บทที่ 21 – เผ่าอสูร
“เดี๋ยวนะ.. เดี๋ยวนะ อย่าบอกนะว่านายเป็นเผ่าอสูรน่ะ?”
“ก็ใช่อยู่หรอกนะ ประเภทมนุษย์นะ ทำไมเหรอ?”
นั่นไง.. ฉันว่าแล้ว.. ฉันกำลังคุยกับไอน์สไตน์ที่มาเกิดใหม่อยู่ล่ะเว้ย ขอลายเซ็นได้ปะ
แบบอัจฉริยะแห่งยุคสมัยผู้คิดค้นทฤษฎีมากมายที่ใช้ได้ยันปัจจุบันเลยนะ!แต่ว่าทำไมเกมจีบหนุ่มมันไม่ยักพูดถึงตัวละครตัวนี้เลยล่ะเนี่ย
“เผ่าอสูร.. เผ่าอสูรคืออะไรอ่ะ?”
คนที่ถามฉันไม่ใช่ใครอื่นนอกจากสกาเล็ต แน่นอนว่านอกจากฉันแล้วไม่มีใครได้ยินเสียงหรือมองเห็นเธอ เพราะเธอลอยอยู่ข้างๆ ฉันตลอด
แถมตอนสอบฉันเองก็ขอความช่วยเหลือจากเธอไปแล้ว แต่ฉันก็ได้สำนึกว่า ฉันผิดเองที่ขอความช่วยเหลือจากคนสมองเสื่อมน่ะนะ
กลับมาเรื่องอสูร เหมือนสกาเล็ตจะไม่รู้จักอสูร.. อันที่จริงในตอนนี้ในโลกนี้ก็ไม่มีใครรู้จักเผ่าอสูรหรอกนะ
สำหรับพวกเขาเผ่าอสูรคือชนเผ่าลึกลับที่ จู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นมาเฉยๆ แล้วบางทีก็ฆ่าไม่ตายด้วย แต่บางทีก็ดันโดนฆ่าตายง่ายๆ
เช่น บางคนทำผิดโดนโทษประหาร แต่กลับฆ่ายังไงก็ไม่ตาย แต่พอไปอยู่ในคุกไม่นานดันสิ้นลมตายเพราะช็อกซะงั้น
เป็นเผ่าพันธุ์ที่ลึกลับมาก แถม ‘มอนสเตอร์’ ในโลกนี้ก็คือ ‘เผ่าอสูร’ นั่นแหละแต่เป็นประเภท ‘มอนสเตอร์’ ซึ่งจัดอยู่ในประเภทที่จะทำร้ายสิ่งมีชีวิตอื่นโดยไม่สนอะไรนั่นเอง พวกเขาจึงเรียกพวกมันว่าอสูรมอนสเตอร์
แต่เพราะในโลกนี้มีเรื่องความหลากหลายทางเผ่าพันธุ์ พวกเขาถึงได้ยอมรับว่าอสูรประเภทอื่นที่ไม่ใช่มอนสเตอร์ จะถูกนับว่าเป็นชนเผ่าหนึ่งเลย
ฉันอธิบายความรู้ของโลกนี้ที่มีต่ออสูรไปแบบนั้น.. จากในเกมจีบหนุ่มที่อธิบายไว้อะนะ
“เอ๊ะ.. เป็นงั้นหรอกเหรอ…”
“แต่เดี๋ยวสิ.. แล้วเจ้ารู้ได้ไงว่าเขาเป็นเผ่าอสูรจากการฟังชื่อน่ะ?”
