำกัดร่างกายของพาโว ข้อแลกเปลี่ยนในการใช้คือ พลังกาย และสมาธิ ทั้งหมดที่ว่ามาถูกสูบพลังงานไปมหาศาล ถ้าเกิด สมาธิไม่มากพอ ก็จะกลายเป็นคนเสียสติชั่วขณะหนึ่ง ถ้าเกิดพลังกายไม่มากพอ ร่างกายก็จะแหลกทั่วทั้งร่าง
แน่นอนว่าพาโวสามารถควบคุมสภาพตัวเองได้ แต่ก็หลีกเลี่ยงความอ่อนล้าหลังการใช้งานไม่ได้อยู่ดี ..เช่นนั้น ทำไมถึงต้องใช้วิชาที่ทำให้ตัวเองลำบากด้วยกัน ในเมื่อคู่ต่อสู้เป็นเพียง ‘เรย์’
เหตุผลนั้นแสนง่ายดาย ถ้าไม่ใช้ ก็เอาชนะไม่ได้ เกราะมังกรเหล็กมีความคงทนเกินกว่าวิชาดาบทั้งหมดนอกจากรำแพนของพาโวจะสร้างความเสียหายได้ พาโวจึงต้องงัดสิ่งนี้มาใช้เพื่อจบเรื่อง โชคดีที่เรย์นั้นไม่เคยเห็นรำแพนมาก่อน ถ้าเกิดเขาตั้งใจตั้งรับด้วยวิชาดาบจันทร์เสี้ยวของเกรย์ บางที ผลการต่อสู้จะต่างจากนี้ พาโวที่อ่อนแรงและไร้ไพ่ตายต่อกรกับเกราะมังกรเหล็ก จะกลายเป็นผู้แพ้ทันที
“…”
พาโวมองร่างของเรย์อยู่ครู่หนึ่งก่อนตัดสินใจจะเดินไปต่อ
“ถ้าโชคชะตาเล่นตลก พวกเราคงจะได้เจอกันอีก ..เด็กหนุ่ม”
….
“เอ้ย..จะหนีไปไหน”
“..”
พาโวหยุดเดินและหันหน้ากลับมา–เรย์ใช้ดาบบรามุนต์ช่อยประคองตัวเองขึ้น ทั่วทั้งตัวเปื้อนไปด้วยคาบเลือดของตัวเอง
“อย่าฝืนจะดีกว่า”
“ถ้าไม่ฝืน คนอย่างฉันจะเอาอะไรไปชนะระดับสุดยอดอย่างพวกคุณกัน ..เป้าหมายของผมคือเทพดาบนะ”
“นั่นสินะ อยากจะพูดว่าเกราะมังกรเหล็กที่ถือไว้นั้นคือพลังที่จะทำให้ก้าวข้ามหลายๆคนได้ แต่ถ้าตัวผู้ใช้ระดับมีแค่นี้ก็คงไปไหนได้ไม่ไกล”
“ใช่มั้ยล่ะ?”
“อ่า อย่าว่าแต่เทพดาบเลย ราชาอัศวิน ‘คาลอส’ ราชาดาบมาร ‘ไรเดน อาคาสะ’ ผู้กล้า ‘แอสทอเรียส’ ดาบมังกรเหล็ก เทพดาบในนามยุคปัจจุบัน ‘เกรย์’ ..การจะเอาชนะเทพดาบได้ นายจำเป็นต้องเหนือกว่าตัวตนที่ว่าทั้งหมด ไม่ใช่แค่อุปกรณ์ที่ถือ แต่ต้องเป็นทักษะในตัวเองด้วย และเผอิญว่า แม้แต่ฉันที่ต่ำกว่าบุคคลทั้งหลายนี้ นายยังเอาชนะไม่ได้เลย แม้จะมีดาบมังกรเหล็ก แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็เป็นอย่างที่เห็น”
เป็นครั้งแรกที่พาโวยิ้มให้เห็น
“คิดว่าฉันเข้าใจนายดี พวกเราเป็นคนธรรมดาเหมือนๆกันนั่นแหละ”
“…”
“คนธรรมดา ไม่มีทางเอาชนะพวกเหนือมนุษย์ได้ นี่คือความจริงที่ฉันพบ ในฐานะรุ่นพี่ของนาย ..เอ่ยนามเต็มออกมาทีสิ”
เรย์ตั้งท่าดาบ
“ ‘เรย์ คามาเลีย’ ”
“ฉัน ‘พาโว ซี มารีน’ ..ทางเดียวที่จะก้าวข้ามพวกเหนือมนุษย์ได้ ..ไม่มีหรอก เพราะมันไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อนในหน้าประวัติศาสตร์ แต่ทั้งฉันและนายก็มีความใฝ่ฝันสูงสุดเช่นเดียวกัน”
ถึงตรงนี้เรย์ก็ เอ๊ะ ขึ้นมา ก่อนจะหัวเราะแห้งๆ
“ที่บอกว่ารุ่นพี่ แปลว่าคุณเองก็ตั้งใจจะก้าวข้ามสินะ”
พาโวไม่ได้ตอบ ทำเพียงชักดาบบออกมาจากฝัก
“ก่อนที่จะเหนือกว่าพวกนั้น จำเป็นที่จะต้องโค่นนักดาบชั้นเดียวกันให้หมด”
“..อ่า!!”
