บทที่ 12 – เลทิเซีย ทีน อาเดฟ
นับตั้งแต่วันนั้นฉันก็จะแอบเข้าไปในปราสาท.. ซึ่งถ้าหากว่าเข้าไปได้ไงก็เพราะว่าพักหลังๆ ฉันสนิทกับราชินีเลยได้เข้าปราสาทบ่อย
ซึ่งนั่นก็หมายความว่าฉันรู้จักปราสาทไม่มากก็น้อย และด้วยมีพลังในการข้ามมิติด้วยทำให้ปราสาทแห่งนี้ฉันจะไปโผล่ที่ไหนก็ได้ไม่มีคนว่า
อ้อ.. ลืมบอกตอนฉันไปที่ปราสาทช่วงแรกไม่ค่อยได้จอกับองค์หญิงที่เคยถูกลักพาตัว เธอมีชื่อว่า โนร่า
สาเหตุที่เธอไม่เคยโผล่หน้ามาเพราะว่าเจ้าตัวถูกคุ้มกันไว้อย่างแน่นหนา เพื่อที่ไม่ให้เกิดเรื่องแบบนั้นอีก นอกจากนี้เธอยังต้องเรียนอะไรอีกมากมาย
ซึ่งทำให้เธอไม่ได้มีเวลาว่างได้เจอกับฉันเลย ซึ่งตามที่ราชินีได้กล่าวคนที่บอกเรื่องของฉันก็คือองค์หญิงคนนี้นี่แหละ
แถมเธอยังปรุงเสริมเติมแต่งว่าฉันเป็นคนดีสุดๆ .. ตอนแรกก็คิดว่าเธอเป็นเด็กดี แต่พอยิ่งฟังเรื่องที่เธอเล่าเกินจริงทำไมฉันรู้สึกว่าทุกอย่างเป็นเพราะเธอเลย
ฉันได้แต่ถอนหายใจออกมา…
แต่ผ่านไปนานเข้าเธอก็เริ่มมีเวลาว่างออกมาเจอกับฉันบ่อยขึ้น
และวันแต่ละวันก็ผ่านไปเช่นนี้ พลังเวทฉันเองก็เพิ่มขึ้นทุกวันในแต่ละวันช่วงกวางดึกฉันพยายามจะลองใช้เวทมนตร์ดูแต่ก็ไม่สำเร็จเลย
แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีอันไหนสำเร็จเลย มีเวทมนตร์หนึ่งซึ่งเป็นเวทมนตร์ออริจินัลที่ฉันรู้จักซึ่งมันสามารถทำให้เป็นจริงได้ง่ายมาก
ซึ่งนั่นคือเวทมนตร์เสริมพละกำลัง
เวทมนตร์ตอนเล่นเกมมันจะมีฉากหนึ่งที่ตัวประกอบที่มีบทบาทสำคัญสอนให้กับคนทั้งโรงเรียนเพื่อให้นักเรียนเก่งขึ้น
และฉันก็จำมาจากในเกมนั่นแหละ และดูเหมือนจะใช้งานได้จริง
คนที่สอนเวทมนตร์นี้ให้กับทุกคนในโรงเรียนเธอมีชื่อว่า
เลทิเซีย ทีน อาเดฟ
ในฐานะเกมจีบหนุ่มเธอเป็นแค่ตัวประกอบที่มีบทน้อยมากแต่ว่าทุกอย่างของเธอล้วนแล้วแต่สำคัญมากๆ ไม่ว่าจะสอนเวทมนตร์สุดยอดให้กับนักเรียน หรืออื่นๆ อีกมากมาย
ถ้าจะให้พูดแบบเข้าใจง่ายขึ้นมาอีก ถ้าพวกตัวเอกในเกมจีบหนุ่มคือตัวเอกของเกมที่เกมนำเสนอ
แต่เลทิเซีย ทีน อาเดฟ คงเป็นตัวเอกของโลกใบนี้ โลกในเกมที่มีเซตติ้งหลากหลายนั่นแหละ
หรือก็คือบทน้อยๆ แต่มีแต่บทอวยๆ ทั้งแต่เป็นแค่ตัวละครประกอบฉากแท้ๆ เธอคือหนึ่งในตัวประกอบที่ทำให้ฉันเล่นเกมนี้เลยก็ว่าได้
อันที่จริงไม่ใช่แค่ฉันหรอกที่ชอบเธอ แต่ก็มีหลายคนที่ชอบเธอในโลกเดิมของฉัน ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างตัวเล็กหรือผมสีดำสนิทของเธอ
มันทำให้บรรยากาศรอบตัวของตัวละครนี้ดูเด่นสะดุดตามากๆ แม้จะเป็นตัวประกอบก็ตามแต่
และ.. เหมือนฉันจะยังไม่เคยบอก
คนที่ฆ่าอนาสตาเซียที่โดนพลังแห่งความมืดบางอย่างเข้าครอบงำก็คือท่านเลทิเซียนี่แหละ ใช่แล้วแถมตอนที่ท่านเลทิเซียจัดการอนาสตาเซียน่ะ
เหมือนจะจัดการแบบ one hit เลยด้วย พอทุกคนเห็นฉากนี้จึงสรุปได้ว่าในโรงเรียนตัวประกอบตัวนี้คงมีพลังมากกว่าพวกตัวเอกอีก
นั่นเป็นอีกเหตุผลที่ทำไมคนถึงบอกว่าบทอวยตัวประกอบตัวนี้มาก
อ้อ สาเหตุที่ฉันเรียกท่านเลทิเซียว่าท่านน่ะเหรอ?
