บทที่ 22 – โยนถุงมือ
“คุณทูคะ.. ฉันขอถามค่ะว่า.. ตอนนี้โอกาสน่าจะเป็นที่ฉันอยู่รูทห้าคือเท่าไหร่คะ ?”
“คำตอบ—”
“อ่าา ไม่ต้องตอบก็ได้ๆๆ ”
“…”
ฉันเซเลน่า ‘ตัวเอก’ ของเกมจีบหนุ่มบ้ายอนี่ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เมื่อวานก็แทบจะนอนไม่หลับ แหงสิ.. โดนนางร้ายที่ชั่วร้ายที่สุดเกลียดเข้าให้แล้วล่ะ
แบบนี้จะทำยังไงดีล่ะเนี่ย!
และถึงฉันจะถามทูจังออกไปแบบนั้นพอจะได้ฟังคำตอบกลับรู้สึกกลัวขึ้นมาซะอย่างนั้น.. แต่ก็นั่นแหละว้า..
ก็คงเพิ่มมาเป็น 69% แล้วสินะ เจ็บปวดเหลือเกิน ฉันได้แต่ถอนหายใจหลังจากสอบข้อเขียนเสร็จ
ถึงฉันจะไม่ได้ฉลาดเท่าไหร่ และลืมบทเรียนที่เคยเรียนมาในชาติก่อนไปหมดแล้ว แต่เพราะได้รับการสอนมาเลยพอจำมาได้บ้างเลยไม่มีปัญหาอะไร
เอ่อ.. จริงๆ ฉันไม่ได้จำเองหรอก ฉันให้ทูจังจำให้น่ะ เทะเฮะ
น่า ทูจังก็เป็นพลังของฉันนี่น่า เพราะงั้นถือว่าไม่ผิดกฎล่ะ.. ในขณะสอบฉันก็แอบเหลือบไปมองดูคุณนางร้ายอนาสตาเซียอยู่บ่อยครั้ง
แต่เหมือนเจ้าตัวจะไม่ได้สนใจฉันเลย เหมือนกับว่าเมื่อวานไม่เคยมีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นมาก่อน.. ปกติถ้าเป็นตัวร้ายอย่างน้อยก็ต้องมีแบบจ้องด้วยความเกลียดชังไม่ใช่เหรอ
“ทูจังคิดว่าไง ทำไมเธอถึงดูไม่มาหาเรื่องฉันเลยล่ะ”
“คำตอบ ไม่สามารถระบุได้ แต่จากการสังเกตการณ์ดูเหมือนว่าฝ่ายนั้นจะเริ่มหาเพื่อนแล้ว”
“เอ๊ะ.. สถานการณ์แบบนี้อย่าบอกนะว่า…”
ฉันกลืนน้ำลายลงคอ อนาสตาเซียกำลังหาพรรคพวกมารุมแกล้งฉันตามสูตรนางร้ายในเกมจีบหนุ่มสินะ!
แย่ละสิ แบบนี้ก็ยิ่งเข้าใกล้รูทที่ห้ามากกว่าเดิมไม่ใช่หรือยังไงล่ะ ฉันควรทำไงดีล่ะเนี่ย ?
บ้าเอ๊ย ไหนจะต้องมาคิดมากเรื่องสอบภาคปฏิบัติอีกเนี่ย จากคำบอกเล่าของทูจังเมื่อคืนเพราะนอนไม่หลับ
ดูเหมือนว่าใครชนะการสอบครั้งนี้จะเป็นรูทของคนคนนั้น ซึ่งไม่ตลกเลยนะถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเจ้าอเล็กซานก็คงชนะสิ
แบบนั้นโอกาสการเป็นรูทห้าก็จะมากขึ้นอีกหลายสิบเปอร์เซ็น โอกาสเปลี่ยนรูทจะทำไม่ได้อีกแล้วนอกจากคาดหวังอีเว้นบางอย่างในอนาคตที่ทำให้เปลี่ยน
ดังนั้นสิ่งที่ฉันต้องทำในตอนนี้คือ ‘ขัดขวาง’ ไม่ให้เจ้าอเล็กซานมันชนะ และหยุดการสร้างพรรคพวกของอนาสตาเซียที่จะมาหาเรื่องฉัน
ก่อนอื่นเลยเมื่อกี้ฉันเห็นอนาสตาเซียคุยกับเด็กผู้ชายคนหนึ่ง การที่จะทำให้พรรคพวกของเธอไม่มารุมทำร้ายฉันก็คือ…
“คำตอบ เข้าไปทักและทำความสนิทสนมไว้ด้วยจะดีกว่าน่ะ”
“ทูจังเอวก็ฉลาดเหมือนกันนะเนี่ย!”