ก็นะ ต้องถามสินะ.. ฉันเองก็ไม่ได้คิดจะปิดบังอะไรหรอกนะ อาจจะเพราะโลกนี้เป็นโลกเกมที่คนโลกเดิมฉันเคยสร้าง
คอนเซปท์ต่างๆ ในเกม ผู้สร้างมันพยายามใส่มาให้ดูเป็นความแฟนตาซีแบบทันสมัย.. อะไรประมาณนั้น
ซึ่งเจ้าเผ่าอสูรเนี่ย ถึงทางตัวเกมจะไม่เคยบอกออกมาตรงๆ ก็เถอะ แต่ว่าเผ่าอสูรนี่มันคือการเอาชื่อของบุคคลในประวัติศาสตร์มาใช้นั่นแหละ
ถามว่าทำไมฉันถึงรู้..? หนึ่งในเป้าหมายในการจีบซึ่งเป็นเป้าหมายลับของเกมจีบหนุ่มเกมนี้มีชื่อว่า ‘อาเธอร์ เพนดราก้อน’ น่ะ
ซึ่งในยุคของฉันจะมีใครไม่รู้จักกษัตริย์อาเธอร์บ้างล่ะ.. จากเกม Fade Ko ก็ยังมีตัวละครตัวนี้ให้เล่นเลยนะ
และพอเอามารวมกับพวกตัวประกอบคนอื่นที่เป็นเผ่าอสูรแล้วมีชื่อคุ้นหูคุ้นตาอย่าง ‘ทสึรุฮิเมะ’ หรือ ‘ชาร์ล็อต กอร์แด’ อะไรพวกนี้น่ะ
ทำให้คนสรุปได้ว่าเผ่าอสูรคือการนำบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์มาเรฟเฟอเร้นออกมา.. แอบสปอยหน่อยแล้วกัน
เป้าหมายลับอย่างกษัตริย์อาเธอร์ จริงๆ แล้วมีรูทเป็นของตัวเองเพียงแค่หนึ่งรูท และรูทนั้นไม่ใช่รูทที่สมหวังด้วย
กล่าวคือไม่มีทางสมหวังกับตัวละคร อาเธอร์ เพนดราก้อน ได้นั่นเอง
แต่เอาเป็นว่าเผ่าอสูรคือสิ่งที่มีต้นแบบมาจากโลกเดิมของฉัน.. แถมยังไม่ได้นับจากแค่บุคคลในประวัติศาสตร์ แต่รวมถึงจากเทพนิยายต่างๆ ด้วย
เช่น พวกก็อปลิน โอกเกอร์ หรือออร์ค พวกอสูรประเภทมอนสเตอร์ก็มีลักษณะต่างๆ ที่คล้ายคลึงกับในตำนานปรัมปราของโลกเดิม
พวกเราที่เล่นเกมนี้จึงนิยามเผ่าอสูรไว้ดังนี้
อสูรประเภทมนุษย์ คือ บุคคลที่มีความสำคัญตามประวัติศาสตร์หรืออาจจะเป็นตัวละครจากชนเผ่ามนุษย์ที่หลุดออกมาจากนิทานกริมม์ เช่น ราพันเซล
อสูรประเภทปีศาจ คือ อาจจะหลุดมาจากตำนานต่างๆ ก็ได้เพราะโลกเดิมของฉันไม่มีปีศาจอยู่จริงๆ
อสูรประเภทเทพ คือ อาจจะเป็นมาจากตำนานเทพ… ดีไม่ดีฉันอยู่ในโลกนี้แล้วอาจจะได้คุยกับท่านเทพจากเขาโอลิมปัสก็ได้นะ
อสูรประเภทสัตว์ คือ อาจจะเป็นสัตว์ในนิทานปรัมปรา เช่นเพกาซัส หรือ มังกรเพลิง แต่ขอบอกอะไรหน่อยโลกนี้ก็มีมังกรที่ไม่ใช่มังกรที่เป็นเผ่าอสูรนะ
อสูรประเภทมอนสเตอร์ คือ พวกมอนสเตอร์หรือพวกปีศาจร้ายในนิทานปรัมปรา.. แต่รู้สึกว่ามอนสเตอร์บางตัวก็ไม่มีในนิทานด้วยนะ ซึ่งเดาว่าคงใส่มาเพื่อความหลากหลายของกีกี้ให้ตบเล่น.. ถึงจะไม่ใช่เกม RPG ก็เถอะนะ
ฉันเล่าให้สกาเล็ตฟังตามนี้ แน่นอนไม่ได้บอกว่าโลกนี้เป็นโลกเกม แค่บอกว่าพวกเผ่าอสูรเนี่ยเป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ของโลกฉัน
“ก็ประมาณนั้นนั่นแหละนะ ที่อธิบายไปก็อาจจะไม่ใช่ทั้งหมดนะ เพราะข้อมูลเรื่องนี้มันยาวมากใครมันบ้าไปนั่งอ่านทุกบรรทัดทั้งที่ไม่เกี่ยวกับการเคลียร์เกมล่ะ”
ฉันพูดออกไปแบบนั้น สกาเล็ตก็เอียงคอด้วยความสงสัย
“เคลียร์เกม?”
“อ๊ะ.. เปล่า ไม่มีอะไรหรอก แฮะๆ ”
ฉันหัวเราะแห้งๆ ..
“คุณอนาสตาเซีย? มีอะไรเหรอพึมพำอะไรคนเดียวมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ?”
ในตอนนั้นเองไอน์สไตน์ก็เอาหน้ามาใกล้ฉันมากพร้อมกับถามด้วยความสงสัย เพราะฉันมัวแต่คุยกับสกาเล็ต
แน่นอนว่าพอมีคนเข้ามาใกล้ขนาดนี้เป็นใคร ใครก็ต้องตกใจสิ ฉันถึงกับถอยหลังออกไปหลายก้าวทันที
“อ๊ะ หรือว่าคุณอนาสตาเซียไม่ค่อยถูกกับเผ่าอสูรแบบเราเหรอ..?”
