“…ลิงมาจากไหนคะเนี่ย?” เย่ฉูฉู่เดินยืดท้องออกมา มองปราดเดียวเธอก็เห็นลิงที่อยู่บนกองสินค้า จึงพูดด้วยความสงสัย “เหวินเทา ทำไมคุณถึงซื้อลิงกลับมาล่ะ?”
จ้าวเหวินเทาเห็นลิงน้อยตัวนี้ ก็เกิดอาการหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกทันที
ทำไมลิงตัวนี้ถึงมาอยู่บนรถของเขา!
แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาซื้อ จ้าวเหวินเทาจึงอธิบายกับภรรยาของเขาไปหนึ่งรอบ
เย่ฉูฉู่หัวเราะ เธอมองลิงน้อยพลางกล่าว “ฉลาดจริง ๆ เลยค่ะ คุณช่วยมันไว้ มันก็เลยรู้ว่าคุณเป็นคนดี ถึงได้ตามกลับมาด้วย แต่มันทำได้ยังไงกันนะ?”
จ้าวเหวินเทาส่ายหน้า “ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันวิ่งมาได้ยังไง ตอนแรกบนคอของมันยังมีเชือกอยู่เลย”
แต่เขารู้ดีว่าชายร่างบางคนนั้นไม่ได้เป็นคนปลดเชือกแน่นอน แต่เป็นฝีมือของลิงน้อยที่ปลดเชือกเอง ถึงอย่างนั้นก็เถอะมันตามเขามาตั้งแต่เมื่อไรกัน ทั้งยังขึ้นมาอยู่บนรถของเขาด้วย?
ลิงน้อยกวาดตามองของที่อยู่บนรถครู่หนึ่ง จากนั้นก็กระโดดลงมาจากรถ
“เจี๊ยก ๆ!” ลิงน้อยทำท่าจะพุ่งไปข้าง ๆ เย่ฉูฉู่
จ้าวเหวินเทารีบห้ามในทันที พร้อมกับชี้หน้ามัน “อย่าเข้ามานะ!”
ภรรยาของเขากำลังตั้งครรภ์อยู่ สัตว์เหล่านี้มีนิสัยดุร้าย หากเกิดเรื่องอะไรขึ้น เขาจะไปร้องไห้กับใคร?
“เจี๊ยก ๆ!” ลิงน้อยร้องออกมาสองเสียง จากนั้นก็แบฝ่ามือออก บนนั้นมีลูกอมหนึ่งเม็ด
เย่ฉูฉู่ยืนมองอยู่ด้านหลังจ้าวเหวินเทา ลิงน้อยยังเล็ก แต่สายตาของมันกลับเต็มไปด้วยจิตวิญญาณ อีกอย่างตอนนี้เย่ฉูฉู่ก็กำลังตั้งครรภ์ทั้งยังมีความรักของความเป็นแม่คนเกินขอบเขตไปแล้ว ภายในใจจึงอดเห็นอกเห็นใจไม่ได้ กล่าวว่า “เหวินเทา คุณไม่ต้องกังวลขนาดนี้หรอก มันกำลังให้ลูกอมฉันอยู่น่ะ”
ระหว่างที่พูดเธอก็เดินออกมาหยิบลูกอมเม็ดนี้จากลิงน้อย
ลิงน้อยส่งเสียงร้องเจี๊ยก ๆ ราวกับมีความสุขอย่างมาก
จ้าวเหวินเทาก็ยิ้มเช่นกัน “เจ้าตัวเล็กนี่ฉลาดนะเนี่ย รู้จักเอาใจนายหญิงในบ้านด้วย”
