ตอนที่ 249 พ่อแม่เป็นกังวล
เมื่อเทียบกับจ้าวเหวินเทาแล้ว คุณแม่จ้าวกลับเชื่อเย่ฉูฉู่มากกว่า นางคิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่านิสัยนั้นของเย่ฉูฉู่ตอนที่เพิ่งจะแต่งงานเข้ามาเมื่อเทียบกับตอนนี้กลับเปลี่ยนไปมากจนทำให้นางรู้สึกสบายใจ เบาใจกว่าลูกชายของนางเสียอีก
แน่นอน นี่ก็เป็นเพราะเย่ฉูฉู่ได้เงินมากขนาดนี้ จึงทำให้เกิดผลกระทบอย่างมากสำหรับคุณแม่จ้าว
เย่ฉูฉู่ตอบรับกลับไปว่าจะกำชับเตือนจ้าวเหวินเทาแน่นอน จากนั้นก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนา
คุณแม่คะ งั้นฉันตัดชุดให้คุณแม่ใหม่ตามแบบนี้นะคะ เย่ฉูฉู่ชี้ไปยังแบบชุดภาพหนึ่งที่เธอเป็นคนออกแบบ
คุณแม่จ้าวถามด้วยความประหลาดใจ แม่ใส่ได้ด้วยเหรอ?
ได้สิคะ! คุณแม่ ฉันบอกไปแล้วไงคะ แค่เปลี่ยนสีก็ได้แล้ว
นี่อีกไม่กี่วันก็จะข้ามปีแล้วนะ จะทันเหรอ?
ทันค่ะ มีจักรเย็บผ้า แค่แป๊บเดียวก็เย็บเสร็จแล้ว
ก็ได้ งั้นพรุ่งนี้แม่จะมาดูหลานให้นะ ลูกจะได้มีเวลาเย็บ
เย่ฉูฉู่ยิ้ม ไม่เป็นไรค่ะคุณแม่ เสี่ยวไป๋หยางไม่มีอะไรต้องห่วงเลย ไม่ได้ทำให้การทำงานของฉันล่าช้าสักนิด แม่ไม่ต้องเสียเวลามาที่นี่หรอกค่ะ
คุณแม่จ้าวจึงกลับไปอย่างมีความสุข เย่ฉูฉู่อุ้มลูกชายขึ้นมาพลางกล่าวด้วยรอยยิ้ม ลูกดูคุณย่าสิสวยมากเลยนะ พอได้เห็นเสื้อใหม่ก็ชอบขนาดนั้น เสี่ยวไป๋หยางล่ะลูก ชอบเสื้อใหม่หรือเปล่าเอ่ย?
เสี่ยวไป๋หยางเตะแขนแกว่งขวาอย่างมีความสุข
เสี่ยวไป๋หยางชอบเหรอเนี่ย งั้นแม่จะทำให้ลูกด้วยนะ ดูสีนี้สิ เหมาะกับเสี่ยวไป๋หยางของพวกเรามากเลยนะ จริงไหมลูก? เย่ฉูฉู่หยิบผ้าขึ้นมาเทียบกับร่างกายของเสี่ยวไป๋หยาง
เสี่ยวไป๋หยางจับผ้ามาแกว่ง
ลิงน้อยกระโดดเข้ามาจากห้องตะวันตกหลังจากคุณแม่จ้าวกลับไปแล้ว มันแย่งผ้ามาพันที่คอตัวเองพลางส่งเสียงร้อง ‘เจี๊ยก ๆ’
เย่ฉูฉู่หัวเราะ ไฉไฉก็อยากได้เสื้อใหม่เหรอเนี่ย ได้เลย เดี๋ยวฉันจะทำให้เธออีกหนึ่งตัว
เธอมองรูปร่างของลูกลิง ถ้าได้สวมใส่เสื้อผ้าก็คงดูดีมาก
คุณแม่จ้าวกลับมาถึงบ้าน คุณพ่อจ้าวดูจากสีหน้าของนางเป็นอย่างแรก จากนั้นก็ถักเชือกป่านอย่างผ่อนคลาย
ทำไมคุณถึงไม่ถามเรื่องลูกชายของคุณล่ะ? คุณแม่จ้าวเห็นคุณพ่อจ้าวดูนิ่งสงบขนาดนี้ก็แอบไม่พอใจ เมื่อกี้ใครกันที่ลุกลี้ลุกลน บอกให้ฉันไปถาม
เห็นจากท่าทางของคุณก็รู้แล้วว่าไม่เป็นไร ยังจะถามอะไรอีก? คุณพ่อจ้าวตอบโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามอง
ท่าทางฉันเป็นยังไง? คุณแม่จ้าวพูดอย่างมีความสุขจนไม่อาจควบคุมได้ จากนั้นก็นั่งลงข้าง ๆ คุณพ่อจ้าว
คุณพ่อจ้าวมองนางพลางพูดด้วยความประหลาดใจ มานั่งทำไมตรงนี้เนี่ย?