ก็แบบว่าบรรยากาศรอบตัวของท่านเลทิเซียดูยังไงมันก็ราชินีชัดๆ อะนะ.. แถมเธอเป็นองค์หญิงของอาณาจักรอาเดฟ
หนึ่งในอาณาจักรที่มีผู้กล้าปกครอง ซึ่งว่าง่ายๆ คือประเทศระดับแนวหน้านั่นแหละ ไม่ใช่สิ่งที่อาณาจักรไซลอปจะไปเทียบเคียงได้เลยด้วยซ้ำ
อาจจะเพราะเธอต้องเป็นราชินีในอนาคตเธอเลยถูกฝึก ถูกสอนมาแบบนั้นละมั้งนะ ฉันเองก็ไม่มั่นใจ
แต่ก็มีคนตั้งทฤษฎีเกี่ยวกับเธอในโลกเดิมฉันอยู่ว่า… เธอเป็นจอมมารคนที่สิบสามของโลกนี้..
ในโลกนี้มีเซตติ้งหลายๆ อย่างที่เหมือนกับเป็นโลกแฟนตาซีใบหนึ่งจริงๆ และจอมมารบนโลกนี้ก็ราชาของเหล่าปีศาจ
พวกเขาจะเหมือน ‘ผู้กล้า’ ของเผ่ามนุษย์.. มนุษย์นั้นจะมีผู้กล้าทั้งหมด 16 คน ในขณะที่จอมมารจะมีเพียงแค่สิบสองคน
และเหมือนตามบทที่ปูมาในเกม.. ผู้กล้านั้นจะแทนถึงสิ่งที่เรียกว่า ‘หมากรุก’ และหมากรุกในกระดานนั้นมี 16 หมาก
ผู้กล้าแต่ละคนจะมี ‘หมากแห่งผู้กล้า’ ในตัวอยู่หนึ่งคน.. และตามเนื้อเรื่องเหมือนจะมีเป้าหมายในการจีบคนหนึ่งได้รับไปอยู่ด้วย
ซึ่งเอาเป็นว่าก็ประมาณนั้น
ส่วนจอมมารจะแทนถึงจักรราศี ซึ่งอย่างที่รู้ๆ ว่าราศีทั้งสิบสองยังครอบคลุมถึงเดือนทั้งสิบสองเช่นเดียวกัน
แต่เมื่อไม่นานมานี้โลกเดิมของฉันก็ได้รู้จักสิ่งที่เรียกว่า ราศีที่สิบสามซึ่งเป็นราศีใหม่อีกด้วย
คนที่เชื่อว่าจอมมารถูกกำหนดตามจักรราศีจึงคิดว่าเลทิเซียคือจอมมารคนที่สิบสามดังกล่าวนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีมูลเพิ่มเติมว่า
โลกนี้ไม่ได้มีแค่สิบสองเดือนต่อปี.. แต่มีสิบสามเดือนต่อปี.. และวันหนึ่งไม่ได้มีแค่ 24 ชั่วโมง แต่มีถึง 26 ชั่วโมง
พอฟังมาถึงจุดนี้ก็คงคิดแหละว่าสรุปนี่มันเกมจีบหนุ่มหรือเกมเปิดโลกแฟนตาซี.. ใช่ ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกันนั่นแหละ
แต่ดูแล้วถ้าให้ฉันเดา พวกเขาคงมีแผนที่จะสร้างเกมแนวเปิดโลกตามมาทีหลังละมั้งนะ.. ดูจากเซตติ้งของโลกขนาดนี้แล้ว
“อนาสตาเซีย อนาสตาเซีย!”
“อนาสตาเซีย เฮ้ย เจ้าหยุดได้แล้ว หมอนี่มันจะตายเอานะ”
ฉันที่ตกอยู่ในห้วงความคิดก็ถูกสกาเล็ตดึงสติกลับมา.. ฉันก็เลยกลับมาในโลกความจริงพอเห็นภาพตรงหน้าก็ถึงกัวสะดุ้ง
“เอ่อ.. สกาเล็ตเธอทำอะไร..”