เรย์กู่ร้องออกมา และวิ่งเข้าใส่—
“เอ๊ะ”
ทว่า ร่างกลับหมดแรงกระทันหัน และล้มลงกับพื้น ทีแรกพยายามจะใช้เข่าชันไว้ไม่ให้ล้ม แต่สุดท้ายก็หมดสภาพอยู่ดี
“ทะ ..ทำไมกัน”
“ร่างกายไม่ไหวสินะ น่าสมเพซซะจริงๆ”
พาโวเดินเข้าใส่เรย์ พร้อมกับเก็บดาบเล่มหนึ่งเข้าฝัก และถือไว้เพียงเล่มเดียว
“เห็นแก่ความกล้าหาญนั่น จะเป็นคนช่วยปลิดชีพเอง”
“ดะ เดี่ยวสิ เล่นงานคนหมดแรงแบบนี้มัน เกินไปหน่อยนะครับ รุ่นพี่”
“นักดาบที่เดินสู่วิถีสัตว์ประหลาดล้วนต้องเดิมพันด้วยชีวิต การที่มาท้าทายกับฉัน และปารถนาว่าหากแพ้แล้วจะรอดไปได้คือความโง่เขลาที่เกินจะบรรยาย หวังว่านายจะไม่ใช่คนประเภทนี้นะ เรย์ คามาเลีย”
“..เอาจริงดิ?”
ไม่นาน พาโวก็หยุดอยู่หน้าเรย์
“จะจำชื่อเอาไว้”
“!!”
ดาบพุ่งเข้าใส่หัวของเรย์ แต่กลับพลาดเป้าอย่างน่าประหลาดใจ ..พาโวเบิกตาโพลงกว้าง สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างจึงหันหลังกลับไป
“..กลับมาเร็วจริงนะ”
“ธุระที่นี่มีไม่เยอะครับ”
‘ยูจิ’ โผล่มาอีกครั้ง พร้อมกับแขนสีฟ้าที่ดึงอากาศอยู่หนึ่งข้าง
ดาบที่พลาดเป้าเกิดจากการหักล้างของวิญญาณระดับเทพ ‘อลัน’ นี่คือข้อมูลที่พาโวพอจะรู้ได้จากตัวยูจิ
พาโวรีบดึงดาบทั้งสองเล่มขึ้นมา และพุ่งเข้าใส่ยูจิ—ยูจิแบมือข้างขวา และพึมพำสั้นๆว่า “ดาบแห่งแสง” ยูจิคว้าดาบแห่งแสง จากนั้นก็ใช้อลันคู่กับทักษะ [ดาบประกายแสง]
เสียงอากาศถูกดึงพร้อมกับเสียงตวัดดาบหนึ่งจังหวะเกิดขึ้นอย่างเงียบสงบ …
“..”
พาโวจับที่หน้าท้องของตัวเอง ก่อนพบรอยแผลขนาดใหญ่ เจ้าตัวหันไปมองข้างหลังซึ่งยูจิยืนอยู่
ไร้บาดแผลใดๆ การโจมตีของเขาส่งไปไม่ถึงยูจิ ไม่ได้ใช้หักล้าง ยูจิแค่หลบการโจมตีของพาโว และใช้หักล้างช่วยให้ตัวเองโจมตีสวนพาโวได้ง่ายขึ้น
การแลกดาบแรก พาโวเป็นฝ่ายแพ้ แถวยัง ..
