เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!! – ตอนที่ 280

< < 178 Sec2 > >

บริเวณซากปรักหักจากการต่อสู้ในอาณาจักรเนลยอนนั้นมีสถานที่แห่งหนึ่งและแห่งเดียวที่ห่างไกลจากการต่อสู้ทั้งหมด ณ ที่แห่งนั้น ..

‘เคียวยะ’ ตัวร้ายยอดนิยมในนิยายต้นฉบับ ‘เมอัน’ มหามังกรเทียมแสงและความมืด ทั้งสองนั่งอยู่ไม่ไกลไม่ไกลกับ ‘อานิม่า’ เทพแห่งจิตวิญญาณ และ ‘สโนว์’ มหามังกรเทียมน้ำแข็ง ทั้งสี่นั่งจ้องหน้ากันในระยะไม่ไกลไม่ไกลมาก

ก่อนที่จะปรากฏภาพดังที่เห็น อานิม่ามีหน้าที่ดูแล ‘ปีเตอร์’ ซึ่งพ่ายแพ้จากการต่อสู้ แต่จู่ๆอลิซาเบธกับปีเตอร์ก็โผล่มา พร้อมกับ ไรเดนที่กำลังไล่ล่าเรน เกิดการต่อสู้ในวงกว้างขึ้น ผลสุดท้ายก็ทำให้ปีเตอร์หลุดไปได้ สโนว์ใช้จังหวะนั้นเข้าขวางอานิม่าและไรเดน

ผลลัพธ์ของการต่อสู้คือ–สโนว์พ่ายแพ้ต่อไรเดน แต่ก็สามารถหยุดไรเดนไว้ได้นานพอสมควร ทำให้แผนการณ์ของเรนเป็นจริงได้ในที่สุด

นี่คือจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ ..เทพมังกรกำลังจะถือกำเนิด

อานิม่าได้เล่าทุกอย่างให้ฟังพลางจับไหล่ของสโนว์ไว้ไม่ให้คิดเล่นตุกติกอะไร

“เลวร้ายสุดๆไปเลยไม่ใช่รึไงหะ?”

เมื่อเคียวยะได้ฟังก็บ่นออกมาทันที หลังจากที่จับกุมสโนว์ได้แล้ว อานิม่าก็บังเอิญเจอเคียวยะที่นั่งอยู่กับเมอันพอดี จึงเลือกแลกเปลี่ยนข้อมูลกันก่อนจะลงมือทำอะไร

“ทางฝั่งคุณเล่นเผาอาณาจักรเนลยอนไปเกือบครึ่งยังกล้ามาว่ากันนะคะนั่น”

สโนว์โพล่งขึ้นมาอย่างติดตลก

“หุบปากไปไอ้เด็กเปรต”

“เห็นแบบนี้แต่จริงๆอายุเยอะกว่าบรรพบุรุษคุณอีกนะคะ ..แล้วเมอัน ทำไมถึงไปนั่งกับคนหยาบคายคนนั้นอย่างสนิทสนมกันล่ะ? กลับมาหาพี่สาวสิจ๊ะ”

“…”

เมอันยิ้มเจื่อนๆตอบ สโนว์เห็นก็พอจะเดาได้เลยทำเพียง “เห๋” ขึ้นมาอย่างสนอกสนใจ สถานการณ์ที่เป็นอยู่ไม่สู้ดีแท้ๆแต่ไม่มีความทุกข์ร้อนใดๆทั้งสิ่ง

“คุณเคียวยะก็”

“ฉันชนะเมอัน น่าละอายใจที่ฉันก็หมดสภาพตามไปด้วย ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้เลย”

“น่าละอายใจ? ชนะมหามังกรเทียมได้นี่มัน ..”

สโนว์เองก็แปลกใจหน่อยๆ

“เมอันคือมหามังกรเทียมที่แข็งแกร่งที่สุดเชียวนะ ..เอาเถอะ ถึงยังไงต่อจากนี้ฉันก็คงต้องตายอยู่แล้ว ไม่อยากเก็บเรื่องหลายเรื่องมาใส่หัวจนเกินจำเป็นหรอกนะคะ”

“อุดหูซะสิถ้าไม่อยากฟังนัก แล้วก็รีบๆตายได้แล้ว”

“ไม่ได้อยากรีบไปตายอะไรขนาดนั้นหรอกนะคะ”

จากนั้นทั้งสองก็เถียงกันยาว

เมอันทำอะไรไม่ถูก พี่คนนี้ก็รัก พี่คนนู้นก็รัก เธอทำอะไรไม่ถูกจึงนั่งอยู่เงียบๆไม่พูดไม่จาแทน ทั้งสโนว์ทั้งเคียวยะแอบมองโดยคาดหวังปฏิกิริยาตอบสนอง และต้องผิดหวังไปตามๆกัน

ทั้งสองที่มีปากเสียงกันจ้องตากันเขม็ง ถ้าเกิด ถ้าเกิดว่าทั้งเคียวยะและสโนว์ไม่ได้หมดสภาพเหมือนๆกัน ทั้งคู่คงจะใส่เดี่ยวกันแบบไม่สนใจอะไรแล้ว

“..หืม?”

