บทที่ 23 – การสอบภาคปฏิบัติ
ฉันแอบมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ห่างๆ .. จะว่าแอบก็ไม่ถูกหรอกนะเพราะฉันเดินออกมาแล้วพอหันกลับไปก็เห็นยัยนางเอกที่ชื่อเซเลน่ากำลังคุยกับไอน์สไตน์
ถึงจะไม่ได้ยินสิ่งที่คุยกันก็ตาม แต่สิ่งที่เกิดอยู่มันก็ไปซ้อนทับกับฉากฉากหนึ่งที่อยู่ในหัวของฉัน
ใช่.. จู่ๆ เจ้าอเล็กซานก็ถอดถุงมือแล้วโยนถุงมือใส่ไอน์สไตน์ แล้วไอน์สไตน์ก็หยิบมันขึ้นมา ไอ้ฉากแบบนี้แหละ ฉันจำได้แล้วมันอยู่ในรูทที่ห้านี่หว่า
แต่ถ้าจำไม่ผิดตัวละครที่โดนท้าประลองตรงนี้จะไม่ใช่ไอน์สไตน์นี่น่า แต่เป็นนางร้ายคนที่สองถัดจากฉันอ่ะ
ซึ่งตอนนั้นถ้าจำไม่ผิด ตัวของอนาสตาเซียได้เป็นเพื่อนกับนางร้ายอีกคน แล้วยัยนางเอกเซเลน่าที่เหม็นขี้หน้าฉันเพราะเป็นคู่หมั้นกับอเล็กซาน
แผนยัยเซเลน่าคือจะทำให้อนาสตาเซียกับนางร้ายเบอร์สองแตกคอกัน และยัยเซเลน่าต้องการจะให้นางร้ายเบอร์สองเจอดีอีกด้วย
หรือก็คือยัยเซเลน่าจะยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว..
เพราะอนาสตาเซียเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองให้นางร้ายเบอร์สองฟัง ซึ่งเซเลน่าคาดเดาเรื่องนั้นไว้แล้ว
แน่นอนว่านางร้ายเบอร์สองก็ถูกแย่งเป้าหมายในการจีบซึ่งเป็นเพื่อนสมัยเด็กของเธอไป จนทำให้เธอไม่ชอบเซเลน่าเป็นเดิมทีอยู่แล้ว พอได้ฟังอนาสตาเซียอีก
เซเลน่าเลยรู้ว่าถ้าเข้าไปทัก ยัยนางร้ายเบอร์สองจะวีนแตกใส่ทั้งนังเซเลน่าและอเล็กซาน แล้วเจ้าอเล็กซานก็จะโกรธจนท้าดวลกับผู้หญิงอะนะ
รอบนี้เหมือนกันแต่เปลี่ยนจากนางร้ายเบอร์สองเป็นไอน์สไตน์แทน และดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนของยัยเซเลน่านั่นด้วยสินะ
ถ้าถามว่าแล้วอนาสตาเซียจะผิดใจกับนางร้ายเบอร์สองทำไม? นั่นก็แน่อยู่แล้วเพราะอนาสตาเซียชอบอเล็กซาน
ซึ่งตัวนางร้ายเบอร์สองก็ใช่ว่าจะมีพลังน้อยๆ ด้วย.. ซึ่งทันอาจจะทำให้อเล็กซานได้รับบาดเจ็บเล็กๆ น้อยๆ
และผู้เป็นที่รักมาตลอดหลายปีถูกเพื่อนพึ่งรู้จักทำร้าย แล้วคิดว่าอนาสตาเซียจะโทษใครล่ะ นอกจากเพื่อนคนนั้นถูกไหม
เพราะที่อนาสตาเซียเล่า ไม่ได้เล่าว่าเจ้าอเล็กซานเป็นคนผิด เพราะเธอชอบมันละนะ ดังนั้นเธอเลยเล่าใส่ร้ายป้ายสีให้นังเซเลน่าแทน
แต่นางร้ายเบอร์สองถือเป็นบุคคลที่สาม สำหรับอนาสตาเซียอาจจะคิดว่าการที่อเล็กซานทำแบบนั้นอาจจะเพราะถูกนังเซเลน่าทำก็จริง
แต่ส่วนใหญ่ก็มาจากสันดานของอเล็กซานนั่นเอง.. ดังนั้นสำหรับนางร้ายเบอร์สองทั้งนังเซเลน่าและอเล็กซานก็สันดานเสียทั้งคู่
แต่ตอนนี้คนที่เป็นอนาสตาเซียคือฉันคนนี้ต่างหาก ไอน์สไตน์กระทืบมันให้เละเลยนะ ฉันเชียร์นายเต็มที่ ให้มันแพ้เลยจะได้ไม่เข้ารูทที่ห้า
แต่ยัยเซเลน่าคงจะเชื่อสนิทใจล่ะนะ ว่าอเล็กซานชนะแน่ๆ
แต่ฉันเชื่อว่าคนที่จะชนะคือไอน์สไตน์อย่างแน่นอน!
