< < ช่วงคุยท้ายบท > >
จบกันแล้วนะครับสำหรับ Arc สงครามภายในอาณาจักรเนลยอน โดยที่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับหลากหลายตัวละคร และปมของมหามังกรเมื่อสองพันปีก่อน ต้องบอกเลยว่าปมของเนลยอนนี่ผมเขียนไปฮาไปน่ะครับ เพราะมันค่อนข้างไร้สาระ แต่ก็นั่นแหละ ถึงจะเป็นปัญหาที่ไร้สาระ แต่พอบานปลายแล้วมันก็ยากจะแก้ไข สุดท้ายก็เลยทำให้เกิดยุคสมัยอันมืดมิดขึ้นในเนื้อเรื่อง และเป็นปัญหาสืบต่อมาให้เรนผิดใจกับคนอื่นๆ
อย่างไรก็แล้วแต่ เวลาที่ผมเขียน Arc นี้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังท้าทายตัวเองในเรื่องของเวลาการเขียนอยู่ เพราะจำเป็นต้องลงหนึ่งวันต่อหนึ่งตอนตลอด พูดถึงข้อเสียคือผมอาจจะไม่ได้ขัดเกลาเนื้อหาได้ดีมากอย่างที่ควร ปกติเขียนวันเว้นวัน ในวันที่ไม่ได้เขียนผมจะนั่งคิดถึงบทต่อไป และจำลองสถานการณ์ในหัวแบบเบียวๆ แต่พูดถึงข้อดีตัวผมจะรู้สึกสดใหม่ตลอดเวลา เพราะผมต้องอยู่กับการเขียนทุกๆวัน วันละสองสามชั่วโมง หรือบางทีก็ลามไปห้าหกชั่วโมงเพราะเขียนติดต่อกันสองถึงสามตอน และมันก็ทำให้เนื้อเรื่องใกล้ถึงตอนจบเข้าไปเรื่อยๆ ต้องบอกว่าได้อย่างเสียอย่างกระมังครับ แต่ก็นั่นแหละ ผมรู้สึกสนุกในการเขียนอยู่ครับ
ในด้านเนื้อเรื่องของบทๆนี้ ผมชื่นชอบพาร์ทของวินที่สุด เพราะมันเป็นส่วนที่ผมเอาใจลงไปเล่นด้วยมากที่สุด ทั้งให้เวลาเยอะที่สุด หมกตัวเยอะที่สุด บิ้วอารมณ์ตัวเองเยอะที่สุด เป็นบทที่ผมเขียนไปน้ำตาไหลไปของจริงเลยละ รองลงมาก็คือเนื้อเรื่องของเบ็นจิโร่ กับเรน สองคนนี้ผมให้พอๆกันเลยถึงจะไม่มากเท่าไหร่ ส่วนจุดที่ผมรู้สึกผิดหวังในตัวเองที่สุดก็คือพาร์ทของเนลยอน เพราะผมไม่สามารถทำให้มันดีตามที่ผมคิดในใจได้ คือแรกเริ่มเดิมที ผมกะจะให้เนลยอนเด่นสุดด้วยซ้ำครับ แต่เขียนจริงๆดันไปทางวินมากกว่าซะอย่างนั้น กลายเป็นว่าผมต้องเปลี่ยนชื่อ Arc จากจุดจบของสงครามมหามังกร ไปเป็น Arc สงครามกลางเมืองของอาณาจักรเนลยอนแทนเลย จุดที่รู้สึกเขียนไม่ดีพออีกจุดก็คือพาร์ทของไรเดน เพราะผมไม่ได้ลงลึกที่ไรเดนเท่าไหร่ ทำให้มันขาดอะไรหลายๆอย่างไป ซึ่งน่าเสียดายมากจริงๆ เพราะไรเดน อาคาสะ ในหัวของผมพี่แกต้องยิ่งใหญ่กว่านี้ครับ .. แต่โดยรวมความพึงพอใจก็ออกไปทางกลางๆครับ มีจุดที่ผมชอบและไม่ชอบปะปนกันไป เทียบกับตอนที่ผมเขียนช่วงเกาะวาเรอร์ไม่ได้เลย ช่วงนั้นเป็นช่วงจุดพีคในความคิดผมแล้ว เพราะผมชอบทุกอย่างในบทนั้นเลย และตั้งใจว่า Arc ถัดไปนี่แหละจะเป็นของจริงเหมือนกับ Arc นั้น!!!! ตอนนี้ตัวผมไม่มีภาระหน้าที่ที่วุ่นวายแล้วเลยกลับมาใส่เต็มได้แล้วครับ
