เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!! – ตอนที่ 266

< < 171 Sec1 > >

เสียงตัดอากาศดังสนั่นท้องฟ้า—หลายชีวิตบินล่อนไปทั่วอาณาจักรเนลยอนด้วยความรวดเร็วประหนึ่งแสงดาว

“เท็งงุ เบ็นจิโร่ สัญลักษณ์แห่งความยุติธรรม วีรสตรีแห่งกองทัพเรือ—ไม่อยากจะเชื่อเลยแฮะ ว่ายัยนี่เคยเป็นผลงานที่ผิดพลาดของตระกูลนักรบเท็งงุ”

“ตัวตนระดับปรากฏการณ์ชัดๆ”

สองมหามังกรเทียมในร่างอาภรณ์เทพมังกรบินตามหลังเบ็นจิโร่ ทั้งสองสนทนากันสั้นๆระหว่างที่บินเคียงข้างกันมา ระยะห่างกับ เท็งงุ เบ็นจิโร่ที่บินนำหน้านั้นราวๆห้าเมตร

ปีกที่สวยงามได้สยายและโต้อากาศบนฟ้า แม้จะควบคุมได้ยาก แต่เมื่อควบคุมได้โดยสมบูรณ์แล้วมันก็เป็นปีกที่สมบูรณ์แบบที่สุดบนโลก ระดับที่มีความเร็วไม่ได้ด้อยไปกว่ามหามังกรเลย

สโนว์ยื่นมือออกมาข้างหน้าทำท่าจะโจมตีใส่เบ็นจิโร่ แต่ทันทีที่ทำอย่างนั้น–เบ็นจิโร่ก็บินสวนกลับมา ความเร็ว คูณ ด้วยความเร็ว–พริบตาเดียว เบ็นจิโร่ก็ใช้ปลายคัณธนูที่มีคมสะบั้นแขนของสโนว์ทิ้ง ทั้งสองมหามังกรเทียมรับมือด้วยความนิ่งสงบ สโนว์พยายามจะบินหนี แต่ก็ไม่พ้นจะถูกเบ็นจิโร่ใช้ขาทั้งสองข้างงับไว้กับแขนข้างสุดท้าย จากนั้นก็ยิงศรอากาศอัดเข้าที่หน้าท้องนับสิบครั้งในเชี่ยววิเดียว ปีเตอร์ใช้สายฟ้าเล่นงานเบ็นจิโร่จากข้างหลัง

ปีกของเบ็นจิโร่ได้กางออกอีกครั้ง และพริบตาเดียว หล่อนก็ไปโผล่อยู่หลังของปีเตอร์

“ชิ!!”

ปีเตอร์หมุนตัวเตะใส่เบ็นจิโร่ เธอเอียงตัวหลบ ปีเตอร์ใช้แรงหมุนนั้นสปินตัว เคลือบสายฟ้าใส่ขาตัวเองอย่างรวดเร็ว ความเร็วที่ปรากฏนั้นทำให้เบ็นจิโร่ไม่อาจรับมือได้ทันถ่วงที เธอจึงใช้แขนที่อยู่ใกล้ที่สุดในการรับความเสียหาย

ปรี๊ด!!!!!!!!! สายฟ้าแล่นผ่านแขนของเบ็นจิโร่—เธอรีบบินออกห่างจากการโจมตีให้เร็วที่สุด แน่นอนว่าไม่อาจเลี่ยงการโจมตีนั้นได้

แขนของเบ็นจิโร่เละจากการจู่โจมครั้งเดียว ..กลับกัน สโนว์ที่โดนเธอเล่นซะยับในทีแรก ตอนนี้ร่างกายกลับมาเป็นปกติแล้วด้วยอำนาจของมหามังกร

ข้อแตกต่างทางเผ่าพันธุ์ เบ็นจิโร่ไม่อาจรักษาร่างกายตัวเองได้อย่างง่ายดาย ร่างเองก็ไม่ได้ถึกขนาดโดนมหามังกรซัดใส่แล้วจะทนไหวด้วย ว่าง่ายๆ ถ้าพลาดครั้งใหญ่เข้าได้ลงโลงแน่นอน

“ถึงจะเป็นแค่ของปลอม แต่ก็อันตรายจริงๆด้วย”

“เหอะ! ท่านวีรสตรีมีดีแค่นี้เองรึไงหา?”