เคียวยะสังเกตุเห็นความเปลี่ยนแปลง เส้นผมของเมอันกำลัง-สลาย ไม่ใช่แค่เมอัน สโนว์เองก็ด้วย

“เหมือนจะถึงเวลาแล้วนะ”

“..พี่สโนว์”

สโนว์ส่งสายตาที่อบอุ่นให้ เมอันเห็นจึงยิ้มตอบ ก่อนหันมายิ้มให้เคียวยะด้วย เมอันผละตัวออกจากข้างเคียวยะ และยืนมองเทพมังกรที่กำลังกระเทาะเปลือกออกมาในไม่ช้า

“พี่เคียวยะ หนูขอตัวไปก่อนนะ”

“อ่า”

“ขอบคุณมากจริงๆนะคะ”

“จะไปก็รีบไปซะ”

…..

เคียวยะเปลี่ยนท่านั่งห้าวหาญ เป็นท่านั่งกอดเข่า และเบือนหน้าหนีสายตาของเมอัน

“ฉันไม่รู้สึกอะไรมากไปกว่าความคิดที่ว่าเสียเวลาฟรีอยู่แล้ว”

“เข้าใจแล้วค่ะ”

เมอันมองมือของตัวเองเป็นครั้งสุดท้าย และหลับตาลง ..ทว่า สัมผัสที่แสนอบอุ่นก็ผุดขึ้นบนฝ่ามือที่แสนเรืองราง

“พี่สโนว์?”

“อยากจะอยู่กับคนปากเสียพรรค์นี้จริงๆเหรอ?”

“..ค่ะ”

“น้องสาวพวกเราไปติดคนแปลกๆเข้าซะแล้วนะ ปีเตอร์”

สโนว์ปล่อยมือจากมือเล็กๆของเมอัน จากนั้นก็-กางปีกจากอาภรณ์เทพมังกร และทำการโบกสะบัดปีกนั้นไปมา จนส่งผลให้ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยน้ำแข็งเย็นยะเยือก ไอเย็นพุ่งผ่านร่างของเคียวยะ และอานิม่าไปแต่ก็ไม่เกิดอะไรขึ้น ประหนึ่งเธอตั้งใจเว้นคนสองคนเอาไว้

หมดสภาพไปแล้วไม่ใช่รึไง?

“ในตอนที่พวกเรากำลังจะถูกชำระล้าง เวลาชั่วขณะหนึ่งสู่เส้นทางที่เชื่อมต่อกับบังลังค์ของเทพมังกร ..พวกเราจะกลายเป็น ‘มหามังกร’ ที่แท้จริงชั่วขณะหนึ่ง”

สโนว์กำหมัดแน่น

“และเวลาเพียงชั่ววินาทีเดียวนี้แหละที่พวกเราจะปกป้องน้องสาวผู้แสนอ่อนแอไว้ให้ได้”

กล่าวจบ สโนว์ก็เอื้อมมือทะลุร่างของเมอัน จับที่แก่นแท้ของเธอ และอามันมาใส่ตัวเอง จากนั้นเมอันก็ใช้ปีกทั้งสองข้างทยานขึ้นไปบนท้องฟ้า

เมอันล้มลงกับพื้นอย่างหมดสภาพ ร่างกายที่กำลังจะจางหายไปก็กลับมาเป็นกายเนื้อดังเดิม อานิม่าและเคียวยะรีบลุกขึ้น และแหงนหน้ามองท้องฟ้าซึ่งเป็นสีแดงฉานไม่พอ ยังมีแสงสีทองจ้าไปมา และ..ยังมีหิมะตกลงมาอีก

เคียวยะฝืนใช้ดวงตามหาปราชญ์มองความตั้งใจของสโนว์

“..หักหลังกันไปมาสินะ” กล่าวจบเคียวยะก็หัวเราะขึ้นจมูก และเฝ้ามองเรื่องราวต่อจากนี้ในฐานะผู้เล่นนอกสนาม

 

