สำหรับเรื่องการคลอดลูก เย่ฉูฉู่เองก็เป็นหญิงสาวที่ได้ขึ้นเกี้ยวเป็นครั้งแรก
ดังนั้นตัวเองย่อมเกิดความประหม่าอยู่แล้ว ตอนนี้ก็อยู่ในช่วงรอคลอด เป็นธรรมดาที่จะรู้สึกตื่นเต้นเป็นกังวลในบางครั้ง
จ้าวเหวินเทามีวิธีรับมือกับเรื่องนี้เป็นอย่างดี เขาปลอบใจภรรยาให้รู้สึกมีความสุขได้ไม่น้อย ทุกครั้งที่ออกไปข้างนอกก็จะมีของติดไม้ติดมือกลับมาฝาก
ครั้งก่อนก็นำผ้ามาให้สองผืน เย่ฉูฉู่จึงทำชุดฤดูร้อนเย็นสบายไว้ให้ตัวเองสองชุด ครั้งนี้เขาก็ซื้อรองเท้าใหม่มาให้เธออีกหนึ่งคู่
เป็นรุ่นยอดนิยมภายในเมือง หญิงสาวเหล่านั้นต่างก็ชอบรองเท้าประเภทนี้
เย่ฉูฉู่ย่อมชอบอยู่แล้ว จึงรู้สึกอารมณ์ดีด้วย
เมื่อถึงกลางเดือนกรกฎาคม ในที่สุดก็เก็บกวาดทุกอย่างเรียบร้อย จ้าวเหวินเทาวิ่งไปที่บ้านลุงอีกครั้ง เพื่อให้ลุงเลือกฤกษ์งามยามดีสำหรับขึ้นบ้านใหม่ให้
จนกระทั่งถึงวันฤกษ์งามยามดีสำหรับขึ้นบ้านใหม่ เขาก็จุดไฟและต้มน้ำในหม้อ ถือเป็นการย้ายเข้าบ้านใหม่
สำหรับเรื่องการย้ายบ้านแต่ละคนก็มีวิธีที่แตกต่างกัน บางคนก็ทอดแผ่นแป้งหนึ่งหม้อ ก็ถือว่าเป็นแป้งทอดมงคล แบ่ง ๆ กันก็เสร็จสิ้นแล้ว
แต่จ้าวเหวินเทานั้นเป็นคนฟุ่มเฟือยและไม่ได้ขาดแคลนแป้งขาว ดังนั้นไม่เพียงแค่ทอดแป้งทอดจากแป้งขาว ยังผัดกับข้าวอีกสองสามอย่างด้วย เขาเรียกพ่อแม่ พี่ชาย พี่สะใภ้และพวกหลาน ๆ มารับประทานอาหารด้วยกัน ถือว่าเป็นงานฉลองขึ้นบ้านใหม่
บ้านหลังนี้ของจ้าวเหวินเทาได้ใจคนในหมู่บ้านจำนวนนับไม่ถ้วน ตั้งแต่เริ่มสร้างก็ได้รับความสนใจแล้ว เพราะเกิดการเคลื่อนไหวไม่น้อยเลย
คนในหมู่บ้านให้ความสนใจบ้านของเขามากกว่าจ้าวเหวินเทาที่เป็นเจ้าของเสียอีก
เมื่อได้ยินเสียงประทัดแขวนดังขึ้น คนที่ไม่ได้ลงไปทำนาก็วิ่งมาดู
เพราะอยากรู้ว่าเจ้าหนูจ้าวเหวินเทาคนนี้จัดบ้านอย่างไรถึงใช้เวลานานขนาดนี้ อีกอย่างของจำนวนมากที่เขานำกลับมาก็อยู่ในสายตาของคนในหมู่บ้านด้วย พวกเขาจึงอยากดูว่าบ้านใหม่หลังนี้ทุ่มทุนสร้างไปมากมายเพียงใด
ภายในบ้านและนอกบ้านใหม่ถูกสร้างขึ้นตามภาพวาดที่เย่ฉูฉู่วาดออกมา
ผังบ้านขนาดใหญ่เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ด้านหน้ามีสี่ห้อง ส่วนด้านหลังทิศตะวันออกและตะวันตกมีห้องนอนทั้งหมดสี่ห้อง ตรงกลางด้านหน้าเป็นห้องรับแขก ด้านหลังเป็นห้องครัว
นี่เป็นการแบ่งห้องอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
ในส่วนของโครงสร้างภายในล้วนแตกต่างจากธรรมเนียมเดิม เพดานสีขาว กำแพงทาด้วยสีขาวเทา อิฐสีแดงถูกปูเต็มพื้น ควบคู่กับเฟอร์นิเจอร์สีน้ำตาลไม้ในบ้าน