จู่ๆ เขาก็พูดแบบนั้น ก็นะถึงจะบอกว่านอมรับความหลากหลายทางเผ่าพันธุ์แต่นี่มันโรงเรียนของเด็กที่เต็มไปด้วยอีโก้..
เอ่อ ฉันหมายถึงพวกชนชั้นสูงที่มั่นหน้าใส่กันน่ะ.. แถมพวกเขายังเป็นเด็กเลยกลายเป็นว่าอาจจะทำให้ยังมีการดูถูกกันอยู่
เขาทำหน้าเศร้าเล็กน้อย ฉันเลยรีบยกมือโบกไปมาเร็วๆ กลัวเขาเข้าใจผิด
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอก ฉันแค่จมอยู่กับความคิดของตัวเองนิดหน่อยน่ะ”
“งั้นเองหรอกเหรอ ค่อยยังชั่ว”
ว่าแล้วไอน์สไตน์ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก.. เฮ้ย ทำไมคุณไอน์สไตน์อัจฉริยะแห่งยุคสมัยฉันถึงได้มีท่าทางที่น่ารักแบบนี้ได้ล่ะเนี่ย
แถมไอน์สไตน์เป็นผู้ชายนะเฮ้ย.. เผ่าอสูรคือการนำเอาบุคคลในโลกเดิมฉันมาเป็นต้นแบบทุกอย่าง หมายความว่าไอน์สไตน์เป็นผู้ชายแท้
นี่ถ้าไม่บอกว่าเป็นไอน์สไตน์ ถึงเขาจะใส่ชุดผู้ชาย ฉันก็คงแอบเผลอคิดไปแล้วนะว่าหมอนี่เป็น สาวดุ้นแบบปลอมๆ น่ะ แต่ทำไมได้มีกิริยาน่ารักแบบผู้หญิงขนาดได้เนี่ย..
“แต่จะว่าไปคุณอนาสตาเซียรู้แล้วใช่ไหมว่า สอบภาคปฏิบัติเพื่อเป็นตัวแทนจะสอบอะไรบ้าง?”
“อืม.. ให้คนภายในห้องสู้กันเองแบบสุ่มใช่ไหมล่ะ คนที่สู้จบเร็วและชนะมากที่สุดจะได้รับคัดเลือกน่ะ”
จะไม่รู้ได้ไงล่ะ ก็ในเกมก็มีฉากแบบนี้นี่น่า.. ฉันถูกจัดให้อยู่ในห้อง A ซึ่งเป็นห้องเดียวกับพวกนางเอกกับเป้าหมายในการจีบนั่นแหละ
ส่วนคนที่จะชนะ ก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเป้าหมายในการจีบนั่นแหละ.. เป้าหมายในการจีบมีทั้งสิ้นห้าคน ไม่นับเป้าหมายลับอย่างอาเธอร์นะ
ซึ่งคนที่จะเป็นคนชนะคือคนที่นางเอกเลือก หมายถึงนางเอกเลือกจะเข้ารูทของตัวละครตัวไหนนั่นแหละ… แล้วแต่ตัวของนางเอกเลย
ซึ่งหน้าที่ของฉันคือการ… ขัดขวาง!
ถ้าหากขืนเป็นแบบนี้คนที่ชนะต้องเป็นเจ้าบ้าอเล็กซาน.. เพราะจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ฉันยืนยันได้แล้วว่าอีตัวเมี— ฉันหมายถึงนางเอกมันเลือกเจ้าอเล็กซาน
และมีโอกาสที่จะเข้ารูทที่ห้า.. มากขึ้นอีก.. ฉันต้องขัดขวางให้ได้ละเว้ย
“แต่การสอบรอบนี้เราคงช่วยอะไรคุณอนาสตาเซียไม่ค่อยได้หรอกนะ.. เพราะเราเองก็ไม่ได้มีความสามารถขนาดนั้นหรอก”
“ไม่เป็นไรหรอก ยังไงฉันก็ขอบคุณเรื่องในห้องเรียนนะ”
ก็นะ ฉันก็ไม่ได้หน้าด้านพอที่จะไปขอให้คนพึ่งจะรู้จักกันไม่นานช่วยหรอก.. และเรื่องเรียนสำหรับฉัน ฉันอาจจะไม่ถนัด
แต่เรื่องต่อยตี.. ฉันพร้อมแล้ว.. เวทมนตร์ที่แอบเอาเวทมนตร์ของท่านเลทิเซียมาใช้ กับพลังของอัญมณีสองสี
เอาล่ะ.. มาชิงตำแหน่งตัวแทนโรงเรียนเพื่อหลุดออกจาก Death flag ดีกว่า!
………..
[จะพยายามอัพวันละสองตอนครับ – ผู้เขียน]