ตอนที่ 22 เจอพ่อค้าเนื้อไช่อีกครั้ง
เทียบกับความคิดของบ้านอื่น สองสามีภรรยาที่อยู่ห้องด้านหลังมีความคิดเรียบง่ายกว่ามาก
สำหรับจ้าวเหวินเทาแล้ว กับข้าวคืนนี้นับว่าอร่อยมาก และถูกปากภรรยาของเขาเช่นกัน ดังนั้นหลังจากรับประทานและดื่มจนอิ่มก็มาอาบน้ำชำระร่างกาย ก่อนจะดึงภรรยาของเขาไปออกกำลังกาย
เสร็จภารกิจแล้วเขาก็กอดภรรยาของตัวเองโดยไม่สนใจอากาศอันร้อนอบอ้าว ทั้งยังพูดถึงเรื่องที่จะไปบ้านพ่อตาแม่ยายหลังจากว่างจากการทำนาแล้ว
เย่ฉูฉู่ยังคงเนื้อตัวอ่อนปวกเปียก เธอตอบ ‘อืม’ กลับไปเบา ๆ พร้อมกับกำลังคิดภายในใจ ไม่รู้ว่าพ่อและแม่ของเธอจะเห็นสิ่งผิดปกติของเธอหรือเปล่า?
ความทรงจำในชาติที่แล้วหลังจากที่ตื่นขึ้นมาแตกต่างจากชาตินี้นัก
เป็นเพราะกังวลเรื่องนี้ ดังนั้นหลังจากที่เธอทะลุมิติมาถึงที่นี่ก็ไม่กล้ากลับไปที่บ้านแม่ตัวเอง เพราะกลัวว่าที่บ้านจะมองออก
ทว่าคงดูไม่ออกหรอกมั้ง? คนที่แต่งงานกับคนที่ยังไม่แต่งงานมีความแตกต่างกันมากก็จริง ต่อให้ตัวเธอจะดูไม่เหมือนเดิม ก็สามารถอ้างได้ว่าเป็นเพราะแต่งงานแล้ว จึงทำให้เข้าใจอะไรมากขึ้นไม่ใช่เหรอ?
“ภรรยา รีบนอนนะ จะได้รีบมีลูกตัวอ้วน ๆ ให้ผม ถ้าเป็นลูกสาวผมเองก็ชอบเหมือนกัน ขอแค่เป็นลูกของพวกเรา ผมชอบหมดนั่นแหละ” จ้าวเหวินเทาพูด
ประโยคหลังแน่นอนว่าเขาเองก็ไม่อยากให้ภรรยาของตนเองแบกรับภาระทางจิตใจ ลูกชายย่อมดีอยู่แล้ว ครอบครัวที่อยู่ในชนบท ไม่มีลูกชายคงไม่ได้
แต่ถ้าคนแรกยังไม่ใช่ลูกชายก็ไม่ต้องรีบร้อน หลังจากนี้ค่อยมีเพิ่มก็ได้ เขาไม่คิดว่าตนเองจะไม่มีลูกชาย
เย่ฉูฉู่รู้สึกเขินอาย ทว่าสิ่งนี้ทำให้เธอรู้สึกอุ่นซ่านทั่วทั้งใจ เธอซบในอ้อมกอดของเขาพร้อมพูดเสียงเบา “อันที่จริงตอนนี้ยังไม่ตั้งท้องก็ดีมากนะคะ ฉันอยากรอให้แยกบ้านก่อนแล้วค่อยท้องน่ะค่ะ”
“ทำไมล่ะ?” จ้าวเหวินเทาไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร
“ตอนนี้คุณแม่ยังต้องแอบหลบ ๆ ซ่อน ๆ เพื่อให้ฉันได้กินไข่ไก่ ถ้าหากฉันท้องขึ้นมาก็ต้องบำรุงร่างกายไม่ใช่เหรอ? ถึงเวลานั้นคงทำให้คุณแม่ต้องลำบาก ถ้าหากเราแยกบ้านแล้ว ถึงเวลานั้นฉันค่อยท้อง อยากจะบำรุงอะไรก็ได้บำรุง พวกหล่อนก็ไม่มายุ่งแล้ว” เย่ฉูฉู่กล่าว
“ที่คุณว่ามาก็ไม่เลว” จ้าวเหวินเทาพยักหน้า แม้แต่แม่ม่ายหม่ายังได้กินไก่ ภรรยาของเขาสวยขนาดนี้แถมยังตั้งครรภ์ด้วยกลับไม่ได้กิน ใช้ได้ที่ไหนกันล่ะ!