เบ็นจิโร่ไม่ตอบกลับ เธอหันไปมองบนพื้นดินที่การต่อสู้กับเรนได้แยกออกไปในแต่ละพื้นที่ บนผืนดินที่ใกล้เธอที่สุดนั้น—เด็กสาวที่เรเซอร์พามา(อานิม่า) ได้เข้าต่อสู้กับอลิซาเบธ โดยที่ทางอลิซาเบธดูจะได้เปรียบมากกว่า แต่ก็ไม่อาจเข้าใกล้อานิม่าได้ด้วยรูปแบบพลังประหลาดๆ

“ทางนั้นดูไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่”

แต่ทางนี้ก็ใช่ว่าจะไม่น่าเป็นห่วงด้วยสิ 2-1 ทั้งยังเป็นศัตรูที่อัดเธอทีเดียวจังๆล่วงได้อีก

“ช่วยไม่ได้”

อานิม่าถอนหายใจ และทำการดีดนิ้ว—อากาศโดยรอบได้เกิดการบิดเบี้ยวของมิติขึ้น สองมหามังกรเทียมรีบบินทิ้งห่างอย่างน้อยๆสิบเมตร เพราะสัมผัสได้ถึงความอันตรายตรงหน้า

อากาศที่ถูกบิดนั้นค่อยๆมีแขนงอกออกมา แขนนั้นสัมผัสที่อากาศและใช้เป็นแท่นยกตัวเองออกจากรอยบิด

จุดเด่นแรกที่ปรากฏคือเส้นผมที่ยาวจนปิดหน้าปิดตา และหน้าอกขนาดมโหราฎ และรอยยิ้มที่เหมือนกับเคลิ้มอะไรบางอย่าง

“นั่นมัน..”

“อ่อร่าอย่างนั้น ‘ภูตสวรรค์’ เป็นคนที่ครอบครองภูตสวรรค์สองคนจริงๆด้วยสินะคะ”

สโนว์หัวเราะแห้งๆอย่างไม่สู้ดี เบ็นจิโร่เห็นก็หัวเราะขึ้นจมูกและยื่นมือไปจับเข้าที่คอของภูตสวรรค์

“ ‘เวลเดีย’ ได้เวลาทำงานแล้ว”

“หืม? อ๋อ ทำงานสินะ อือ ฉันมีงานด้วยเหรอเนี่ย พึ่งรู้นี่แหละ”

“เพราะไม่มีเหตุจำเป็นต้องใช้เลยปล่อยไว้ ขอโทษด้วยละกัน แต่ได้เวลารื้อฟื้นสัญชาตญาณแล้ว ..อุทิศชีวิตให้ฉันซะ เวลเดีย”

เวลเดียแก้มแดงขึ้นมา และแสยะยิ้มอย่างน่าสยอง ภาพลักษณ์ของเธอ แทนที่จะเรียกว่าภูตสวรรค์ เรียกว่าวิญญาณผีร้ายยังดูเข้ากว่า

“ช่วยไม่ได้น้า ถ้าเพื่อเท็งงุเอาแต่ใจอย่างนายหญิงแล้ว จะยอมอุทิศตนให้ก็ได้—”

“ยอดเยี่ยม”

กล่าวจบเบ็นจิโร่ก็บีบแรงที่ข้อมือ และร่างของเวลเดียก็ค่อยๆสลายกลายเป็นสีขาวที่ล่องลอยอยู่รอบตัวเบ็นจิโร่ สีขาวนั้นได้เข้ากลืนกินร่างกายของเบ็นจิโร่และส่องแสงขึ้น—กระพริบตาหนึ่งครั้ง ร่างของเบ็นจิโร่ก็ได้ถูกปกคลุมด้วยชุดเกราะไร้สี