แค่มองเพียงปราดเดียวก็รู้สึกสะดวกสบายน่าอยู่เป็นพิเศษ
ภายในห้องก็ทำเช่นเดียวกัน และก็ยังมีลานด้านนอกอีก
ลานบ้านถูกทำไว้อย่างประณีตและสะอาดสะอ้านยิ่งกว่า
ด้านหลังบ้านปลูกไม้ผลนานาชนิดอย่างท้อ สาลี่ และพุทราตามความต้องการของเย่ฉูฉู่ ทั้งสองข้างของบ้านมีต้นแอปเปิ้ลปลูกอยู่สองต้น แม้ว่าจะเป็นต้นกล้าทั้งหมด แต่ก็โตมาครึ่งหนึ่งแล้ว แลดูเขียวชอุ่มจนส่งผลให้คนได้มองรู้สึกสุขใจ
บนพื้นดินยังปลูกดอกไม้ใบหญ้าไว้ ซึ่งนี่เป็นความคิดของจ้าวเหวินเทา เขาเห็นต้นไม้สีเขียวแบบนี้ภายในเมืองจำนวนไม่น้อย และรู้สึกว่าไม่เลวเลย จึงมาปลูกไว้ในบ้าน แล้วผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่เลวจริง ๆ
ด้านล่างของกำแพงบ้านก็ไม่เว้น เขาปลูกต้นมอร์นิ่งกลอรี่เอาไว้ พืชชนิดนี้เติบโตขึ้นตามธรรมชาติ ทั้งยังผลิดอกบานสวยงามเป็นอย่างมาก
ด้านหน้าบ้านเป็นสวนผัก มีถนนหนึ่งสายที่เชื่อมไปด้านหน้าประตูใหญ่และแยกออกไปยังสวนผักทั้งสองสวน
ตอนนี้จ้าวเหวินเทาปลูกผักไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งมะเขือ พริก ถั่วฝักยาว ผักกาดขาว ผักกาดหอม ผักชี หอมแดง ขึ้นฉ่าย มะเขือเทศ ล้วนเติบโตได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้รอบ ๆ สวนผักยังปลูกกุหลาบไว้ส่วนหนึ่งด้วย ซึ่งกำลังเบ่งบานสะดุดตาไร้เทียบเทียม
ด้านใต้กำแพงตะวันออกมีเถาองุ่นเลื้อยอยู่ เพียงแต่องุ่นยังไม่งอกออกมา มีแค่ฟักทองที่งอกออกมานิดหน่อย
ส่วนคอกสัตว์ทั้งหมดอยู่ทางตะวันตกของสวนตะวันตก แต่ละคอกถูกจัดเป็นระเบียบเรียบร้อย
มีแกะ กระต่าย และลาที่เพิ่งได้มาใหม่ เดิมทีแกะได้รับการเลี้ยงดูโดยคนเลี้ยงแกะทางฝั่งนั้น แต่ตอนนี้จ้าวเหวินเทานำกลับมาเลี้ยงเองแล้ว
มันกลับมาพร้อมกับลาตัวน้อย ซึ่งเขามอบหน้าที่ให้ลิงน้อยเป็นผู้ดูแล
เมื่อลิงน้อยเพิ่งมาถึงก็ไม่กล้าจะเข้าใกล้ ภายหลังจึงเรียนรู้จากจ้าวเหวินเทาด้วยการหอบหญ้ามาให้พวกมันกิน ทำได้ไม่เลวเลย
นอกจากนี้ยังมีไก่ด้วย ปีนี้หลังจากฤดูใบไม้ผลิเริ่มขึ้นเย่ฉูฉู่ก็ซื้อลูกไก่กลับมาสิบกว่าตัว ตอนนี้เข้าเดือนกรกฎาคมแล้ว ไก่เหล่านี้ก็ตัวใหญ่ขึ้นมาแล้ว
สัตว์เหล่านี้ถูกจัดให้อยู่ทางฝั่งตะวันตกทั้งหมด
แน่นอนว่ารวมถึงอาหารที่ไว้ให้สัตว์กินและเครื่องมือที่พวกเขาใช้ด้วย
พื้นที่ที่เหลืออยู่ไม่ได้มีขนาดใหญ่นัก แต่ก็ถูกปรับพื้นไว้จนเรียบ มีไว้เพื่อกะเทาะทานตะวันและวางข้าวโพดในช่วงฤดูใบไม้ร่วง