ด้านตัวละคร แน่นอน ผมชอบเบ็นจิโร่ที่สุดครับ รองลงมาคือวิน เบ็นจิโร่เป็นตัวละครที่ผมอาจจะรักพอๆกับลูกรักอันดับหนึ่งอย่างเคียวยะเลยก็เป็นได้ครับ เพราะเธอเป็นตัวละครที่โคตรจะเท่ ฉากโชว์เฟี้ยวๆที่หาได้ยากจากเรเซอร์ ก็สามารถพบเห็นได้จากคุณเธอนี่แหละครับ (ฮา) แต่เอาเข้าจริงๆตัวละครที่ผมให้เวลามากที่สุดก็คือวินนั่นแหละครับ ด้วยความที่ผูกพันธ์มานาน เพราะเธอออกมาตั้งแต่ช่วงแรกๆแล้วมีปูอะไรหลายๆอย่างมาตลอด ทำให้ผมก็คงบทบาทของเธอไม่แพ้เบ็นจิโร่ เรื่องของวินกับน้องสาว ทีแรกนะครับ ทีแรก ผมกะจะให้วินตายครับ แล้วน้องสาวรอด แต่สุดท้ายก็ฉุกคิดได้ว่าเรเซอร์ไม่ได้มาที่นี่เพื่อแพ้แล้วยอมรับสภาพของตัวเอง เรเซอร์ผ่านอะไรมามากมายเกินกว่าจะสิ้นหวังแล้วน่ะครับ สุดท้ายก็เลยให้หาทางรอดให้กับวิน และทางลงกับสองพี่น้องได้ดีที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้
พี่น้องมหามังกร ใน Arc นี้อย่างที่บอก ผมรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ลงลึกอะไรมากเท่าที่ควร ถึงต่อจากนี้พวกเขาจะยังมีบทเด่นบ้างก็ตาม แต่ก็น่าเสียดายจริงๆ เพราะนี่ควรเป็นบทที่พวกมหามังกรเด่นที่สุดน่ะนะ T T
ชินแม้จะบทไม่เยอะ แต่ผมก็พยายามอย่างมากเพื่อที่จะโชว์สกิลของชินให้ได้มากที่สุด เพราะนี่คือตัวละครที่ผมรักโคตรๆคนหนึ่งเลย
เคียวยะ บทนี้นี่จู่ๆก็สลัดตำแหน่งกระสอบทรายได้แล้วครับ ต้องยินดีกับเขาเลย อานิม่า โทมิเรีย พี่น้องมหามังกรเทียม ฮิโรชิ ฮิโรโตะ บลูเบน อลิซาเบธ บลาๆ หลากหลายตัวละครผมก็พยายามจะกระจายบทให้ทั่วถึง ไม่รู้ว่าตัวเองทำดีพอรึเปล่า แต่ก็คาดหวังในอนาคตว่าผมจะทำได้ดีกว่านี้ โดยที่ในเหล่าตัวละครเสริมทั้งหมดที่ว่ามา ผมชอบเขียนเรื่องของไรเดน อาคาสะ ที่สุดครับ รู้สึกเขียนได้มากกว่านี้ด้วยซ้ำ แต่ด้วยอะไรหลายๆอย่าง ตอนนั้นเลยเขียนบทพี่แกแค่นั้น และจบไป