ถ้ายังไม่แยกบ้านแล้วภรรยาของเขากล้ารับประทานไก่ พวกพี่สะใภ้เหล่านั้นคงไม่ยอมรับแน่นอน
ดังนั้นหากรอหลังจากที่แยกบ้านแล้วค่อยมีลูกได้ก็คงจะดีมาก ถึงเวลานั้นเขาก็สามารถหาของอร่อยให้ภรรยาตนเองได้ดื่มและรับประทานได้แล้ว
“งั้นหลังจากนี้ฉันคงต้องทำการบ้านให้น้อยลงแล้วล่ะ” จ้าวเหวินเทาพูดอย่างเสียดาย
นี่เป็นช่วงวัยที่ยังหนุ่มยังแน่นมีกำลังวังชา หากไม่ใช่เพราะเหนื่อยเกินไปเขาก็จะทำการบ้านทุกคืน
“ไม่กลัวว่าร่างกายจะได้รับบาดเจ็บเลยนะคะ!” เย่ฉูฉู่หน้าแดงก่ำ เธอพูดเสียงเบาอย่างแง่งอน ก่อนหน้านี้ตอนที่ยังไม่พูดเรื่องแยกบ้านก็ยังพอทน แต่บัดนี้พูดขึ้นมาแล้ว เธอเองก็ตั้งตารอคอยที่จะได้แยกบ้านเหมือนกัน
หากแยกบ้านแล้ว เธอก็สามารถทำของอร่อยให้เหวินเทากินได้ จะปล่อยให้ร่างกายของเขาได้รับความเสียหายไม่ได้เด็ดขาด
จ้าวเหวินเทาพูดด้วยรอยยิ้ม “ร่างกายบาดเจ็บอะไรกันล่ะ ผมเลือกหยินบำรุงหยาง[1]แล้ว และผมก็กำลังบำรุงอยู่นี่ไง!”
ทั้งสองคนหัวเราะคิกคักกันครู่หนึ่ง ก่อนจะผล็อยหลับไป
ช่วงเก็บเกี่ยวฤดูใบไม้ร่วงยังต้องวิ่งวุ่นกันต่อไป รอหลังจากเก็บอาหารเข้าโกดัง ทุกคนก็จะได้ถอนหายใจเฮือกใหญ่กันแล้ว
เพราะหมายความว่าปีนี้จะเป็นปีที่ดี ไม่ต้องกังวลว่าท้องจะหิวแล้ว
ถึงจะเก็บอาหารเรียบร้อยดีแล้ว แต่เรื่องก็ยังไม่จบแค่นั้น เพราะยังต้องส่งมอบอาหารอีก
วันนี้ฝ่ายผลิตใหญ่ได้เดินทางมาส่งมอบอาหารแล้ว จ้าวเหวินเทาเองก็ต้องมาเช่นกัน ทั้งยังได้เจอคนคุ้นเคยด้วย
“พี่รอง พวกพี่ดูไปก่อนนะ ผมขอไปทักทายพี่ซื่อหูหน่อย!” จ้าวเหวินเทารีบพูด
พี่รองจ้าวตอบรับ จ้าวเหวินเทาจึงเบียดฝูงชนเดินเข้ามา
“น้องเหวินเทา!” วันนี้พ่อค้าเนื้อไช่หรือไช่ซื่อหู่ก็เดินทางมาที่นี่เพื่อช่วยส่งมอบอาหารภายในทีม ครั้นเห็นจ้าวเหวินเทาก็กล่าวทักทายอย่างดีใจ
“ใครกัน รู้จักด้วยเหรอ?” คนที่อยู่ข้าง ๆ ถาม
“คนนี้ไงที่ฉันพูดถึงคราวก่อน น้องชายจ้าวเหวินเทาผู้กล้าหาญเพื่อความถูกต้อง!” ไช่ซื่อหู่พูดกับคนในหมู่บ้านที่อยู่ข้าง ๆ