“หึๆ …”
“หัวเราะพึมพำอะไรของเจ้าอยู่คนเดียว”
“สกาเล็ต เธออยากดูคนโดนอัดไหมล่ะ ฉันหมายถึงไอ้อเล็กซานนั่นโดนอัดน่ะ”
“ไอ้คนที่ทำเธอร้องไห้น่ะนะ?”
“ฉันไม่ได้ร้องไห้นะ!”
ยัยนี่ยังจะมาแขวะฉันอยู่อีก แต่ช่างเถอะตอนนี้ฉันอารมณ์ดี.. แต่ขอบอกไว้ก่อนยัยเซเลน่าถึงจะไม่อยากยอมรับ
แต่ตอนที่ควบคุมหล่อนตอนเป็นเกม เธอน่ะฉลาดมาก ฉลาดกว่าฉันซะอีกในฐานะเด็กอายุสิบสามขวบเธอฉลาดเกินคนไปเยอะมาก
เพราะงั้นฉันจะตายใจไม่ได้ จะไม่ให้ทุกอย่างเป็นไปตามแผนของเธอหรอก ฉันจ้องไปที่ยัยนางเอกเซเลน่าด้วยความเป็นศัตรูคู่อาฆาต
ทั้งเรื่องเมื่อวาน และตอนนี้.. รวมถึงที่ตะเกิดขึ้นในอนาคต.. ฉันจะต้องชนะเธอให้ได้ยัยคนชั่วร้าย!
เออ… แต่จะว่าไปถ้าเนื้อเรื่องเป็นตามเกมแต่เปลี่ยนแค่ตัวละครจากนางร้ายเบอร์สองเป็นไอน์สไตน์จริงๆ
แล้วไอน์สไตน์รู้เรื่องที่ฉันโดนพวกเซเลน่าแกล้งเมื่อวานได้ไงหว่า ฉันไม่ได้เป็นคนบอกนะ..?
อืมมม.. ในขณะที่ใช้ความคิดอยู่นั่นก็มีคนคนหนึ่งพุ่งกระโดดใส่ฉันจากด้านหลังพร้อมกับตะโกน
“ในที่สุดเจ้าก็มาสักทีนะ อนาสตาเซีย!!”
เธอกอดฉันจากด้านหลังโดยที่ฉันไม่ตั้งตัว.. ฉันถอนหายใจออกมาเล็กน้อยพร้อมกับพูดขึ้น
“องค์หญิงคะ สำรวมหน่อยค่ะ ที่นี่ไม่ใช่ในปราสาทนะคะ”
“เอ๋ ทำไมกันล่ะ ทำไมอนาสตาเซียถึงได้ทำตัวเย็นชากับข้าขนาดนั้นล่ะ ข้าเศร้าใจนะ อุตส่าห์ไม่ได้เจอกันตั้งนาน”
ว่าแล้วเธอก็น้ำตาซึมออกมาด้วยความน่าสงสาร ผมสีทองยาวที่ดูเป็นเอกลักษณ์ของเธอนั้นโลกไปมาเพราะเจ้าตัวเอาหน้ามาถูไถกับหน้าของฉัน
คนคนนี้คือองค์หญิงโนร่าแห่งอาณาจักรไซลอป หรือก็คือพี่สาวของเจ้าอเล็กซานนั่นแหละ ถึงจะบอกว่าเป็นพี่ แต่พี่น้องในอาณาจักรไซลอปก็แทบไม่ได้คุยกัน
เพราะมีการแย่งชิงบัลลังก์กันอยู่ละนะ พี่น้องทั้งสามคนเลยไม่ได้เป็นคนที่สนิทกันขนาดนั้น
ฉันกับเธอสนิทกันพอสมควรละนะ เพราะฉันถูกแม่เธอเรียกไปหาบ่อยๆ และเธอจะชอบเข้ามาคลอเคลียฉัน
ไม่ใช่ว่าฉันไม่ชอบหรอกนะ แต่สาวสวยประเภทเอเนอร์จี้เยอะแบบนี้ มันรับมือยากน่ะ ถ้าได้เป็นแฟนกันละก็คงแบกรับความต้องการของเธอไม่ไหวหรอก
ถามว่าทำไมฉันถึงรู้เหรอ
เพราะฉันก็เคยมีแฟนที่เป็นผู้หญิงอยู่.. เธอเป็นเพื่อนสมัยเด็กของฉันและเราก็รู้จักกันมานานมาก เธอคนนั้นเป็นคนที่ร่าเริง
ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่เคร่งเครียดขนาดไหนก็ทำให้เป็นเรื่องตลกได้ คนที่อยู่รอบๆ เธอก็จะพลอยรู้สึกสงสารปนขำกับความบ๊องของเธอบ่อยครั้ง