****

จู่ๆหิมะก็ตกลงมา ท้องฟ้าสีแดงฉานค่อยๆถูกลบหายไปด้วยไอความเย็น

‘สโนว์’ ทยานขึ้นไปบนท้องฟ้า เมื่อมาได้ไกลพอแล้ว เธอก็ยื่นแขนไปสัมผัสกับแก่นแท้ของ ‘มหามังกรอัสนี’ สัมผัสที่แก่นแท้ของ ‘ปีเตอร์’ ก่อนจะดึงเข้าร่างตัวเอง

“ตามที่คุยกันไว้ ไม่ฉันก็ปีเตอร์ พวกเราจะต้องปกป้องเมอันให้ได้”

สโนว์กางปีกอยู่บนท้องฟ้า มองดูหิมะที่โปรยลงสู่พื้น และมองดูอาณาจักรที่กำลังถูกถล่มโดยพวกของตัวเอง มองดูทะเลที่เต็มไปด้วยการต่อสู้นองเลือด มองดูทุกอย่างที่ตัวเองก่อจบแล้วจึงหันไปมองการกำเนิดของเทพมังกรที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้

“คุณพ่อ ..อลิซาเบธ ..ขอโทษนะคะ—แต่พวกเราเอง”

สโนว์บินทยานขึ้นไปเหนือเมฆ และ ..ล่วงลงสู่พื้น พร้อมกับหิมะ และร่างที่ไร้ซึ่งพลังของตัวเอง

ถ้าหาก ..แย่งชิงแก่นแท้ของมหามังกรเทียมด้วยกันเอง ในห้วงเวลาที่กำลังจะจางหายไป คนที่หายไปจริงๆจะมีแค่คนเดียว ขอแค่สโนว์หรือไม่ก็ปีเตอร์ ขอแค่คนใดคนหนึ่งยอมสละตัวเอง อีกคนก็จะได้อยู่กับเมอันต่อไป การถือกำเนิดของเทพมังกรเองก็ยังดำเนินไปได้ต่อด้วย ถึงที่ทำมันจะเป็นการทำให้แผนของคุณพ่อเสีย แต่ ..คงจะไม่ว่ากันสินะ

ยังไงๆเทพมังกรก็ต้องถือกำเนิดมาอยู่ดี แม้จะอยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ร้อยทั้งร้อย แต่ไม่นานก็จะสมบูรณ์ตามเดิม ไหนๆก็ทำงานของตัวเองเสร็จสิ้นกันแล้ว ฉันก็อยากจะให้ทั้งสองคนได้พักผ่อนบ้าง แม้จะไม่มีฉันอยู่ในนั้น แต่ก็ไม่เป็นอะไร

ตั้งใจไว้อย่างนั้น ตั้งใจจะเป็นคนที่เสียสละเอง เลยปิดเรื่องที่รู้นี้เอาไว้ทั้งจากปีเตอร์และเมอัน แล้วก็–จงใจ วางแผนสลับตัวกับปีเตอร์ โดยที่เก็บเงียบเอาไว้ ก็จริงที่สู้ไรเดนไม่ได้ แต่ฉันเลือกทางแพ้ที่ดีที่สุดให้ตัวเอง เลือกจุดยืนที่ดีที่สุดต่อแผนนี้ให้กับตัวเอง และสำเร็จแล้ว

สโนว์ยิ้มที่มุมปาก ร่างของเธอดิ่งลงพื้น และกำลังจะจางหายไปเป็นส่วนหนึ่งกับหิมะที่ตกลงมา

“พันปี ..พันปีของฉัน ไม่ได้สูญเปล่า”

……

…..

 

****

หิมะตกลงอาณาจักรเนลยอนอีกครั้ง หลังจากที่ถูกเผาทิ้งทั้งหมดโดยซาตาน ผมบินผ่านอากาศโดยที่มองดูหิมะที่กำลังล่วงหล่น ปีเตอร์เองก็แบมือรับสัมผัสเย็นๆจากหิมะด้วยสีหน้าแปลกๆ

“เป็นอะไรไป?”