“อึก”
พาโวกระอักเลือดออกมา ..ถ้าเกิดว่าใช้ [รำแพน] ได้ละก็ ไม่สิ ต่อให้ใช้รำแพนได้ก็ไม่มีทางชนะ
ดาบนักยูง พาโว เขาคือนักดาบชั้นยอด เป็นคนธรรมดาที่มีวิชาดาบทัดเทียมกับพวกเหนือมนุษย์ และเพราะเป็นคนธรรมดาเช่นเดียวกับเรย์นั่นแหละ ถึงได้เข้าใจความต่างของพลังดีกว่าใครๆ เขาเคยประมือกับเกรย์มานับครั้งไม่ถ้วน และพ่ายแพ้มาตลอด เคยประมือกับไรเดน และพ่ายแพ้จนต้องเข้าร่วมเป็นเจ็ดคาปสมุทร เคยประมือกับเอเธอร์ และโดนล้างบางทั้งกองทัพ
เพราะอย่างนั้นเลยเข้าใจได้ หลังจากการแลกดาบเพียงครั้งเดียว พาโวก็บรรลุทุกอย่าง
เด็กหนุ่มที่ตัวเองพ่ายแพ้ในการดวลวิชาดาบ คือผู้ที่พิเศษกว่าใครๆ
“จะดวลอีกก็ไม่ว่าหรอกนะครับ แต่ครั้งต่อไป ไม่รับปากว่าจะไว้ชีวิตหรอกนะครับ ดาบนกยูง”
“..น่าเสียดาย แต่คราวนี้ขอถอนตัวก่อน”
พูดจบพาโวก็เก็บดาบและหายไปพร้อมกับสายลมทันที หากจะตามไปฆ่าก็คงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับยูจิ แต่ก็เลือกจะไว้ชีวิต
ยังไงเสีย การฆ่าก็ไม่ใช่เรื่องที่อยากทำเท่าไหร่
“..ยูจิ”
“ครั้งนี้แค่โชคดีเท่านั้นที่ดาบนกยูงมาขวางทางผม ครั้งหน้าจะตายเอานะครับ ถ้ายังฝืนตัวเองอยู่”
ยูจิกล่าวเตือนเล็กน้อย ก่อนจะเดินสวนกลับ มุ่งไปยังทางออกภายในป่า
….
“..โธ่เว้ย!”
เรย์ทุบพื้นดินอย่างเจ็บใจ
****
จุดศูนย์กลางโลก บริเวณที่ผนึกโซ่สวรรค์เอาไว้
เทพแห่งธรรมชาติ ‘เอโด-เวโด้’ และบริวารผู้ครอบครองวิญญาณระดับเทพ ‘การ์ป’ ทั้งสองอยู่ในสภาพที่ไม่สู้ดีนัก
การ์ปทั้งตัวเต็มไปด้วยบาดแผลจากเวทมนตร์ ทั้งแขนทั้งสองข้างรวมถึงขาทั้งสองข้างเองก็กระดูกหลุดจากการปะทะกับยูจิในเวลาสั้นๆ ซ้ำร้าย ร่างกายยังไร้สติจากแรงหมัด ทำให้ไม่สามารถตอบสนองอะไรได้
ผู้เป็นนายอย่าง เอโด-เวโด้ สภาพเองก็หนักหนาเอาการ ท้องของเธอมีรอยแทงด้วยดาบ ด้วยพลังกายที่ต่ำแต่เดิมอยู่แล้ว ทำให้บาดแผลนี้สร้างความเจ็บปวดให้เทพแห่งธรรมชาติได้มากระดับที่ไม่อาจทำอะไรต่อได้เลย ทั้งตัวเธอยังถูกคล้องด้วยโซ่สีดำอีก ส่งผลให้เธอไม่สามารถใช้พลังในฐานะเทพได้เลย ..มันคือเทคนิคต่อกรกับทวยเทพ ที่จอมมารเคยใช้ในอดีต แต่ไม่คิดเลยว่าตัวเทพกลับมาเกิดใหม่อย่างยูจิเองเนี่ย จะเป็นคนใช้ของนอกรีตพรรค์นั้นในการกำจัดเธอ
เอโด-เวโด้ จ้องมองการ์ปที่หมดสติก่อนจะถอนหายใจออกมา
“ครั้งนี้เดินหมากต่างจากทุกทีมากเลยนะ ..ออโรโบรอส” เธอยิ้มมุมปากเล็กน้อย “เหมือนจะลนกับอะไรบางอย่างนั้นสินะ ..”
บางที ต้นเหตุของความร้อนลนอาจจะเกิดมาจาก–ข้อผิดพลาดของโลกก็เป็นได้
“เรื่องราวจะจบลงอย่างไรกันนะ ..แต่ก่อนอื่น ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ เดี๊ยนได้ตายจริงๆแน่”
เทพไม่อาจตายได้ เว้นแต่ว่าจะถูกข้อผิดพลาดของโลกฆ่า หรือไม่ก็–ถูกเทพด้วยกันเองฆ่า