“เหวินเทา ลิงน้อยตัวนี้คุณจะทำยังไงกับมัน จะเลี้ยงไว้หรือจะปล่อยกลับเข้าไปอยู่บนภูเขา?” เย่ฉูฉู่มองลิงน้อยพลางกล่าว
การเลี้ยงลิงนั้นไม่มีปัญหาอะไร แต่จ้าวเหวินเทากลัวว่ามันจะทำให้ภรรยาของเขาได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นจึงพูดว่า “ให้มันอยู่ที่นี่รักษาบาดแผลสักสองสามวันแล้วกัน รอให้แผลหายดี ค่อยพามันไปปล่อยบนเขา มันจะได้ไปเจอเพื่อนด้วย”
อันที่จริงเย่ฉูฉู่อยากเลี้ยงลิงน้อยที่ฉลาดปราดเปรื่องตัวนี้มาก เป็นเพราะจ้าวเหวินเทาต้องออกไปข้างนอกบ่อย ๆ ในบ้านจึงเหลือแค่เธอเพียงคนเดียว จึงเกิดความเหงาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นจึงอยากเลี้ยงไว้แก้เหงา
เธอเองก็ไม่ได้คัดค้านกับคำพูดของจ้าวเหวินเทา ถึงอย่างไรลิงน้อยก็เป็นสัตว์ป่า ให้กลับคืนสู่ธรรมชาติย่อมเป็นการดีที่สุดแล้ว
“ในบ้านยังมียา ทำแผลให้มันก็แล้วกันนะ” เย่ฉูฉู่กล่าว
บนตัวของลิงน้อยมีแผลเยอะมาก อีกอย่างเนื้อตัวของมันก็สกปรกมอมแมม ดังนั้นไม่เพียงแค่ต้องทำแผล แต่ยังต้องอาบน้ำให้มันด้วย
จ้าวเหวินเทาหยิบอุปกรณ์อาบน้ำมา จากนั้นก็พามันไปอาบน้ำข้างแม่น้ำ
ลิงน้อยเชื่อฟังเป็นอย่างมาก ไม่ได้มีการต่อต้านใด ๆ แถมยังปล่อยให้จ้าวเหวินเทาทำความสะอาดมันอย่างว่าง่าย แต่ก็มีแยกเขี้ยวบ้างเมื่อรู้สึกเจ็บ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรจ้าวเหวินเทา
หลังจากอาบน้ำจนสะอาดแล้ว จ้าวเหวินเทาก็ทำแผลให้มัน ก่อนจะพูดว่า “เสร็จแล้ว กลับไปเถอะ แต่ภรรยาของฉันท้องอยู่ แกต้องระวังหน่อยรู้ไหม? ห้ามไปถูกภรรยาของฉันนะ ไม่งั้นในบ้านจะไม่มีที่สำหรับแก”
ตอนที่กลับมา เย่ฉูฉู่ก็เตรียมชุดตัวเล็กหลวม ๆ ไว้ให้ลิงน้อยหนึ่งชุดแล้ว
จ้าวเหวินเทาพูดอย่างมีความสุข “ภรรยา นี่คุณเตรียมชุดไว้ด้วยเหรอเนี่ย?”
“ใส่ให้มันสิคะ” เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
จ้าวเหวินเทาจึงสวมเสื้อให้ลิงน้อย ดูเหมือนว่าลิงน้อยจะมีความสุขยิ่งขึ้น หลังจากได้สวมเสื้อผ้ามันก็ส่งเสียงเรียกจ้าวเหวินเทา ก่อนจะหันไปเรียกเย่ฉูฉู่ ราวกับกำลังพูดว่า ‘พวกเธอดูสิ เสื้อของฉันสวยหรือเปล่า?’