ไม่ให้ฉันนั่งตรงนี้แล้วจะให้ไปนั่งที่ไหน? คุณแม่จ้าวพูดอย่างไม่สบอารมณ์ คุณเป็นสามีของฉันนะ จะให้ฉันไปนั่งข้างคนอื่นเหรอ?
คุณพ่อจ้าวตกใจ เขาหรี่ตาสำรวจอีกฝ่าย คุณไม่ได้ป่วยใช่ไหม?
คุณนั่นแหละป่วย! คุณแม่จ้าวถลึงตาโตมองคุณพ่อจ้าว
จู่ ๆ คุณพ่อจ้าวก็รู้สึกอึดอัดกับความใกล้ชิดของภรรยาอย่างฉับพลัน เขาขยับเข้าไปข้างในพลางถาม เป็นอะไร?
คุณแม่จ้าวเลิกคิ้วขึ้น พลางกระซิบเสียงเบา ฉันจะบอกอะไรให้ แต่คุณห้ามไปบอกใครเด็ดขาดเลยนะ!
คุณพ่อจ้าวเห็นท่าทางมีลับลมคมในของคุณแม่จ้าวก็แอบรู้สึกตึงเครียด การแสดงออกของเขาจึงกลายเป็นความจริงจังอย่างเลี่ยงไม่ได้
คุณรู้ไหมว่าลูกชายของคุณไปทำอะไร? คุณแม่จ้าวไม่รอให้คุณพ่อจ้าวถาม นางก็เล่าเรื่องการคาดเดาของเย่ฉูฉู่ให้เขาฟัง
คุณพ่อจ้าวถึงกับมึนงง มันจะไปซื้อโรงงานในเมือง มีเงินเยอะขนาดนั้นที่ไหนกัน?
จู่ ๆ ก็เหมือนว่าจะนึกอะไรขึ้นได้ นี่ไม่ใช่ว่ามันเอาของพวกนั้นไปขายหรอกนะ?
ปีที่แล้วจ้าวเหวินเทาเก็บของดี ๆ มาเยอะแยะ คาดว่าคงมีราคาไม่น้อยเลย
คุณแม่จ้าวบุ้ยปาก คุณรู้หรือเปล่าว่าฟาร์มกระต่ายนั่นซื้อในราคาเท่าไร? ตั้งหลายหมื่นเลยนะ คุณคิดว่าของพวกนั้นจะมีราคาสักเท่าไรสักเชียว!
ตอนนี้วัตถุโบราณไม่ได้มีราคาสูงเทียมฟ้าเหมือนกับสิบกว่าปีให้หลังพวกนั้น
คุณพ่อสูดลมเย็นเข้าปาก หลายหมื่น? มันออกไปขายของได้เงินเยอะขนาดนั้นเลย?
คุณแม่จ้าวส่ายหน้า นางพูดอย่างภาคภูมิใจ คุณรู้แค่ว่าลูกชายหาเงินเป็น แต่ทำไมไม่นึกถึงลูกสะใภ้คุณบ้างล่ะ?