แต่เธอเป็นคนที่มีพลังงานเยอะแบบองค์หญิงนี่แหละ.. เป็นเหตุผลที่พออยู่ตรงหน้าองค์หญิงฉันเลยไม่ได้รู้สึกอยากกอดอยากถูไถเธอเหมือนสาวๆ คนอื่นละนะ
“ทำไมข้ารู้สึกเหมือนกำลังโดนอนาสตาเซียนินทาอยู่ในใจล่ะเนี่ย”
“ไม่ได้ทำค่ะ”
“ไม่ใช่ว่าแอบคิดว่ายัยนี่ น่ารำคาญ อยู่หรอกใช่ไหม”
“รู้ดีนิคะ.. เอ้ย ฉันหมายถึงไม่ได้คิดค่ะ”
“เจ้านี่น้าาา ไม่น่ารักเอาซะเลย”
ก็ถ้าถามถึงความสัมพันธ์ของพวกเราก็คงสนิทกันประมาณนี้แหละ
“จะว่าไป องค์หญิงเป็นคนบอกทางโรงเรียนสินะว่าฉันน่ะเรียนเก่งพอจะอยู่ชั้นปีสองด้วยซ้ำ”
“อ้ะ.. เอ๊ะ เป็นงั้นเหรอ ฉันได้บอกไหมนะ?”
พอได้ยินฉันถามเธอก็เหล่ตาไปด้านข้างพร้อมกับผิวปากเฉไฉด้วยความสับสนอยู่พอสมควรเลย
ดูท่าเธอพอจะเดาได้แล้วสินะว่าวันนี้ฉันเจอปัญหาแบบไหนมา เพราะไม่กล้ายอมรับออกมาตรงๆ แบบนั้นน่ะ
“เฮ้อ ฉันไม่โกรธหรอกค่ะ ที่ทำไปเพราะให้ฉันเข้าเรียนที่นี่ได้ใช่ไหมล่ะ?”
“อืมๆ ใช่แล้วล่ะ!เจ้าเองก็เข้าใจสิยะ สมกับเป็นอนาสตาเซียของข้า”
“ซะเมื่อไหร่ละคะ วันนี้ฉันเกือบโดนไล่ออกไม่พอ คุณก็เกือบโดนไปด้วยนะคะ คุณสารภาพออกมาเองแล้วด้วย แล้วก็ฉันไม่ใช่ของคุณด้วย”
“อนาสตาเซีย เจ้าคนโกหก!”
ว่าแล้วเธอก็วิ่งหนีจากฉันไปแทบจะทันทีเพราะกลัวความผิด ฉันอดที่จะขำออกมาไม่ได้ เฮ้อ.. แต่ก็นะคงต้องขอบคุณเธอนั่นแหละ
แต่จะว่าก็ว่าเธอ ห่างออกไปไม่กี่เมตรก็มีน้องชายเธอยืนหัวโด่อยู่ตรงนั้น ไม่คิดจะเข้าไปทักจริงๆ เลยสินะ เป็นครอบครัวที่เย็นชาซะจริง
และในตอนนั้นเองระฆังในหอนาฬิกาก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงประกาศ..
“หมดเวลาสอบข้อเขียนแล้ว ห้องไหนยังมีนักเรียนที่สอบไม่เสร็จ คนคนนั้นจะถูกตัดสิทธิ์ทันที และคนที่ผ่านข้อสอบข้อเขียนตามรายชื่อนี้ กรุณาไปยังสถานที่ต่างๆ ตามที่ระบุด้วยค่ะ”
“ห้อง A …. (รายชื่อ) ”
รายชื่อต่างๆ ถูกร่ายออกมา แน่นอนไม่ใช่แค่ห้อง A แต่ยังรวมไปถึงห้อง Bและอื่นๆ อีกด้วย
แน่นอนว่ารายชื่อห้อง A ต้องมีฉันและไอน์สไตน์ รวมถึงนังนางเอกของเกมอย่างเซเลน่าและพวกห้าเป้าหมายในการจีบด้วยนั่นเอง
เอาล่ะ.. ถึงจะมั่นใจว่าไอน์สไตน์คงชนะแน่ๆ แต่ต้องเตรียมตัวสำหรับสิ่งไม่คาดฝันด้วย
ฉันก้าวเดินไปยังสถานที่ที่ทางประกาศได้บอกไว้พร้อมกับคนอื่นในห้อง A
ฉันจะต้อง.. เป็นตัวแทนโรงเรียนให้ได้!