ตอนที่ 242 ภรรยา เบาหน่อย
แล้วเสื้อผ้าที่ฉันออกแบบล่ะ? สวยไหม? เย่ฉูฉู่รีบย้อนถาม
จ้าวเหวินเทารีบพูดอย่างจริงจังว่า ทั้งนิตยสารมีแค่เสื้อผ้าที่ภรรยาของผมออกแบบเท่านั้นแหละ ที่ทั้งดูดีและสามารถสวมใส่ได้!
ดวงตาของเย่ฉูฉู่สวยงามเป็นประกาย เธอเชิดคางขึ้น ค่อยยังชั่วหน่อย!
จ้าวเหวินเทารีบพูดแต่เรื่องดี ๆ ที่อีกฝ่ายชอบ ภรรยา เรื่องนี้ยังต้องถามอีกเหรอ ใคร ๆ ก็ดูออกกันทั้งนั้นแหละ เสื้อผ้าของคนพวกนั้น มันอะไรกัน ไม่โชว์หัวไหล่ ก็โชว์ขาอ่อน แล้วดูภรรยาสิ ไม่โชว์อะไรเลย แถมยังสวยด้วย มันเรียกว่าอะไรนะ ยิ่งโชว์เยอะก็ยิ่งไม่อยากเห็น แต่ในทางกลับกันยิ่งเผยให้เห็นน้อยเท่าไรก็ยิ่งทำให้คนเกาหัวด้วยความงุนงง
เย่ฉูฉู่ค้นพบแล้ว สามีของนางไม่เพียงแค่เป็นคนไม่จริงจัง ความคิดยังแอบอันตรายด้วย
คำพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง? เย่ฉูฉู่ถามด้วยท่าทางนิ่งสงบ
จ้าวเหวินเทาพูดด้วยความพึงพอใจ เรื่องนี้ยังไม่ชัดเจนอีกเหรอ โชว์ออกมาให้เห็นแล้ว ก็แปลว่ามองเห็นหมดแล้ว ส่วนที่ไม่ควรให้เห็นก็เห็นแล้ว แบบนั้นยังจะมีอะไรให้นึกถึงอีกล่ะ? ของแค่นั้นเอง จริงไหม? ไม่เหมือนกับการห่อปิดไว้อย่างมิดชิด ไม่เห็นอะไรเลย แน่นอนว่าต้องนึกอยู่แล้ว คิดด้วยท่าทางเกาหัวงุนงง…โอ๊ย ภรรยาคุณทำอะไรเนี่ย?
เย่ฉูฉู่ดึงหูเขาพร้อมกับเอ่ยถาม คุณเห็นอะไรหมดแล้ว? แล้วคุณคิดไปถึงไหนแล้ว?
จ้าวเหวินเทารีบยกมือขึ้นมายอมแพ้ ภรรยา เบาหน่อย เดี๋ยวก็หูหลุดหรอก ผมจะเห็นจะคิดอะไรคุณจะไม่รู้เหรอ?
ฉันรู้อะไร? ช่างคุยให้มันน้อย ๆ หน่อยเถอะค่ะ! เย่ฉูฉู่พูดอย่างไม่สบอารมณ์
จ้าวเหวินเทาทำหน้าทะเล้น ทำไมคุณจะไม่รู้ล่ะ พวกเราก็เคยเห็นของกันและกันแล้ว…โอ๊ย ภรรยา เบาหน่อย ๆ!
ลิงน้อยทางฝั่งนั้นเห็นแล้วก็ร้องเจี๊ยก ๆ ด้วยความตื่นเต้น ทั้งยังเขามาช่วยดึงหูอีกข้างหนึ่งของจ้าวเหวินเทาด้วย จึงถูกจ้าวเหวินเทาถลึงตาใส่
เย่ฉูฉู่เห็นท่าทางของลูกลิงถูกบังคับให้ยอมจำนน ก็อดไม่ได้ที่จะเปล่งเสียงหัวเราะออกมา
ขณะที่ทั้งสองคนกำลังวุ่นวาย เสี่ยวไป๋หยางก็ตื่นแล้ว ดวงตากลมโตกำลังจ้องมองพ่อและแม่ที่กำลังหยอกล้อกัน จึงส่งเสียงร้องงอแง
เย่ฉูฉู่หน้าแดงจาง ๆ และรีบปล่อยมือทันที
จ้าวเหวินเทาพูดอย่างมีความสุขขณะอุ้มลูกชายขึ้นมา ลูกที่แสนดีของพ่อ ลูกช่วยชีวิตพ่อท่ามกลางน้ำไฟจริง ๆ!