คุณพ่อจ้าวหมดคำพูด ภรรยาของเขากลับมาจากบ้านลูกชายก็ดูคล้ายกับถูกเทพเซียนประทับร่าง พูดจาก็ไม่ยอมพูดให้ดี ๆ
คุณแม่จ้าวเห็นว่าเขาไม่ยอมพูดอะไร จึงเล่าเรื่องที่เย่ฉูฉู่ออกแบบเสื้อผ้าให้เขาฟังหนึ่งรอบ
เป็นไปตามที่คาดไว้ คุณพ่อจ้าวถึงกับตกตะลึง ลูกสะใภ้หาเงินได้มากขนาดนี้เลยเหรอ?
คุณแม่จ้าวพยักหน้าให้เขา คุณยังไม่รู้จักฉูฉู่อีกเหรอ เด็กคนนี้ไม่ใช่คนชอบพูดปดสักหน่อย
เรื่องนี้คุณพ่อจ้าวเห็นด้วยอย่างมาก เขาและคุณแม่จ้าวก็เหมือนกัน ต่างก็เชื่อลูกสะใภ้มากกว่าเชื่อลูกชายของตัวเองเสียอีก ที่สำคัญคือนิสัยของลูกชายปราดเปรียว มีความกล้าหาญมาก ทั้งยังออกไปค้าขายข้างนอก คนที่ออกไปขายของข้างนอกบ่อย ๆ ก็มักจะพูดโกหกได้ง่าย ๆ แต่เย่ฉูฉู่ไม่ได้เป็นแบบนั้น เธออยู่บ้านเลี้ยงลูก ไม่ต้องพูดคุยกับคนนอกมากมายอะไร ไม่จำเป็นต้องพูดโกหก แม้ว่าตอนแรกที่เพิ่งแต่งงานเข้ามาใหม่ ๆ จะเป็นคนอารมณ์ร้าย แต่ภายหลังไม่ต้องพูดถึงเลย เพราะเธอเป็นคนกตัญญูมีคุณธรรม มีเหตุผล การที่ได้ลูกสะใภ้แบบนี้เข้ามาอยู่ในบ้านถือว่าเป็นพรของตระกูลจ้าวของพวกเขา
คุณพ่อจ้าวรู้สึกว่าการประเมินลูกชายและลูกสะใภ้ของเขาตรงประเด็นมาก
เด็กฉูฉู่คนนี้มีความสามารถแบบนี้ด้วย คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ คุณพ่อจ้าวแอบรู้สึกสับสน
ลูกสะใภ้เล็กดีไปเสียทุกอย่าง ตอนนี้ก็ยังได้เงินมากขนาดนี้อีก ได้เงินมากกว่าลูกชายของเขาเสียด้วยซ้ำ สิ่งนี้ทำให้เขาที่เดินตามธรรมเนียมประเพณีถึงกับไม่รู้ว่าเป็นเรื่องที่ดีหรือไม่ดีไปชั่วขณะหนึ่ง
คุณทำหน้าแบบนี้หมายความว่ายังไง? ลูกสะใภ้ของคุณทำงานหาเงินได้คุณไม่ดีใจเหรอ? คุณแม่จ้าวเห็นสีหน้าของเขาผิดปกติจึงเอ่ยปากพูด
ไม่ใช่ว่าผมไม่ดีใจหรอก แต่รู้สึกเหนือความคาดหมายมาก คุณพ่อจ้าวกล่าว เหวินเทาเกิดมาพร้อมกับโชคลาภใหญ่ โชคดีตั้งแต่เล็กจนโต ทำไมถึงถูกภรรยาแซงหน้าได้ล่ะ?
ฟังคุณพูดเข้าสิ พูดอะไรของคุณเนี่ย อะไรที่บอกว่าถูกภรรยาแซงหน้า คุณบอกว่าเหวินเทาโชคดี การได้แต่งงานกับภรรยาที่หาเงินได้ยังไม่เรียกว่าโชคดีอีกเหรอ? คุณแม่จ้าวไม่เห็นด้วยกับความคิดของคุณพ่อจ้าวอย่างมาก
คุณพ่อจ้าวครุ่นคิด นี่ก็มีเหตุผล เขาจึงไม่ได้สู้กับคุณแม่จ้าวต่อ แต่ยังคงถามถึงลูกชายต่อไป เลี้ยงกระต่ายมากขนาดนี้ยังทุกข์ทรมานไม่พออีกเหรอ ยังคิดจะไปซื้อฟาร์มกระต่ายในเมืองอีก?