บ้านแห่งนี้อยู่ใกล้กับต้นป็อปลาร์ที่ถูกปลูกไว้ติดกับทิศเหนือสามสี่แถว ถึงเวลากะเทาะทานตะวันก็สามารถพึ่งพาร่มเงาของต้นไม้เพื่อพักผ่อนได้
จ้าวเหวินเทาตั้งใจแบ่งห้องขนาดเล็กไว้หนึ่งห้องด้านในห้องวางหญ้าแห้ง เพื่อใช้เป็นบ้านหลังเล็กสำหรับลูกลิง นอกจากนี้ยังตั้งเตาไว้ด้วย
ปกติแล้วจะต้มอาหารให้หมู เมื่อใดมีการเชือดหมูในวันข้ามปีก็สามารถใช้เตานี้ได้
ภายในลานบ้านทำไว้ดีขนาดนี้ ด้านนอกลานก็ไม่ได้แย่เช่นกัน ประตูใหญ่ถูกปรับพื้นจนเป็นพื้นเรียบ ด้านหน้าประตูปลูกต้นป็อปลาร์ไว้สี่แถวสูงสามสี่เมตร สิ่งนี้ทำไว้เพื่อบดบังสายตาของคนที่ผ่านไปผ่านมา
ไม่ว่าจะเป็นในบ้านหรือนอกบ้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านในสวนหรือด้านนอกสวน เมื่อมองโดยภาพรวมแล้ว ก็ทำให้ผู้คนตกตะลึงจริง ๆ
อย่าว่าแต่คนอื่นเลย แม้แต่เย่ฉูฉู่เองก็ค่อนข้างอัศจรรย์ใจเช่นกัน
เธอคิดไม่ถึงเลยว่าจ้าวเหวินเทาของเธอจะทำได้ดีขนาดนี้ เรียกว่าไร้ที่ติเลย!
จ้าวเหวินเทาเองก็มองออกว่าภรรยาของเขาพึงพอใจ เขาจึงชี้ไปที่ต้นแอปเปิ้ลกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ภรรยา รออีกไม่กี่ปีไม้ผลก็จะออกดอกออกผลแล้ว ถึงเวลานั้นจะดูดีมากกว่านี้อีก”
“ตอนนี้ก็ดูดีมากเลยนะคะ” เย่ฉูฉู่ยิ้มด้วยความพึงพอใจเป็นอย่างมาก
จ้าวเหวินเทาเห็นภรรยาชอบจริง ๆ ก็ย่อมรู้สึกถึงความสำเร็จ
คนอื่นคิดอย่างไรเขาไม่สนใจ ขอแค่ภรรยาพึงพอใจก็พอแล้ว
คนในชนบทไม่ได้ให้ความสำคัญมากเกินไป บางที่แค่มีที่ให้นอนมีข้าวให้กินก็พอแล้ว การสร้างบ้านก็ให้ความสนใจเพียงเล็กน้อย ใครจะไปให้ความสนใจเหมือนกับจ้าวเหวินเทากันล่ะ
เมื่อได้เห็นบ้านที่จ้าวเหวินเทาจัดแต่งออกมาถูกประดับประดาด้วยดอกไม้ใบหญ้า ก็รู้สึกได้ว่าเหมือนบ้านชนชั้นนายทุนน้อยเป็นอย่างมาก
“นี่ดีนะที่เป็นตอนนี้ ถ้าเปลี่ยนเป็นเมื่อก่อน คนแบบนายคงถูกคนอื่นเรียกว่าเพลิดเพลินไปกับทุนนิยมแล้ว” เหล่าหวังสามกล่าว
“นายก็พูดเองนี่ว่านั่นมันเมื่อหลายปีก่อน สังคมตอนนี้ไม่เหมือนกับเมื่อก่อน ประเทศของเราสนับสนุนการทำธุรกิจกับพวกต่างชาติเพื่อหารายได้แล้ว” จ้าวเหวินเทาพูดอย่างไม่ใส่ใจ
พี่รองจ้าวและพี่สามจ้าวที่สร้างบ้านเหมือนกันได้มาเห็นก็ถึงกับถอนหายใจ โดยเฉพาะพี่สามจ้าวที่ภายในใจเกิดความไม่สมดุลเข้าแล้ว
ทว่านอกเหนือจากสิ่งเหล่านี้ สิ่งที่ดึงดูดพวกเขามากที่สุดก็คือเครื่องทำความร้อนและที่ปั๊มน้ำ
ยกตัวอย่างเช่นพี่รองจ้าว เขาลูบแผ่นทำความร้อนอย่างระมัดระวังพลางกล่าวว่า “นี่คือเครื่องทำความร้อนสินะ ฉันเคยได้ยินคนพูดถึง แต่ไม่เคยเห็นมาก่อน ราคาเท่าไรล่ะ?”