“อย่าว่าอย่างงั้นอย่างงี้เลย พอได้ใส่เสื้อแล้ว ลิงน้อยตัวนี้อยู่เหมือนคนนิสัยเหมือนสุนัขขึ้นเยอะเลยนะ” จ้าวเหวินเทาหัวเราะร่าออกมา
เย่ฉูฉู่กลอกตาใส่เขา ก่อนจะพูดกับลิงน้อยว่า “เธอใส่แบบนี้แล้วดูดีมากเลย”
ลิงน้อยราวกับเข้าใจคำพูด จึงรู้สึกดีเป็นอย่างมาก
“ตั้งชื่อให้มันเถอะค่ะ” เย่ฉูฉู่ราวกับดูแลลูกอย่างไรอย่างนั้น เธอลูบหัวของลิงน้อยพลางกล่าว
จ้าวเหวินเทาเอนตัวนอนบนเตียงมองดูภรรยาที่มีรังสีความเป็นแม่ฉายออกมาทั่วทั้งร่างกาย ดูดีสุด ๆ ทั้งยังรู้สึกสบายตาที่ได้เห็นลิงน้อยมากกว่าเดิม
“เรียกเสี่ยวไป๋ฉ่าย(ผักกาดน้อย)แล้วกัน” จ้าวเหวินเทาพูดแบบสบาย ๆ จากนั้นก็ส่งเสียงหึออกมา “ผักกาดน้อยเอ๋ย ที่นาแห้งแล้ง อายุสองสามปี ก็ไม่มีแม่แล้วนะ…”
เย่ฉูฉู่กลอกตาใส่เขา “ไม่กลัวว่าจะเป็นลางร้ายเลยนะคะ”
“งั้นเรียกว่าหลายฟู่ (โชคไหลมาเทมา) หรือว่าฟู่กุ้ย (มั่งคั่ง) ดีล่ะ?” จ้าวเหวินเทาหัวเราะหึหึ
“งั้นคุณเรียกมันว่าฟาไฉ (ร่ำรวย) ไม่ดีกว่าเหรอ” เย่ฉูฉู่พูดติดตลก
“เอาสิ ผมเชื่อภรรยา ชื่อฟาไฉก็ได้!” จ้าวเหวินเทาพยักหน้า
เย่ฉูฉู่เองก็คร้านจะสนใจเขาแล้ว
เพียงไม่นานเจ้าพวกต้านและเจ้าพวกหยาก็ทราบเรื่องที่จ้าวเหวินเทาพาลิงน้อยกลับมาจากในเมือง พวกเขาต่างก็วิ่งมาดูลิงด้วยความรู้สึกแปลกใหม่
การเลี้ยงแมวเลี้ยงหมาไม่ใช่เรื่องหายากในชนบท แต่การเลี้ยงลิงนี่กลับเป็นครั้งแรก อย่าว่าแต่พวกเด็ก ๆ ที่อยากรู้เลย พวกผู้ใหญ่ก็อยากรู้เช่นกัน
“เจ้าหก นายไปเอาลิงตัวนี้มาจากไหน?” พี่รองจ้าวเงยหน้ามองลิงน้อยที่นั่งอยู่บนคานบ้าน
ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างก็มากันหมด เป็นเพราะมีคนมากเกินไป ลิงน้อยจึงตกใจจนกระโดดขึ้นไปอยู่บนคานบ้านแล้ว
“เก็บมาจากในเมืองน่ะครับ” จ้าวเหวินเทาตอบแบบสบาย ๆ
“ในเมืองมีลิงให้เก็บด้วยเหรอ?” พี่สะใภ้สามจ้าวประหลาดใจ
“คงมีคนในเมืองเลี้ยงไว้แล้ววิ่งหลุดออกมามั้ง แต่ในเมืองมีคนเลี้ยงลิงได้ยังไงเนี่ย?” พี่สามจ้าวเองก็ถาม
“ว่างมั้ง” จ้าวเหวินเทากล่าว “เถี่ยต้านเธอทำอะไรเนี่ย!”