พูดเช่นนี้ก็รู้ได้ หลังจากที่พี่สะใภ้ไช่กลับมาถึงก็พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปไม่น้อย คนทางฝั่งนั้นต่างก็รู้กันหมด
พูดจบจ้าวเหวินเทาก็มาพอดี
“พี่ซื่อหู ไม่เจอกันนานเลยนะ คิดไม่ถึงเลยว่าจะมาเจอพี่วันนี้ พี่สะใภ้กับหลานชายสบายดีไหมครับ?” จ้าวเหวินเทาพูดด้วยรอยยิ้ม
เขาแอบรำพึงในใจว่าช่างเป็นโชคชะตาจริง ๆ เพราะกำลังคิดอยู่ว่าจะไปเยี่ยมเยียนสักวันหนึ่ง ไช่ซื่อหู่เป็นคนเชือดหมู ต้องมีความสัมพันธ์กับทางโรงเชือดไม่น้อย รอให้แยกบ้านก่อน หากภรรยาของเขาตั้งครรภ์และคิดอยากจะกินเนื้อ ถ้าเช่นนั้นก็มีแหล่งซื้อแล้วไม่ใช่เหรอ?
จ้าวเหวินเทามีหน้าตาดี ร่างกายสูงใหญ่ สดใสและหล่อเหลา ทั้งยังมีใบหน้าเจือรอยยิ้มร่าเริง เป็นเพราะเก็บเกี่ยวช่วงฤดูใบไม้ผลิจึงทำให้ผิวคล้ำจากการตากแดดไประดับหนึ่ง รอยยิ้มกว้างของเขาทำให้เห็นฟันขาวสะอาด ใครเห็นก็ไม่มีคนชักสีหน้าใส่
ไช่ซื่อหู่เองก็มีความสุขที่ได้ติดต่อกับเขา คิดว่าเขาคนนี้มีความชอบธรรมและมีความกล้าหาญ!
“ทุกคนสบายดี ๆ วันนี้พี่สะใภ้ของนายก็มาด้วยนะ แต่ไปซื้อของที่สหกรณ์ขายเครื่องอุปโภคบริโภคทางนั้นแล้ว อาจ้าวกับอาหญิงจ้าวของฉันก็สบายดีใช่ไหม?” ไช่ซื่อหู่พูดด้วยรอยยิ้ม
“สบายดี สบายดีทุกคนเลยครับ มื้อหนึ่งกินไปไม่น้อยด้วย” จ้าวเหวินเทายิ้ม “ช่วงนี้ยุ่งไปหน่อย ไม่งั้นผมคงแวะเวียนไปทางฝั่งนั้นแล้ว เพียงแต่กลัวว่าพี่ซื่อหู่จะไม่อยู่บ้านนั่นแหละ”
“ช่วงนี้ฉันทำงานกะดึก ช่วงเช้าอยู่บ้าน นายมาหาได้เลย” ไช่ซื่อหู่พูด
จ้าวเหวินเทายิ้มตอบรับกลับไป จากนั้นก็พูดกับอีกฝ่ายถึงของที่เก็บเกี่ยวได้ในปีนี้
อย่าพูดถึงเลย ปีนี้เป็นเพราะฟ้าฝนเป็นใจ ฝนตกตามฤดูกาล การเก็บเกี่ยวจึงไม่เลว
“ฉันได้ยินมาว่าปีนี้กำลังจะมีนโยบายใหม่ออกมาด้วยนะ” หลังจากพูดถึงการเก็บเกี่ยวจบแล้ว ไช่ซื่อหู่ก็กระซิบบอก
จ้าวเหวินเทาได้ยินก็กระซิบไปว่า “พี่ซื่อหู่ได้รับข่าวอะไรมาเหรอครับ?”
