บทที่ 36 – นางร้ายคนที่สาม ลูซิเรีย
“ในการแข่งขันเฟสเตอร์ ข้าจะเอาคะแนนมากกว่าเจ้ามาให้ได้เลยคอยดูสิ!”
เธอพูดแบบนั้นก็พ่นลมหายใจออกมาใส่ฉันทีหนึ่งก่อนจะหันหน้าแล้วก็เดินจากไปแบบนั้น ถึงฉันจะบอกว่าจะสนิทกับเธอให้ได้ก็เถอะนะ
แต่จะสนิทยังไงฉันก็ต้องพิจารณาอีกที แถมชื่อเธอฉันก็ยังไม่รู้จักด้วยซ้ำ. อันที่จริงถ้าฉันไม่เข้ารูทที่เจ็ดนี้คนที่เป็นตัวแทนห้อง B ก็ไม่ใช่เอล์ฟคนนี้หรอก
คนที่ชนะการคัดเลือกจะเป็นอีกคนหนึ่ง แต่ทำไมพอฉันได้เป็นตัวแทนคนที่ชนะถึงกลายเป็นเอล์ฟผมทองคนนี้กันนะ
ในเกมไม่เคยกล่าวถึงด้วยสิ เอาเป็นว่า.. ช่างมันก่อนถึงฉันจะคิดไปตอนนี้ยังไงก็ไม่มีทางรู้เรื่องหรอก
อีกอย่างตอนนี้ที่ฉันต้องโฟกัสไม่ใช่เรื่องพวกนี้ ถึงเอล์ฟผมทองจะสำคัญกับฉันมากก็ตาม แต่ตอนนี้ถ้าโลกยังเป็นรูทนี้ต่อไปละก็..
ฉันได้ตายแน่
ฉันรีบมุ่งหน้ากลับไปที่หอพักพร้อมกับครุ่นคิดถึงวิธีการหลีกเลี่ยงรูทที่เจ็ดมากมายในหัว ในตอนนั้นเองฉันก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังเดินตามคนอีกคนไปหลังหอพัก
อืม.. คนคนนั้นมัน.. ฉันครุ่นคิดอยู่สักพักหนึ่งก็แอบตามไปดู เพราะคนที่เดินนำแม้จะไม่เห็นหน้าแต่ฉันก็รู้สึกคุ้นๆ อยู่บ้าง
พอเดินตามไปจนมาถึงหลังหอพัก ใต้ต้นไม้ที่ไม่มีใครเดินเข้ามาฉันก็ได้ยินเสียง ‘เพี๊ยะ’ ดังขึ้น
ด้วยความตกใจฉันรีบวิ่งไปแอบดู… กลุ่มผู้หญิงเกือบสิบคนยืนล้อมเด็กผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ โดยมีผู้หญิงคนหนึ่งยืนต่อหน้าเด็กผู้หญิงที่ถูกล้อม
แถมคนที่ตบยังเป็น… คนที่ถูกล้อม
ใช่ ฟังไม่ผิดหรอก คนที่ถูกล้อมไม่ได้โดนตบ แต่เป็นคนตบอีกฝ่ายต่างหากล่ะ ฉันคิ้วกระตุกทันที ว่าแล้ว…
นางร้ายคนที่สามของเกมจีบหนุ่มนี่นั่นเอง สีหน้าของเธอดูดุร้ายกว่าฉันเยอะเลย ที่หมายถึงหน้าฉันดุร้ายเพราะเป็นหน้าของอนาสตาเซียหรอกนะ
เธอไว้ผมสั้นจนดูเหมือนสาวแมน แต่ก็มีปอยผมข้างหนึ่งยาวลงมาจนถึงไหล่ เธอผมสีแดงแบบเดียวกับฉันนั่นแหละ แต่ผมของเธอเป็นสีเข้มกว่าฉันเยอะ อีกทั้งดวงตาของเธอยังมีสองสีคือสีแดงตาซ้าย สีขวาตาสีขาว
มองดีๆ เหมือนตาขวาเธอบอดเลยด้วยซ้ำ แต่ไม่ได้บอดหรอกนะ.. นางร้ายที่มีนิสัยรุนแรงที่สุดในนางร้ายทั้งหมด