ส่วนสูงของเบ็นจิโร่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล เช่นเดียวกับร่างกายที่ถูกขยายขนาดขึ้น ตอนนี้เธอน่าจะสูงราวสองเมตรได้ ขนาดตัวก็ใหญ่ไม่แพ้ราชามังกร รึ ราชาแห่งแซร์อิซเลย ทั้งปีกเท็งงุของเธอก็ถูกสวมด้วยเกราะในบางส่วน และอยู่ในสภาพกางออกตลอดเวลา บริเวณหัวปกคลุมด้วยหมวกที่มีรูปทรงเสมือนอินทรีย์ จะมีก็แค่ส่วนตรงดวงตาที่ยังคงพื้นผิวของเบ็นจิโร่

ภูตสวรรค์ ‘เวลเดีย’ คือภูตสวรรค์ที่จะมอบชุดเกราะให้แก่ผู้ใช้ โดยที่ชุดเกราะนั้น—ก็มีศักดิ์เป็นเกราะแห่งภูตสวรรค์ที่ทรงด้วยพลังอำนาจกว่าสิ่งใดบนโลก เสมือนอาวุธตระกูลทลายโลกาที่มีอยู่บนโลก เช่นเดียวกับธนูบนมือของเบ็นจิโร่ที่เป็นพลังของภูตสวรรค์เช่นกัน

หนึ่งชีวิต ใช้ภูตสวรรค์พร้อมกันสองตน โดยที่โลกนี้มีภูตสวรรค์เพียงสามตนเท่านั้น 

“..”

เบ็นจิโร่คว้าบางอย่างออกมาจากช่องว่างกระเป๋าเวทมนตร์ มันคือสร้อยคอที่มีสีที่สวยงาม เธอกำมันแน่นจนเพชรที่อยู่ตรงกลางแตก

‘กริฟฟิน’ สัตว์มายาหัวเป็นอินทรีย์ตัวเป็นสิงโตปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า มันหันหน้าไปหาเบ็นจิโร่และโค้งศรีษะพร้อมยื่นหัวไปให้ขณะที่ลอยอยู่บนฟ้า ไม่อาจอ่านสีหน้าของเบ็นจิโร่ในตอนนี้ได้ แต่เธอคงจะยิ้มอยู่ไม่ผิดแน่

“ยอดเยี่ยม”

เธอกล่าวสั้นๆ และใช้มือบีบที่ศรีษะของกริฟฟิน มันค่อยๆสลายและหลอมรวมเข้ากับเกราะไร้สีของทูตสวรรค์—เกราะได้สีได้แปรเปลี่ยนเป็นสีโทนเดียวกับกริฟฟิน รอบตัวของเกราะเองก็มีจุดที่เสมือนกับกริฟฟินขึ้นมาด้วยเหมือนๆกัน

“.. [กริฟฟิน]”

เกราะทูตสวรรค์ได้หลอมรวมเข้ากับสัตว์มายา บริเวณเท้าของชุดเกราะมีขนาดที่เล็กลงและมีสีเหมือนกับเท้าของกริฟฟิน ปีกของเบ็นจิโร่ใหญ่และยาวยิ่งกว่าเดิม ร่างที่หนาของชุดเกราะถูกบีบขนาดตัวขึ้นให้บางลง แต่ส่วนสูงสองเมตรก็ยังคงเดิม

เบ็นจิโร่ในเกราะทูตสวรร์ร่างกริฟฟินได้มองไปที่สองมหามังกรเทียมที่จ้องมองมาอย่างประหลาดใจ

“..เทมเมอร์?”