เย่ฉูฉู่หัวเราะ ฉันไปทำอะไรให้คุณ ท่ามกลางน้ำไฟอะไรกัน?
จ้าวเหวินเทารีบแย้มยิ้ม ภรรยา ผมก็แค่พูดไปงั้นแหละ ผมผิดไปแล้ว
พาลูกไปฉี่ค่ะ! เย่ฉูฉู่ทราบว่าลูกของเธอจะถ่ายเบาหลังจากที่ตื่นนอน
รับทราบครับ! จ้าวเหวินเทาไม่ลืมที่จะทำตัวต้อยต่ำสักหน่อย จากนั้นก็อุ้มลูกพาไปฉี่ที่กระโถนด้านนอกห้อง
เย่ฉูฉู่หยิบนิตยสารที่อยู่ข้าง ๆ ขึ้นมาพลิกอ่าน ก็พบว่านางแบบแฟชั่นบางคนข้างบนที่อยู่บนนั้นมีคนสวมเสื้อผ้าที่เผยให้เห็นเรือนร่าง คนที่อนุรักษนิยมแบบเธอย่อมรับไม่ได้ เมื่อนึกถึงคำพูดของจ้าวเหวินเทาก็โกรธขึ้นมาอีกครั้ง
ภรรยาเป็นอะไรเหรอ? จ้าวเหวินเทาอุ้มลูกกลับเข้ามา ก็พบว่าเย่ฉูฉู่กำลังเหม่อลอยขณะดูนิตยสาร
คุณชอบดูของพวกนี้มากสินะ? เย่ฉูฉู่เงยหน้ามองเขา
จ้าวเหวินเทาทราบดีว่าหากตอบผิด ภรรยาของเขาต้องโกรธแน่นอน เมื่อพิจารณาดูแล้วก็ตัดสินใจพูดความจริง ถ้าพูดจากใจ ก็ได้อยู่นะ
เย่ฉูฉู่หน้าเปลี่ยนสี
จ้าวเหวินเทารีบพูด ภรรยา คุณฟังผมพูดก่อน ของพวกนี้เนี่ย จะมองยังไงก็ต้องชอบกันทั้งนั้นแหละ แต่ถ้ามองนาน ๆ ก็ไม่รู้สึกน่าสนใจอะไรแล้ว ถ้ามีผู้ชายบอกว่าไม่ชอบ เขาไม่ได้พูดโกหกหรอกนะ แต่เป็นเพราะเห็นมาเยอะต่างหาก ผมไม่ได้พูดโกหก ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยเห็นอะไรพวกนี้ นี่เป็นครั้งแรกเลย ดังนั้นถึงได้พูดแบบนี้ไง อีกอย่างนะภรรยา ผมกวาดตามองสองสามครั้ง ก็เป็นเพราะอยากดูสไตล์เสื้อผ้าอะไรพวกนั้นที่พี่สะใภ้สามของคุณพูดถึงในจดหมาย
เย่ฉูฉู่นึกถึงภาพชุนกง[1] ในยุคนั้นของเธอ ดูเหมือนว่าจะยังโจ่งแจ้งกว่านี้อีก แต่นั่นก็เป็นเพราะลูกหลานขุนนางชอบดู องค์ชายก็มีหนึ่งชุดด้วย ตอนนั้นเธอรับได้ แต่ทำไมตอนนี้ถึงรับไม่ได้ล่ะ ที่มากไปกว่านั้นคือเรื่องนี้กับเรื่องนั้นมันคนละเรื่องกัน
เมื่อได้ย้อนนึก เย่ฉูฉู่ก็รู้สึกสงบจิตสงบใจ เธอกลับมากวาดตามองอย่างละเอียดที่นางแบบบนนิตยสารอีกครั้ง คุณชอบมองอะไรเธอเหรอ เสื้อผ้า คน หรือว่าอะไร?