ลูซิเรีย อาเรส คริมสัน… แต่นางร้ายคนนี้แตกต่างจากอนาสตาเซียหรือแคลร์โดยสิ้นเชิง เพราะเธอไม่เคยชอบตัวละครที่เป็นเป้าหมายในการจีบเลย
อ้อ เธอเป็นนางร้ายในรูทของเจ้าเด็กเปรตนีโอนั่นแหละ เธอน่ะเกลียดเจ้านีโอเข้าไส้เลยล่ะ เพราะนีโอนั้นเป็นต้นเหตุในเรื่องแย่ๆ หลายๆ อย่างในชีวิตเธอ
แม้เธอจะไม่ใช่คนที่ชอบนีโอ แต่เธอก็ยังเป็นนางร้ายของรูทเจ้านีโอ.. เธอจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อทำให้เซเลน่าไม่ได้คู่กับนีโอ
แน่นอนว่าเธอไม่ใช่คนใจดีขนาดที่อยากจะช่วยเซเลน่าให้ไม่ตกเป็นเหยื่อของนีโอ ที่เธอขัดขวางเธอแค่ต้องการให้เจ้านีโอมันไม่สามารถมีความสุข
แถมในรูท Bad end ของเจ้านีโอคนที่ถูกจับเจ้านีโอหลอมรวมกับเซเลน่าก็มีเธอนี่แหละ ลูซิเรีย
แต่อย่างไรก็ตามมีรูทหนึ่งที่เธอถูกขนานนามว่า ‘แม่มดสีแดงฉาน’ (Crimson Witch) ด้วย พลังของเธอพอๆ กับแคลร์เลยล่ะ
แม้หากสู้กันตรงๆ แม่มดสีแดงฉานที่เป็นประเภทระยะกลางหรือไกลจะไม่อาจสู้สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งวัลพูร์กิสได้เลย
แน่นอนว่า เป็นแค่การคาดเดาของคนเล่นละนะ ไม่มีบทไหนที่ทั้งแคลร์และลูซิเรียต้องมาสู้กันหรอก
พอเป็นลูซิเรียฉันก็ได้แต่ยืนมอง..
“นี่เจ้า.. บังอาจมากเลยนะกล้าตบหน้าแม้แต่ข้าคนนี้ยังงั้นเหรอ?”
“ทำไม ข้าตบแล้วจะทำไม?”
เหมือนลูซิเรียไม่พอใจเธอก็ฟาดตบอีกข้างมันซะเลียจนเกิดเสียงดังสนั่นขึ้นอีกครั้ง แก้มของอีกฝ่ายแดงทั้งสองข้างเสมอกัน
“จะ… เจ้า!! ข้าจะเอาเรื่องนี้ไปฟ้องท่านพ่อและที่โรงเรียนว่าเจ้าทำร้ายร่างกายข้า!”
หญิงสาวคนนั้นมีน้ำตาไหลออกมาจากแก้ม น่าสงสารดีแท้ แต่ลูซิเรียก็หัวเราะเยาะใส่
“อะไร เมื่อกี้พวกเจ้าก็จะตบข้าไม่ใช่เหรอ มือไม่เร็วเท่าข้าก็เลยร้องไห้จะฟ้องคนนู้นคนนี้ว่างั้นเหอะ ไปเลยข้าไม่กลัวหรอก ข้าทำเพื่อป้องกันตัวนี่น่า พวกเจ้ามากันเป็นสิบ”
เธอปากแซ่บเหมือนในเกมจริงๆ เลยนะแม่คุณ จำได้ว่าเวลาเธอพูดแต่ละครั้งนี่เหมือนเธอเลี้ยงสุนัขไว้ในปากเลยแหละ
สาบานได้ว่าตอนเป็นเกมฉันมีข้ามบทพูดเธออยู่บ้างละเพราะเธอด่าทีนี่.. เจ็บแสบแทนยัยเซเลน่าเลยล่ะ
“มะ.. ไม่ใช่สักหน่อย ข้าแค่จะมาบอกว่าอย่าเข้าใกล้ท่านนีโอให้มันมากนักแค่นั้นเอง..”
“อะไร คิดว่าข้าอยากเข้าใกล้มันหรือไง เหม็นสาบยังกับแมลงสาบแค่คิดถึงก็จะอ้วกแล้ว ข้าจะไปเข้าใกล้มันทำไม ห้ะ?”
“ไม่ต้องทำมาเป็นพูดเลย เจ้าน่ะเป็นเพื่อนสมัยเด็กกับท่านนีโอใช่ไหมล่ะ เลยจะฉวยโอกาสนี้เข้าใกล้”
เฮ้ยๆ ถามจริง มีบทแบบนี้อยู่ในเกมจริงเหรอเนี่ย ลูซิเรียก็เป็นนางร้ายเหมือนพวกเธอนะ มาหาเรื่องนางร้ายด้วยกันทำไม
ใช่ พวกนี้คงเป็นหญิงสาวผู้ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ว่าไอ้นีโอมันเลวบัดซบยังไง.. แต่ก็นะคนที่ควรไปรังแกคือยัยเซเลน่านู้น..
อ้ะ.. หรือว่าคนพวกนี้ก็ถูกยัยเซเลน่าชักจูงละเนี่ย?
“เพื่อนสมัยเด็ก กับไอ้หน้าหมานั่นอะนะ? ข้าเนี่ยนะ?”
โดยอีกฝ่ายยังไม่ตอบลูซิเรีย เธอก็ยกมือขึ้นฟาดหน้าอีกฝ่ายจนดัง ‘เพี๊ยะ’ อีกรอบพร้อมกับตะโกนออกมา
“อย่ามาล้อเล่นนะ ถ้าข้าจะเป็นเพื่อนกับไอ้หน้าหมานั่น ข้าเป็นเพื่อนกับไส้เดือนดินจะยังดีกว่า”
“ค่อก.. ท่าน.. ท่านนีโอไม่ใช่หมา.. แต่เป็นแมวต่างหาก”
“จะเป็นห่าไรของมันก็ช่างมันสิ”
ยัยนี่ยกมือขึ้นอีกรอบ เพื่อนของผู้หญิงคนนั้นที่ยืนล้อมอยู่ก็กลัวท่าทางดุร้ายของลูซิเรียจนถอยห่างออกไปจนหมด
เธอจะดุร้ายเกินไปแล้วนะเฮ้ย ปล่อยไว้แบบนี้คงไม่ดีเท่าไหร่ฉันรีบเดินเข้าไปจับแขนของลูซิเรียที่พยายามตบอีกฝ่ายเอาไว้
ก็แหม ถ้ารุนแรงกว่านี้ยัยนี่จะโดนไล่ออกได้น่ะสิ ถ้าโดนไล่ออกแล้วถ้าหากในอีเว้นเฟสเตอร์นี้ ยัยนางเอกเลือดจะเปลี่ยนไปรูทนีโอหรือรูทฮาเร็มละก็
เท่ากับว่าฉันเสียพวกพ้องไปตั้งหนึ่งคนนะ เพราะงั้นคงจะให้เป็นแบบนั้นไม่ได้หรอก
“อะไรของเจ้า.. เจ้าเป็นใคร มายุ่งอะไรเรื่องของคนอื่นเขา?”
“ฉันไม่คิดว่าการทำร้ายร่างกายเพื่อนนักเรียน จะเป็นเรื่องของคนอื่นไกลนะ”
“อ้อ.. เจ้ามันไอ้คนที่ได้ตัวแทนโรงเรียนสินะ”
“ฉันว่าพวกเรามาคุยกันดีๆ ก่อนนะ.. ฉันว่าเธอคงไม่อยากใช้อารมณ์ตัวเองนำความคิดจนเกิดเรื่องแบบเดิมที่เคยเกิดขึ้นกับน้องสา—อุ้บ”
ไอ้หย้า.. เผลอพูดในสิ่งที่คิดกับตัวละครนางร้ายนี้มาตลอดซะได้ ก็แหม ตอนเป็นเกมบางครั้งฉันก็เคลียร์เกมไม่ได้เพราะยัยคนนี้นี่น่า
อีกอย่างหล่อนชอบทำตัวเป็นเจ้าอารมณ์ด้วย ซึ่งเกี่ยวกับอดีตของเธอถูกเผยออกมาคือ… เพราะความเจ้าอารมณ์ของเธอเลยทำให้น้องของเธอต้องตาย..
ซึ่งตอนที่ลูซิเรียควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ฉันเองก็โกรธเป็นบางครั้งและอยากจะพูดคำนี้กับเธอจริงๆ แต่ก็นะ.. ถ้าพูดเรื่องคงแย่แน่ๆ
แต่พอมาโดนเธอหัวร้อนใส่แบบนี้ก็อดกลั้นที่จะพูดไม่ได้เลย.. ฉันหันไปมองหน้าลูซิเรียที่จ้องมาที่ฉันด้วยสายตาแข็งค้าง
“แกเป็นใคร..?!”
เธอหันมาจ้องฉันด้วยสายตาเป็นปฏิปักษ์ชัดเจน.. นั่นสิน้า.. คงเป็นแบบนี้สิน้าา ไอ้ปากนิสัยเสียของฉันเอ้ยยย
“เปล่าหรอก เมื่อกี้ฉันไม่ได้พูดกับเธอหรอก!”
“อย่ามาตลกนะ ทำไมแกถึงรู้เรื่องของฉันได้!!”
“…ค่อยพูดค่อยจานะ”
ถึงฉันจะพูดแบบนั้นแต่ด้านหลังเธอก็มีวงแหวนไฟปรากฏขึ้นมาแล้ว.. ฉิบหายแล้วค่า.. ไอ้นี่มันท่าที่อันตรายสุดๆ จนทำให้เธอถูกเรียกว่าแม่มดสีแดงฉานไม่ใช่เหรอ
เธอใช้มันได้เร็วขนาดนี้เลยเหรอ ขี้โกงอ่ะ!
“หุบปาก!แล้วก็คนแบบแกไม่มีสิทธิ์ที่จะมาพูดถึงน้องสาวของฉันด้วย!”
พูดเสร็จยัยนี่ก็ยิงพลังออกมาพร้อมที่จะฆ่าฉันเต็มที่เลยเว้ย.. เฮ้อ ก็เพราะแบบนี้ยัยนี่เลยเป็นนางร้ายที่ฉันไม่ถูกชะตาด้วยที่สุด
ในขณะที่ฉันกำลังจะโต้ตอบนั้นเอง
“หยุดนะ!”
เสียงที่เต็มไปด้วยความตกใจและไม่ชอบใจของเด็กสาวคนหนึ่งก็ดังขึ้นพร้อมกับแสงสีขาวที่สาดส่องลงมาจากอีกด้านหนึ่งของหลังต้นไม้
ส่งผลให้พลังของลูซิเรียแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ เธอคนนั้นรีบวิ่งมาทางนี้ในเวลาเดียวกันกับที่สลายพลังของลูซิเรีย
แต่เจ้าตัวก็ดันสะดุดหินล้มกลิ้งกับพื้นซะอย่างนั้นพร้อมกับร้อง “โอ้ย” ออกมาเบาๆ
ฉันก็หันไปมองต้นเสียงและ…
เธอคนนั้นก็คือ.. นางร้ายคนที่สี่.. ที่มาอยู่ที่นี่ได้ไงก็ไม่รู้เหมือนกัน