“ไม่ต้องมาโยนความผิดเลยนะ!เจ้าแหละ”
ที่อยู่ตรงหน้าฉันคือองค์ชายลำดับที่สามที่มีอายุพอๆ กับฉันเลย หมอนี่มีชื่อว่า อเล็กซาน เกรซ ดาร์โกน่า หนึ่งในเป้าหมายในการจีบ
ถึงฉันจะไม่ชอบผู้ชาย แต่ก็รู้ทันทีที่เห็นหน้าว่าเจ้าหมอนี่เป็นคนหล่อมากๆ คนหนึ่งเลยแหละ ก็นะเป็นตัวหลักของเกมที่ต้องให้ผู้เล่นชอบนี่น่า
แต่สภาพของเขาตอนนี้เหมือนจะซีดลงมาก เพราะโดนฉันดูดพลังเวท.. ตายละว้า ฉันเกือบฆ่าองค์ชายของอาณาจักรนี้ไปแล้วสิเนี่ย
ฉันใช้พลังของอัญมณีอเมทิสในการช่วยฟื้นฟูให้กับหมอนี่.. เพราะกลัวจะตายเอาก่อนจะแอบย่องกลับไป
“หายากนะเนี่ยที่เจ้าจะฟื้นฟูให้หมอนี่”
“ก็นี่คงเป็นวันสุดท้ายแล้วล่ะที่ฉันจะมาที่นี่”
“หืม ทำไมล่ะ?”
“ก็เวทมนตร์ฉันน่าจะไม่สามารถเพิ่มได้แล้วล่ะ.. ตอนนี้ฉันน่าจะใช้เวทมนตร์ข้ามมิติแบบไม่ต้องฟื้นฟูได้หลายสิบรอบเลย”
ฉันพูดแบบนั้น… แถมอีกอย่าง..
“ตอนนี้.. ฉันก็อายุ.. 12 ขวบแล้วด้วย”
“บางทีอีกไม่นานเจ้าหมอนี่ก็คงต้องไปที่โรงเรียน ส่วนฉันก็คงเจอปัญหาเรื่องรถม้ารับส่งทำให้ไปโรงเรียนล่าช้าอีกสองสามเดือน”
ใช่แล้วล่ะ.. นี่ก็ผ่านมาแล้วนับตั้งแต่ที่ฉันเกิดใหม่ได้สี่ปี!
4 ปีต่อมานั้น.. ตัวของโนร่าที่เป็นองค์หญิงได้ไปเข้าเรียนตั้งแต่ปีก่อนแล้ว เพราะเธออายุเยอะกว่าฉัน.. ฉันหมายถึงร่างอนาสตาเซียน่ะ
เธออายุเยอะกว่าหนึ่งปีนั่นเอง..
“ข้าชักคิดว่าเจ้าจะน่ากลัวขึ้นทุกวันเลยนะ พูดซะอย่างกับรู้ทุกอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้นเลยล่ะ..”
“ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก เดี๋ยวฉันก็ไม่รู้แล้วล่ะ..”
เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะเกมนี้มีฉากจบมากกว่าสามสิบรูปแบบยังไงล่ะ ช่วงแรกที่ฉันรู้เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่เกมเล่าก่อนจะเริ่มเกิดเส้นทางรูทแยกเท่านั้น
นั่นหมายความว่าสิ่งที่ฉันพูดไปคือก่อนจะเริ่มเกม.. และเมื่อเริ่มเกมและมันมีปรนัยมาให้เลือกเมื่อไหร่.. นั่นแหละเส้นทางของรูทนับสามสิบมันก็จะเปิดออก
แถมคนที่เลือกรูทแต่ละรูทไม่ใช่ฉันด้วย.. คือตัวเอกของเกมนี้ต่างหาก!
ตามเซตติ้งของเกมตัวเอกจะมีนิสัยเสือผู้ชายมากๆ ตอนเป็นเกมมันก็คงแทนเป็นตัวผู้เล่นได้ดีนั่นแหละ..
แต่เมื่อกลายมาเป็นเกม.. ฉันนึกภาพไม่ออกว่าตัวเอกเกมนี้จะเป็นตัวละครที่นิสัยเสียได้ขนาดไหน
และเมื่อมานั่งคิดว่าชีวิตแห่งความยากลำบากของตัวเองกำลังจะเริ่มขึ้น
“เฮ้อ.. ไม่อยากไปโรงเรียนเลยอ่ะ”
“ตอนแรกเจ้าบอกอยากไปไม่ใช่เหรอ?”
“ก็ใช่อยู่หรอก.. แต่พอมานึกๆ ดูแล้วที่นั่นมันอันตรายสุดๆ เลยนี่น่า”
“ถึงจะบอกแบบนั้น เจ้าก็เลือกไม่ได้หรอก เจ้าพ่อนิสัยเสียของเจ้าน่ะคงตั้งใจจะส่งเจ้าไปอยู่โรงเรียนเดียวกับคู่หมั้นแน่ๆ ”
“นั่นสินะ.. เฮ้อออออ”