ปีเตอร์พึมพำขึ้นมา ..เบ็นจิโร่พยักหน้าตอบ

“หลายคนอาจจะรู้จักฉันในฐานะนักธนู แต่จริงๆแล้วตัวตนของฉันมันใกล้เคียงกับสิ่งที่เรียกว่า ‘เทมเมอร์’ มากกว่า เป็นผู้ที่ทำพันธสัญญากับสิ่งมีชีวิตมากมาย” เบ็นจิโร่เด็ดปีกของตัวเองซึ่งเป็นปีกเสมือนกริฟฟิน ขนนกที่ถูกเด็ดออกมากลายเป็นลูกธนูดีไซน์กริฟฟิน จากนั้นเธอก็ตั้งท่ายิงธนูอย่างสวยงามในระยะห่างราวสิบเมตร “ให้พูด ฉันคือเทมเมอร์ที่มีทักษะการใช้ธนูเล็กน้อย—”

ลูกธนูกริฟฟินได้พุ่งออกไปด้วยความเร็วที่—มากกว่าเดิมชนิดเทียบไม่ติด ขั้นตอนการยิงนั้นเหมือนเดิม แต่ตัวลูกธนูพุ่งออกมาด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิม เพราะมันคือลูกธนูที่สร้างมาจาก–สัตว์มายากริฟฟิน

ทั้งสองบินหลบการโจมตีนั้นไม่ยาก ทว่า—พอหันไปอีกทีก็พบว่าบนท้องฟ้าได้เต็มไปด้วยลูกธนูทรงกริฟฟิน และมันก็พุ่งลงมานับสิบดอกด้วยความเร็วที่น่าหวาดผวา สโนว์เลือกจะใช้โล่น้ำแข็งขึ้นมาป้องกันทุกความเสียหาย ทั้งยังใช้ความสามารถในการ ‘แช่แข็งมานา’ หยุดการทำงานของพลังกริฟฟินทั้งหมดได้อย่างไม่ยากเย็น

ท่ามกลางการกระหน่ำยิง ปีเตอร์ได้บินเลี้ยวจากหลังของสโนว์ ไต่ระดับไปหาเบ็นจิโร่ด้วยความรวดเร็ว เอกลักษณ์คือ ‘ช็อตมานา’ ด้วยสายฟ้าของมหามังกร ใช้ทำลายธรรมชาติของอากาศและเร่งความเร็วตัวเองขึ้นไปอีกระดับ เพียงจังหวะก้าวเท้าก้าวเดียว ปีเตอร์ก็ไปหยุดอยู่ตรงหน้าของเบ็นจิโร่แล้ว—

“ฮึย!!!!!!!!!!”

“!!”

ปีเตอร์หมุนตัวเตะเบ็นจิโร่-เธอหลบการโจมตีนั้น และบินด้วยปีกที่สวยงาม

ทั้งสองทยานขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยความเร็วที่ทัดเทียมกัน—————ตู้ม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

เสียงระเบิดจากการปะทะดังสนั่น และผู้ที่ล่วงหล่นก็คือ ปีเตอร์ ร่างอาภรณ์เทพมังกรฉีกขาดจากการโจมตี สโนว์พุ่งไปรับร่างไว้และรักษาร่างกายคืนให้ปีเตอร์ โดยไม่ระวังเลยว่าบนฟ้านั้นมีคนที่เตรียมจะตะครุบทั้งสองอยู่

เมื่อควันหลงจากการต่อสู้ได้จางไป ก็เผยให้เห็นเบ็นจิโร่ที่ลอยอยู่บนฟ้า พร้อมกันคันธนูบนมือที่ขยายส่วนไปกว่าสิบเมตร

“..หา?”

แสงส่องจากปลายธนู ศรเพียงศรเดียวที่มีความรุนแรงยากจะคาดเดาได้พุ่งตรงดิ่งลงมา—

“ตั้งสติไว้ก่อน!”

ปีเตอร์ผลักสโนว์ไปอยู่ข้างหลัง และใช้พลังทั้งหมดในฐานะมหามังกรรับศรนั้นตรงๆ

ทว่า–ศรกลับเลี้ยวไปทางขวา และหมุนเข้าอัดเข้าที่ลิ้นปี่แทน

“–อึก”

ตู้ม!!!!!!!!!!!!!!!!!!

อาภรณ์เทพมังกรมิได้สลายไป มันจะไม่มีวันสลายตราบใดที่ยังรับความเสียหายได้ รึ หมดเวลาการใช้งาน มันจะยังคงอยู่ เพียงแต่ปีเตอร์เวลานี้ได้ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดจากการจู่โจม

“ศรกริฟฟินมีความเร็วที่มหาศาล เมื่อนำไปรวมกับรูปแบบการจู่โจมอันมากมายที่คันธนูมีก็ช่วยให้สู้ได้หลายสไตล์มากขึ้น”

“..เจ็บ..เจ็บ แก!!!”