คำถามนี้อันตรายมาก จ้าวเหวินเทาไม่กล้าตอบกลับในทันที จึงพูดว่า ภรรยา อันที่จริงผมชอบมองคุณมากที่สุดนะ…จริง ๆ นะ ผมพูดจากใจจริง ถ้าคุณ ไม่ ๆ ๆ ผมไม่ให้คุณใส่เสื้อผ้าแบบนี้หรอก!
เย่ฉูฉู่มองท่าทางที่ระมัดระวังของเขา จึงหัวเราะพรืดออกมา คุณคิดไปถึงไหนเนี่ย ที่ฉันถามคุณเพราะอยากรู้ว่าเสื้อผ้านี้ทำไมถึงแพงขนาดนั้น อยากรู้ว่าฉันจะเรียนรู้จากมันได้หรือเปล่า จะได้ให้เสื้อผ้าของฉันมีราคาแพงขึ้นอีกหน่อยด้วย สายตาของคุณเวลาเอาของเข้ามาขายแม่นยำขนาดนั้น ก็น่าจะมองเห็นอะไรบ้าง
จ้าเหวินเทาจึงถอยหายใจอย่างโล่งอก ที่แท้ก็เป็นเรื่องจริง ๆ จัง ๆ นี่เอง ถ้าเช่นนั้นก็ต้องสายตาที่จริงจังมองแล้วสินะ เขายื่นลูกให้เย่ฉูฉู่ จากนั้นหยิบนิตยสารมาเปิดดู ภรรยา เรื่องนี้ต้องค่อย ๆ ดู ค่อย ๆ ไตร่ตรอง ถึงยังไงผมก็ไม่เคยค้าขายเสื้อผ้ามาก่อน มองแค่แป๊บเดียวไม่เห็นอะไรหรอก
เย่ฉูฉู่คิดว่าสามีของเธออยากให้ภาพติดตา นางจึงยื่นมือดึงนิตยสารกลับมาวางไว้ข้าง ๆ ทั้งยังพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า ในเมื่อมองแค่แป๊บเดียวไม่เห็นอะไร งั้นก็ไปกินข้าวก่อนเถอะ
จ้าวเหวินเทาจึงรับประทานอาหารแต่โดยดี
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ จ้าวเหวินเทาก็เสนอตัวเก็บจานและนำไปล้าง สองสามีภรรยาล้างหน้าแปรงฟันเสร็จก็มุดเข้าไปอยู่ในผ้าห่ม เย่ฉูฉู่จึงพูดถึงเรื่องที่โจวหมิ่นจะโอนเงินมาให้ส่วนหนึ่ง
คุณเอาเงินส่วนนี้ไปเหมาฟาร์มกระต่ายเถอะ เย่ฉูฉู่กล่าว
จ้าวเหวินเทาชะงักไปครู่หนึ่ง เขาโอบกอดภรรยาพร้อมกับหอมเธอ ภรรยา ขอบใจนะที่คุณสนับสนุนผมขนาดนี้!