ขาดไม่ได้เลยคือ เรน อย่างที่ทุกคนที่ติดตามมารู้ดี ผมชอบเรนมากครับ หมอนี่คือตัวร้ายที่เป็นเหรียญสะท้อนของพระเอก ทั้งคู่ต่างดิ้นรน และไม่ได้เก่งที่สุด มีอุปสรรคมากมาย เรียกได้ว่าสู้ชีวิตไม่ต่างกันเลยละ ในบทสรุปก็นั่นแหละ ได้พลังโกงมา ดันใช้ไม่เป็น พอใช้เป็นก็ไม่ทันการโดนไรเดนคุมกำเนิดเสียก่อน และตุยเอาดื้อๆเลย ฮาๆๆๆๆ เป็นตัวละครที่ตลกอะไรขนาดนี้
สุดท้ายนี้คือเรเซอร์ ไม่่พูดถึงไม่ได้ เพราะแกคือพระเอกของเรื่องครับ ในบทนี้เรเซอร์ไม่ได้จบลงในฐานะผู้แพ้เหมือนดั่งตอนบนเกาะวาเรอร์ ด้วยพลังของเรเซอร์และหลายๆตัวละคร ทำให้ช่วยวินรวมถึงสังหารเรนที่เป็นตัวอันตรายลงได้ ในมุมมองของเรเซอร์คนเดียว บทนี้คือการแก้กรรมความพ่ายแพ้ของตัวเองบนเกาะวาเรอร์ และแน่นอน ว่าจะปล่อยให้สบายใจเฉิบไม่ได้ครับ หลังจากจบ Arc นี้ ต่อไปจะเป็นโค้งสุดท้ายของเรื่องจริงๆแล้ว หลายอย่างจะเกิดขึ้นเร็วมาก และตัวเด่นบทถัดไปก็คือ ‘เบลลามี’ และ ‘ยูจิ’ ครับ สองตัวละคร จอมมารและผู้กล้าตามเรื่องราวที่ผมเคยกล่าวไว้ว่าจะเด่นที่สุดในเรื่องไม่แพ้เรเซอร์ เรื่องของเบลลามีจะมีเรื่องราวของเธอ มีตัวละครเด่นในเรื่องของเธอ เรื่องของยูจิจะมีเรื่องราวของเขา มีตัวละครเด่นในเรื่องราวของเขา และเรื่องราวของทั้งสองก็จะมีเรเซอร์ไปพัวพัน ก่อนที่บทสรุปของเรื่องจะปรากฏครับ
ทุกคนคงจะทราบกันดีว่าต้นเรื่องทั้งหมดคือสองตัวละคนนี้ ยูจิหรือออร่าที่คิดจะสังเวยมนุษย์ทั้งโลก เบลลามีหรือดิลุคที่คิดจะขัดขวาง ก่อนลงเอยด้วยการคิดจะทำลายโลก และสร้างโลกใบใหม่ กลายเป็นว่าทั้งสองได้สู้กันมานับครั้งไม่ถ้วน และเกิดการวนลูปนับครั้งไม่ถ้วนจากฝีมือของยูจิ และเกิดตัวบัคที่หลุดเข้ามาอย่างเรเซอร์ และมนุษย์ที่คิดจะสู้กับทวยเทพอย่าง เรน สี่ตัวละครนี้ คือตัวละครที่สำคัญที่สุดในเรื่องครับผม ซึ่งผมจะไม่บอกนะว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อ เพราะแค่นี้ก็สปอยไปซะเยอะเลย (ฮา)
และขอแจ้งนะครับ ว่านิยายเรื่องนี้จะจบภายใน เดือน 4 หรือไม่ก็ เดือน 5 ของปีนี้ครับ และผมก็กำลังวางแผนจะทำปกนิยายปกใหม่รวมถึงทำ After story มาให้ซื้ออ่านเล่นๆด้วยครับผม ถ้าหากว่าเสร็จเรียบร้อยแล้วจะมาแจ้งอีกทีนะครับผม
ในท้ายนี้ขอขอบคุณทุกคนที่ติดตามมาโดยตลอด ผมหวังอย่างยิ่งว่าจะมอบตอนจบที่ดีที่สุดของเรื่องให้กับทุกคนได้ครับผม ขอบคุณมากจริงๆครับ รอติดตาม Arc ต่อไปในวันพรุ่งนี้ได้เลย
โดยที่ผมจะขอตั้งชื่อ Arc ว่า ‘เด็กหนุ่มผู้สร้างวันสิ้นโลก’ ครับ