ฉันชมทูจังออกไปแบบนั้นโดยไม่ทันคิดเลยว่าทูจังนี่ฉลาดกว่าไอ้ตัวดิฉันอีกนี่หว่า .. แต่ช่างเรื่องหยุมหยิมนั้นไปก่อน
ฉันเดินไปหาเด็กผู้ชายคนนั้นที่พึ่งแยกจากอนาสตาเซียออกมา แต่ในตอนนั้นเองเจ้าอเล็กซานก็ปรากฏตัวขึ้น
“เอ่อ คือว่าเซเลน่า เรื่องเมื่อวานนั้นฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้นจริงๆ นะ ฉันแค่กลัวว่าเด็กคนนั้นจะมายุ่งเรื่องของเธอน่ะ”
ไอ้หมอนี่รีบพูดซะไม่ดูเลยว่ามีคนอีกคนหลายคนได้ยินอยู่ด้วย แต่จะว่าก็ว่าเธอเป็นผู้ชายที่นิสัยเสียจริงๆ เลย
ไม่ไปขอโทษคู่หมั้นตัวเองแต่มาเดินตามผู้หญิงคนอื่นแบบนี้เนี่ย.. ไอ้พวกที่ผู้หญิงเล่นเกมบ้านี่แล้วชอบตัวละครชายพรรค์นี้ มันชอบลงไปได้ไงเนี่ย
แถมเพราะเจ้านี่เลยทำให้อนาสตาเซียเกลียดฉันเข้าให้แล้ว ต่อให้จะเปลี่ยนรูทได้ในอนาคต แต่สุดท้ายสิ่งที่เกิดก็เกิดไปแล้ว เปลี่ยนแปลงไม่ได้
กล่าวคือ ฉันจะถูกเกลียดตลอดไป แค่คิดว่าต้องคอยมาหลบหนีว่าจะได้จบกับพวกห้าหน่อเป้าหมายในการจีบ
ยังต้องมาพะวงถึงนางร้ายที่อันตรายที่สุดอีก… ชีวิตน้อชีวิต ฉันได้แต่ถอนหายใจแล้วก็ดึงหน้ายิ้มพร้อมกับตอบด้วยความเป็นมิตรว่า
“ไม่เป็นไรหรอก แต่ท่านอเล็กซานอย่าลืมไปขอโทษเธอด้วยนะคะ ยังไงซะท่านอเล็กซานก็เป็น ‘คู่หมั้น’ เธอนะคะ”
ฉันพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่ปกติ แต่กระแทกเสียงตอนพูดคำว่า ‘คู่หมั้น’ แน่นอนว่าทำแบบนี้เพื่อเตือนสติมันว่า
อย่างน้อยเจ้าตัวก็เป็นคู่หมั้นเองนะ ไปหาเธอและขอโทษเธอหน่อยเป็นไง.. ถามว่าทำไมฉันไม่พูดตรงๆ ก็ฉันในตอนนี้อยู่ในสถานะที่พูดแบบนั้นไม่ได้น่ะสิ
เพราะถ้าพูดแบบนั้นตัวอนาสตาเซียคงจะยิ่งเกลียดฉันแบบประมาณว่า เหิมเกริมอะไรแบบนั้นน่ะ นิสัยขุนนางบนโลกนี้ก็ประมาณนี้แหละ