“ไม่มีอะไร”

เธอตอบกลับเพียงสั้นๆ จากนั้นไม่นาน ผมและเบ็นจิโร่ก็มาถึงที่หมาย พวกเรากระโดดลงสู่พื้น และพบกับ ไรเดน อาคาสะ และ—ฟัฟนิร์ แซร์อิซ และอลิซ ที่ไม่ได้พบกันนาน

ข้างๆอลิซที่ยืนตัวสั่นอยู่คือศพของอลิซาเบธที่มีสภาพไม่น่าดูเป็นอย่างยิ่ง ผมละสายตาจากศพนั้น และหันไปมองอีกคนที่นั่งอยู่ในที่แห่งนี้ด้วยสีหน้าและท่าทางตื่นตระหนกสุดขีด

ปีเตอร์นั่งอยู่ตรงนั้นในสภาพที่เปลือยเปล่า หมอนั่นส่งสายตาไปมาบนท้องฟ้า ไม่นานก็ขดตัวร้องไห้ออกมา

“..ทำไมกัน”

หมอนั่นพึมพำออกมาอย่างนั้น พลางทุบพื้นโดยไม่สนซากหินตามพื้น

ผมคิดเพียงแค่ว่าเป็นบ้าอะไรของมัน และไม่เก็บมาใส่ใจอะไร

“ไม่เจอกันนานนะ ต้าวเรเซอร์”

“นั่นสินะ”

ผมมองไปทั่วพื้นที่ ตั้งใจหาคนๆหนึ่งอยู่แต่เหมือนจะไม่อยู่

“..”

ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่เรื่องของคนที่ผมตามหา ผมแหงนหน้าขึ้นไปมองไข่ที่กำลังจะแตกออกบนท้องฟ้า

“นั่นน่ะเหรอ เทพมังกร”

เบ็นจิโร่พึมพำขึ้นข้างๆ ผมพยักหน้ารับ ก่อนชี้ปลายเรลันดาฟไปตรงกลางของเทพมังกร

คิดว่าคงทำอะไรไม่ได้แล้ว แต่ก็อยากจะยิงเพื่อเช็คอะไรบางอย่าง ..แต่ก่อนที่จะได้ทำอะไร

แสงสีขาวก็จ้าขึ้น และวัตถุไข่ยักษ์ก็ได้หายไป

ผมกลืนน้ำลายดังอึก—สัมผัสได้ถึงมานาจำนวนมหาศาลที่อยู่ไม่ไกลมาก จึงหันไปมอง และพบกับ ‘เรน’ ที่มีเส้นผมยาวจนแทบจะแตะพื้น ร่างถูกคลุมด้วยผ้าสีขาวแสนบาง และดวงตาสีทอง อันเป็นเอกลักษณ์ของทวยเทพ

“ไม่ได้พบกันนานนะครับ”

เรนชำเลืองมองผม พูดด้วย ก่อนจะยิ้มให้

 

เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!!

เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!!

เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!!
Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!! << 0 >> รู้สึกว่าโลกเราช่วงนี้จะฮิตต่างโลกกันสินะ? ถ้าจำไม่ผิดนวนิยายประเภทไลทโนเวลของญี่ปุ่นในยุค 2020 จะฮิตกันเอาเรื่องเลย ขนาดผมก็เคยอ่าน หรือเคยดูอนิเมที่ดัดแปลงจากนิยายมาอีกทีไม่น้อยเลย ใช่ มันค่อนข้างสนุกเลย อาจจะเป็นเพราะมันช่วยสนองนีทให้ผมก็ได้ เพราะปกติผมมักจะเป็นผู้แพ้เป็นประจำทั้งๆที่พยายามากแล้ว พอได้เห็นคนๆหนึ่งประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม ซึ่งนั่นก็คือพระเอกมันก็ชวนให้รู้สึกภาคภูมิใจในตัวเขาด้วย พร้อมไปกับสาวๆในฮาเร็มของแกด้วยอะนะ แต่ด้วยความที่เป็นตลาดที่ใหญ่ ทำให้มีหลายความเห็นตามไปด้วย หลายครั้งที่นิยายแนวนี้จะถูกวิจารย์ในเชิงไม่ดี อาทิเช่น ส้ำซากจำเจ เดาทางง่าย ตัวละครผู้หญิงง่าย ทุกอย่างง่ายไปหมด บางเม้นต์ก็ร้ายแรงขนาดบอกว่า ‘นี่ไม่ใช่นิยายแต่เป็นสินค้า’ อืม ถ้าในมุมผมก็ไม่ได้รังเกียจอะไรหรอก ออกไปในทางชอบด้วยซ้ำ แต่ขอติหน่อยเถอะ ตัวร้ายส่วนใหญ่ในเรื่องแนวนี้โคตรจะไม่น่าให้อภัย คนอะไรมันจะเลวได้ขนาดนั้น เลวถึงแก่นแท้เลยพวกตัวร้ายในนิยายต่างโลกเนี่ย ไม่น่าให้อภัยที่สุด โง่ก็โง่ กระจอกก็กระจอกชิบหายเลย ไร้ความคิดความอ่าน กลับตัวก็ไม่เป็น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset