บทที่ 61 – เขตเฟสเตอร์
นี่ก็ผ่านมาประมาณหนึ่งสัปดาห์แล้วนับตั้งแต่ที่การแข่งขันเฟสเตอร์รอบสุดท้ายได้เริ่มขึ้น แม้ก่อนหน้านี้พวกเราจะอยู่ด้วยกัน
แต่ตอนนี้ก็ถูกแยกแล้วละนะ.. อ้อ พวกเราที่ว่าคือหมายถึง ฉัน แคลร์ ลูซิเรียและแครอลลิน่า.. อ้อลืม อีกคนก็ยัยเซเลน่า
แน่นอนว่าเมื่อเกมเริ่มขึ้นกฎได้ถูกอธิบายอย่างคร่าวๆ ในทันทีตามที่ฉันเข้าใจมาจากในเกมเลยนั่นแหละนะ เก็บเมจการ์ดเพื่อชัยชนะ
แน่นอนว่าสิ่งที่ฉันคิดจะทำ.. หรือแผนการของฉันนั้นได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เมื่อการแข่งขันได้เริ่มต้นขึ้น ฉันอยู่ในเขตที่ 2
ซึ่งในความจริงแล้วนางร้ายอนาสตาเซียควรจะอยู่ในเขตที่ 1 แต่ก็ไม่มีใครรู้เรื่องนั้นหรอก เอาเป็นว่าช่างเรื่องนั้นไปก่อน
มาเข้าแผนการหลักของฉัน อย่างที่บอกว่าตอนนี้ต่างจากเกมคือตัวฉันได้เป็นตัวแทนโรงเรียน ทำให้คนหลายคนต้องการจะมาแย่งชิงการ์ดของฉันเพื่อเพิ่มระดับสีของเมจการ์ดทุกใบในหน้าตัก
แต่ก็อย่างที่บอกว่าฉันเตรียมรับมือไว้แล้ว สิ่งที่ฉันทำคือให้เมจการ์ดไปกับใครสักคนก่อน แน่นอนว่าฉันให้ไปตั้งแต่วันแรกเลยนั่นเองเมื่อเป็นแบบนี้ทุกคนแทนที่จะพุ่งเป้ามาที่ฉันก็จะพุ่งเป้าไปที่คนคนนั้นแทน
แต่อย่าลืมว่านี่มันพึ่งจะเริ่มการแข่งขัน นอกจากเมจการ์ดที่ตัวเองดูแลอยู่ ก็ไม่มีเ มจการ์ดอื่นนั่นเอง ทำให้คนจะไม่สนใจที่จะมาแย่งชิงกับคนคนนั้นสักเท่าไหร่
และแน่นอนว่า คนคนนั้น ก็เป็นคนจากโรงเรียนอื่น… ฉันไม่มีทางให้คนในโรงเรียนเดียวกันร่วมมือกับแผนการนี้ได้หรอก
เพราะว่าพวกคนในโรงเรียนเดียวกันน่าจะยังอคติกับฉันในเรื่องนี้อยู่แน่ๆ และแน่นอนว่าคนคนนั้นที่ว่าก็ไม่ใช่คนรู้จักฉันด้วย
แต่แบบนั้นแหละดีแล้ว.. ฉันเสนอผลประโยชน์ให้เจ้าคนนั้นคือ เมจการ์ดสีทองของฉันจะอยู่กับเขาตลอดสิบห้าวันจนกว่า เมจการ์ดจะเลื่อนขั้นการ์ดได้อีกรอบ
ซึ่งแน่นอนว่าเมจการ์ดสีทองของฉันบรรจุเวทมนตร์พิเศษเอาไว้ สำหรับเขาก็คงเป็นเหมือนตั๋วรอดชีวิตใบหนึ่งดีๆ นี่เองนั่นแหละ
แน่นอนว่าถึงคนอื่นจะรู้ว่ามีคนแย่งการ์ดจากตัวแทนนักเรียนได้ แต่พวกเขาไม่รู้หรอกว่าการ์ดของตัวแทนเป็นการ์ดสีอะไร
ดังนั้นจึงไม่เป็นปัญหาในการจ้องถูกแย่งชิงอย่างแน่นอน ความสัมพันธ์ของฉันกับคนแปลกหน้าต่างโรงเรียนคือผลประโยชน์ร่วมกันนั่นเอง
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือไม่มีแม้แต่ความเชื่อใจหรืออะไรทั้งสิ้น… แต่ว่าแบบนั้นแหละดีแล้ว ฉันที่เห็นอนาคตของการแข่งขันครั้งนี้รู้ว่าพวกตัวประกอบที่เป็นเมต้าอยู่โรงเรียนไหนบ้างละนะ
นอกจากนี้คนที่จะได้รับเลื่อนขั้นการ์ดในมือได้ต้องเป็นคนต่างเขต.. แล้วก็ต่างโรงเรียนด้วยละนะ เพราะงั้นร่วมมือกับโรงเรียนเดียวกันไปก็ไม่ได้หรอก
แน่นอนคนคนนั้นที่มาร่วมมือกับฉันคือคนจากโรงเรียนเอเรียส … โรงเรียนคู่อริเลยก็ว่าได้ละนะ
กลับมาตอนนี้.. เมจการ์ดสีทองของฉันอยู่ในมือของฉันแล้วตอนนี้ เพราะหลังจากนั้นเจ้าคนที่ร่วมมือด้วยรีบไปหาเก็บการ์ดในส่วนกลางจนเจอดีเข้า
เลยใช้การ์ดสีทองของฉัน.. พอใช้เสร็จมันเลยเทเลพอร์ตกลับมาที่เดิม และฉันก็รีบแก้ Puzzle แล้วเอามันมาถือไว้กับตัวเองจะปลอดภัยกว่า
นอกจากนี้ฉันยังเอาการ์ดอื่นไปวางแทนที่ไว้แทนเพื่อหลอกตาว่า.. การ์ดของฉันยังอยู่ในนั้น.. แค่นี้ต่อให้ไม่อยู่เฝ้าการ์ดตัวเองก็ไม่มีปัญหา
เอาเถอะ ถึงจะมีความเสี่ยงที่ว่าฉันอาจจะโดนดักปล้นการ์ดก็ได้หรอก แน่นอนฉันใช้พลังของการ์ดทองที่ตัวเองต้องปกป้องไม่ได้ก็จริง
แต่ ในมือของฉันตอนนี้มีการ์ดอยู่ไม่น้อย เพราะตลอด 7 วันที่ผ่านมาได้ไปรวบรวมมา… เอาล่ะ ตอนนี้ฉันกำลังมุ่งหน้าไปเขตส่วนกลาง
อย่างที่บอกเขตเฟสเตอร์หรือมิติพิเศษแห่งนี้มีความกว้างมาก และมันมีลักษณะเหมือนเกาะรูปดาวขนาดใหญ่… จะแบ่งออกเป็น 6 โซน
5 โซนคือแฉกทั้ง 5 ของดาว โซนทั้งห้าคือที่แบ่งให้นักเรียนออกไป โดยจะสุ่มทั้งโรงเรียนไปอยู่แต่ละโซนแตกต่างกันออกไป ส่วนตรงกลางคือเขตส่วนกลางมีแต่อันตรายและของรางวัลอันล้นเหลือ
ฉันอนาสตาเซียอยู่โซนที่ 2 ซึ่งนับเป็นแฉกที่ชี้ไปทางซ้ายบนนั่นแหละ.. ส่วนเขตที่ 1 ก็คือแฉกที่ชี้ไปทางซ้ายล่าง
3 ชี้ไปด้านขวาล่าง 4 ชี้ไปขวาบน.. และสุดท้าย โซน 5 คือชี้ไปด้านบนเป็นรูปดาวที่สมบูรณ์แบบ
โซน 1 กับ 2 ค่อนข้างใกล้กัน.. แต่กลับถ้าจะไปโซน 3 กับ 4 ก็ต้องผ่านเขตส่วนกลางที่อันตรายละนะ
ฉันอยู่โซน 2 ส่วนลูซิเรียอยู่โซนที่ 1 .. เซเลน่า โซน 5, และแคลร์อยู่ 4 สุดท้ายคือแครอลลิน่าอยู่เขตที่ 3
อ้อ แล้วก็คนที่ฉันร่วมมือด้วยอยู่เขตที่ 4 ซึ่งแคลร์อยู่ด้วย ฉันรู้กฎของเกมนี้ดีเลยสามารถเอาเมจการ์ดตัวเองไปให้ได้
นอกจากนี้การไปทำสัญญากับคนที่อยู่เขตใกล้ๆ อย่าง 1 ไม่ก็ 5 แบบนี้ฉันมีโอกาสจะโดนหักหลังและปล้นของได้ง่ายๆ
เพราะงั้นจึงเลือกที่จะร่วมมือกับคนที่อยู่ห่างกันจนเอื้อมไม่ค่อยจะถึงเท่าไหร่
ตอนนี้ฉันยังเหลือเวลาอีกประมาณ 8 วัน การ์ดของฉันที่เป็นตัวแทนที่มีคุณสมบัติในการเลื่อนขั้นระดับของการ์ดอื่นจะฟื้นฟูกลับมา
และก่อนที่ตอนนั้นจะมาถึงฉันจึงต้องเตรียมแผนการรับมือ…ตอนนี้ฉันกำลังซุ่มอยู่ในพุ่มไม้… ถ้าฉันเข้าใจไม่ผิดละก็…
“ไว้ใจฉันได้เลย!”
เสียงที่น่าหมั่นไส้ที่สุดสำหรับฉันดังขึ้นห่างออกไปไม่ไกลมากนัก.. เจ้าของเสียงคือเจ้าอเล็กซานนั่นแหละ หมอนี่ก็เป็นตัวแทนโรงเรียนเหมือนกัน
แน่นอนเป้าหมายของฉันไม่ใช่การมานั่งอวยคู่หมั้นตัวเองแต่อย่างใด..
“ลูซิเรีย.. ทวนแผนอีกรอบสิ?”
“ห๊า… นี่เจ้าคิดว่าข้าจะลืมหรือไง?”
“ใช่น่ะสิ เธอเป็นคนชอบใช้กำลังก่อนคิดนี่น่า”
“….”
คนที่อยู่ข้างๆ ฉันคือลูซิเรีย พวกเราร่วมมือกันตั้งแต่ตอนแรกแล้วล่ะนะ เพื่อชัยชนะที่เด็ดขาด ถึงฉันจะไม่รู้เป้าหมายของลูซิเรียว่าทำไมถึงอยากชนะก็เถอะ
แต่ถ้าเธออยากจะชนะเป็นที่หนึ่งแทนเจ้าพวกเป้าหมายในการจีบ ฉันก็พร้อมสนับสนุน ฉันเองก็อยากรู้ด้วยสิว่านางเอกอย่างเซเลน่าจะรู้สึกยังไง
ลูซิเรียเหมือนจะอยากต่อยกับฉันสักยก แต่เธอก็รีบสูดหายใจก่อนจะพึมพำ
แผนของฉันกับลูซิเรียคือการแย่งเมจการ์ดจากพวกที่เป็นตัวแทนทุกคนในโรงเรียนลิเบอร์ สาเหตุที่ฉันทำอย่างนี้เพราะต่อให้ฉันขโมยไป
ก็จะไม่มีเสาแสงโผล่ออกมา และจะไม่มีการแสดงหน้าฉันว่าฉันขโมยให้การ์ดที่มีความสามารถในการเลื่อนขั้นการ์ดอื่น
เพราะเงื่อนไขการเลื่อนขั้นการ์ดคือต้องอยู่ต่างโรงเรียนด้วยนั่นเอง นั่นจึงแปลว่าต่อให้ฉันขโมยมันก็ไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้การ์ดของตัวแทนลิเบอร์อยู่กับฉันนั่นเอง
ซึ่งการทำให้โรงเรียนอื่นไม่ได้การ์ดที่สามารถเลื่อนขั้นการ์ดของตัวเองได้เป็นข้อได้เปรียบใหญ่หลวง แม้การ์ดในเขตเฟสเตอร์จะมีเยอะแยะมากมาย
แต่แน่นอนว่าการ์ดสีทองนั้นมีน้อยมาก ไม่ถึง 20 ใบเลยด้วยซ้ำ หากไม่นับการ์ดที่อยู่ในมือนักเรียนคนที่ทำการสอบสองรอบแรกได้ดีน่ะ
แต่ตรงกันข้ามการ์ดระดับต่ำกว่าแค่ระดับเดียวอย่างสีเหลืองกลับมีหลายร้อยใบซึ่งนั่นหมายความว่ายังไง
พวกคนที่ฉลาดๆ ต้องมองข้อได้เปรียบข้อนี้ออกแน่ ดังนั้นในช่วง 15 วันแรกพวกเขาคงจะพุ่งเป้าไปที่การหาการ์ดเหลืองมาเยอะๆ
ก่อนที่จะไปแย่งการ์ดตัวแทนของใครสักคนนั่นเอง.. เพียงแค่นี้พวกเขาก็จะมีการ์ดสีทองเต็มไม้เต็มมือแล้ว…