ช่างเจรจาอีกแล้ว เย่ฉูฉู่กล่าว
จ้าวเหวินเทาแม้ว่าจะมองไม่เห็นแต่ก็พอจะจินตนาการสีหน้าของภรรยาออก เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม เปล่าสักหน่อย ผมพูดจากใจจริงเลย แต่ว่านะ ผมนึกวิธีอื่นออกแล้ว ถ้าทำได้ก็ไม่ต้องแตะเงินนี้แล้ว
คุณนึกวิธีอะไรออกเหรอ? เย่ฉูฉู่พูดด้วยความฉงน
เรื่องนี้ ถึงเวลานั้นผมค่อยบอกคุณอีกที จ้าวเหวินเทาอุบไว้
เย่ฉูฉู่ก็ไม่ได้ไล่ถาม งั้นคุณก็เอาไปฝากในธนาคารแล้วกัน ตอนนี้ที่บ้านก็ยังไม่ต้องใช้เงิน
จ้าวเหวินเทาคืนเงินที่ค้างจ่ายตอนสร้างบ้านไปแล้ว ส่วนเงินของปีใหม่สามีก็ใช้จากของที่นำเข้ามาขาย ถึงเวลานั้นเก็บไว้นิดหน่อยก็พอ ในส่วนของเสื้อผ้าเธอไม่ได้คิดจะซื้อ
เสี่ยวไป๋หยางยังเด็กขนาดนั้น ซื้อเสื้อใหม่ผ่านไปหนึ่งปีก็เล็กแล้ว นับว่าเป็นเรื่องที่สิ้นเปลือง เธอเองก็มีเสื้อผ้าให้ใส่ ส่วนของสามีต้องทำไว้หนึ่งชุด เพราะเขาออกไปข้างนอกบ่อย ๆ ถ้าใส่เสื้อผ้าไม่ดีคงดูไม่ดีเท่าไรนัก
ต้องยอมรับว่าเย่ฉูฉู่ในตอนนี้เหมือนกับโจวหมิ่น เธอทราบเทคนิคการตลาดของร้านค้าแล้ว จึงคิดว่าซื้ออะไรมาก็เหมือนกับเป็นการมอบเงินให้ร้านค้า ให้เงินเป็นเรื่องรอง ที่สำคัญคือเธอคิดว่าความรู้สึกราวกับตัวเองเป็นคนโง่นั้นไม่ค่อยดีเอาเสียเลย
จ้าวเหวินเทาได้ฟังแผนของภรรยา จึงกล่าวด้วยรอยยิ้ม ภรรยา ถ้าซื้อของนิด ๆ หน่อย ๆ แล้วคิดว่าเป็นกับดักที่คนขายสร้างขึ้นมา แบบนั้นจะใช้ชีวิตให้สนุกได้ยังไงล่ะ? ควรซื้อก็ต้องซื้อ พวกเราเหนื่อยมาทั้งปีแล้ว แถมยังสร้างบ้านอีก ข้ามปีทั้งที ยังไงก็ต้องให้รางวัลตัวเอง เสื้อผ้าคนละชุดนั่นแหละ ส่วนของเสี่ยวไป๋หยางก็ต้องมีด้วย เสื้อเล็กก็ไม่เปลืองสักหน่อย เก็บไว้ให้ลูกคนที่สองใส่ก็ยังได้เลย เด็กบ้านอื่นข้ามปีก็ใส่เสื้อผ้าใหม่กันทั้งนั้น ลูกบ้านเราจะใส่เสื้อตัวเก่าไม่ได้นะ
คำพูดของสามีเข้าไปอยู่ในใจของเย่ฉูฉู่
อันที่จริงฉันเองก็อยากซื้อเหมือนกัน เย่ฉูฉู่กล่าวจบก็พูดด้วยท่าทางอารมณ์เสียว่า ไม่แปลกใจเลยที่คนอื่นจะด่าพวกคุณว่าเป็นพวกแสวงหากำไร เป็นแบบนี้จริง ๆ ฉันรู้ทุกอย่างแต่ก็ยังหนีไม่พ้น ข้ามปีแล้วยังไงก็ต้องมีความคิดอยากซื้อเสื้อใหม่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนอื่นเลย!
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
[1] ภาพวาดกามาวิจิตรในยุคโบราณ เทียบกันแล้วก็คือหนังสือโป๊ในยุคนี้
สารจากผู้แปล
ตอบคำถามละเอียดอ่อนให้ดี ๆ นะเหวินเทา เดี๋ยวโดนฉูฉู่บิดหูหลุดไม่รู้ด้วย
ไหหม่า(海馬)