“คำตอบ.. คาดว่าฝั่งเจ้าชายอเล็กซานจะไม่คิดเช่นนั้น ตอนนี้บางทีเขาอาจจะคิดว่าผู้เล่นเหน็บแนมอยู่ กล่าวคือเขาคิดว่าผู้เล่นกำลังงอนเขาอยู่”
อ่าวเฮ้ย ไหงเป็นงั้นไปได้ล่ะเนี่ย ขืนมันคิดไปเองในทางแบบนั้นหมายความว่าตอนนี้ฉันเองก็มีใจให้มันเลยรู้สึกงอนไม่ใช่เรอะ
จะให้เจ้าอเล็กซานเข้าใจผิดแบบนั้นไม่ได้ แต่มันก็สายไปแล้ว เพราะเจ้าอเล็กซานมันพูดอย่างสำคัญตัวขึ้นมา
“ไม่ใช่แบบนั้นนะ สำหรับข้าแล้ว เจ้าสำคัญที่สุด”
เหลือจะเชื่อ พูดตรงนี้อะนะ.. ฉันกุมขมับอย่างช่วยไม่ได้ ทำไมเวลานี้พวกเป้าหมายในการจีบมันไม่อยู่ด้วยกันนะ
ถึงถ้าอยู่เยอะจะน่ารำคาญ แต่ให้มีคนมาขัดเจ้าคนคนนี้สักหนก็คงดีกว่า ไม่งั้นเจ้านี่คงทำตัวเหลวไหลแบบนี้ต่อแน่ๆ
แต่ในตอนนั้นเองเด็กผู้ชายที่คุยกับอนาสตาเซียเหมือนจะมองพวกเราอยู่ ก่อนจะถอนสายตากลับออกไปและกำลังจะเดินหนี
ฉันตกใจรีบวิ่งเข้าไปจับไหล่เขาโดยไม่คิดอีกแล้ว
“มีอะไร ?”
เขามองไปที่มือของฉันที่จับไหล่เขาก่อนจะมองมาที่ฉันด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่ ฉันถึงกับรีบดึงมือออกทันที
“เอ่อ.. คือว่า..”
“ฉันไม่มีธุระอะไรกับคนแบบพวกเธอ… ฉันหมายถึงคนที่ทำให้คนอื่นร้องไห้อย่างพวกเธอสองคนน่ะ”
….นั่นสินะค้าาา.. คุณอนาสตาเซียคงเล่าไปหมดเปลือกแล้วสินะค้าาาา ก็เธอกำลังสั่งสมกำลังคนมากระทืบฉันนี่หว่า
ต้องเล่าว่าเธอโดนอะไรมาบ้างอยู่แล้วสินะค้าาา.. ฮรือ! แบบนี้หมายความว่าฉันเตรียมตัวโดนดักตีแล้วสินะเนี่ย
ทั้งที่คนทำมันเจ้าอเล็กซานคนเดียวล้วนๆ เลยนะ ไม่เกี่ยวกับฉันสักหน่อย.. แต่ไอ้เซเลน่ามันเป็นตัวละครแบบนั้นเนี่ยสิ
ฉันได้แต่ถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่าย และรู้สึกผิดหวัง.. พอพูดเสร็จแล้วเด็กหนุ่มไม่ทราบชื่อก็เหมือนจะเดินจากไป
“เฮ้ เดี๋ยวสิ เจ้าน่ะคิดว่าคุยกับใครอยู่หรือไง ไม่คิดจะมีมารยาทให้เกียรติกันหน่อยเหรอ ?”
คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเด็กหนุ่มคนนั้นคือเจ้าอเล็กซาน.. จู่ๆ น้ำตาฉันก็ไหลออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ไอ้เด็กบ้านี่มันจะทำเรื่องปัญญาอ่อนอีกแล้ว
ฉันรีบไปดึงเสื้ออเล็กซานก่อนจะเงยหน้าขึ้นใช้สายตาอ้อนวอนขอร้องเขาว่า พอทีเถอะนะ ไอ้เด็กเปร— ขอละไว้ในความเหมาะสม
“เตือน การทำแบบนั้นอเล็กซานจะคิดว่า.. ผู้เล่นน้ำตาซึมเพราะโดนบุคคลตรงหน้าทำแบบนั้นใส่.. ผลลัพธ์มันจะตรงกันข้ามค่ะ”
“…….”
ฉันถึงกับพูดไม่ออก และเหมือนจะเป็นแบบนั้นจริง เพราะฉันดูใบหน้าอเล็กซานก็เห็นถึงความเดือดพล่านอย่างชัดเจน
โดยไม่รอให้อีกฝ่ายตอบอะไร อเล็กซานก็ถอดถุงมือออกมา.. ชุดนักเรียนทุกคนล้วนแล้วแต่สวมถุงมือทุกชุด
ถุงมือแต่ละคนนั้นสามารถเลือกดีไซน์ได้ตามใจของนักเรียนทุกคนเลยก็ว่าได้ และถุงมือของอเล็กซานก็คือถุงมือสีขาวสะอาดดูสมเป็นพวกขุนนางดี
เขาโยนถุงมือใส่หน้าอกของเด็กหนุ่มไม่ทราบชื่อคนนั้น
“เจ้าบอกว่าไม่ควรทำให้คนอื่นร้องไห้ แต่เจ้ากลับทำเธอคนนี้ร้องไห้อยู่ฝ่ายเดียวได้ จะบอกว่าคนนั้นร้องไห้ได้ แต่พอเซเลน่าร้องไห้เจ้ากลับไม่สนใจงั้นเหรอ ? ข้าขอท้าเจ้าดวล!”
ฉันถึงกับคอตก.. ไอ้เด็กบ้านี่มันจะหาเรื่องให้ฉันให้ได้เลยใช่ไหม? ก่อนอื่นฉันไม่ได้ร้องเว้ย แล้วก็ฉันน้ำตาเล็ดเพราะเอ็งด้วยนะ
แล้วไอ้การที่มันใช้คำพูดพยายามยัดเหยียดความผิดให้เด็กคนนี้อย่างเดียวเลยด้วย… เป็นคนที่นิสัยเสียจริงๆ
เด็กหนุ่มคนนั้นยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะก้มลงไปเก็บถุงมือ
“ก็ได้.. ฉันยอมรับการท้าดวลนั้น.. หวังว่าเราจะได้สู้กันในการสอบภาคปฏิบัตินะ”
เขาพูดแบบนั้นเสร็จก็เดินผ่านอเล็กซานไปพร้อมกับวางถุงมือของเจ้าตัวลงบนไหล่ของเขาซึ่งเป็นการแตะไหล่อเล็กซานไปในตัว
อเล็กซานที่เป็นถึงชนชั้นสูงคงไม่เคยโดนปฏิบัติเช่นนี้มาก่อน.. เขาจึงเลือดขึ้นหน้าตามมี่ฉันเดาไว้เป๊ะเลย
แต่ก่อนที่ชายคนนั้นจะจากไป เขาก็หยุดลงแล้วก็หันมาพูด
“อ้อ เมื่อกี้นายถามใช่ไหมว่าไม่คิดจะมีมารยาทหน่อย สินะ.. ฉันขอตอบด้วยละกันว่า ฉันคิดว่าการให้มารยาทหรือให้เกียรติกับคนที่ไม่มีมัน.. มันคือการเสียเปล่าโดยใช่เหตุน่ะนะ”
ฉิบหายแล้วค่าาาาาา ฉันมีศัตรูเพิ่มอีกหนึ่งคนแล้วค่าาาา
ไม่ไหวแล้ว หัวจะปวดเหลือเกิน
ไม่เอาแล้ว กับไอ้โลกบ้าบอพรรค์นี้!!!!!