และหน้าที่ของฉันคือลดจำนวนผู้ที่สามารถทำแบบนั้นได้ก็พอ.. นักเรียนที่เป็นตัวแทนมีทั้งหมด 25 คน และหากฉันดำเนินตามแผนนี้
ตัวแทนจะเหลือเพียง 21 คนรวมฉัน ส่วนคนอื่นในโรงเรียนลิเบอร์ต่อให้ปล้นยังไงก็ไม่มีทางได้นั่นเอง… หรือก็คือการที่ฉันทำแบบนี้คือการลดโอกาสที่อีก 4 โรงเรียนที่เหลือจะเก่งขึ้นนั่นแหละ
แน่ในทางตรงกันข้ามโรงเรียนลิเบอร์จะไม่ได้รับผลกระทบอะไรมากนั่นเอง อย่างน้อยก็เป็นแผนที่ดีสำหรับฉันและโรงเรียนลิเบอร์
“ถ้ามันดีแบบนั้นจริงละก็.. ทำไมเธอไม่ไปพูดคุยกับตัวแทนโรงเรียนดีๆ ล่ะ?”
นั่นคือสิ่งที่ลูซิเรียถามฉันตอนฉันบอกแผนการนี้ให้เธอฟัง..
“แน่นอนสิ เธอคิดว่าทุกคนที่เป็นตัวแทนจะยอมมอบสิทธิ์ในการปกป้องการ์ดให้คนอื่นจริงๆ เหรอเพราะในการแข่งขันเฟสเตอร์ต่อให้ไม่ได้คุณสมบัติเลื่อนขั้นการ์ด แต่ก็ยังได้คะแนนจากการ์ดและความสามารถจากการ์ด”
“นอกจากนี้ต่อให้ตัดเรื่องที่ว่าไป พวกที่เป็นตัวแทนได้ก็ต้องมีความเก่งกาจมาก.. และมันก็ต้องตามมาด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม คิดว่าพวกที่มั่นใจว่าตัวเองเก่ง จะยอมฝากของสำคัญไว้กับคนอื่นเหรอ?”
“แบบนั้นก็เหมือนการที่พวกเขายอมรับนั่นแหละว่าตัวเองไม่ได้เก่งพอจะปกป้องด้วยตัวเอง.. เฮ้อ คนมันก็แบบนี้แหละ”
“ศักดิ์ศรีมันค้ำคออ่ะนะ”
ฉันพูดอธิบายออกไปแบบนั้น ลูซิเรียก็ยอมรับได้และพวกเราก็เลยร่วมมือกันนั่นเอง พวกเราซ่อนในพุ่มไม้เงียบๆ
“แล้วเธอมั่นใจเหรอว่าตอนนี้คนที่ชื่ออเล็กซานถือการ์ดตัวเองไว้กับตัว”
“แน่นอนสิ.. เพราะยัยนั่นแหละ”
ฉันชี้นิ้วไปที่อีกคนซึ่งยืนอยู่ข้างๆ อเล็กซาน แน่นอนว่าไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเซเลน่า.. ก็นะ ถึงฉันจะเป็นคนแนะนำหล่อนไปเองว่าวิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือการเอาการ์ดเก็บไว้กับตัวตอนก่อนจะเข้ามาในเขตเฟสเตอร์นี้
แต่ในความจริงต่อให้ไม่มีฉันบอก ยัยเซเลน่าก็เข้าใจกฎเกมแล้วก็ใช้ประโยชน์จากมันวางแผนอยู่ดี หรือก็คือตอนเป็นเกมยัยนี่เป็นคนบอกวิธีเก็บการ์ดให้กับเป้าหมายในการจีบ
เลยทำให้อเล็กซานเก็บการ์ดไว้กับตัวนั่นเอง