“ได้ยินมาว่าทางการจะไม่สนใจการซื้อขายของในตลาดแล้ว แต่ฉันเองก็ไม่ได้เข้าใจแบบเจาะลึกหรอกนะ ได้ยินคนอื่นพูดกันมาอีกทีเหมือนกัน” ไช่ซื่อหู่พูดเสียงต่ำ
จ้าวเหวินเทาดวงตาเป็นประกาย จ้องมองอีกฝ่ายแล้วพูด “พี่ซื่อหู่ วันมะรืนผมจะเอาเหล้าไปบ้านพี่นะครับ พวกเราดื่มกันสักแก้วดีไหม?”
“เอาสิ” ไช่ซื่อหู่ยิ้ม เพราะช่วงนี้เขาก็อยากหาคนมาร่วมมืออยู่พอดี แต่ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ ภรรยาของเขาบอกว่าให้ลองไปหาน้องชายเหวินเทาดู เขาเองก็ลังเล คุณสมบัติของน้องชายเหวินเทาเป็นอย่างไรคงไม่ต้องพูดถึง แต่สุดท้ายแล้วก็ยังไม่สนิทกันเท่าไรนัก
ทว่าวันนี้ในเมื่อได้มาเจอกัน ก็นับว่าเป็นโชคชะตา เขาเองก็จะได้ถามน้องชายเหวินเทาดูว่าอยากจะทำหรือเปล่า!
แต่ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่จะคุยกัน ดังนั้นคงไม่มีอะไรดีไปกว่านัดไปเจอกันที่บ้านแล้ว
“แต่นายไม่ต้องเอาอะไรมานะ ที่บ้านฉันมีแล้ว นายมาแต่ตัวก็พอ!” ไช่ซื่อหู่กล่าว
จ้าวเหวินเทาไม่ใช่คนที่ทำอะไรไร้สมอง แม้ว่าไช่ซื่อหู่จะมีความจริงใจที่ไม่เลว แต่เขาเองก็ไม่ควรจะปักใจเชื่อทั้งหมดไม่ใช่เหรอ?
อีกอย่างนี่ก็ทำให้จ้าวเหวินเทาเกิดความกระตือรือร้น ทางการจะไม่สนใจการซื้อขายในตลาดแล้ว?!
เป็นแบบนี้ เขาก็ต้องเตรียมตัวสิถึงจะถูก!
หลังจากบอกลาไช่ซื่อหู่ จ้าวเหวินเทาก็กลับมาที่แถวของพี่รอง แน่นอนว่าคุณพ่อจ้าวและคนอื่น ๆ ก็อยู่ด้วย
ต่อแถวอยู่นานในที่สุดก็ถึงคิวของพวกเขา ผู้รับสินค้าเหล่านั้นต่างก็เลือกคัดสรรกัน ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยกว่าจะจ่ายปันส่วนแบ่งสาธารณะ นี่ก็สายแล้วด้วย
“เอาล่ะ กลับบ้านได้ พรุ่งนี้พาทุกคนมานะ พวกเราจะแบ่งอาหารกัน!” หัวหน้าทีมตะโกนประโยคหนึ่ง
ทุกคนย่อมรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก
………………………………………………………………………………………………………………………
[1] เลือกหยินบำรุงหยาง หมายถึง การถึงจุดสุดยอดของการมีเพศสัมพันธ์ของเพศหญิงสามารถเสริมสร้างความมีชีวิตชีวาของผู้ชายได้ พฤติกรรมทางเพศของผู้ชายจึงควรได้รับการปลดปล่อยออกไปให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการปรับสมดุลหยินหยางภายในร่างกาย
สารจากผู้แปล
เอาล่ะ เหวินเทามีลู่ทางในการตั้งตัวแล้ว รอแยกบ้านเป็นทางการเท่านั้น จะต้องรุ่งกว่าบ้านคนอื่นแน่
ไหหม่า(海馬)