ปีเตอร์หลั่งน้ำตาออกมา ก็จริงที่เจ็บมากแค่ไหน ร่างกายก็รักษากลับมาอยู่ดี แต่ตอนนี้อย่าว่าแต่ขยับตัวเลย แค่อ้าปากพูดยังลำบาก ความเสียหาย ความเจ็บปวดที่ได้มันมากขนาดนั้นเชียว

เบ็นจิโร่ทำให้คันธนูกลับมามีขนาดเท่าเดิม เธอบินอยู่บนฟ้า และมองต่ำลงมาด้วยสถานการณ์การต่อสู้ที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน ทำให้คล้ายว่าเธอกำลังแสดงความต่างชั้นให้เห็น

‘การต่อสู้กับมหามังกรเทียมมีข้อจำกัดมากมาย นอกจากรูปแบบพลังที่กว้างจนเป็นปัญหาแล้วก็คือพลังการฟื้นฟูที่เข้าขึ้นอมตะ เพราะอย่างนั้น ถ้าอยากจะโค่นมหามังกรเทียมละก็—ก็ต้องใช้วิธีที่ทำให้พวกมหามังกรเทียมเคลื่อนไหวไม่ได้ ทั้งๆที่มันก็รักษาร่างกายตัวเองต่อไปได้’

คำอธิบายของเรเซอร์เมื่อหลายวันก่อนไหลเข้ามาในหัวของเบ็นจิโร่อีกครั้งเมื่อเห็นผลลัพธ์จากการต่อสู้

สโนว์สัมผัสที่ร่างของปีเตอร์ แขนของเธอระเบิดทันทีที่แตะ ดีที่ดึงมันออกมาได้ทำให้รักษาได้ทัน และ..ไม่โดนความเสียหายอะไรเพิ่มเติม ..สโนว์สามารถเข้าใจทุกอย่างได้โดยเร็ว และหันไปมองเบ็นจิโร่ด้วยความหวั่นเกรง

“หายไป..แล้ว?”

ไม่ใช่ อยู่ข้างหลังต่างหาก

เบ็นจิโร่เล่ยทีเผลอ จับสโนว์ทุ่มพื้น พร้อมกับตัวเธอที่ดิ่งตามไปด้วย ปีเตอร์ตอนนี้อยู่ในสภาพที่ทำอะไรไม่ได้เลยจึงช่วยอะไรไม่ได้

ในวินาทีที่สโนว์ตั้งใจจะแช่แข็งเบ็นจิโร่ไปพร้อมกับทุกสรรพสิ่ง เบ็นจิโร่ก็ดีดตัวออกด้วยความเร็วที่ต่างชั้น และทำการยิงศรอัดเข้าที่สโนว์—เมื่อถูกแรงกระแทกจากลูกศรประหลาดๆเข้า ร่างของสโนว์ก็ดิ่งลงพื้น และกระแทกเข้ากับพื้นอย่างจัง

ตู้ม!!!!!!!!

แรงกระแทกมากระดับที่ทำให้พื้นที่โดยรอบพากันพังทลาย ลูกศร? บอกว่าเอาลูกตุ๋มมากระแทกท้องสโนว์ดูจะเป็นไปได้มากกว่า

สโนว์นอนอยู่กับพื้น ร่างกายได้รับการรักษากลับมาแล้วก็จริง แต่..เพียงแค่มองขึ้นไปบนฟ้า ความหวาดกลัวก็เข้าเกาะกินจิตใจของเด็กสาวเผ่าเอลฟ์

สหายที่กรี๊ดร้องด้วยความเจ็บปวดอย่างน่าสงสาร พร้อมกับร่างกายที่ระเบิดรัวๆ ตัวเธอที่นอนอยู่กับพื้นโดยทำอะไรไม่ได้เลย และศัตรูที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน 