เห็นว่าลิงยังอยู่ที่เดิมไม่ลงมา เถี่ยต้านจึงปีนตู้เพื่อที่จะขึ้นไปข้างบนเอง
“อาเล็ก ผมอยากขึ้นไปเล่นกับมัน” เถี่ยต้านจ้องลิงพลางกล่าว
“ลูกยังจะปีนขึ้นไปบนคานบ้านอีก ทำไมไม่ขึ้นฟ้าไปเลยล่ะ?” พี่สะใภ้รองจ้าวตวาดขึ้นเสียงสูง ก่อนจะตะโกนให้เถี่ยต้านลงมา “ทำการบ้านเสร็จแล้วเหรอ ยังไม่เสร็จก็ไปทำซะ แล้วก็พวกเธอด้วย!”
“ลิงน้อย ลิงน้อยลงมาสิ ฉันจะให้แกกินลูกอมด้วยนะ!” เถี่ยต้านเรียกลิงน้อยให้ลงมา
จ้าวเหวินเทากล่าว “ไปทำการบ้านก่อน ลิงน้อยไม่หนีไปไหนสักหน่อย เดี๋ยวถ้ามีเวลาก็ค่อยมาดู พวกเธอก็เหมือนกัน!”
เจ้าพวกต้านและพวกหยาจึงเดินออกไปอย่างไม่เต็มใจ
ส่วนเสี่ยวหยาทั้งสองคนของพี่สี่จ้าวยังอยู่ที่นี่ ทั้งยังถามเหวินเทาว่า “อาเล็ก ลิงน้อยกินอะไรเหรอคะ?”
จ้าวเหวินเทาถูกถามจนชะงักไป เขาเองก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าลิงกินอะไร
พี่จ้าวสามกล่าว “เจ้าหกเอ๊ย นายเก็บลิงกลับมาทำอะไรเนี่ย ได้ยินว่าเจ้านี่มันข่วนคนด้วยนะ”
“มันไม่ข่วนเลย เชื่อฟังมาก เมื่อกี้ตอนที่ฉันอาบน้ำให้มัน ขนาดมันเจ็บยังไม่ขยับเลยด้วยซ้ำ” จ้าวเหวินเทากล่าว โดยปกติแล้วมันก็ถูกชายร่างผอมทุบตีไม่น้อย บนร่างกายจึงมีขนจำนวนมากที่กลายเป็นก้อนเพราะเลือดที่แห้งกรัง เป็นลิงน้อยตัวหนึ่งที่น่าเวทนามาก
พี่สะใภ้สี่จ้าวเองก็ไม่เห็นด้วยที่ในบ้านมีลิงเพิ่มขึ้นมาหนึ่งตัว “น้องสะใภ้หกก็ตั้งท้องอยู่นะ ถ้าถูกข่วนขึ้นมาไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เลย ถ้าตกใจจนช็อคก็แย่เหมือนกัน”
ที่สำคัญคือพวกเขายังอยู่ร่วมกันที่นี่ อย่าให้ลิงน้อยตัวนี้เข้ามายุ่งกับลูกชายของหล่อนจะดีกว่า!
“พี่สะใภ้สี่ไม่ต้องกลัวหรอกค่ะ” เย่ฉูฉู่กล่าว “มันมีสติปัญญามาก แถมยังฉลาดมากด้วย ไม่วุ่นวายหรอก”
พี่สะใภ้สี่จ้าวไม่พอใจอย่างมากเช่นกัน “ถ้าเลี้ยงหมาเลี้ยงแมวฉันไม่ว่าหรอก แต่นี่ถึงกับเลี้ยงลิง พี่ว่ารีบปล่อยมันไปอยู่บนเขาเถอะ แถมยังได้บุญได้กุศลด้วย”
“รออีกสักสองสามวันเถอะค่ะ บนตัวของมันยังมีแผลอยู่ รอให้หายดีก่อน ถึงเวลานั้นค่อยให้เหวินเทาพาไปปล่อยบนเขา มันจะได้ไปเจอเพื่อนด้วย” เย่ฉูฉู่กล่าว
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
น้องฉลาดมาก ตามมาถึงบ้านเลย ขอให้มีชีวิตที่ดีขึ้นนะคะ
ไหหม่า(海馬)