“มันคือแผ่นทำความร้อนครับ ก็ไม่ได้แพงเท่าไรหรอก แผ่นละสิบกว่าหยวนมั้ง” จ้าวเหวินเทากล่าว
“หนึ่งแผ่นสิบกว่าหยวน!” พี่สามจ้าวถึงกับเดาะลิ้น “นี่ยังจะบอกว่าไม่แพงเท่าไรอีก เจ้าหก นายได้เงินมาเท่าไรเนี่ย!”
“ได้เงินมาเท่าไรอะไรกันคะ น้องสามีเล็กเขาร่ำรวยแล้ว!” พี่สะใภ้สี่จ้าวโพล่งขึ้น
ในใจของพี่สะใภ้สี่จ้าวในตอนนี้มีแต่ความรู้สึกสับสนปนเปไปหมด เดิมทีหล่อนก็ได้ไปดูบ้านของพี่ทั้งสองคนแล้ว ตอนนั้นหล่อนก็อิจฉาจนทนไม่ไหว มาในวันนี้ได้เห็นบ้านใหม่หลังนี้ของน้องสามีเล็ก หล่อนก็รู้สึกได้ว่าชีวิตนี้คงไม่สามารถผ่านไปได้แล้วจริง ๆ!
จ้าวเหวินเทาพูดด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณที่ชมนะครับพี่สะใภ้สี่ งั้นผมจะสืบสานคำมงคลจากพี่สะใภ้สี่ก็แล้วกัน!”
พี่สะใภ้รองจ้าวในตอนนี้กำลังยืนสำรวจอยู่ที่ห้องครัวด้านหลังพร้อมกับผู้หญิงคนอื่น ๆ
ห้องครัวถูกปูพื้นด้วยอิฐแดงเช่นกัน กำแพงทาด้วยสีขาวเทา สิ่งที่ดึงดูดสายตามากที่สุดก็คือกระเบื้องสีขาวที่ปูตรงเตาทำอาหาร
เตาทำอาหารภายในชนบทล้วนถูกฉาบด้วยดินเหนียว จะมีใครใช้กระเบื้องกัน?
สิ่งนี้ทำให้พวกหล่อนที่ยืนรอบเตาทั้งวันถึงกับตาลุกวาวเมื่อได้เห็น มันดูสะอาดเกินไปแล้ว!
โคลนและกระเบื้องเมื่อมาเทียบกันแล้ว กระเบื้องย่อมสะอาดกว่า
พี่สะใภ้รองจ้าวถึงกับเหม่อลอย หลังจากดูสิ่งเหล่านี้เสร็จ ดวงตาของหล่อนก็เหลือบมองไปที่ก๊อกน้ำที่อยู่บนกำแพงด้านหลังเตา
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
แค่นึกตามบทบรรยายสภาพบ้านใหม่ก็รู้สึกว่าน่าอยู่แล้ว คนที่ได้ไปเห็นจริง ๆ นี่ไม่อิจฉาจนตายไปเลยเหรอ โดยเฉพาะสะใภ้รองกับสะใภ้สี่
ไหหม่า(海馬)