“..ธนูนั่นสามารถเปลี่ยนรูปแบบการยิงได้ตามรูปทรง”

เธอสังเกตุได้ว่าธนูของเบ็นจิโร่จะเปลี่ยนทรงไปเรื่อยๆตามรูปแบบการโจมตี

รูปแบบปกติก็คือธนูปกติ รูปแบบความเสียหายต่อเนื่องที่รุนแรงซึ่งปีเตอร์กำลังโดนอยู่ตอนนี้ก็คือธนูยักษ์ และรูปแบบกระแทกเสมือนลูกตุ๋ม บริเวณปลายธนูมันจะพองขึ้นมา ..กล่าวโดยง่าย พลังของทูตสวรรค์ที่เธอถือครองสามารถเปลี่ยนสิ่งที่จับมาเป็นลูกศรพร้อมกับบอกคุณสมบัติพิเศษได้ไม่พอ ตัวธนูเองยังเปลี่ยนรูปแบบการจู่โจมได้โดยที่เธอก็ไม่อาจทราบได้ว่ามีกี่รูปแบบ

ทั้งยังมีเกราะทูตสวรรค์ซึ่งหลอมรวมเข้ากับธรรมชาติได้ ส่งผลให้ เทมเมอร์อย่างเบ็นจิโร่สามารถหาวัตถุดิบทำลูกธนูโกงๆได้จากการทำพันธสัญญากับสัตว์หลายๆชนิด นอกจากกริฟฟินแล้ว ..เธอเชื่อว่ายังมีสิ่งมีชีวิตตัวอื่นอีกในคลังลูกศรของเบ็นจิโร่

สโนว์หัวเราะพึมพำ ค่อยๆลุกขึ้นยืน เธอเสกเอาโล่น้ำแข็งและลูกตุ๋มน้ำแข็งใส่มือทั้งสองข้าง หน้าที่ของเธอคือสู้ต่อไปเรื่อยๆ—เธอไม่มีทางแพ้อยู่แล้ว ในระยะเวลาที่จำกัด จะไม่มีใครฆ่าเธอได้ ขนาดปีเตอร์ตอนนี้ ถึงจะโดนระเบิดร่างรัวๆแบบน่าสงสารจนทำอะไรไม่ได้ แต่ก็ยังไม่ตาย

วิธีสู้เดียวที่นึกออกคือ ..พยายามเลี่ยงการโจมตีแบบที่ปีเตอร์โดนมาให้ได้ ถ้าทำได้ อย่างน้อยก็คงถ่วงเวลาได้มาก

สโนว์ทยานขึ้นไปบนฟ้าอีกครั้ง—และเห็นชุดเกราะของเบ็นจิโร่กลับไปเป็นสีขาวเหมือนเดิม กริฟฟินบินอยู่ข้างๆเธอ 

จังหวะนี้แหละ—ก่อนที่จะได้ทำอะไร กริฟฟินก็บินเข้ามาต่อสู้กับสโนว์

“ในที่สุดก็ใช้วิธีสู้สมเป็นเทมเมอร์สักทีนะคะ!”

เบ็นจิโร่ไม่ได้ตอบ แต่ใช้จังหวะนั้นบินไป–กระชวกไส้ปีเตอร์ …เอ๊ะ?????

??????

??????

“..แก..แก!!!!!”

เบ็นจิโร่บีบร่างของเบ็นจิโร่แรงขึ้น เสียงร้องได้แห้งหายไป ร่างของเขาค่อยๆบิดเป็นเกลียว และ—หลอมรวมเข้ากับชุดเกราะของเบ็นจิโร่—-แสงสว่างจากสายฟ้าจ้าขึ้น และเป็นอีกครั้ง กระพริบตาคราเดียว ร่างของเบ็นจิโร่ก็แปรเปลี่ยนเป็นอีกอย่าง

รูปทรงเดียวกับเกราะไร้สี เพียงแต่ว่า–ร่างถูกย้อมไปด้วยสีเดียวกับอาภรณ์เทพมังกรของปีเตอร์ และเพิ่มลวดลายหลายๆอย่าง รวมถึง จุดเด่นทั้งหมดของอาภรณ์เทพมังกรก็ปรากฏขึ้นบนเกราะของเบ็นจิโร่