ฉูฉู่ก็บอกไปแล้วไง ที่ดินในเมืองมีราคา ที่ซื้อก็คือที่ดิน ไม่ได้ซื้อกระต่ายสักหน่อย คุณแม่จ้าวกล่าว
คุณดูสิ เพิ่งจะไปสร้างบ้านที่ตงเหลียง ยังจะซื้อที่ดินผืนใหญ่นั่นอีก นี่ยังต้องวิ่งไปซื้อถึงในเมือง ในหมู่บ้านไม่คิดจะลงไปทำสวนแล้วเหรอ? คุณพ่อจ้าวรู้สึกว่าการที่ลูกชายไปซื้อที่ดินในเมืองไม่ว่าจะมองอย่างไรก็พึ่งพาไม่ได้เอาเสียเลย
คุณอยากซื้อก็ซื้อไม่ได้หรอก คุณแม่จ้าวกลอกตาใส่ ตาแก่แบบคุณ บางครั้งก็เป็นคนเปิดใจกว้างนะ แต่บางครั้งก็ปิดกั้นความเห็นกว่าใคร ๆ!
คุณพ่อจ้าวโบกมือ คุณเป็นคนเปิดกว้างพอใจหรือยัง คุณรีบไปทำงานเถอะ อย่ามาขวางผม ลูกโตจนตัดสินใจได้เองแล้ว อยากจะดูแลก็ดูแลไม่ได้แล้ว
คุณดูแลไปก็เสียเปล่า! คุณแม่จ้าวถลกแขนเสื้อขึ้นเตรียมตัวไปทำกับข้าว ปากก็พูดว่า ฉันจะบอกอะไรให้นะ ฉูฉู่จะตัดชุดใหม่ให้ฉันด้วย ฉูฉู่ตั้งใจออกแบบให้ฉันเป็นพิเศษเลย
คุณพ่อจ้าวไม่ได้สนใจเกี่ยวกับชุดใหม่ ตอนนี้เขาแค่อยากรอให้ลูกชายกลับมาแล้วถามว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
คุณแม่จ้าวไม่ได้รับคำตอบก็แอบรู้สึกผิดหวัง นางจึงถลึงตาใส่คุณพ่อจ้าวปราดหนึ่ง
เย่ฉูฉู่กลับมาในช่วงบ่าย ช่วงเช้าของฤดูหนาวช่างแสนสั้น กลับมาถึงท้องฟ้าก็ใกล้จะมืดแล้ว
เมื่อจ้าวเหวินเทากลับมาถึง เย่ฉูฉู่ก็กลอกตาใส่เขาก่อนเป็นอย่างแรก จากนั้นจึงพูดว่า คุณรู้ไหมคะว่าที่คุณไม่ได้กลับมาเมื่อคืน คนอื่นพูดถึงคุณยังไง? บอกว่ามีเรื่อง แต่ดันไม่ยอมพูดให้ชัดเจนว่ามีเรื่องอะไรเนี่ยนะ?
จ้าวเหวินเทาขึ้นมาประคองแก้มของภรรยาแล้วหอมไปหนึ่งที แล้วพูดว่า อยากจะพูดอะไรก็พูดเลย ผมไม่สนใจอยู่แล้ว! ภรรยา คุณดูสิว่านี่อะไร?
ระหว่างที่พูดเขาก็หยิบซองเอกสารออกมาจากกระเป๋าสะพายข้าง
………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
พ่อแม่เป็นห่วงแย่แล้วเหวินเทาเอ๊ย ทำการใหญ่โดยไม่บอกพ่อแม่เลย
ไหหม่า(海馬)