สโนว์ยินนิ่ง กริฟฟินบินกลับไปหาผู้เป็นนายและกลายร่างไปเป็นสร้อยคอตามเดิม เบ็นจิโร่ทำการเก็บสร้อยคอเข้าคลังกระเป๋าเวทมนตร์ ก่อนจะหันไปมองสโนว์

“เรียกว่า [อาภรณ์เทพมังกร]-[นารุคามิ] ..สินะ?” เบ็นจิโร่กำหมัด และเกิดกระแสไฟฟ้าขึ้นมา “ไม่เลวเลย”

…..

“เพราะแบบนี้เองเหรอ? ฮิโรชิถึงได้มั่นใจว่าถ้าปล่อยให้เรื่องบานปลาย จะสามารถเก็บกวาดทุกอย่างได้น่ะ”

อย่างที่ว่า ฮิโรชิกะจะรวบหัวพวกขุนนางที่มีปัญหาทั้งหมดในแผนการณ์ล้มระบอบการปกครองคราวนี้ ที่มั่นใจว่าจะจัดการปัญหาที่ตามมาทั้งหมดได้ อาจจะไม่ใช่เพราะว่ามีแค่ ไรเดน อาคาสะ เป็นพวก ..แต่เหตุผลสำคัญอีกอย่าง อาจเป็นเพราะว่ามี เท็งงุ เบ็นจิโร่ คนนี้คอยดันหลังอยู่ก็เป็นได้

“..เท็งงุ เบ็นจิโร่” สโนว์พึมพำอย่างไร้เรี่ยวแรง

เธอเป็นตัวอะไรกันแน่?

 

เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!!

เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!!

เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!!
Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!! << 0 >> รู้สึกว่าโลกเราช่วงนี้จะฮิตต่างโลกกันสินะ? ถ้าจำไม่ผิดนวนิยายประเภทไลทโนเวลของญี่ปุ่นในยุค 2020 จะฮิตกันเอาเรื่องเลย ขนาดผมก็เคยอ่าน หรือเคยดูอนิเมที่ดัดแปลงจากนิยายมาอีกทีไม่น้อยเลย ใช่ มันค่อนข้างสนุกเลย อาจจะเป็นเพราะมันช่วยสนองนีทให้ผมก็ได้ เพราะปกติผมมักจะเป็นผู้แพ้เป็นประจำทั้งๆที่พยายามากแล้ว พอได้เห็นคนๆหนึ่งประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม ซึ่งนั่นก็คือพระเอกมันก็ชวนให้รู้สึกภาคภูมิใจในตัวเขาด้วย พร้อมไปกับสาวๆในฮาเร็มของแกด้วยอะนะ แต่ด้วยความที่เป็นตลาดที่ใหญ่ ทำให้มีหลายความเห็นตามไปด้วย หลายครั้งที่นิยายแนวนี้จะถูกวิจารย์ในเชิงไม่ดี อาทิเช่น ส้ำซากจำเจ เดาทางง่าย ตัวละครผู้หญิงง่าย ทุกอย่างง่ายไปหมด บางเม้นต์ก็ร้ายแรงขนาดบอกว่า ‘นี่ไม่ใช่นิยายแต่เป็นสินค้า’ อืม ถ้าในมุมผมก็ไม่ได้รังเกียจอะไรหรอก ออกไปในทางชอบด้วยซ้ำ แต่ขอติหน่อยเถอะ ตัวร้ายส่วนใหญ่ในเรื่องแนวนี้โคตรจะไม่น่าให้อภัย คนอะไรมันจะเลวได้ขนาดนั้น เลวถึงแก่นแท้เลยพวกตัวร้ายในนิยายต่างโลกเนี่ย ไม่น่าให้อภัยที่สุด โง่ก็โง่ กระจอกก็กระจอกชิบหายเลย ไร้ความคิดความอ่าน กลับตัวก็ไม่เป็น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset